กระหม่อมบางเป็นคำที่คนไทยรู้จักกันมานาน แต่วันนี้เราจะมีวิธีการดูแลกระหม่อมลูกน้อยมาฝากกัน
คุณแม่ที่้เป็นคุณแม่มือใหม่เมื่อสัมผัสกับศรีษะของลูกอาจจะตกใจได้ เพราะมีบางจุดที่นิ่มสัมผัสได้ถึงเนื้อใต้กระโหลก และกลัวจะทำให้ลูกเจ็บ หรือกระทบกระเทือน
กระหม่อมกระหม่อมลูกน้อยจะมี 2 ส่วนคือ
Anterior fontanel หรือกระหม่อมหน้า มีรูปร่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ขนาดของกระหม่อมหน้าวัดทางด้าน Coronal suture กว้าง 2-3 ซม. และวัดทางด้าน Saggital sutrue กว้าง 3-4 ซม. ดังนั้นกระหม่อมหน้าจึงมีขนาด 2-3 x 3-4 ซม. และจะปิดสนิทเมื่อทารกอายุ 12-18 เดือน
Posterior fontanel หรือกระหม่อนหลัง มีรูปร่างเป็นรูปสามเหลี่ยม ขนาดของกระหม่อมหลังกว้าง ประมาณ 1-2 ซม. อาจปิดตั้งแต่แรกเกิด หรือปิดสนิทเมื่ออายุ 2 เดือน อันนี้แล้วแต่แต่ละบุคคล
กระหม่อมลูกจะปิดเมื่อไหร่
กระหม่อมเป็นส่วนกระดูกศรีษะของกะโหลกศีรษะ ซึ่งอยู่ถัดจากส่วนที่สูงที่สุดลงมาในแนวกลางใกล้หน้าผาก เป็นส่วนที่ยังเชื่อมต่อกันไม่สนิท จนเกิดเป็นช่องว่าง ๆ นิ่ม ๆ บนศีรษะ กดแล้วบุ๋ม จะมีอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ กระหม่อมหน้าที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน และกระหม่อมหลังที่เป็นรูปสามเหลี่ยม ซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่า กระหม่อมหน้าจะปิดเมื่ออายุประมาณ 12 -18 เดือน ส่วนกระหม่อมหลังจะปิดเมื่ออายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป
วิธีดูแลกระหม่อมลูกน้อย
ช่วงที่กะโหลกส่วนนั้นยังเป็นเนื้อเยื่อปิดอยู่ ยังไม่เป็นกระดูกแข็งนี้ ต้องระวังไม่ให้ถูกกระแทก หรือถูกความร้อนจัดเย็นจัด เพราะกระหม่อมบาง คนที่เป็นหวัดง่ายเมื่อกระทบอากาศร้อนหรือเย็น ก็มักเรียกกันว่าคนกระหม่อมบาง โดยเปรียบกับเด็กทารกนั่นเอง แต่คุณแม่ก็อย่าได้กังวลที่จะสัมผัสกระหม่อมลูก เพียงระวังไม่กดหรือกระทบแรง ๆ ก็พอ หมั่นสัมผัสตรวจกระหม่อมด้วยนะคะ ถ้าคลำแล้วพบว่าบุ๋มลงไปมาก ลูกซึม ไม่เล่น ไม่ยิ้ม ไม่ร่าเริงเช่นเคย ดวงตาโหลลึก ลูกอาจมีอาการขาดน้ำรุนแรง หรือถ้าพบว่ากระหม่อมโป่งพอง ไม่เต้นตุบ ๆ ไปตามจังหวะการเต้นของชีพจร แสดงว่าลูกอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสมอง ควรพาลูกไปพบกุมารเเพทย์ ทันที
หากลูกปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็คงจะหายสงสัยกันไปกันเรื่องของ กระหม่อมลูกน้อย มีมั่นสังเกตุลูกน้อยให้ดี และดูแลเขาอย่างมีความสุขนะครับ