ไม่ทรงเป็นสัพพัญญูทุกอิริยาบถ..เมื่อต้องการรู้จึงจะโน้มจิตไปเพื่อรู้

ไม่ทรงเป็นสัพพัญญูทุกอิริยาบถ ๑
วัจฉะ ! พวกชนเหล่าใด ที่กล่าวว่า “พระสมณโคดม เป็นผู้สัพพัญญู
รู้สิ่งทั้งปวงอยู่เสมอเป็นธรรมดา เป็นผู้สัพพทัสสาวี เห็นสิ่งทั้งปวงอยู่เสมอ
เป็นธรรมดา และปฏิญญาความรู้ความเห็นทั่วทุกกาลไม่มีส่วนเหลือว่า เมื่อเรา
เที่ยวไป ๆ ก็ดี หยุดอยู่ก็ดี หลับอยู่ก็ดี ตื่นอยู่ก็ดี ความรู้ ความเห็นนั้น
________________________________
๑. บาลี ม.ม. ๑๓/๒๓๗/๒๔๑. ตรัสแก่วัจฉโคตตปริพพาชก ที่อารามเอกบุณฑริก.
ย่อมปรากฏแก่เราติดต่อเนื่องกันอยู่เสมอ” ดังนี้ ชนพวกนั้นไม่ได้กล่าวตรงตามที่
เรากล่าว, แต่เขากล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่มีจริง ไม่เป็นจริง.
วัจฉะ ! ต่อเราต้องการจะน้อมจิตไปเฉพาะเพื่อบุพเพนิวาสานุสสติญาณ
เราจึงตามระลึกถึง ขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อน ....ฯลฯ... ๑, ต่อเราต้องการจะ
น้อมจิตไปเฉพาะเพื่อทิพพจักขุญาณ เราจึงน้อมจิตไปเพื่อทิพพจักขุญาณ ...ฯลฯ...
เราทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ ฯลฯ แล้วแลอยู่.
วัจฉะ ! เมื่อผู้ใดกล่าวให้ชัดว่า “พระสมณโคดม มีวิชชาสาม” ดังนี้
จึงจะชื่อว่า ไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่จริง, เป็นการกล่าวถูกต้องตามธรรม และ
ผู้ที่กล่าวตามเขาต่อ ๆ ไป ก็จะไม่ตกไปในฐานะอันใครจะพึงติเตียนได้.

***นี่คือความจริงที่เราอาจจะเข้าใจผิด ดังปริพาชกสมัยพุทธกาล....



Create Date : 10 มีนาคม 2556
Last Update : 10 มีนาคม 2556 10:23:32 น.
Counter : 838 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รู้ธรรม
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



ภิกษุทั้งหลาย จักไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่เคยบัญญัติ จักไม่เพิกถอนสิ่งที่บัญญัติ
ไว้แล้ว, จักสมาทานศึกษาในสิกขาบทที่บัญญัติไว้แล้วอย่างเคร่งครัด
All Blog