เว็บเพื่อการเลี้ยงลูก,เว็บท่องเที่ยววังน้ำเขียว,สื่อสุขภาพ,ครอบครัวการเลี้ยงลูก,ทิปคอมพิวเตอร์
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
20 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
คนไทยกินปลาน้อย แนะกินปลาน้ำจืดแหล่งโอเมกา 3 ไม่แพ้ปลาทะเล

เผยกินปลามีประโยชน์ช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง แต่คนไทยกินน้อยแค่ 32 กก.ต่อคนต่อปี ทิ้งห่างญี่ปุ่นเท่าตัว ปลานิลคนไทยกินเยอะที่สุด ส่งออกสูงสุด คนอีสานแชมป์กินปลาอันดับหนึ่ง หมอแนะต้องกินไม่น้อยกว่า 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ ระบุกินปลาน้ำจืดมีโอเมกา-3 สูงไม่แพ้ปลาทะเล แถมราคาถูก เหมาะยุคเศรษฐกิจซบเซา       วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายคนไทยไร้พุง จัดงานแถลงข่าว "กินปลาช่วยชาติ เงินหดน้อย พุงไม่มา โรคร้ายไม่มี" โดย ศ.พญ.ชนิกา ตู้จินดา คณะกรรมการกองทุน สสส.กล่าวว่า ปลาอยู่ในกลุ่ม 3 อาหารหลักเพื่อสุขภาพที่ควรบริโภค คือ ข้าวกล้อง ผักพื้นบ้าน และปลา แม้จะทราบดีว่าปลามีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง ย่อยง่าย ช่วยพัฒนาระบบประสาทในเด็กและทารกในครรภ์ ไม่มีไขมันที่อันตรายต่อหัวใจ แต่คนไทยยังบริโภคปลาน้อย เพียง 32 กก.ต่อคนต่อปี ขณะที่สหรัฐบริโภคปลา 50 กก.ต่อคนต่อปี ญี่ปุ่นบริโภค 69 กก.ต่อคนต่อปี              "ปลาเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญ เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์อื่น มีโปรตีนคุณภาพดีวัดได้ถึง 76% ในขณะที่เนื้อวัววัดได้ 74.6 %สามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ สร้างกล้ามเนื้อได้ มีกรดไขมันโอเมกา-3 ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน เพราะลดการเกาะตัวของเม็ดเลือด ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ กระตุ้นการสร้างสารเคมีซีโรโทนินในสมอง มีฤทธิ์ต้านการซึมเศร้า เป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างเซลล์ประสาทในเด็กและทารกในครรภ์"ศ.พญ.ชนิกา กล่าว              ศ.พญ.ชนิกา กล่าวอีกว่า คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าโอเมกา-3 มีเฉพาะในปลาทะเล แต่ในปลาน้ำจืด ก็มีโอเมกา-3 สูง บางประเภทสูงกว่าปลาทะเล เช่น ปลาสวายเนื้อขาว มีโอเมก้า-3 สูงถึง 2,570 มก.ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ปลาช่อนมีโอเมกา-3 ถึง 870 มก.ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ขณะที่ปลาแซลมอลมีโอเมกา-3 ประมาณ 1000-1,700 มก.ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ปลากะพงขาว 310 มก.ต่อน้ำหนัก 100 กรัม ส่วนใหญ่ปลาน้ำจืดมีราคาต่ำกว่าปลาทะเล ในภาวะน้ำมันแพง สินค้าราคาสูง เครือข่ายคนไทยไร้พุง ร่วมกับกรมประมง และกระทรวงพาณิชย์ รณรงค์ให้คนไทยบริโภคปลาเพราะปลามีราคาต่ำแต่มีประโยชน์สูง อย่างปลาน้ำจืดภายในประเทศ ลดการบริโภคปลานำเข้าที่คุณค่าทางอาหารจะลดลงไปเมื่อถูกแช่แข็ง ซึ่งปัจจุบันนี้มีการพัฒนาคุณภาพการเลี้ยงให้ปราศจากการปนเปื้อนของพยาธิ              นพ.ฆนัท ครุธกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและโภชนวิทยาคลินิก ศูนย์หัวใจ หลอดเลือด และเมตาบอลิซึม รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า โอเมกา-3 เป็นไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งพบมากในสาหร่าย และปลา ถ้าบริโภคปลาสม่ำเสมอจะได้รับโอเมกา-3 เพียงพอ สมาคมแพทย์โรคหัวใจสหรัฐฯ แนะนำให้บริโภคปลาไม่น้อยกว่า 2 มื้อต่อสัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำมันปลามาทานเพิ่ม เพราะการได้รับน้ำมันปลาเสริมมากเกินไป อาจเกิดปัญหาเลือดออกง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ทานยาแอสไพรินอยู่ อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออกในสมองได้ ทั้งนี้ การปรุงอาหารควรเป็นการต้มหรือการนึ่ง ไม่ควรทอดหรือผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรม เพราะโอเมกา-3 เมื่อผ่านความร้อนสูงจะสลายตัวได้.....อ่านข่าวเพิ่มเติม : //www.manager.co.th/ที่มา หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ


Create Date : 20 มิถุนายน 2551
Last Update : 20 มิถุนายน 2551 8:58:18 น. 0 comments
Counter : 1147 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

fnhero125
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add fnhero125's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.