คำถามนี้พบบ่อยเหลือเกิน ไม่ว่าจะจาก Internet คำถามจากคนรอบข้าง คำถามจากแม่ๆ ด้วยกัน คุณแม่มักจะได้ยินจากคนรอบข้างบอกต่อ ๆ กันมาด้วยความเข้าใจผิดที่ทำให้ไขว้เขว และบั่นทอนกำลังใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมาก การที่องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ทารกกินนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน และกินนมแม่ควบคู่ไปกับอาหารตามวัยอย่างน้อย 2 ปี หรือนานกว่านั้น และกระทรวงสาธารณสุขก็ประกาศให้ใช้เกณฑ์นี้มาหลายปีแล้ว ส่วนจะให้นมแม่ไปนานแค่ไหนนั้นขึ้นกับความพึงพอใจของแม่ลูกแต่ละคู่ ช่วงอายุ 6 เดือน – 1 ปี นมแม่ยังเป็นอาหารหลัก อาหารอื่นเป็นอาหารเสริม หลัง 1 ปีขึ้นไป จึงให้อาหารธรรมดาที่กินกันในครอบครัวเป็นอาหารหลัก นมแม่เป็นอาหารเสริม

ในช่วง 2 ปีแรก เป็นเวลาที่ร่างกายและสมองของลูกเติบโตอย่างรวดเร็ว และภูมิต้านทานยังน้อย จึงควรได้รับอาหารและภูมิคุ้มกันที่เหมาะสมสำหรับลูกมากที่สุด สารอาหาร ปริมาณ และภูมิคุ้มกันโรคในน้ำนมแม่จะปรับเปลี่ยนไปตามวัย และสภาพแวดล้อม เพื่อให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน

ข้อดีของนมแม่คือ
– มีภูมิคุ้มกันโรค ช่วยให้ลูกไม่ป่วยบ่อย หรือถ้าป่วยก็มักจะเป็นไม่มาก และหายเร็ว
– ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
– มีสารกระตุ้นพัฒนาการสำหรับอวัยวะต่างๆ และสมอง
– มีสารอาหารครบถ้วนที่เป็นมาตรฐานสำหรับลูก

แม่ๆ หลายท่านอาจเข้าใจว่านมผงมีสารอาหารครบถ้วนเหมือน ใกล้เคียง หรือมากกว่านมแม่ แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงกลวิธีของการโฆษณาเท่านั้นผู้ผลิตนมผงต่างค้นคว้าโดยใช้นมแม่เป็นมาตรฐาน และพยายามปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเลียนแบบให้ ใกล้เคียงขึ้น สารสังเคราะห์ต่างๆ ถูกเติมลงไปมากขึ้น แต่มักจะดูดซึมได้ในสัดส่วนที่น้อยจึงต้องใส่ในปริมาณที่เยอะ สารอาหารส่วนเกินที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ย่อมเป็นภาระในการขับของเสียออกจากร่างกาย เมื่อเทียบกับนมแม่แล้ว นมแม่มีสารอาหารเหล่านั้นอยู่อย่างครบถ้วน ปริมาณพอเหมาะ ดูดซึมนำไปใช้ได้มาก ภาระในการขับของเสียจึงน้อยกว่า ภูมิต้านทานเห็นในการโฆษณานั้น เป็นเพียงการเติมภูมิต้านทานไม่กี่ชนิดลงไปเพื่อให้ได้ชื่อว่ามีอยู่ จะมาเทียบกับภูมิต้านทานในน้ำนมแม่ซึ่งเป็นของจริง เป็นสิ่งมีชีวิต มีหลากหลายชนิด และเปลี่ยนแปลงไปตามวัยและสภาวะแวดล้อมของลูกและปัจจัยที่แม่พบเจอ แม่ก็จะได้ภูมิต้านทานตัวใหม่ๆ ให้กับลูกเสมอ

สารอาหารในนมแม่มีส่วนประกอบต่างๆ มากกว่า 200 ชนิด แต่สิ่งที่เติมได้ในนมผงมีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น นมผงวันนี้อาจจะดีกว่านมผงของเมื่อวาน แต่ไม่สามารถเทียบเท่านมแม่ได้ คุณแม่ก็อย่าลืมดูแลสุภาพของตัวเองด้วย กินอาหารให้เพียงพอ กินอาหารที่สด สะอาด ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ก็จะมีน้ำนมที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยต่อไป โดยที่ไม่จำเป็นต้องสรรหาอาหารราคาแพง หรือวิตามินเสริมแต่อย่างใด และถึงแม้คุณแม่จะกินอาหารที่อาจมีประโยชน์น้อยไปบ้างเป็นบางมื้อ ก็ไม่ต้องกังวลจนเกินไปนัก เพราะร่างกายจะดึงเอาสารอาหารที่สะสมอยู่ในร่างกายของคุณแม่มาผลิตเป็นน้ำนมอย่างดีให้ลูก แต่ถ้าจะให้ดีสำหรับสุขภาพของคุณแม่เอง ควรกินอาหารให้เพียงพอจะดีกว่า และควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล กาแฟ น้ำอัดลม รวมถึงอาหารกลุ่มเสี่ยงภูมิแพ้

Power by I9 เว็บเพื่อสุขภาพแม่และเด็ก //www.ihealthbaby.com

Create Date : 17 กันยายน 2557
Last Update : 17 กันยายน 2557 15:37:19 น.		0 comments
Counter : 1285 Pageviews.
Share Tweet