bloggang.com mainmenu search

Smiley..Oh! my girl ..Smiley




ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดกรุ เอาซีรีย์ที่เคยโยนๆ สุมไว้ซะนาน ออกมาเคลียร์ซะบ้าง ที่เก็บไว้นานไม่ใช่เพราะไม่อยากดูหรอกนะคะ แต่เพราะเวลาและสังขารไม่เอื้ออำนวยให้ เนื่องจากมีซีรีย์มากมายหลายเรื่องที่อยากดู ดูกันจนสุขภาพเสื่อมโทรมไปข้างนึง ก็ยังไม่ถึงคิวเสียที


กว่าจะได้ฤกษ์งามยามดี


สร้างพล็อทเรื่องได้น่ารักมากทีเดียว สำหรับ Oh my girl

เป็นการหยิบยกเอาความรักในอีกแง่มุมนึง นั่นคือความรักระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่มานำเสนอเป็นโครงหลักของเรื่อง


และนี่คือเหตุผลว่าทำไม นางเอกของเรื่องจึงอายุ 6 ขวบ

เรื่องย่อSmiley

ยามาชิตะ โคทาโร่ ชายหนุ่มผู้ใฝ่ฝันจะเป็นนักเขียนนิยายแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ระหว่างนั้นเขาจึงทำงานเป็นนักเขียนอิสระให้กับนิตสารแห่งหนึ่ง และใช้เวลาว่างกับการเขียนนิยายลงในเว็ปมือถือ เพราะหวังว่าสักวันนึงจะเป็นที่นิยมของคนอ่านจนได้รับการติดต่อให้ตีพิมพ์


ซากุระ อัน เด็กหญิงวัย 6 ขวบ ความสามารถในการแสดงของเธอทำให้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเล็กในฐานะดาราเด็กขวัญใจชาวญี่ปุ่นผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง

คนหนึ่งนอกจากจะเป็นนักเขียนไส้แห้งยังไม่พอ ยังต้องมาเจอกับช่วงเวลา 'ถังแตก' อีกด้วย กับอีกคนหนึ่งที่แสนจะร่ำรวย อาหารจานโปรดของเธอคือหูฉลามน้ำแดงในภัตตาคารหรู


พูดง่ายๆ ก็คือ..สุดโลโซ กับ ยอดไฮโซ ที่อยู่ๆ มาวันนึงก็มีเหตุให้มาพบกัน

ชีวิตที่เรียบง่าย ตัวคนเดียว ไม่เคยต้องมีห่วงอะไร ของโคทาโร่ ต้องเปลี่ยนไป เมื่อวันนึงดันมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาในบ้าน (ที่เป็นห้องโทรมๆ ในอพาร์ตเมนท์ราคาถูก) เธอคือดาราเด็กชื่อดังที่โคทาโร่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเป็นลูกสาวของ ออซอร่า ฮินาโกะ นักแสดงสาวผู้กำลังจะก้าวไปไกลถึงวงการฮอลลีวู้ด

ออซอร่า ฮินาโกะ ผู้เป็นพี่สาวของเขาเอง แต่เพราะต่างคนต่างเป็นลูกติดของพ่อกับแม่ที่มาแต่งงานกัน และพวกเขาก็เสียชีวิตไปแล้ว พร้อมๆ กับที่โคทาโร่ตัดขาดไม่นับฮินาโกะเป็นพี่สาวอีกต่อไป เหตุเพราะ ความเป็นดาราดังของเธอ ทำให้ปลีกตัวมาร่วมงานศพของพ่อกับแม่ไม่ได้ โคทาโร่ซึ่งยังเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มคนนึงและต้องการที่พึ่ง จึงถูกทิ้งให้เผชิญช่วงเวลาแห่งการสูญเสียเพียงลำพัง


โคทาโร่จึงคิด : สายเลือดก็ไม่ใช่  แล้วมันกงการอะไรของเขาล่ะ ที่ต้องมารับผิดชอบดูแลเด็กผู้หญิงท่าทางแก่แดด เรื่องมาก เอาแต่ใจคนนี้


ส่วนอันจังก็คิด :- ผู้ใหญ่อะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ อารมณ์เสียได้ตลอดเวลา และไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงได้จนอยู่อย่างนั้น ห้องก็ทั้งเล็กทั้งแคบ ถึงมันยากที่จะอยู่ แต่เพราะรักษาสัญญากับแม่เอาไว้ว่าจะอยู่กับผู้ชายคนนี้ ก็ต้องทำตามสัญญาให้ได้


ดังนั้น  ไม่ว่าโคทาโร่จะอารมณ์เสียแค่ไหน ที่อยู่ๆ ก็เหมือนมีห่วงมาถ่วงคอ จะไล่ส่งยังไง อันจังก็ไม่สนใจยังไงเธอก็ยืนยันจะอยู่กับเขา จึงขนเอาเตียงนุ่มๆ กับหมอนใบเดิม ที่...หนูจะนอนไม่หลับถ้าไม่ได้ใช้หมอนใบนี้หนุนนอน ...ยังไม่พอ  ยังมีสุนัขขนฟูตัวใหญ่  (พันธ์อะไรก็ไม่รู้สิ) กับบ้านสุนัขหลังขนาดไม่น้อย ที่ยัดเยียดอัดเข้าไปในห้องรูหนูของเขาด้วย  นั่นก็มากเกินไปแล้วสำหรับโคทาโร่  ยังไม่พอ  ยังพายัยผู้จัดการส่วนตัวจอมจุ้นจ้านเข้ามาวุ่นวายในชีวิตอันสุขสงบของเขาอีก


ทนไม่ไหวแล้ว!


ส่งครามชีวิตระหว่าง ไอ้หนุ่มสูงโย่ง กับเด็กหญิงตัวกะเปี๊ยก จึงปะทุ!


โคทาโร่  คุณไม่ได้เติมน้ำเครื่องทำความชื้น มันทำให้ผิวหนูไม่กระชับ หนูทำงานไม่ได้ถ้าผิวหนูหยาบ


หนูทำงานไม่ได้ ถ้าไม่ได้ดื่มนมตอนเช้า


ขนมปังลูกเกดต้องทำด้วยยีสต์สด และต้องหั่นให้เท่ากันด้วยความหนา 26 มิลลิเมตเท่านั้น


นี่แค่ตัวอย่าง ยังมีอะไจุกจิกทำนองนี้ อยู่ใน..คู่มือการดูแลซากุระ อัน .. ที่ยัยผู้จัดการส่วนตัวรวบรวมจัดทำเป็นรูปเล่มหนาปึกมิใช่น้อยและส่งให้เขาพร้อมทั้งกำชับกำชา..  กรุณาดูแลอันจังตามคู่มือนี้อย่างเคร่งครัด 


เช่น  อุณหภูมิขณะนอนหลับต้องอยู่ที่ 27 องศา เครื่องทำความชื้นต้องอยู่ห่างจากหมอนไม่น้อยกว่า 1 เมตร และต้องมีระดับความชื้นในอากาศให้อยู่ที่ 56%


มันน่าโมโหอะไรอย่างนี้


โคทาโร่ : ฉันว่าเธอน่าจะรู้อยู่แล้วนะ ถ้าเธอมาอยู่กับฉัน ฉันไม่สามารถให้ชีวิตที่หรูหราไฮโซกับเธอได้หรอก


อันจัง : คุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะค่ะ


โคทาโร่ : เข้าใจผิด?


อันจัง : ถ้าหนูเป็นพวกยึดติดกับชีวิตหรูหราแล้วล่ะก็ หนูคงอยู่ที่บ้านคุณไม่ได้หรอกค่ะ ไม่เป็นไรหรอกนะคะ หนูมีเงินเก็บของหนู หนูสามารถจะใช้ชีวิตแบบเดิมก็ได้ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกค่ะ


โคทาโร่ : เธอจะไม่เป็นผู้ใหญ่ที่ดีนะ ถ้าเธอติดชีวิตไฮโซตั้งแต่เด็กแบบนี้


อันจัง : แม่บอกว่า ..นักแสดงมีอิสระเสมอ จะต้องไม่ใช้ชีวิตอย่างปกติธรรมดา


โคทาโร่อึ้งกับปรัชญาชีวิตที่ฮินาโกะสอนให้อันจังยึดถือ


อันจัง : คนมีรายได้มากกว่าต้องจ่ายเสมอ เป็นหลักทั่วไปในโลกของการแสดง มื้อนี้หนูเลี้ยงคุณเองค่ะ


โคทาโร่คิด : ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ 


---เข้าใจความปวดใจของโคทาโร่..ชัดเลย-------อยู่ไปอยู่มาก็มีเหตุให้แตกหัก


โคทาโร่ : ทำไมต้องหลอกกันด้วย


อันจัง : ก็คุณเป็นคนซื่อ ส่วนหนูเป็นนักแสดงเจ้าบทบาท


โคทาโร่ : เธอแย่มาก  แย่ทั้งแม่ทั้งลูก ฉันไม่สนใจ ว่าเธอจะเป็นนักแสดงหรืออะไร มันสนุกนักเหรอ ที่หลอกคนอื่นแบบนี้ สนุกนักเหรอที่ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น รู้เอาไว้เลยนะ ฉันเกลียดคนแบบนี้ที่สุด!


มิน่าล่ะ ถึงถูกทิ้ง สมควรแล้วล่ะที่แม่จะทิ้งเธอไป และตอนนี้เธอก็ถูกทิ้งแล้วล่ะ  ออกไป! 


นางเอก 6 ขวบจึงน้อยใจ และแล้วเธอก็ไปจริงๆ


ซากุระ อัน ไม่เคยเชื่อ อย่างที่โคทาโร่คิดหรอกว่า การที่แม่ของเธอสั่งเอาไว้ให้มาอยู่กับโคทาโร่ ตอนเธอไปออดิชั่น(คัดตัว)ที่ฮอลลีวู้ด นั่นเป็นเพราะแม่ต้องการทิ้งเธอไป  ส่วนโคทาโร่เขาคิดว่ารู้จักพี่สาวของตัวเองดี เพราะเธอเป็นสุดยอดของคนที่ชอบทำให้คนอื่นผิดหวัง เขาตามหาสาวน้อยอันจังที่หายไปและพบอะไรบางอย่างที่ทำให้โคทาโร่ทิ้งอันจังไม่ลง จำต้องไปตามง้องอนขอคืนดีนางเอก ให้กลับมาอยู่ด้วยกัน


******


กฏของการอยู่ร่วมกัน


1. ห้ามเอาแต่ใจ ( นั่นหมายถึงฉันจะไม่ทำตามคู่มือการดูแลซากุระอันโดยเด็ดขาด)


2. ห้ามรบกวนเวลาทำงาน (แบบที่กำลังนั่งคิดเขียนนิยายหัวแทบแตก แต่อีกคนเปิดเพลงแดนซ์ลั่นบ้านสบายใจเฉิบ)


3. ห้ามอยู่อย่างหรูหราไฮโซ (ค่าใช้จ่ายในบ้านการกินอยู่ทั้งหมด ฉันจะรับผิดชอบเอง)


เงินทองเป็นของนอกกาย แต่สำหรับผู้ชายมันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ถึงจะมีรายได้น้อยกว่าอย่างเทียบไม่ติดฝุ่นก็เถอะ


และก็มีเหตุอีก ...ก็เจ้าหมาตัวโตของอันจัง เป็นเหตุห้คนสองคนกับหมาหนึ่งตัว ต้องถูกไล่ที่เพราะกฎของอพาร์ตเมนท์เขาห้ามเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด (แม้จะมีหนูวิ่งกันให้พล่านก็เอะ) ความสัมพันธ์ของโคทาโร่กับอันจัง ไม่ได้เหมือนพ่อกับลูก เพราะต่างฝ่ายต่างไว้ตัว เลยดูเหมือนคู่กัดหนุ่มสาวที่ต้องมาอยู่ร่วมบ้านกันมากกว่า แต่พอมีหมาเพิ่มเข้ามาอีก 1 ตัว เลยชักเหมือนครอบครัวพ่อ(โคทาโร่) แม่(อันจัง) ลูก(บิว่า หมาขนฟู) พวกเขาต้องระเห็ดออกไปหาที่อยู่ใหม่ ...และที่ใหม่นั่นเอง ..โคทาโร่ต้องปวดหัวอีกครั้ง  กับสมาชิกใหม่ที่เพิ่มเข้ามา นั่นคือยัยผู้จัดการจอมจุ้น..ฟูจิ มิเนโกะ ที่ย้ายมาอยู่ด้วย  ผู้หญิงสองคน กับหมาอีก 1 ตัว ในความรับผิดชอบ เขาได้แค่มุมเล็กๆ กับโซฟาตัวนึงเป็นที่ทำงานและหลับนอน แถมแม่คุณทั้งสองคนยังรวมหัวกันบอกกับคนอื่นว่า เขาคือ...คนรับใช้ของเด็กหญิงซากุระ อัน ผู้เฉิดฉายเป็นนางพญากรีดกรายอยู่ภายในบ้าน โดยมียัยผู้จัดการส่วนตัวคอยให้ท้าย  โอ๊ย ! ปวดหัวอะไรอย่างนี้


แต่พวกเขาก็ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหากัน /โคทาโร่ เอาแต่อารมณ์เสีย น่าจะยิ้มและสนุกกับชีวิตซะบ้าง/ แม้ว่าจะบอกอย่างนั้น อันจังก็รู้ดี ถึงโคทาโร่จะขี้โมโหแค่ไหน แต่ก็ใจดีเสมอ/ ไม่เลวนะ ถ้าพยายามจะทำอะไรเพื่อรอยยิ้มของคนอื่นบ้าง / โคทาโร่ได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบ และดูแลอันจังในฐาะผู้ปกครองของเด็กคนนึงไม่ใช่ดาราคนดัง เป็นการพาเรื่องราวไปสู่สถานะใหม่


คนที่ไม่เคยมีลูก แต่พยายามจะเป็นพ่อ กับ คนที่ไม่เคยมีพ่อ และไม่เคยคิดว่ามีความจำเป็นอะไร


อันจัง เป็นเด็กที่สุดยอดเอาแต่ใจจริงหรือ โคทาโร่ค่อยๆ มองเห็น ลึกลงไป มีความเจ็บปวดแสนสาหัส เด็กหญิงวัย 6 ขวบที่กล้ำกลืนความทุกข์ไว้ลำพัง ความเจ็บช้ำที่ไม่รู้ว่าใครคือพ่อ และไม่สามารถบอกกับใครได้ว่าแม่ของเธอคือใคร เพราะฮินาโกะเป็นนักแสดงมีชื่อเสียง ไม่เคยแต่งงานและไม่เคยเปิดเผยถึงการมีลูก แต่ถึงยังนั้นเธอก็ยังรักแม่สุดหัวใจ เฝ้าแต่รักษาสัญญาที่ให้ไว้และรอคอยด้วยความอดทน ภายใต้เปลือกนอกที่เอาแต่ใจ โคทาโร่สัมผัสถึงความอ่อนโยนมีน้ำใจที่เธอมีให้กับคนอื่นด้วยรอยยิ้มเสมอ มองเห็นถึงความเปราะบางที่อยู่ภายใน และนี่คือ เด็กหญิงผู้กลายเป็นดวงใจ คนที่เขาอยากจะใช้ความรักทั้งหมดที่มีปกป้องเอาไว้ และทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเธอ


ซีนกระเทือนใจ----ที่มือใหญ่ๆ ตบลงไปบนหน้าน้อยๆ ซะเป็นรอยแดง


และซีนที่ชอบมาก-- คือตอนที่มือใหญ่ๆ กางออกให้มือน้อยๆ วางมือวางใจใส่เข้ามา
หรืออีกที ก็ตอนที่มือน้อยๆ เป็นฝ่ายแบออกไปให้คนมือใหญ่ๆ บ้าง...จับจูงกระชับไว้แล้วก้าวเดินไปด้วยกัน


อืม...พอเล่าถึงเรื่องนี้แล้ว อยากเล่าเรื่องของ เด็กหญิงบอมบ์ที่เป็นเอดส์ในเรื่อง Thank you ของแดนกิมจิฟากเกาหลีจังเลบ หนังบ้าอะไรทำได้ดีอย่างนั้นก็ไม่รู้ ดูแล้วอยากดูอีก ดูแล้วอุ่นหัวใจมากๆ เลย ถ้าเทียบกับความอุ่นในเรื่องนี้แล้ว ถือว่า Thank you ยังเหนือกว่ามาก เพราะหนังเกาหลีรายละเอียดเยอะอยู่แล้ว 


แต่ Oh my girl ก็อบอุ่นน่ารักมากทีเดียว


 




Free TextEditor
Create Date :15 กรกฎาคม 2552 Last Update :30 พฤศจิกายน 2553 0:44:44 น. Counter : Pageviews. Comments :5