ผู้ไม่ประมาทในความตายแท้จริง....
ผู้ไม่ประมาทในความตายแท้จริง๑
ภิกษุ ท. ! มรณสติ (ความระลึกถึงความตาย) อันบุคคลเจริญทำให้
มากแล้ว ย่อมมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่ หยั่งลงสู่นิพพาน มีนิพพานเป็นที่สุด.
พวกเธอเจริญมรณสติอยู่บ้างหรือ ?
เมื่อรับสั่งดังนั้นแล้ว ภิกษุรูปหนึ่งทูลขึ้นว่า แม้ข้าพระองค์ก็เจริญมรณสติอยู่ พระเจ้าข้า.
พ. เธอเจริญมรณสติอย่างไรเล่า ? ภิกษุ !
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ในการเจริญมรณสตินี้ ข้าพระองค์มีความคำนึงอย่างนี้ว่า
โอหนอ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงวันหนึ่งคืนหนึ่ง. เราพึงใส่ใจถึงคำสอนของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด. การปฏิบัติตามคำสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ ดังนี้. ข้าพระองค์เจริญ
มรณสติอย่างนี้แล พระเจ้าข้า.
อีกรูปหนึ่งทูลว่า ถึงข้าพระองค์ ก็เจริญมรณสติอยู่ พระเจ้าข้า.
พ. เธอเจริญมรณสติอย่างไรเล่า ? ภิกษุ !
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ในการเจริญมรณสตินี้ ข้าพระองค์มีความคำนึงอย่างนี้ว่า
โอหนอ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วเวลากลางวัน. เราพึงใส่ใจถึงคำสอนของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด. การปฏิบัติตามคำสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ ดังนี้. ข้าพระองค์เจริญ
มรณสติอย่างนี้แล พระเจ้าข้า.
อีกรูปหนึ่งทูลว่า ถึงข้าพระองค์ ก็เจริญมรณสติอยู่ พระเจ้าข้า.
พ. เธอเจริญมรณสติอย่างไรเล่า ? ภิกษุ !
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ในการเจริญมรณสตินี้ ข้าพระองค์มีความคำนึงอย่างนี้ว่า
โอหนอ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่ฉันบิณฑบาตเสร็จมื้อหนึ่ง. เราพึง
ใส่ใจถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด. การปฏิบัติตามคำสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ
ดังนี้. ข้าพระองค์เจริญมรณสติอย่างนี้แล พระเจ้าข้า.
อีกรูปหนึ่งทูลว่า ถึงข้าพระองค์ ก็เจริญมรณสติอยู่ พระเจ้าข้า.
พ. เธอเจริญมรณสติอย่างไรเล่า ? ภิกษุ !
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ในการเจริญมรณสตินี้ ข้าพระองค์มีความคำนึงอย่างนี้ว่า
โอหนอ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่ฉันอาหารเสร็จเพียง ๔ - ๕ คำ. เรา
พึงใส่ใจถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด. การปฏิบัติตามคำสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ
ดังนี้ ข้าพระองค์เจริญมรณสติแม้อย่างนี้แล พระเจ้าข้า.
อีกรูปหนึ่งทูลว่า ถึงข้าพระองค์ ก็เจริญมรณสติอยู่ พระเจ้าข้า.
พ. เธอเจริญมรณสติอย่างไรเล่า ? ภิกษุ !
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ในการเจริญมรณสตินี้ ข้าพระองค์มีความคำนึงอย่างนี้ว่า
โอหนอ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่ฉันอาหารเสร็จเพียงคำเดียว. เรา
พึงใส่ใจถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด. การปฏิบัติตามคำสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ
ดังนี้. ข้าพระองค์ เจริญมรณสติแม้อย่างนี้แล พระเจ้าข้า.
อีกรูปหนึ่งทูลว่า ถึงข้าพระองค์ ก็เจริญมรณสติอยู่ พระเจ้าข้า.
พ. เธอเจริญมรณสติอย่างไรเล่า ? ภิกษุ !
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ในการเจริญมรณสตินี้ ข้าพระองค์มีความคำนึงอย่างนี้ว่า
โอหนอ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงชั่วขณะที่หายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือชั่ว
ขณะหายใจออกแล้วหายใจเข้า. เราพึงใส่ใจถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด. การปฏิบัติตาม
คำสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ ดังนี้. ข้าพระองค์เจริญมรณสติแม้อย่างนี้แล พระเจ้าข้า.
เมื่อสิ้นคำทูลทั้งหมดแล้ว, พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า :-
ภิกษุ ท. ! ภิกษุพวกที่เจริญมรณสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราอาจจะมี
ชีวิตอยู่ได้ เพียงวันหนึ่งคืนหนึ่ง _ _ ดังนี้ก็ดี, เราจจะมีชีวิตอยู่ได้ เพียงชั่วเวลา
กลางวัน _ _ ดังนี้ก็ดี, เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ เพียงชั่วขณะที่ฉันบิณฑบาตเสร็จมื้อ
หนึ่ง _ _ ดังนี้ก็ดี, เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ เพียงชั่วขณะที่ฉันอาหารเสร็จ
เพียง ๔ - ๕ คำ. เราพึงใส่ใจถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าเถิด. การปฏิบัติ
ตามคำสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ ดังนี้ก็ดี ; ภิกษุเหล่านี้ เราเรียกว่ายังเป็น
ผู้ประมาทอยู่ ยังเจริญมรณสติ เพื่อความสิ้นอาสวะช้าไป.
ภิกษุ ท. ! ฝ่ายภิกษุพวกที่เจริญมรณสติอย่างนี้ว่า โอหนอ เราอาจจะ
มีชีวิตอยู่ได้ เพียงชั่วขณะฉันอาหารเสร็จเพียงคำเดียว _ _ ดังนี้ก็ดี, ว่า
โอหนอ เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ เพียงชั่วขณะที่หายใจเข้า แล้วหายใจออก
หรือชั่วขณะหายใจออกแล้วหายใจเข้า. เราพึงใส่ใจถึงคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า
เถิด. การปฏิบัติตามคำสอน ควรทำให้มากแล้วหนอ ดังนี้ก็ดี ; ภิกษุเหล่านี้
เราเรียกว่า เป็น ผู้ไม่ประมาทแล้ว, เป็นผู้เจริญมรณสติเพื่อความสิ้น
อาสวะอย่างแท้จริง.
ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจ
ไว้ว่า เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ประมาทเป็นอยู่, จักเจริญมรณสติ เพื่อ
ความสิ้นอาสวะอย่างแท้จริง ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจ
ไว้อย่างนี้แล.
๑. บาลี พระพุทธภาษิต อฏฺฐก. อํ. ๒๓/๓๒๗/๑๗๐, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่หมู่บ้านนาทิกะ.