Long love letter .. มหัศจรรย์รักทะลุมิติ ... แค่ชื่อเรื่องก็ทำใจลำบากแล้ว
อ่านเรื่องย่อในเน็ตผ่านตากี่รอบ ก็ไม่เคยให้ความสนใจมาก่อน
แผ่นดินไหว แล้วเกิดมีแผ่นดินส่วนหนึ่งยุบตัวทะลุไปอีกมิติหนึ่งในโลกอนาคต ... คิดดูแล้วไม่ใช่แนว แต่ตอนเลือก Operation Love นั่นก็ไม่แนวเหมือนกัน แต่เพราะยามะพีถึงเลือกมาดู และพอดูแล้วก็เศร้าซึ้งสุข ถูกใจซะมากมาย บางทีเรื่องนี้อาจจะดีเหมือนกัน
และหลังจากเคยดูเรื่อง IWGP และทำให้ตกหลุมรักหน้าตามึนๆ กวนๆ และ ประสาทแดก! ของ โยสุเกะ ในบท ทาเคชิ หัวหน้าแกงค์ G-Boys แล้วก็ไม่เห็นเฮียแกจากเรื่องไหนอีกเลย พอรู้ว่าแสดงเป็นพระเอกเรื่องนี้ จึงไม่ต้องคิดอะไรมาก ... อยากดู โยสุเกะเหรอ จัดไป.... หากที่สุดแล้วจะไม่รู้สึกดีกับเนื้อเรื่องนัก การได้ดูหน้าตามึนๆ ของพระเอกก็ยังถือว่าคุ้ม
เรื่องย่อ.แห่งรักทะลุมิติเปิดฉากด้วยการพบกันของอาคิโอะ อาซามิ (แสดงโดย โยสุเกะ คุโบซึกะ) กับยูกะ มิซากิ (แสดงโดย ทาคาโกะ โทคิวะ นางเอกเรื่อง Beautiful life) ลูกสาวเจ้าของร้านขายดอกไม้แห่งหนึ่งชื่อว่า Shigeo Flowers shop และนั่นก็เป็นรักแรกพบ เพราะพวกเขาตกหลุมรักกันและกัน
หลังจากเดทแรก อาซามิก็มานั่งจดจ้องเบอร์โทรศัพท์ของสาวเจ้าอย่างมีความสุข (ก็มันดีใจ ที่ได้เบอร์มานี่หว่า) ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงในกระเป๋าข้างตัวแล้วนั่งทอดอารมณ์อมยิ้มอยู่คนเดียว ...(มันช่างมีความสุขจริงๆ เล้ย..)
แต่หากจะว่ากันด้วย อดีตที่ส่งผลถึงปัจจุบัน และ ความสำคัญของเวลา อาซามิก็ทำพลาดไปซะแล้ว เพราะดันไปตกหลุมพรางของยัยป้าคนหนึ่งที่มาหลอกทำใจดีด้วยการหยิบยื่นถุงมันทอดอามากูริส่งให้ แล้วก็จากไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของอาซามิ อะไรมันจะซวยปานนั้น โทรศัพท์หายมันไม่เท่าไหร่ แต่เบอร์สาวหายไปนี่สิมันทำใจลำบาก ถึงจะจำเลขสี่ตัวแรกได้ แต่ไอ้สี่ตัวหลังต่อให้นั่งกุมขมับคิดแล้วคิดอีก เดาแล้วเดาอีก มันก็จนปัญญาจริงๆ เฟ้ย
******
ในชั่วโมง Home room ของอาจารย์อาคิโอะ อาซามิอาซามิ : แล้วไงน่ะเหรอ ทุกอย่างก็ยังมืดแปดด้าน
นักเรียนหญิง : เธอไม่โทรมาเลยหรือคะ
อาซามิ : อืม .. นี่มันผ่านมาได้เกือบปีแล้วนะ ครูพยายามหาเหตุผลมาอธิบายกับตัวเอง บางทีเธออาจจะทำมือถือตกน้ำ หรือไม่ก็ถูกขโมยโทรศัพท์แล้วไม่มีเงินซื้อใหม่ หรือไม่เธอก็ไม่อยากเจอครูอีก
นักเรียนที่หลับคนนึง งัวเงียขึ้นมาสะกิดเพื่อน ....
กรี๊ด ยามะพี เล่นเรื่องนี้ด้วย เซอร์ไพรส์มากเพราะไม่รู้มาก่อนเลย ยิงปืน(ซื้อซีรีย์)เรื่องเดียว ได้นกสองตัว(พระเอก 2 คน) ยามะพี : นี่ ....
เพื่อน : หือ ?
ยามะพี : อาจารย์สอนเลขเหรอ
เพื่อน : เปล่า .. แนะแนว
อาซามิ ตบโต๊ะยืนขึ้น : เอาล่ะทุกคน นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
นักเรียนหญิง : เราควรก๊อบเปอร์ในซิมลงในโน้ตบุคให้หมดเผื่อโทรศัพท์หาย
อาซามิ : ส่ายหน้า ไม่ใช่
นักเรียนหญิง : นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
อาซามิบอก : ยังไม่ถูก
นักเรียนหญิง : อาจารย์แต่งเรื่องนี้มาหลอกพวกเราใช่ไหม
อาซามิ : นี่เป็นเรื่องจริง 100% ไม่ได้ฟังที่ครูพูดตั้งแต่แรกล่ะสิ
นักเรียนชาย : ไม่มีใครฟังหรอกอาจารย์
ขณะนั้น ยามะพี หลับคาโต๊ะต่อไป
นักเรียนชาย : น่าเบื่อจะตายหมดเวลาแล้วด้วย"
อาซามิหันหน้าเข้ากระดาน ( ตูไม่สนเฟ้ย ตูจะสอน) หยิบชลอ์คขึ้นมาขีดเขียนเส้นบนกระดาน :
สิ่งที่ครูต้องการบอกพวกเธอก็คือ ....
เขียนชอล์คลงบนกระดานปัดๆๆๆ
นักเรียนชายอ่าน ทำหน้าสงสัย : อดีตที่ส่งผลถึงปัจจุบัน อะไรวะ
นักเรียนชายอีกคน : ฉันรู้ๆๆๆๆ ชาติโน้น ชาตินี้ ชาตินั้น ใช่มั้ยครับ หันไปถามอาจารย์
อาซามิ พยักหน้า : ดีมาก แต่ผิด! หันหน้าเข้าหากระดานเขียนต่อ ฟังครูอธิบายนะ
นักเรียนชาย เริ่มสนใจ นักเรียนหญิงเริ่มเรียกร้องความสนใจ ไม่เห็นเข้าใจเลยค่ะ
อาซามิหันกลับมา: ยังไม่ได้อธิบายเลยนี่แม่คุณ (ชักจะหมดความอดทนแล้วนะเฟ้ย) ฟังดีๆ นะ
หันหน้าเข้าหากระดาน..เขียนต่อ
สมมติว่าเรามีชีวิตอยู่ในมิติปัจจุบัน ซึ่งแทนค่าด้วยแกน X, Y แล้วก็ Z
หูอาซามิได้ยินเสียงเคี้ยวเอื้องกร๊วบๆ
ห้ามกินขนมในห้องเรียน อาซามิเตือนโดยไม่หันหน้ากลับมา อธิบายต่อ
แต่มิติของจักรวาล ซึ่งมีอะไรซับซ้อนมากมาย ครูจะแทนค่าด้วยแกน X , Y แล้วก็ Z ส่วนนี่ครูจะแทนด้วย X ใหญ่
อาซามิลากเส้น แกน X แกน Y บนกระดาน
นักเรียนชาย ขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แบบนี้อีกละ!
อาซามิหันกลับมาหน้าตาแปลกใจ (อะไรกันอีกล่ะวะ)
นักเรียนชายอีกคนบ่น เอะอะอะไรก็ใช้ X ใหญ่อยู่เรื่อย ใช้อย่างอื่นไม่ได้เหรอ เช่นเครื่องหมายตกกะใจ ไม่ก็เควสชั่นมาร์คตัวใหญ่ๆ น่ะ
ยามะพีงัวเงียเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ประมาณว่าคุยเรื่องอะไรกันเหรอ หนวกหูจริงวุ้ย คนจะนอน
อาซามิ พยักหน้าแบบขอไปที
เอาสิ ก็ได้ เราจะใช้เควสชั่นมาร์คตัวใหญ่ๆ แทน X อาซามิเขียนเควสชั่นมาร์คทับลงไปบนตัว X ใหญ่
ยามะพี สะกิดๆ เพื่อน : นี่ ..อาจารย์สอนเลขเหรอ
เพื่อน : ไม่ใช่ อาจารย์แค่แนะแนว
มะพีจึงพยักหน้า งัวเงียขึ้นมาฟัง
อาซามิอธิบายต่อ เส้นที่ยาวที่สุดนี่ ก็คือชีวิตในปัจจุบันของพวกเรา ลากยาวผ่านมานี่ เวลาบนโลกของเราครูจะแทนด้วยแกน T เส้นนี้ อย่างนี้ จะเห็นว่าทั้งสองแกนตัดกันที่จุดนี้
เหล่านักเรียน ทำหน้างุนงงสงสัย บ้างก็ฟังอย่างตั้งใจอยากรู้ บางคนก็ยังคงแอบงาบขนม
อาซามิ เน้นจุดตัดของเส้นด้วยวงกลม
ตรงนี้ ซึ่งก็คือช่วงเวลาปัจจุบันของเรา เน้นอีกที จุดนี้เป็นจุดตัดระหว่าง 2 แกนนี่ แต่ก็แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
ยามะพีหาว เพื่อนอีกคนสีหน้าหงุดหงิดดูนาฬิกาข้อมือ
อาซามิ ยังคงลากอีกเส้น
ถ้าเวลาผ่านไปเราก็จะมาอยู่ตรงจุดนี้ ต่างกันเพียงแค่เสี้ยววินาที ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว
ยามะพี ที่ยังคงหน้าตาง่วงงุนอยู่ ถามเพื่อน นี่.. อาจารย์สอนเลขอยู่ไม่ใช่เหรอ
เพื่อน พยักหน้า เออๆ เลขก็เลข
อาซามิอธิบายต่อ ดังนั้น ณ จุดนี้ ...
เคาะกระดานปึกๆ ตรงจุดที่ว่า ระยะเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที เพราะครูมัวแต่อืดอาดเลยถูกขโมยโทรศัพท์ไป ถ้าวันนั้นครูไม่มัวแต่ยึกยัก พูดมันออกไป แค่ถามเธอเล่นๆ คราวหน้าเราจะเจอกันที่ไหนดี หรืออาจบอกเธอไปเลย ผมชอบคุณ
ยามะพี ทำหน้ายุ่งใส่เพื่อน นี่ไม่ใช่เลขสักหน่อย (เอ็งมั่วนี่หว่า) บิดขี้เกียจ
เพื่อนรำคาญไอ้ง่วงนี่เต็มแก่ : นั่นน่ะสิ ( ตูก็บอกแต่แรกแล้วไงว่า อาจารย์ ...แนะแนว)
นักเรียนชาย : ฮ่วย กลับบ้านดีกว่า น่าเบื่อจะตาย
มะพี : นั่นสิ เพราะเห็นด้วยจึงลุกขึ้น เพื่อนจึงลุกด้วย หิวจะตายอยู่แล้ว เสียเวลา!
อาซามิ : "โอโตโมะ (ชื่อของยามะพี) แล้วก็ทุกๆ คน พวกเธอห้ามไปไหนทั้งนั้น
ทาคามัตสึ (เพื่อนสนิทของยามะพี)กำลังจะเดินผ่านหน้าอาจารย์อาซามิออกจากห้อง
ทาคามัตสึ หยุดเดี๋ยวนี้! อาซามิสั่งนักเรียน (ฉุนแล้วนะเฟ้ย...) วางชอร์คลงบนโต๊ะ ยืดอกตรงกอดอกหน้าประตู
มายืนนี่ ชี้จุดยืน ทาคามัตสึเข้าไปยืนตรงจุดที่อาจารย์ชี้อย่างไม่เต็มใจนัก
ฉันอยากจูบนาย อาซามิบอก
ทาคามัตสึ ทำหน้าตกใจ หะ! ว่าไงนะ
อาซามิยื่นหน้าไปจูจุ๊บนักเรียนชายทันที ทาคามัตสึช็อก!
ตะคอกใส่อาจารย์ด้วยความโกรธ อยากมีเรื่องหรือไง
อาซามิยืนกอดอกถามทาคามัตสึ นายรู้มาก่อนรึเปล่าว่านายจะถูกจูบปาก
นักเรียนร่วมชั้นทำหน้าเหวอ คนที่กำลังจะเดินออกไป หยุดยืนอยู่หน้าประตู
ยามะพีทำสีหน้าหยะแหยง รับไม่ได้ต่อการกระทำของอาจารย์
ใครจะไปรู้เล่า ทาคามัตสึตะโกนใส่หน้า
อาซามิ : ก็นั่นน่ะสิ แต่มันจะเป็นเรื่องที่นายจะจดจำไปอีกนาน ไม่ว่านานแค่ไหน นายจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ในวันนี้
ทาคามัตสึยังเช็ดริมฝีปากมือไม้สั่น บ้าไปแล้วหรือไง ทาคามัตสึโกรธมาก
อาซามิที่ยังคงเมามันส์กับการสอน(แนะแนว)อยู่ ใช้มือตบบ่าสองข้างของนักเรียนชายทาคามัตสึ ก้มหน้าลงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
แต่นายจำไว้อย่างนะ
หันหน้าเข้าหาเส้นลากและจุดตัดบนกระดาน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายทำไปตอนนี้ เคาะกระดาน มันจะส่งผลไปถึงอนาคตของนาย
สีหน้าทาคามัตสึบ่งบอกว่าไม่ได้เข้าใจเรื่องที่อาจารย์กำลังพูดอยู่นัก อนาคตเหรอ?
อาซามิ : ใช่ ... อนาคต ทุกวินาทีมีค่าเสมอ ทุกลมหายใจ ทุกนาที เพราะฉะนั้น
อาซามิเดินไปเคาะตรงจุดที่เขียนไว้ว่า
อดีตส่งผลถึงปัจจุบัน ใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า ชีวิตคนเราสั้นเพียงแค่พริบตา การกระทำของเราในวันนี้ส่งผลไปถึงภายภาคหน้า
ทาคามัตสึยังเหวออยู่ แต่ก็เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรในใจ
อาซามิยังคงพร่ำ ครูอยากให้ทุกคนจำที่ครูพูดเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นนับจากวันนี้ ขอให้พวกเราทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะเพียงแค่เสี้ยววินาที ...
อาซามิยังพูดไม่ทันจบ. ทาคามัตสึกำหมัด แล้วพุ่งเข้าใส่อาจารย์ แต่พลาด อาซามิตกใจร้อง "โฮ่ยๆ"
แต่พอหลบได้ก็บอก ไม่เลวนี่!
ไม่ได้เอาคือนอาจารย์ตอนนี้ ผมก็จำไม่ลืมเหมือนกัน ดูเหมือนว่าทาคามัตสึจะเข้าใจเรื่องที่อาซามิกำลังสอนอยู่เป็นอย่างดี ทาคามัตสึเดินเข้าไปหากำคอเสื้ออาซามิแน่น
อาซามิใช้มือดันไหล่ไว้ นายก็หัวไวดีนี่ เข้าใจที่ฉันสอนแล้วสิ ดีมาก ดันทาคามัตสึไปนั่งเก้าอี้
เอาล่ะทุกคน โชคดีแล้วกัน เจอกันปีหน้า 2002
จบชั่วโมงโฮมรูม
นั่นคือ 1 ปีต่อมา...ที่อาซามิได้หยิบยกประสบการณ์ของตัวเองมาเป็นตัวอย่างสอนนักเรียนให้เห็นถึง ความสำคัญของเวลา
อยู่มาวันนึง โชคชะตาก็เป็นใจอีกครั้ง เมื่อยูกะที่ยังคงทำงานในร้านดอกไม้ของพ่อเธอ และได้ไปส่งดอกไม้ให้นักเรียนชายคนนึงชื่อ โอโตโมะ (ยามะพี) และคนที่สั่งดอกไม้มาเพื่อหวังเคลมโอโตโมะ นักเรียนหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ ในโรงเรียน ก็คือ อาจารย์เซกิยะ ที่ยูกะต้องไปเรียกเก็บเงิน
แต่น่าเสียดายที่โชคชะตามักมาผิดที่ผิดเวลา
ที่โรงเรียนโมโตคุระ โยโกฮ่าม่า อาซามิจึงได้พบกับยูกะในสถานการณ์ที่ตัวเองดูย่ำแย่อย่างที่สุด!
และเพราะความฉุนจัดที่ไม่ว่าจะพยายามชี้แจงสถานการณ์ยังไงก็ยังคงเป็นแค่คำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี
อาซามิจึงเผลอหลุดปาก
ชาตินี้เจอกันครั้งเดียวก็เกินพอ
ที่เคยรักแรกพบดูเหมือนเกือบจะเป็นจุดจบเมื่อได้พบกันอีกครั้งใน 1 ปีต่อมา
แต่คนที่เคยมีประสบการณ์และเข้าใจถึงความสำคัญของเวลาดีแล้วอย่างอาซามิ คงไม่ยอมให้จบและปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นโชคชะตาก็ไม่เป็นใจเปิดโอกาสให้ได้ต่อเนื่องความสัมพันธ์นัก
หลังจากปีใหม่มาไม่นาน ก็เข้าสู่ช่วงเวลาปิดภาคเรียนฤดูหนาวที่นักเรียนทุกคนรอคอย หลายคนวางแผนไว้ว่าจะทำอะไรสนุกๆ กันดีในช่วงเวลานั้น แต่สำหรับอีกหลายคนวางแผนไปก็ไม่มีผลเพราะดันเป็นพวกหัวไม่ดีที่มีทีท่าจะสอบตก จึงจัดอยู่ในพวกที่ถูกเกณฑ์มาเรียนในคอร์สพิเศษช่วงปิดภาคเรียนนี้ เช่น โอโตโมะ ทาคามัตสึ และใครๆ อีกหลายคน
อาจารย์เซกิยะที่ส่งดอกไม้ให้นักเรียนชายโอโตโมะก่อนหน้านั้น ได้ชื่อว่าเป็นพวกคลั่งแบรนด์เนมก็จริง แต่ปัญหาก็คือนอกจากจ่ายเงินเพื่อแบรนด์เนมแล้ว เธอพร้อมจะเบี้ยวการจ่ายค่าอื่น ๆ รวมถึงค่าดอกไม้ของยูกะด้วย ยูกะจึงหวนกลับไปทวงค่าดอกไม้ที่โรงเรียนอีกครั้ง ...
บางทีเหตุผลที่แท้จริงที่ยูกะกลับไปที่โรงเรียนอาจไม่ใช่เพราะค่าดอกไม้แต่เป็น..อาซามิ
และพวกเขาก็พบกัน แต่ก็ได้แค่เพียงทักทายและเดินผ่าน
สวัสดี สวัสดี
จะผ่านไปแค่นี้เหรอ? อาซามิจึงหันกลับมาถาม
..จะกลับแล้วเหรอ
ยูกะหันกลับมาตอบ วันนี้ฉันมีนัดสำคัญค่ะ
นัดสำคัญ.. อาซามิรำพึง และพูดไม่ออก
ต่างคนต่างมองตากัน... เมื่อไม่มีคำพูดอะไรจากปากอาซามิ ยูกะจึงหันหลังกลับ
อาซามิหันหลังจะเดินกลับเข้าไปในอาคารเช่นกันแต่ไม่ทันก้าวก็หมุนตัวกลับมา ...มองตามหลังยูกะ
จะปล่อยให้มันผ่านไปหรือ? อย่าลืมสิ ความสำคัญของเวลา
แค่อีกก้าวเดียวยูกะก็จะก้าวพ้นไปจากประตูโรงเรียน แต่ยูกะก็คงจะคิดอย่างเดียวกันกับที่อาซามิคิดอยู่ จึงหยุดเดินและหันกลับมา
คือว่า... สองคนพูดพร้อมกัน แล้วหยุดชะงัก
อดีตสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคต และชีวิตคนเราเพียงแค่พริบตา อาซามิบอกกับตัวเอง และตัดสินใจ
ผมอยากจะบอกว่า.......
เป็นเวลาเดียวกับที่ยูกะ พูดออกมา ฉันโทรไปหาคุณ
อาซามิชะงัก ยูกะจึงย้ำอีกครั้ง คืนนั้นฉันโทรไปหาคุณ...ตั้งหลายครั้ง
จู่ๆ ก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้น!!!! และสิ่งต่างๆ รอบตัวก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
*******
มันก็แค่แผ่นดินไหว แล้วทำไม ณ ที่แห่งนั้น ที่ที่เป็นโรงเรียนถึงหายไป ..กลายเป็นหลุมลึกใหญ่ จะว่าเป็นหลุมอุกาบาตพุ่งชนโลกหรือก็ไม่ใช่ ผู้คนบริเวณนั้นต่างตื่นตกใจ พ่อแม่ของเด็กนักเรียนที่หายไปต่างร่ำไห้ เหตุการณ์อันน่าประหลาดใจที่ในเวลาต่อมา ตำรวจ นักข่าว นักวิจัย และผู้เกี่ยวข้องที่เข้ามาพิสูจน์และตรวจสอบก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แผ่นดินส่วนนั้นถึงหายไปกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ยักษ์ที่มองหาจุดสิ้นสุดของความลึกไม่ได้ สรุปยอดผู้สูญหายไปกับโรงเรียน ยี่สิบกว่าชีวิต ก็ไม่มีใครบอกได้ว่ายังอยู่หรือตายไปแล้ว
*****
แต่พวกเขาปลอดภัยดี โรงเรียนยังคงตั้งอยู่อย่างสง่าราศีมิมีบุบสลายจากแรงสั่นสะเทือน หรือการตกหล่นลงไปในหลุมอย่างที่คนอีกมิตินึงมองหา ที่โน่นอาจเป็นหลุม แต่ในที่เดียวกันในอีกมิตินึงของเวลามันไม่ได้เป็นหลุม แต่เป็นผืนทะเลทรายกว้างใหญ่ มองไปทางไหนก็มีแต่แผ่นดินแห้งแล้งสีมืดดำ หากจะมีเหมือนกันระหว่างที่นี่กับที่โน่น ในที่ที่เดียวกันนี้ (งงมั้ยเนี่ย) ก็คือการหาความสิ้นสุดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นความลึกของหลุม หรือความกว้างใหญ่ของทะเลทราย
เมื่อยูกะและอาซามิเงยหน้าขึ้นหลังจากแรงสั่นสะเทือนสิ้นสุด นั่นคือโลกใหม่ที่พวกเขาค้นพบ เช่นเดียวกับเด็กนักเรียนที่ยังเฮฮาอยู่ในอาคารเรียนๆ โดยไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เริ่มสติแตกกันทีละคนเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียนแล้วพบว่าโลกรอบตัว..ได้เปลี่ยนไปแล้ว
เกิดอะไรขึ้น พวกเขาอยู่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ ... รู้แต่ว่าปัญหาต่างๆ กำลังจะตามมาและเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขา
***
ตอนอ่านเรื่องย่อ ก็คิดอยู่เหมือนกันนะว่าเรื่องนี้มันจะสนุกยังไง แผ่นดินที่ทะลุมิติหายไป เหลือแต่หลุมลึกใหญาบนแผ่นดินเหลือไว้ให้คนดูต่างหน้า ... เว่อร์ซะไม่มีเรื่องไหนเกิน แต่ยอมหยิบจับมาดูเพราะชื่อของ ...
โยสุเกะ คุโบซึกะพอมาดูแล้ว จึงเปลี่ยนความคิด เพราะคิดว่า พรหมลิขิต ที่นำอาซามิกับยูกะมาพบกันเป็นเรื่องราวที่น่ารักมาก หลุมจากแผ่นดินไหว และทะเลทรายกว้างใหญ่ในอีกมิตินึง เป็นจินตนาการที่ตื่นตาตื่นใจพอสมควร ... สถานการณ์ที่ยี่สิบกว่าชีวิตในโรงเรียนต้องผจญหลังจากนั้นก็มีอรรถรสหาน้อยไม่ ในที่ที่มีแต่ทะเลทราย ไม่มีน้ำ ไม่มีอาหาร ไม่มียารักษาโรค และไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตใด...พวกเขาจะอยู่กันอย่างไร ...ในสถานการณ์ที่ต้องเอาชีวิตรอด สัญชาตญาณความเห็นแก่ตัวของคนจะเริ่มปรากฏ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นครู
ดูแล้วก็สอนตัวเราเหมือนกันนะคะ
คนอาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ แต่ อย่าให้สถานการณ์มาเปลี่ยนแปลง ตัวตน ของคนและแน่นอน สถานการณ์ย่อมสร้างวีรบุรุษ ...อาซามิในฐานะ พระเอก ย่อมไม่ถูกความเห็นแก่ตัวเข้าครอบงำ และในฐานะครูย่อมต้องทำตัวเป็นที่พึ่งของเด็กนักเรียน จะท้อแท้หวาดกลัวให้เด็กๆ เห็นไม่ได้ หากโรงเรียนคือบ้านคือสถานที่ที่ให้ความรู้สึกปลอดภัย อาซามิก็คือพ่อ ( god father) คือสัญลักษณ์ของความอุ่นใจ เช่นเดียวกับที่ยูกะ มาซามิ อดีตคุณครูที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนไปช่วยงานร้านดอกไม้ของพ่อได้กลับมาสวมวิญญาณการเป็นครูอีกครั้งเพื่อช่วยเหลืออาซามิดูแลเด็กๆ ให้รักษาชีวิตรอดจากภัยอันตราย มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่และต่อสู้หาหนทางกลับไปสู่ที่ที่เคยเป็นโลกใบเดิม
**
การที่อาซามิและนักเรียนพยายามทำความเข้าใจเรื่องมิติของเวลาและพบสิ่งที่น่าเชื่อได้ว่ามันเป็นโลกอนาคตที่ไม่เหลืออะไรนอกจากทะเลทราย และซากปรักหักพังของตึกอาคารที่ถูกฝังแทรกตัวอยู่กับหินดินทรายจนดูกลายเป็นภูเขาหินว่างเปล่า ไม่มีพืช ไม่มีสัตว์ ไม่มีระบบนิเวศ น้ำที่ซึมออกมาจากการขุดทรายเต็มไปด้วยสารพิษ เจอเมฆพิษสอดแนม กับฤทธิ์สายฟ้าฟาดทำแผ่นดินแยกเข้าไป ยังไม่อ้าปากเหวอเท่าเจอสิ่งมีชีวิตเดียวที่เรียกว่ามนุษย์กลายพันธุ์ อยากจะบอกว่าละครเรื่องนี้...จินตนาการล้นเหลือจนแสบไส้ไปเลย 5555
สนุกดีค่ะ คราวหน้าจะพิจารณาละครแนวๆ นี้ดีๆ ไม่อคติไปซะก่อน
ส่วนที่ว่าเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกันยังไงกับคำ "Long Love Letter" หรือดูแล้วนึกไปถึงเรื่องภาวะโลกร้อนในปัจจุบันได้ยังไง ทั้งที่ในปี 2002 ที่ละครออกอากาศ คงยังไม่มีใครพูดถึงภาวะโลกร้อนอย่างแพร่หลายเท่าไรนัก ..ต้องลองไปหาคำตอบกันดูนะคะ
อิอิ เชียร์ผลงานของ โยสุเกะจังค่ะ (ออกนอกหน้ามาก
)
PS. หลังๆ มานี้ พยายามจะเขียนให้สั้นแล้วนะ แต่พอลงมือทีไร ฝนตกหนักน้ำท่วมทุ่งทุกที คราวหน้าจะพยายามให้มันสั้นๆ
Source of pictures:Forums.popconfor2
คุณป้าหนอนจาก web puntip
ข้อมูลเพิ่มเติมจาก JKDramars :
ชื่อภาษาญี่ปุ่น ロング・ラブレター~漂流教室
ชื่อภาษาอังกฤษ Long Love Letter
ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ Fuji TV, ประเทศญี่ปุ่น
ออกอากาศ 9 มกราคม 2002 ถึง 20 มีนาคม 2002
จำนวน 11 ตอน
เพลงหลัก Loveland, Island ขับร้องโดย Yamashita Tatsuro
ผู้กำกับ -
ผู้เขียนบท Oomori Mika
แนวซีรี่ส์
แนวแฟนตาซี ไซ-ไฟ ที่จะสร้างสีสัน ความแปลกใหม่และตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชม
จุดเด่น- ได้รับการโหวตจากคณะกรรมการ The Television Drama Academy Award และผู้อ่านนิตยสาร The Television ให้เป็น drama ยอดนิยม
- Yousuke Kubotsuka (พระเอก) ได้รับการโหวตจากคณะกรรมการ The Television Drama Academy Award ให้เป็นดาราชายยอดนิยมอันดับ 1 และได้รับการโหวตจากผู้อ่านนิตยสาร The Television ให้เป็น ดาราชายยอดนิยมอันดับ 2 จากเรื่องนี้
- Takako Tokiwa (นางเอก) ได้รับการโหวตจากผู้อ่านนิตยสาร The Television ให้เป็นดาราหญิงยอดนิยมอันดับ 2 จากเรื่องนี้
- เรื่องนี้ได้ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนแนว Suspense Horror ชื่อ Hyoryu Kyoshitsu ที่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง แต่เมื่อมาสร้างเป็นละครได้เปลี่ยนให้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นณ โรงเรียนมัธยม และเพิ่มสีสันเรื่องราวความรักของชาย-หญิง และแนวคิดในการดำเนินชีวิตเข้าไปด้วย เรื่องนี้มีการถ่ายทำและเพิ่ม Visual Effect เยอะมาก
ข้อคิดจากซีรี่ส์
ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรืออนาคต
ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
เพราะไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น
ดังนั้นเราควรใช้ชีวิตทุกวินาทีอย่างคุ้มค่าที่สุด
ความรู้สึกที่ดีต่างๆที่มีอยู่ก็ควรบอกให้คนๆนั้นได้รับรู้ตั้งแต่เดี๋ยวนี้
ไม่ว่าจะคำขอโทษ คำขอบคุณ หรือคำว่ารัก
ก่อนที่จะสายเกินไป
โดย: mamLHC IP: 117.47.210.106 3 ตุลาคม 2552 16:10:33 น.
โดย: มารีออง 5 ตุลาคม 2552 15:46:54 น.
ใช้วินาทีให้คุ้มค่า
ชีวิตคนเราสั้นเพียงแค่พริบตา
การกระทำของเราในวันนี้
ส่งผลไปถึงภายภาคหน้า
แค่ข้อความนี้
ก็ทำให้
ต้องรีบไปหามาดู
อย่างฉับไวซะแล้ว
ขอบคุณที่แนะนำค่ะ
โดย: โสดในซอย 10 ตุลาคม 2552 11:44:22 น.
ไม่แน่ใจ เเต่พล็อตเเผ่นดินไหว
มันคุ้นอยู่
โดย: Mr.Chanpanakrit 22 พฤศจิกายน 2552 21:29:33 น.
เรื่องนี้เคยฉายในไอทีวีมาก่อน
หลายปีแล้ว สนุกมากค่ะ
โดย: ichigo IP: 124.120.151.166 27 เมษายน 2553 13:46:58 น.
อีกครั้ง
เป็นพล็อกที่สมควรทำเป็นหนังอยางมาก
พอมาลงเป็นซีรีย์ ดูมันจะยืดจนอืดอาด
อยู่ไม่น้อย
แต่ตอนจบปลายเปิดทางความคิด
เรื่องนี้ สร้างประเด็นเรื่องโลกร้อน
ทั้งๆที่ เป็นซีรีย์สิบกว่าปีเข้าให้มาแล้ว
โดย: Mr.Chanpanakrit 6 พฤศจิกายน 2553 14:04:03 น.
อย่างที่รู้ๆ กันว่า เรื่องนี้เคยฉายผ่าน ITV มานานมากแล้ว และเราอาตี้ก็เคยผ่านตาจากการฉายทางทีวีเช่นกัน
เหตุที่ดูผ่านทีวีในตอนนั้นก็เพราะชื่อเรื่องภาษาไทย (มหัศจรรย์รักทะลุมิติ) เราชอบแนวแฟนตาซีอยู่แล้ว ก็เลยติดตามดู และพบว่าพระเอกของเรื่องเท่ห์มากๆ ถึงตอนนี้ได้ย้อนกลับมาดูจากแผ่นอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของคุณ prysang เราก็ยังคงความประทับใจสุดๆ และชอบบล็อกรีวิวของคุณ prysang ในเรื่องนี้มากๆ เห็นความพยายามตั้งใจในการคัดคำพูดที่พระเอกได้สอนลูกศิษย์ข้างต้นมาให้อ่านด้วย อ่านแล้วเข้าในเนื้อหาในซีรีย์มากขึ้นจริงๆ
และอย่างที่รู้ๆ กันว่า เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นแนวสยองขวัญชวนอาเจียน Suspense – Horror ชื่อ Hyoryu Kyoshitsu แต่พอทำออกมาเป็นซีรีย์แล้วเบาลง มีบทหวานกุ๊กกิ๊กเข้ามาเพิ่มอรรถรส ซึ่งโดยโครงเครื่องในแนวผจญภัยชวนสะพรึงสุดโหด ก็สามารถดึงให้ผู้ชมชวนติดตามได้ตลอดเรื่องอยู่แล้ว แต่พอมีบทแหวว น่ารัก ใส่เข้ามาเหมือนน้ำจิ้มชูรส ก็ยิ่งเพิ่มดีกรี
และรวมไปถึงเพลงประกอบในเรื่อง (เพลงจบตอน) อันนี้เราอาตี้ชอบมาก (ชื่อเพลง Loveland, Island) แปลเพลงได้ประมาณว่า รัก แผ่นดิน (โลก) นี้ มากๆ อะไรทำนองนั้น เข้ากับเนื้อหาซีรีย์มากๆ
อาตี้ขอวิจารณ์ที่การวางเรื่อง ลำดับภาพ เบื้องหลังซีรีย์เรื่องนี้คงถ่ายทำเปลืองเอาการอยู่ เหตุเนื่องจากการลำดับเหตุการณ์ แต่ละคนมีความฝันที่ไม่อาจเป็นจริงได้ เช่น ตอนที่พระเอกป่วยใกล้ม้วย เขาคิดไปว่า ทำไม่เขาจะมีความรักหวานๆ ที่ยืนยาวกว่านี้กับนางเอกไม่ได้เชียวรึ? ทำไมเขาจะต้องมาใกล้ตายตอนนี้ด้วย นึกไปก็จินตนาการไปเป็นฉากๆ หรืออย่างตอนที่ลูกศิษย์ของนางเอก นัดนางเอกไว้ แล้วนางเอกไม่ได้ไปตามนัด ซึ่งตอนใกล้จะจบเรื่องเขาฝันไปว่านางเอกมาหา และได้พูดคุยกัน ซึ่งตลอดเรื่องจะมีแบบนี้ตลอด และเพราะนักเรียนมีถึง 22 คน ที่หลงข้ามมิติเวลาไป ทำให้บางฉากจึงต้องมีการย้อนคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นแล้วจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ตามแต่เด็กแต่ละครคิดถึง
ดังนั้นการเรียงลำดับเหตุการณ์ หรือการอยากมีชีวิตอยู่ "ด้วยความหวัง" จึงถือเป็นแกนอีกจุดหนึ่งที่คุณ prysang ได้วิจารณ์ไว้ว่า เรื่องนี้เน้นที่ "การเปลี่ยนแปลง" (ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ดังนั้นขอให้ใช้เวลาในปัจจุบันทุกวินาทีที่เราอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ ให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง) จึงทำให้ทุกคนต่างจินตนาการคิดฝันไปต่างๆ นานาว่าได้อยู่กับครอบครัวหรือกับคนที่ตนรัก
ความหวัง เป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่เราอาตี้เห็นว่า เป็นสิ่งที่ผลักดันให้ตัวละครอยากมีชีวิตอยู่ โดยหวังว่าสักวัน พวกเขาจะได้กลับมายังอดีตที่ๆ พวกเขาจากมา ได้กลับไปพบครอบครัว คนที่ตนรัก หากไม่มีจุดนี้ พวกเขาจะหดหู่ และคิดฆ่าตัวตายกันอยู่ทุกครั้งที่ความหวังหมดไป
แต่เพราะพระเอก มักหาคำพูด หรือความคิดบางอย่างมาเป็นแรงบันดาลใจนำทุกคนให้ยังอยากมีชีวิตอยู่ จึงทำให้หลายครั้งทุกคนเลิกคิดจะฆ่าตัวตาย สิ่งหนึ่งเป็นเพราะพระเอกเป็นเด็กกำพร้า คนพวกนี้มักมีจิตใจเข้มแข็งมากกว่าคนปกติมาตั้งแต่เกิด ทำให้เมื่อเด็กๆ ที่เคยมีบ้าน มีครอบครัว เกิดความรู้สึกย่อท้อ พระเอกย่อมเข้าใจความรู้สึกนั้นดี และเขาเคยผ่านความรู้สึกขาดแบบนั้นมาตั้งแต่เกิดแล้ว จึงสามารถให้กำลังใจคนอื่นๆ ให้ยืนหยัดอยู่ได้เหมือนกับเขาในปัจจุบัน
ขอชมว่าคนเรียงลำดับภาพเหตุการณ์เก่งมาก ที่วางความคิดความฝันในจุดต่างๆ ของเรื่องได้อย่างไม่ งง ไล่เรียงลำดับได้แจ่ม และเรื่องนี้ยังใส่ Visual Effect ไว้เยอะมากๆ ซึ่งซีรีย์เรื่องนี้ทำขึ้นมาตั้งแต่ปี 2001 และฉายจริง ปี 2002 แต่เราเอามาย้อนดูปี 2010 พบว่าแทบจะจับภาพตัดต่อ และจุดที่มีการใส่ Visual Effect ไม่ได้เลย บางจุดพอจับได้บ้าง (รู้ว่าฉากนี้ถ่ายทำกันในสตูดิโอ แล้วใส่พื้นหลังเข้าไป ทำให้เหมือนพื้นหลังเป็นทะเลทราย มักเป็นฉากที่เด็กๆ กลับมาจากการเดินทางในทะเลทรายเดินเข้าในโรงเรียน) แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีการถ่ายทำของประเทศญี่ปุ่นเจ๋งมาก สมแล้วที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นจ้าวแห่งเทคโนโลยี
จุดสำคัญที่ให้ข้อคิดอีกเรื่องคือ คุณค่าของสิ่งของ โดยเฉพาะของกินจะขาดแคลนมาก ถ้ามีใครสักคนยื่นท็อปฟี่ให้เรา เราอาจรู้สึกขอบคุณ แต่คงไม่ถึงขนาดซาบซึ้งที่เขาได้สละสิ่งที่เขามีให้กับเรา แต่สำหรับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างในซีรย์เรื่องนี้ การให้ท็อปฟี่เพื่อนสักเม็ด นั่นหมายถึงเพื่อนได้เสียสละน้ำตาลซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญให้กับสมองและร่างกาย รวมถึงความสุขที่ได้รับจากน้ำตาลในกระแสเลือด หรือก็คือเพื่อนผู้นั้นได้มอบความสุขและรอยยิ้มให้กับเพื่อนอีกคนนั่นเอง (แค่ท็อปฟี่เม็ดเดียวยังมีความหมายขนาดนี้ คิดดูจิ หุหุ ซึ้งงงง) ซึ่งในเรื่องก็จะแทรกให้เห็นถึงคุณค่าของสิ่งต่างๆ ในยามขาดแคลนได้อย่างให้ข้อคิดตลอดเวลา แจ่มมากๆ
ตอนจบของเรื่อง เป็นการย้อนเหตุการณ์ในตอนแรกที่พระเอกได้เจอกับนางเอก และก่อนจะจากกัน พวกเขาได้แลกเบอร์โทรศัพท์ของกันและกัน ในค่ำวันเดียวกันนั้นพระเอกคิดไปว่าจะโทรไปหาเธอดีหรือไม่? แน่นอนว่าตอนแรกจะไม่โทร แต่อยู่ดีๆ ก็มีกระดาษชิ้นเล็กๆ 3 ชิ้นร่วงลงมาจากฟ้า ข้อความที่ได้รับจากพระเอกในอนาคตถึงตัวพระเอกเองในอดีต ทำให้พระเอกเปลี่ยนใจโทรศัพท์ไปหาเธอ ซึ่งทำให้เหตุการณ์ในอนาคตของเขาที่มีร่วมกับเธอเปลี่ยนไป แทนที่จะไม่ได้พบกัน เพราะจริงๆ แล้วในอดีต โทรศัพท์ของเขาจะต้องถูกขโมยไปหลังจากนั้น และไม่ได้พบเธอ กลับกลายเป็นว่า เขาได้พบได้คุยกับเธอ และโทรศัพท์ก็ไม่หายด้วย แม้ว่าหลังจากนั้นคนทั้งสองอาจต้องกลับมาข้ามเวลาไปด้วยกันอีก แต่อย่างน้อยหวังว่า ช่วงเวลาที่ทั้งสองจะมีความสุขร่วมกันคงจะยืนยาวมากกว่า 15-16 วัน อย่างที่เคยเกิดขึ้น
กลายเป็นได้คบกัน ได้มีความสุขร่วมกันปีกว่า (ไม่อยากคิดเลยอะ เพราะถึงแม้ในอนาคตพวกเขาจะคบกันแค่ 10 กว่าวัน ยัง kiss กันแล้ว ถ้าคบกันเป็นปี มันจะไม่เลยเถิดไปถึงไหนแล้วเหรอ? จริงอะเปล่า? อาตี้เอ้ยยยยย เลือดกำเดาไหลแล้ว (ขอตัวไปเช็ดก่อนนะ คริคริ)
โดย: อาตี้เจ้าเก่ามาบุกแล้ว IP: 119.46.167.30 27 พฤษภาคม 2554 14:46:16 น.