bloggang.com mainmenu search

ชื่อละคร: Brilliant Legacy
กำกับโดย : Jin Hyuk (진혁)
จำนวนตอน : 28 SBS 2009
Written By : So Hyun Kyung

เมื่อได้ดู Brilliant Legacy อารมณ์อยากดูซีรีย์แนวความรักในช่วงนี้ก็หมดไป เพราะเรื่องนี้ทำให้อิ่มเอมใจอย่างเพียงพอ คลิกเข้าไปดูที่ series-8.blogspot เพียงแค่จะเข้าไปดูหน้าดูตาหนุ่มน้อย "ลีซึงกิ" ที่ทราบจาก Bloggang นี่แหละว่า เขารับบทเป็นพระเอกเรื่องนี้ แค่จะดูแว๊บๆ ไม่คิดจริงจัง เท่าที่เห็นหน้าก็อย่างที่คิด เขาโตเป็นหนุ่มแล้ว สูงชะลูดเพรียวลม เท่สมาร์ทเอาเรื่องอยู่ แต่เมื่อมีน้องหนู "ฮันฮโยจู" โผล่หน้าออกมาด้วยในฐานะนางเอกของเรื่องนี่สิ เป็นเรื่องเลยทีนี้

ในสายตาของคนเกาหลีไม่รู้ใครดังกว่า หรือใครดันใคร แต่ถ้าพูดถึงฐานะระหว่างการเป็น นักแสดงของฮันฮโยจู กับการเป็นนักร้องของลีซึงกิ ฮันฮโยจูต้องอยู่ในฐานะ เจ๊ดันฉันรักเธอแน่นอนอยู่แล้ว

หนูฮันสุดที่รัก กับซึงกิผู้น่ารัก นี่เป็นการจับคู่ได้น่ารักเกินความคาดหมาย

เค้าโครงเรื่องที่มี พระเอกร่ำรวย นางอิจฉาตัวร้าย นางเอกแสนดี กับแม่เลี้ยงตัวแสบ เป็นอมตะน้ำเน่าที่ใช้หากินได้ทุกยุคสมัย ดังนั้น "น้ำเน่า" คงไม่ใช่ปัญหา หากทำความเน่าให้สนุก เร้าใจ ต่อให้เน่าสนิทก็ยังขายได้และยังคงขายดีกันต่อไป Brilliant Legacy ก็เป็นหนึ่งในเน่าสนิทที่ดูแล้วไม่ส่ายหน้า


เรื่องไม่ย่อ-ถ้าไม่ชอบสปอยล์อย่าอ่านนะคะ

โกอึนซอง (ฮันฮโยจู) เป็นลูกสาวของ โกพยองจุง เจ้าของธุรกิจก่อสร้างฐานะร่ำรวย แต่เธอมีนิสัยติดดิน ชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย ร่าเริงแจ่มใส จิตใจดีและเป็นคนจริงใจ

ซันวูฮวัน (ลีซึงกิ) เป็นหลานชายของคุณย่าจังซุกจา เจ้าของธุรกิจซุปเนื้อ "จินซองฟูดส์" กิจการที่ก่อตั้งด้วยน้ำพักน้ำแรงมาตั้งแต่เมื่อสามสิบปีก่อนจนกระทั้งมีฐานะมั่นคงและมั่งคั่ง

ลูกเศรษฐีทั้งสองเดินทางกลับจากนิวยอร์คในวันเวลาและเที่ยวบินเดียวกัน สองคนไม่รู้จักกันมาก่อน แต่โชคชะตาก็เป็นเหตุให้หยิบกระเป๋าสลับกันไป

อึนซองมีน้องชายอายุ 17 ปีชื่อ "โกอึนวู" เขาเป็นเด็กออทิสติคที่มีพรสวรรค์ทางด้านเปียนโน หลังจากแม่เสียไป พ่อของเธอแต่งงานใหม่กับ "แบกซุงฮี" เธอมีลูกติดอายุเท่ากันกับอึนซองคือ
"ยูซึงมี" ครอบครัวพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก อบอุ่น มีความสุข ฐานะร่ำรวยดูสมบูรณ์แบบ แต่ลึกลงไปมีความเยียบเย็นแฝงเร้นอยู่โดยไม่มีใครรู้ตัว


แม่เลี้ยงซุงฮี เคยมีชีวิตยากจนมาก่อน สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอจึงมีอยู่เพียงสองสิ่งคือ เงิน และซึงมี พ่อใหม่โกพยองจุงเป็นพ่อแสนดี ฐานะพรั่งพร้อมและมีหัวใจอบอุ่น เขาดูแลลูกติดภรรยาเป็นอย่างดี แต่สำหรับซึงมีเขาไม่ใช่พ่อแท้จริง และยังมีอึนซองเป็นแก้วตาดวงใจอยู่ก่อนแล้ว ลูกสาวแสนดีที่ขาดแม่และพ่อเลี้ยงดูมาด้วยการทุ่มเทความรักความเมตตาอย่างเต็มเปี่ยม จึงไม่มีที่ว่างเหลือพอให้ซึงมีเข้าไปแทรก ซึงมีที่ขาดพ่อ เหว่ว้าและถูกรังแก แต่มีใครหนึ่งเข้ามาปกป้องและช่วยชดเชยความอบอุ่นที่ขาดแคลนในหัวใจ เขาคนนั้นก็คือ "พี่ฮวัน" ที่กลายเป็นคนสำคัญและเป็นทุกอย่างในชีวิต

พี่ฮวัน (ซันวูฮวัน) ก็เป็นคนที่เหว่ว้า เพราะเสียพ่อไปแต่เล็ก จึงถูกเลี้ยงดูมาด้วยความเห็นอกเห็นใจ ตามใจทุกสิ่ง จนเป็นลูกหลานเทวดาผู้ลอยล่อง ไม่เคยเห็นหัวใครและไม่เคยแคร์ความรู้สึกคนอื่น แต่เมื่อเห็นซึงมีถูกรังแก ในฐานะลูกที่ขาดพ่อเหมือนกันเขาจึงตั้งใจจะดูแลเธอให้ดี ในสายตาของฮวัน
ซึงมีเป็นเด็กน้อยน่าสงสารที่เขาอยากทำหน้าที่คอยปกป้อง และสายสัมพันธ์นี้ผูกติดฮวันกับซึงมีไว้ด้วยกันมานานถึงแปดปี ซึงมีรักฮวันอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ที่น่าสงสัยคือ ความผูกพันนี้สำหรับฮวันไม่ใช่ความรัก (ปัญหาล่ะสิ)


ของขวัญวันเกิดสำหรับพ่ออยู่ในกระเป๋า อึนซองพยายามอย่างหนักในการติดต่อฮวันเพื่อขอแลกกระเป๋าคืน แต่เพราะความไม่เห็นหัวใครบวกกับนิสัยอันธพาลของฮวันทำให้เรื่องไม่ง่ายอย่างที่คิด เจอกันแล้วแต่กระเป๋าก็ยังไม่ได้คืน ชะตาไม่ต้องกันทำให้เขาอยากกลั่นแกล้ง จนเลยเถิดกลายเป็นความเข้าใจผิดคิดว่าอึนซองเป็นพวกต้มตุ๋นที่เชิดเอากระเป๋าของเขาไป

อึนซองที่ฮวันนัดมาคืนกระเป่าหายไป เพราะวันเดียวกันนั้น เป็นวันที่อึนซองเสียพ่อ และเพราะฮวันแกล้งให้เธอรอ อึนซองจึงไม่ทันเห็นหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ไม่มีโอกาสเห็นแม้กระทั่งศพของพ่อ ไม่มีโอกาสขอโทษกับความจริงบางอย่างที่เธอปิดบังพ่อไว้และตั้งใจจะสารภาพในวันเกิดท่าน

เสียพ่อไป ชีวิตพลิกผันในชั่วข้ามคืน อึนซองเพิ่งรู้ ความจริงบริษัทของพ่อมีปัญหาและเข้าสู่ภาวะล้มละลาย เต็มไปด้วยหนี้สินมากมายให้ชดใช้ แต่อึนซองรู้ไม่หมดตรงที่ว่า หลังจากทรัพย์สินกิจการขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ พ่อยังมีประกันชีวิตมากพอจะช่วยให้ครอบครัวดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างไม่ลำบาก

อึนซอง ผู้เป็นแก้วตาดวงใจของพ่อ ทั้งชีวิตเคยสุขสบาย เมื่อเสียพ่อไปก็เสียขวัญพออยู่แล้ว ธาตุแท้ของคนที่อึนซองเรียกแม่ มาตลอดระยะ 7 ปี ก็ปรากฏขึ้นมาอย่างโหดร้าย

"ครอบครัวคือที่รวมของคนที่เกลียดชังกัน แต่ก็ไม่สามารถแยกจากกันได้ ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะไม่สามารถใช้ชีวิตโดยปราศจากพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเกลียดแค่ไหนก็ต้องทน นั่นแหละคือครอบครัวล่ะ"

อึนซองพยายามเข้าใจแม่เลี้ยง เพราะหนี้สิน เพราะไม่มีเงิน และเมื่อไม่มีพ่ออีกต่อไป ความเป็นครอบครัวก็สิ้นสุด อึนซองกับอึนวูไม่ใช่ลูกแท้ๆ เมื่อไม่ใช่ลูกก็ไม่จำเป็นต้องรับเป็นภาระ แต่ทั้งรู้เธอยังไม่มีที่ไป และอึนวูก็เป็นเด็กออทิสติคที่ไม่ง่ายจะปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง การถูกไล่ออกจากบ้านและสิ้นสุดกันทันทีหลังเสร็จสิ้นงานศพทำให้อึนซองยิ่งกว่าหัวใจสลาย


มันหนักหนากับคนดูเหมือนกันค่ะ น้ำตาเป็นเผาเต่าเชียว ก็รันทดซะขนาดนั้น ความสนิทสนมรักใคร่ของอึนซองกับพ่อ เมื่อพ่อตายจาก อึนซองที่ร้องไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ ทั้งยังความเจ็บช้ำที่ถูกแม่เลี้ยงขับไล่ และความลำเค็ญขนาดหนักที่ต้องหอบหิ้วน้องชายออทิสติคระหกระเหินไปอย่างไร้ที่พึ่ง อึนซองที่กอดอึนวูร่ำไห้ ซบหน้าลงกับไหล่น้องชายเหมือนอยากให้เป็นที่พักพิงแต่ก็เป็นหให้ไม่ได้เพราะอึนวูอยู่กับโลกของเขาเองและไม่รับรู้อะไร เด็กสาวที่ไร้ทางไป กับความเสียใจที่เกินควบคุม เกือบจะทำอะไรสิ้นคิด แต่คำเลื่อนลอย "ผมรักนูน่าฮะ" ของน้องชายทำให้อึนซองเรียกสติคืนมาได้ เพราะมีอึนวูเธอจึงต้องลุกขึ้นต่อสู้กับชีวิตอย่างเข้มแข็ง

ฮวันคิดว่าอึนซองเชิดกระเป๋าของเขาไป เมื่อได้พบกับเธออีกครั้ง อันธพาลก็ออกโรงทันที โทรศัพท์มือถือของอึนซองที่ฮวันเหยียบพัง ส่งผลร้ายแรงที่ฮวันไม่รู้ อึนวูที่หลงทางถึงจะเป็นเด็กออทิสติคแต่ในเรื่องที่จดจำเขาจำได้อย่างแม่นยำ อึนวูจำเบอร์โทรศัพท์ของพี่สาวได้ แต่เมื่อโทรศัพท์พังคนที่พบอึนวูโทรหาอึนซองไม่ได้ จึงโทรติดต่อไปอีกเบอร์ที่อึนวูจดจำ นั่นคือ เบอร์ของแม่เลี้ยง

แม่มาหา แม่มารับ อึนวูจำเบอร์โทรศัพท์แม่ได้ เบอร์ของนูน่าอีกคนคือซึงมีอึนวูก็จำได้ จำทะเบียนรถที่แม่ขับมาหา จำชื่ออาคาร เลขที่บ้านที่แม่ซื้อใหม่ (โดยที่อึนซองไม่รู้) เพราะอึนวูจำได้ แม่เลี้ยงที่โกหกอึนซองว่ามีเงินเหลือแค่เช่าห้องเล็กๆ อยู่กันสองคนกับซึงมี กลัวอึนซองจะรู้ความจริงว่าเธอมีรถขับมีบ้านดีๆอยู่ จึงตัดสินใจนำอึนวูไปปล่อยทิ้ง (เลวร้ายสุดๆ) หลอกอึนวูให้เชื่อฟัง "ถ้าอยากเจอนูน่า อย่าพูดกับใคร" "ถ้าพูดอะไรกับใคร จะไม่ได้พบนูน่าอีก" แม่เลี้ยงทอดทิ้งอึนวูไว้ในที่ที่ไกลจากโซล จัดการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือทั้งของตัวเองและของซึงมีใหม่ แล้วใช้ชีวิตต่อไปอย่างลอยนวล


อึนซองผู้น่าสงสาร พ่อตายจาก แม่เลี้ยงไล่ออกจากบ้าน และยังต้องสูญเสียน้องชายไปอีก เขาเป็นออทิสติคที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เมื่อไม่มีพ่อ อึนซองคือคนที่ต้องรับช่วงต่อดูแลน้องชาย เธอต้องรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่ก่อนสิ้นใจ สัญญาว่าจะดูแลอึนวูแทนแม่ จะดูแลเขาให้ดี แต่อึนซองทำอึนวูหายไป นั่นคือสิ่งที่เธอโทษตัวเองและกลายเป็นบาดแผลที่ยากเกินจะเยียวยา

แต่ฮวันของเราไม่เคยรับรู้


ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ อึนซองมีเพื่อนแท้คนหนึ่งชื่อเฮรี
และมีคนๆ หนึ่ง คอยยื่นมือเข้ามาและให้ความช่วยเหลือ

เขาคือ พระรองที่แสนดี ปาร์คจุนเซ (แบซูบิน) จุนเซเป็นรุ่นพี่ของลีฮยองจิน ที่เคยตามจีบอึนซองเพราะเธอเป็นลูกสาวเศรษฐีมีฐานะร่ำรวย แต่เมื่อพ่อของเธอตายและกิจการล้มละลายฮยองจินสลัดอึนซองทิ้งอย่างไม่มีเยื่อใย


จุนเซเริ่มชอบอึนซองตั้งแต่ครั้งแรกที่ฮยองจินแนะนำให้รู้จัก เพราะเธอเป็นคนมีเหตุผล มีความเป็นผู้ใหญ่ รู้จักคิด ความน่ารักสดใสติดตรึงอยู่ในใจ จุนเซจึงไม่พอใจอย่างมากที่ฮยองจินทอดทิ้งอึนซองในยามลำบาก และเขาก็เอาตัวเข้าไปเป็นที่พึ่งแทน แต่พระรองเกาหลีมักเข้าไปด้วยวิธีที่ไม่ชัดเจน "คิดว่าผมเป็นพี่ชายก็แล้วกัน" "ถือซะว่าผมเป็นของขวัญที่พ่อของคุณส่งลงมาจากฟ้า" ถึงความสัมพันธ์จะเพิ่งเริ่มต้น แต่เมื่อเริ่มต้นอย่างผิดทาง ความรักของ "พี่จุนเซ" จึงจบลงตั้งแต่วินาทีที่เอ่ยคำว่า "พี่ชาย" แล้วล่ะค่ะ มันเป็นธรรมเนียมแน่นอนของพระรองเกาหลีที่ไม่มีวันจะได้แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของนางเอก โดยเฉพาะถ้ามาแนวพี่ชายที่แสนดี จอดสนิททุกราย

ย่าของฮวัน "จังซุกจา" ตั้งแต่อายุ 19 เธอต้องเลี้ยงลูกชายตามลำพังเพราะสามีเสียชีวิตในสงคราม ผ่านชีวิตมาอย่างลำบากเธอจึงเข้าใจคุณค่าของความเป็นคนและความหมายของการมีชีวิตอยู่ ค้าขายต่อสู้ชีวิตร่วมกันมากับลูกชาย ช่วยกันเปิดร้านอาหารและค่อยๆ ขยายกิจการไปเรื่อยจนประสบความสำเร็จและก่อตั้งเป็นบริษัทจินซองฟูดส์ แม้จะไม่หวังผลกำไรมากนักเพราะดำเนินธุรกิจด้วยปณิธานอันมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือคนยากจนโดยเฉพาะแม่และเด็กที่เป็นครอบครัวหญิงม่ายต้องต่อสู้ชีวิตกันตามลำพัง แต่จินซองฟูดส์ก็ยังร่ำรวยและขยายสาขาไปมากมาย หลังจากชีวิตประสบความสำเร็จผ่านพ้นความทุกข์ยาก ลูกชายที่สู้ชีวิตมาด้วยกันกลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จังซุกซาเสียใจมากที่ลูกชายจากโลกนี้ไปทั้งที่เขายังหนุ่มและควรจะมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าแม่ จังซุกจาจึงหันมายังหลานชาย เขาเป็นเหมือนตัวแทนของลูกที่จากไป ทุ่มเทความรักความเอาใจใส่ให้กับฮวันโดยไม่เฉลียวใจสักนิดว่ามันเป็นความรักแบบผิดๆ กว่าจะรู้ตัวนิสัยของฮวันก็เสียลึกเกินกว่าจะกู่กลับ


ฮวันเติบโตมาบนกองเงินกองทอง เหลือกินเหลือใช้และยังมากพอให้ทิ้งขว้าง ชีวิตไม่เคยหยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เขาจึงเป็นคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำอะไรไม่เป็น ไม่เอาอ่าว ไม่เอาถ่าน (ไม่เอาอะไรสักอย่าง) ไม่เห็นหัวใคร ไม่แคร์ความรู้สึกหน้าไหน หยิ่งยโส อารมณ์ร้ายและดูถูกคน

นี่คือสาเหตุที่ซีรีย์เรื่องนี้ควรต้องยาว เพราะถ้าทำให้ต้องร้องด่าพระเอกในใจ " ไ-อ้ -เ-ล-ว" แล้วล่ะก็
มาตรฐานความยาว 16 ตอน ไม่เพียงพอให้กลับตัว

ไม่ว่าพยายามแค่ไหน คุณย่าจังซุกจาก็ไม่สามารถทำให้ฮวันเป็นคนมีหัวคิดขึ้นมาได้ ฮวันเกลียดซุปเนื้อ เกลียดกลิ่นของมัน และความคิดที่จะขายกิจการจินซองฟูดส์ไปทำศูนย์การค้าหลังจากคุณย่าตาย เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่คุณย่าเลิกหวังในตัวหลานชาย เป็นความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ไม่สามารถเลี้ยงหลานให้เป็นคนดีกับเขาได้

คุณย่าต้องตัดสินใจบางอย่างเกี่ยวกับมรดก จินซองฟู้ดส์ไม่ใช่แค่ชีวิตของเธอ แต่เป็นชีวิตของพนักงานนับพันๆ คนที่ฮวันจะไม่มีวันเห็นคุณค่า ทุกครั้งที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญหญิงชราจะแต่งตัวเป็นยาจกออกไประลึกความหลังในที่ที่เธอเคยค้าขายกับลูกชาย แต่ครั้งนี้เธอล้มป่วยลงที่นั่น

"อึนซองเป็นคนมีเมตตา
คนทั่วไปมักมีความสงสาร
แต่ความเตตาแตกต่างจากความสงสาร
ความสงสารเป็นความรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนอื่น
แต่ความเมตตาทำให้ไม่สามารถทิ้งคนๆ นั้นไปได้
ไม่ว่าใคร พอมองเห็นคนยากจน ก็จะพูดว่า
ฉันรู้สึกสงสารพวกเขาจริงๆ แต่ก็ไม่ยืนมือเข้าไปช่วย
แต่คนที่มีความเมตตา จะยืนมือเข้าไปช่วยเหลือ ไม่ทอดทิ้ง"

อึนซองไม่ทอดทิ้งคนแก่ที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ตัวเองก็ลำบากจะตายอยู่แล้ว ยังต้องจ่ายค่าหมอค่ายา รับเอาคนแก่ที่ไม่มีลูกหลาน ไม่มีบ้านไร้ทางไปมาเป็นภาระของตัวเองอีก เพื่อนเฮรีคัดค้าน พี่จุนเซไม่เห็นด้วย เงินก็ไม่มี ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง จ่ายค่าเช่าห้อง และต้องใช้เงินในการตามหาน้องชาย "ในสภาพนี้เธอจะไหวเหรอ"


ไหวไม่ไหวอึนซองก็ทิ้งคนแก่ไม่ลง คุณยายแค่เสียความทรงจำไปชั่วขณะ แต่เมื่อความจำกลับมาก็ไม่ได้บอกให้อึนซองรู้ คนแก่ที่ผ่านโลกผ่านคนมามากเฝ้ามองอึนซอง รับรู้ว่าเธอเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่แถมน้องชายยังหายตัวไปอีก แต่จิตใจคนยากแท้หยั่งถึง คุณยายจึงสร้างปัญหาต่างๆ นาๆ เพื่อทดสอบอึนซอง แต่ไม่ว่าอึนซองจะคับข้องใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นยังไงก็ไม่ได้ไล่คุณยายไป ด้วยเหตุผลที่เอ่ยทั้งน้ำตาร่ำไห้ "หนูจะทิ้งคุณยายได้ยังไง ในเมื่อตัวหนูเองก็เพิ่งถูกเค้าทิ้งมาเหมือนกัน" ความตั้งใจที่จะให้คุณยายอาศัยอยู่ด้วย อยู่รวมกันเป็นครอบครัวเราสามคนเมื่อตามหาอึนวูพบ เป็นความเมตตาที่จับหัวใจหญิงชราผู้สิ้นหวังในตัวลูกหลานของตัวเอง

คุณย่ากลับไปเป็นตัวเอง เธอคือประธานบริษัทจินซองฟูดส์ที่ลูกชายตายไปแล้ว เหลือแต่ลูกสะใภ้ที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย หลานสาวไม่ได้ความ และหลานชายไม่เอาถ่าน แต่ละคนไม่เคยทำอะไรให้ชื่นใจ พวกเขาทำเป็นอยู่อย่างเดียวคือผลาญเงิน มันสุดจะทนแล้ว คุณย่า จึงตั้งป้อมทำสงครามกับลูกหลาน "เมื่อของมันเน่าเสียเกินกว่าจะฟื้นฟูได้ ก็ฝังกลบมันทิ้งไปซะ" คุณย่าหักดิบตัดท่อน้ำเลี้ยงของทุกคน ฮวันโกรธเกรี้ยวผลุนผลันออกจากบ้าน ทุกคนพากันโกรธคุณย่า

ตอนคุณย่าหายไป ไม่มีใครสนใจเพราะคิดว่าคนแก่ทำประชด หวังเอาชนะลูกหลาน แต่อึนซองที่เป็นคนอื่นกลับแจ้งความและออกตามหาด้วยความห่วงใยเมื่อคุณย่าหายไป หาน้องชายไม่พบ อึนซองเสียใจเจียนตายอยู่แล้ว คุณยายถึงจะเป็นภาระและสร้างปัญหาให้แต่ก็ช่วยให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้น เมื่อคุณยายหายไปอีกคน อึนซองจึงเสียใจมาก (ชีวิตมันจะตกยากกันไปถึงไหน)



แต่แล้ววันหนึ่ง ก็มีคนมาหาและบอกว่าจะพาไปพบคุณยาย

"บ้านใหญ่ขนาดนั้นไม่ใช่คุณยายของหนูหรอก
คุณยายที่หนูตามหาเป็นคนแก่ไร้บ้าน ไม่มีลูกหลาน"
อึนซองดีใจกับคุณยายที่ความจริงแล้วมีบ้านอยู่ และมีลูกหลาน เป็นแบบนี้ก็หมดห่วง ไม่หวังอะไรตอบแทนจากฐานะร่ำรวยของคุณยาย คนแก่รู้ว่าอึนซองเป็นคนอย่างไร การจะเก็บเด็กคนนี้ไว้ใกล้ตัวได้ ไม่ใช่การเสนอเงินแต่เป็นเงื่อนไขที่สำคัญต่อชีวิต

หากอึนซองยอมย้ายมาอยู่ด้วย คุณยายสัญญาจะช่วยอึนซองตามหาอึนวูให้พบ

ชีวิตของอึนซองผกผันอีกครั้ง จากลูกเศรษฐีสู่ยาจก จากยาจกตกถังข้าวสาร

ฮวันหมดเงิน หมดทางไป ต้องแบกหน้ากลับมาบ้าน และพบว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป คุณย่ามีหลานสาวคนใหม่มาอยู่ด้วย ทั้งยังประกาศยกมรดกให้ ไม่ใส่ใจกับชีวิตลูกหลานอีกต่อไป ยัยนี่เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ แต่ที่รู้อยู่อย่างคือเป็นยัยต้มตุ๋นที่เชิดเอากระเป๋าของฮวันไป



สงครามระหว่างฮวันกับคุณย่ายังไม่จบ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรฮวันก็พ่ายแพ้อย่างหมดรูป คนไม่เคยหาเงิน เมื่อคุณย่าไม่ให้เงิน ฮวันก็หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องซมซานกลับมาอย่างคนสิ้นศักดิ์ศรี แม่และน้องสาวที่ไม่เคยทำงาน ไม่เคยหาเงินเหมือนกันก็ทำประชดย้ายออกจากบ้าน แต่สุดท้ายเมื่อหมดเงินก็พากันคอตกกลับเข้าบ้านทุกราย

ไม่มีใครไปรอดอย่างเห็นได้ชัด ต่อไปนี้ถ้าใครยังกล้าออกไปจากบ้าน จะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก ไม่มีการให้เงินกันฟรีๆ อีกต่อไป ถ้าอยากได้เงินก็ต้องทำงานแลกมา คุณย่าให้เงินสามแม่ลูกแค่คนละหมื่นวอนต่อวัน (ค่ารถเมล์เที่ยวละพันวอนก็คงประมาณร้อยกว่าบาทบ้านเรามั้งคะ) ฮวันต้องเข้าไปทำงานในร้านซุปเนื้อที่เขาแสนจะเกลียด ถูกยึดกุญแจรถ และต้องนั่งรถเมล์ไปทำงาน

ตราบใดยังไม่เกิดความละอายใจ การที่ชีวิตหลานเทวดาหลุ่นตุ๊บลงมาคลุกดินก็ไม่ทำให้ฮวันเปลี่ยน กับอึนซองที่ถูกส่งมาทำงานในร้านก่อนหน้า ฮวันก็ยังตั้งป้อมชวนทะเลาะอยู่เป็นประจำ

แต่นางเอกของเรานั้น เห็นแก่พระคุณของคุณยายที่ให้งาน ให้ที่ซุกหัวนอนและยังอาสาช่วยตามหาน้องชายให้ เมื่อคุณยายมีเงินจะทุ่มลงไปเพื่อตามหาอึนวู อึนซองก็มีความหวัง ประกอบกับความเป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อยมากนัก จึงพยายามลืมสิ่งที่ฮวันทำไว้ อึนซองไม่เคยปริปากหยิบเรื่องเหล่านั้นมาต่อว่า



แต่ความประพฤติแต่ละอย่างของฮวัน อึนซองก็ทนดูไม่ได้ เพราะมันส่งผลกระทบต่อคนอื่น ต่อลูกค้า และต่อภาพพจน์ของร้าน คนรักความถูกต้องจะทนดูฮวันสร้างความเดือดร้อนไม่ได้ แต่ละสิ่งที่อึนซองต่อว่าฮวัน (ด่าและด่า) ล้วนแล้วแต่เป็นคำที่ทำให้ฮวันต้องเจ็บลึก (ต้องเรียกว่าแสบทรวงทะลวงไปถึงไส้) สิ่งที่อึนซองพูดออกมา แม้แต่คุณย่ายังไม่เคยพูด คนในครอบครัวไม่เคยทำและคนอื่นไม่มีใครกล้า .. เมื่อไม่เคยมีใครทำ ฮวันจึงเหมือนคนไม่มีกระจกส่องตัวเอง แต่อึนซองเป็นกระจกบานแรกส่งภาพของฮวันออกมาให้เห็น

"คนอย่างคุณ นอกจากมีเงินแล้วมีอะไร"

คำถามง่ายๆ แต่อึ๊ก! เจ็บจึ๊ก! เพราะนอกจากเงินแล้ว ฮวันนึกไม่ออกเลยว่าเขามีอะไรอีก
เพราะฮวันก็รู้ตัวดีเขาไม่มีอะไรดีแม้แต่สักอย่างเดียว

การคลุกคลีกับอึนซองทำให้ฮวันมองเห็นตัวเองชัดขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งได้รู้ถึงวันนั้น วันที่เขากลั่นแกล้งอึนซองด้วยความสนุก ทำให้เธอไม่มีโอกาสเห็นหน้าพ่อเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ฮวันรู้สึกผิด คนเคยเสียพ่อย่อมรู้ว่าอึนซองจะรู้สึกอย่างไร แต่คนอย่างฮวันก็ยังเป็นฮวัน เขาไม่เคยเอ่ยปากขอโทษใคร อย่างมากก็แค่ชดเชยให้ด้วยการใช้เงินฟาดหัว จึงไม่ได้พูดอะไรออกไปนอกจากรู้สึกเสียใจอยู่เงียบๆ

ที่ร้านซุปเนื้อ อึนซองถูกสั่งให้เป็นคนสอนงานฮวัน เธออาจจะตำหนิต่อว่าเขาเมื่ออยู่กันตามลำพังสองคน แต่ทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น ในฐาะที่เป็นคนสอนงาน อึนซองต้องก้มหัวรับผิดชอบในสิ่งที่ฮวันไม่รับผิดชอบ และเพื่อรักษาลูกค้า อึนซองยิ่งต้องก้มหัวรับผิดและเอ่ยคำขอโทษ

ฮวันเป็นคนเกเร แต่ไม่ได้ชั่วร้ายถึงขนาดไม่รู้สึกอะไร แต่ละครั้งที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนฮวันก็เจ็บๆ คันๆ ในหัวใจเหมือนกัน เพราะความไม่รับผิดชอบทำให้อึนซองต้องได้รับบาดเจ็บ อึนซองต้องกะโผลกกะเผลกจัดเตรียมข้าวของสำหรับใช้เซ่นไหว้ครบรอบวันตายของแม่

ฮวันไม่รู้และไม่เต็มใจนักเมื่อคุณย่าบังคับให้ไปส่งอึนซองที่สุสาน ไปสุสานทำไมไม่อยากสนใจ แต่อึนซองต้องเจ็บเพราะเขา คนไม่เคยแสดงน้ำใจกับใครจึงจำใจต้องช่วยหอบหิ้วข้าวของเดินขึ้นเขาไปส่ง ฮวันจึงเพิ่งรู้ นอกจากไม่มีพ่อ เธอยังไม่มีแม่อีกด้วยหรือ

เขาไม่มีพ่อ แต่ก็ยังมีคุณย่า คุณแม่และน้องสาว แต่อึนซองไม่มีใคร

ฮวันเริ่มเหลียวมองอึนซองอย่างจริงจัง เธออายุน้อยกว่าเขา ไม่มีทั้งพ่อและแม่คอยดูแล
ขาดไปซะทุกอย่าง แต่ในขณะเดียวกันก็มีซะทุกอย่างที่ฮวันไม่มี

มัธยัสถ์ ขยันขันแข็ง มีความรับผิดชอบ มีน้ำใจไมตรีต่อผู้คน มีรอยยิ้มจริงใจ ดูแลและรับผิดชอบตัวเองได้ดี เรื่องมรดกยังค้างคา แต่หัวใจของฮวันกลับสัมผัสได้ถึงความซื่อตรงของอึนซอง

อึนซองวางแผนชีวิตรออึนวูอยู่แล้ว การจะเลี้ยงดูเด็กออทิสติคต้องใช้เงินจำนวนมาก แม้จะยังหาน้องไม่พบเธอก็ทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินเตรียมไว้ นอกจากทำงานที่ร้านของคุณย่า ยังรับจ้างเป็นเด็กส่งนมไปตามบ้านในตอนเช้ามืดอีกด้วย คุณชายฮวันเพิ่งรู้ก็ต่อเมื่อวันหนึ่งดันตื่นเข้าขึ้นมาและได้ยินจากพ่อบ้านเพียวว่าอึนซองหอบสังขารกะโผลกกะเผลกไปส่งนมพร้อมกับคำเปรยของคุณย่าที่ลอยมาเข้าหู

"ดูเอาเถอะ ว่าเด็กคนนี้เป็นคนมีความรับผิดชอบขนาดไหน"

ฮวันเริ่มถูกความละอายใจเล่นงาน ยิ่งรู้จักใกล้ชิดอึนซองมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งอับอายตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เมื่อจำเป็นต้องมีชีวิตติดดินเพราะไม่มีเงิน สายตาของฮวันจึงมองเห็นสิ่งที่อยู่บนดินแตกต่างไปจากเมื่อครั้งเป็นคุณชายเทวดาลอยอยู่บนฟ้า ที่ร้านซุปเนื้อก่อนหน้า เขาเคยทำไม่ดีเอาไว้ เคยข่มขู่พนักงาน เคยอาละวาดชกตีผู้จัดการและโยนเงินใส่หน้าเป็นค่าชดใช้ ถึงไม่มีใครพูดอะไร เพราะเขาเป็นหลานท่านประธาน แต่ฮวันก็รู้ว่าทุกคนเกลียดเขา และในที่เดียวกันนี้เอง เมื่อยามเดือดร้อนพวกเขายังอุตส่าห์มีน้ำใจเป็นห่วงให้ความช่วยเหลือ ต่อให้หยิ่งยโส ไม่สนใจ ไม่คลุกคลี รังเกียจที่จะร่วมวงอาหารกลางวันกับพนักงาน แต่ฮวันก็มีตามองเห็นมีหูได้ยิน "ความรู้สึกของคนยาก ความภาคภูมิใจของคนจน" ความภูมิใจ ที่ฮวันไม่เคยมี เพราะไม่มี ชีวิตนี้เกิดมาจึงน่าอับอาย ยิ่งถ้าเปรียบกับอึนซอง เขาไม่มีอะไรเลยที่จะไปเทียบกับผู้หญิงคนนั้นได้



อึนซองเป็นคนใจดี และมักมองคนในแง่ดี ในสายตาของอึนซอง ฮวันเป็นสิ่งที่เธอพยายามจะทำความเข้าใจ เขาไม่ใช่คนเลวร้ายแต่ดูจงใจเสียจริงที่จะทำเรื่องแย่ๆ ต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกลบเกลื่อนอะไรบางอย่างในใจที่ไม่มีใครเข้าถึง เกี่ยวกับเรื่องพ่อ เรื่องน้องชาย อึนซองไม่ได้ถือโทษฮวันจริงจัง อุบัติเหตุที่ทำให้พ่อตายใครจะห้ามได้ น้องชายหายไปเป็นเพราะเธอเองที่ดูแลเขาไม่ดี อึนซองจึงปฏิบัติต่อฮวันอย่างเมตตา บอกในสิ่งที่ควรบอก และสอนในสิ่งที่ต้องสอน อย่างซื่อตรงและจริงใจ (แม่พระของช้านนน)

ฮวันเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กละน้อย ดูเหมือนการยอมทำในสิ่งที่อึนซองต้องการให้เขาทำ จะช่วยให้เธอยิ้มและหัวเราะได้ เขาชอบรอยยิ้มเหล่านั้น อยากมีความสุขกับเสียงหัวเราะนั่น แต่มันสุขไม่ออกเพราะข้างกายของอึนซองมี "พี่จุนเซ" ปรากกฏตัวอยู่ข้างๆ เสมอ

ฮวันเริ่มรู้ตัวแล้วว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นในใจเขา แต่ก่อนจะได้พิจารณาให้แน่ชัด เขาเพิ่งรับรู้ว่าอึนซองมีน้องชายที่หายไป ในวันที่คุณย่าได้รับข่าว "พบน้องชายของอึนซองแล้ว" คุณย่าส่งพ่อบ้านเพียวไปรับตัวโกอึนวู อึนซองก็กำลังเดินทางไปที่นั่น

"เคราะห์ร้ายอะไรอย่างนี้นะ พ่อก็เพิ่งตายจาก น้องชายยังมาหายไปอีก เด็กคนนี้ไม่เหลือใครเลยจริงๆ"

"คุณย่าน่าจะบอกพวกเราแต่แรก หนูรู้ว่าเค้าไม่มีพ่อแม่ คนทั่วไปก็ไม่มีพ่อแม่ตั้งเยอะแยะเหมือนกันนี่ แต่ที่น้องชายเขาหายไปอีกคน มันมากเกินไปจริงๆ ถ้ารู้อย่างนี้หนูจะได้ปฏิบัติกับเค้าให้ดีกว่านี้หน่อย"

"แกต้องรอให้ถึงขั้นนี้เสียก่อนรึ ถึงจะรู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่นได้"

เสียงพูดคุยของคุณแม่ น้องสาว และคุณย่า บาดหัวใจของฮวัน กับความทุกข์ตรมขนาดนั้นเธออยู่มาได้ยังไงกันนะ แม้พยายามปกปิด แต่ความกระวนกระวายของฮันไม่พ้นสายตาแหลมคมของคุณย่าไปได้ คอยดูกันต่อไป (งานนี้มีลุ้นค่ะคุณย่า) พ่อบ้านเพียวกลับมาแล้ว พร้อมกับข่าวร้าย อึนวูไม่ได้อยู่ที่นั่น เพราะเขาเป็นเด็กชายคลั่งเปียนโน เมื่อเปียนโนที่เคยไปเล่นทุกวันถูกขายไป อึนวูคงเสียใจมากและเตลิดหายไป เด็กชายออทิสติคสูญหายไปอีกครั้ง

จากคำบอกเล่าของสองสามีภรรยาที่รับอึนวูเข้าบ้านและให้การดูแล อึนซองรู้แล้วว่า อึนวูไม่ได้หลงทางอย่างเดียว แต่มีคนตั้งใจพาไปทิ้ง ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน แต่เป็นแม่เลี้ยงของเธอเอง อึนซองไปถึงได้เห็นแต่เสื้อผ้าของน้อง ชุดที่เขาสวมใส่ในวันสุดท้ายที่อยู่กับเธอ อึนซองหอบเสื้อผ้านั้นกลับมาหาแม่เลี้ยงเพื่อหวังบีบคั้นเอาคำสารภาพผิด และคำขอโทษสักคำ แต่ซุงฮีเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย เป็นนังแม่มดสารพัดพิษ มีหรือจะยอมจนมุม อึนซองไม่มีหลักฐานอะไร นอกจากความจริงที่รู้แน่แก่ใจ

"ของที่คิดว่าได้คืนมาอยู่ในมือ แต่แล้วกลับหายไปอีกครั้ง
แน่นอนว่าอึนซองต้องเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาก"

เสียงรำพึงของคุณย่า ฮวันได้ยิน แต่เขาไม่มีอะไรจะช่วยได้เลย

ที่บอกว่าพ่อตาย ลูกสาวของพ่อหัวใจสลายคงต้องลำดับกันใหม่
เพราะถ้าสลายไปแล้วคงไม่มีอะไรให้เสียใจได้อีก

พ่อตาย อึนซองหัวใจแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
น้องชายหายไป หัวใจที่แตกมาแล้วก็แตกอีกแทบไม่เหลือชิ้นดี
คิดว่าจะได้อึนวูคืนมา แต่ช่วงเวลาที่คลาดไปนิดเดียวเขาหายไปอีกครั้ง
และครั้งนี้หละ .. หัวใจของอึนซองแหลกสลาย
คงไม่มีอะไรจะทำให้เสียใจได้มากไปกว่านี้

ดูแล้วเข้าใจเลยล่ะ คำเปรียบเปรยที่ว่า "ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด" ต้องเป็นอารมณ์ประมาณไหน

น้องชายหายไปครั้งนี้ อึนซองหมดสิ้นทั้งความหวัง กำลังใจ และพลังในการใช้ชีวิต แต่คุณย่าก็เตือนสติดึงอึนซองขึ้นมา ตราบใดที่อึนวูยังมีชีวิตอยู่ อึนซองจะสิ้นหวังไม่ได้ อึนวูยังเป็นเด็กหลงทางอยู่ตามลำพังข้างนอกนั่น ถ้าอึนซองยังมัวจมน้ำตาอยู่แบบนี้ อาจจะไม่มีวันได้พบอึนวูอีกเลย


อึนซองลุกขึ้นมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่เป็นผีตายซากที่เดินได้ ไม่ยิ้ม ไม่พูด และมักจมอยู่กับความเหม่อลอย ฮวันไม่รู้จะทำอย่างไร วิถีของคนห่าม จะทำอะไรได้นอกจากตอแย จึงเป็นการผิดที่ผิดเวลาในยามที่อึนซองกำลังผิดอารมณ์เพราะความผิดหวังในเรื่องอึนวู มองหน้าเขาเธอจึงระเบิดออกมาด้วยความคับแค้นใจ

"ถ้าเขาหลงทางไปเขาต้องโทรหาฉันเป็นคนแรก
ถ้าวันนั้นโทรศัพท์นั่นไม่พังเขาจะโทรหาฉันได้ เขาจะไม่หายไปแบบนี้"

อึนซองกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ ไม่ใช่แค่เรื่องพ่อ แต่ที่น้องชายหายไปก็เป็นเพราะเขาด้วยหรือ ฮวันเหมือนถูกควักหัวใจเอาไป เป็นเขาเองหรอกหรือที่ผลักไสชีวิตของอึนซองไปสู่ความโดดเดี่ยวแบบเต็มขั้น (เศร้าอย่างร้าย เศร้าอะไรจะขนาดนั้น) ทำให้คนอื่นเดือดร้อนขนาดนี้ เขาก็เสียใจเป็นเหมือนกัน เวลาของความเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว นี่คือจุดเปลี่ยนจริงๆ ของคุณชายฮวัน

ในช่วงเวลาที่ไม่มีเงินมากมายเหมือนก่อน แต่ต้องอยู่ให้ไก้กับเงินแค่วันละหมื่นวอน ฮวันเพิ่งรู้ เงินเดือนเดือนแรกมีความหมายแค่ไหน การได้เริ่มใส่ใจทำงานอย่างจริงจังและเห็นผลจากความตั้งใจ เขาเพิ่งรู้ คุณค่าของการทำงานเป็นอย่างไร และเพิ่งเข้าใจ "เรื่องธรรมดาแบบนี้ก็ทำให้คนมีความสุข" เศษเงินไม่กี่วอนเพียงน้อยนิด มีความหมายต่อชีวิตของคนที่ลำบาก คิดถึงเงินที่เขาเคยใช้ไปอย่างทิ้งขว้าง ฮวันละอายแก่ใจ เมื่อเป็นฝ่ายถูกใช้เงินฟาดหัวบ้าง ฮวันเพิ่งเข้าใจความรู้สึกนั้น เขาเข้าใจความหมายของคำว่าขอโทษ และคนแรกที่ทำให้ฮวันสำนึกผิดรุนแรงจนกระทั่งยอมเอ่ยปาก "ขอโทษ" ก็คืออึนซอง ฮวันขอโทษในสิ่งที่เคยทำลงไป

ยิ่งนานวันความรู้สึกยิ่งแน่แก่ใจ ฮวันรักอึนซอง แต่เพราะทำเรื่องไว้จึงไม่มีสิทธิ์จะคิดฝัน ที่สำคัญกว่านั้น อึนซองมีพี่จุนเซอยู่เคียงข้าง


ครอบครัวของพี่จุนเซ สนิทสนมกับครอบครัวของฮวัน พ่อของจุนเซทำงานให้กับบริษัทจินซองฟูดส์ จึงรู้จักกันมาตั้งแต่เล็ก แต่พวกเขาไม่สนิทกันนัก สาเหตุเพราะฮวันเกลียดจุนเซมาตลอด เพราะพี่จุนเซเป็นเด็กดีที่คุณย่าชื่นชมเสมอ แม้แต่อูจอง น้องสาวที่เขาไม่เคยสนใจ พี่จุนเซก็คอยดูแลอย่างเอาใจใส่ พี่จุนเซไม่สนใจงานในบริษัทของคุณย่า แต่หันไปสร้างธุรกิจของตัวเอง เขาเป็นคนเอาการเอางานและประสบความสำเร็จ ในสายตาของอูจอง พี่จุนเซจึงเป็นผู้ชายที่เท่ที่สุดในโลก เพราะฮวันเองปฏิเสธไม่ได้ว่าพี่จุนเซเป็นคนดี มีน้ำใจ ทุกสิ่งที่เขาทำ กินไม่ได้แต่เท่ ฮวันเป็นไม่ได้ในแบบนั้น เขาจึงเกลียดพี่จุนเซเข้าไส้

แต่พี่จุนเซไม่เคยเกลียดเขา ในสายตาจุนเซเขาเห็นฮวันเป็นน้อง และไม่เคยเกี่ยงงอนกับการให้ความช่วยเหลือ เมื่อครั้งฮวันอาละวาดจนถูกจับเข้าคุก คุณย่าไม่สนใจ คุณแม่ไม่มีเงิน ก็เป็นพี่จุนเซที่ไปประกันตัวฮวันออกมา ฮวันควรสำนึกในน้ำใจ แต่ความดีเหล่านั้นยิ่งทำให้ฮวันรับไม่ได้ แล้วการที่อึนซองมีพี่จุนเซเคียงข้างเขาจะทำอะไรได้อีก ในขณะที่ฮวันสร้างแต่เรื่องเดือดร้อนให้อึนซอง พี่จุนเซกลับเป็นคนที่คอยให้ความช่วยเหลือ กับคนเท่อย่างนั้น คนไม่ได้ความอย่างฮวันจะเอาอะไรไปสู้กับพี่เขา

"รู้ไหม ความรู้สึกที่เผลอไปรักคนที่เกลียดเรามันเป็นยังไง"

อา... นี่มัน Hard to say I love you ซะจริงๆ



แต่หัวใจของผู้หญิง ถึงพี่จุนเซจะไม่เข้าใจ แต่มันไม่ยากจะหยั่งถึง แม้พี่จุนเซพยายามตักเตือน

"เพราะฮวันใช่ไหม ทำไมเป็นฮวัน
เขาไม่ใช่คนที่สามารถดูแลและทำให้เธอมีความสุข
เขาไม่ใช่คนที่จะรักเธอโดยไม่มีข้อแม้ ทำไมเลือกฮวัน"

"อึนซอง อย่าทิ้งใจของเธอไว้ในที่ที่เธอต้องจากไป
พี่หวังว่าเธอจะไม่พาตัวเองไปสู่หนทางที่ยากลำบาก"

แต่ความรู้สึกใครจะห้ามได้คะพี่ แม้ไม่ค่อยเข้าใจทำไมอึนซองไม่รักพี่จุนเซ แต่เรื่องที่อึนซองรักฮวันเป็นสิ่งเข้าใจได้ง่าย คนแย่ๆ คนหนึ่งที่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเปลี่ยนแปลงให้เห็นอยู่ตรงหน้า จะว่าไปแล้วก็เป็นเพราะการเอาใจใส่จากตัวของอึนซองเอง เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงของฮวัน เจ้าของผลงานย่อมเกิดความรู้สึกดีใจ ภูมิใจ และมีความสุข เขาไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เป็นคนที่เปลี่ยนแปลงได้ สำหรับฮวันแล้วการเปลี่ยนแปลงแต่ละสิ่งเป็นเรื่องลำบาก แต่เขาก็พยายามทำมัน

จากคนไม่เคยแคร์ใคร ฮวันเริ่มรู้จักใส่ใจคนอื่น เมื่อเริ่มใส่ใจจึงเริ่มมองเห็นซึงมีที่อยู่ข้างกาย เขารู้ว่าซึงมีคิดอย่างไร แต่ไม่เคยสนใจผลของมันมาก่อน"ฉันรู้สึกคุ้นเคยและสบายใจ เมื่อเราอยู่ด้วยกัน"
(แต่มันไม่ใช่ความรักวุ้ย!) เพราะรู้สึกอย่างนั้น ถึงจะไม่เคยตอบรับแต่ฮวันก็ไม่เคยปฏิเสธ ซึงมีที่ผูกติดกับเขามาตลอดแปดปี ไม่เคยมีสายตาไปมองใครอื่น ฮวันเพิ่งรู้เขามันคนเห็นแก่ตัว ทำให้ซึงมีต้องเจ็บปวดและกลายเป็นคนแบบนี้

แบบนี้แบบไหน?

บทที่ร้ายโดดเด่นคือแม่ของซึงมี ซึ่งป้าคิมมีซุกแสดงได้ดีมากๆ แต่บทที่ยากกว่าต้องยกให้กับบทของซึงมี เพราะเธอเป็นคนที่อยู่ตรงกลางหมิ่นเหม่ตลอดเวลาระหว่างความดีและความเลว ความรู้สึกผิดและความเห็นแก่ตัว เป็นคนที่ต้องต่อสู้กับมารขาวมารดำภายในใจของตัวเอง

ซึงมีสำนึกถึงพระคุณพ่อของอึนซองที่เลี้ยงดูให้เธอมีชีวิตที่ดี แม้ไม่อาจแทรกเข้าไปในความรักที่พ่อมีต่ออึนซองได้ แต่เขาก็ให้ทุกอย่าง ซึงมีรักอึนวู น้องชายออทิสติคที่เรียกเธอว่า "นูน่า" เหมือนที่เรียกอึนซอง แต่ความดีในหัวใจของซึงมีไม่แกร่งพอ เพราะไม่อาจต้านทานได้ จึงได้แต่แอบมองอึนซองหิ้วกระเป๋าพาน้องชายออกจากบ้านไปทั้งน้ำตา แต่บ้านใหม่ที่แม่ซื้อมันผิดคาด ที่แม่บอกไม่มีเงินเป็นเรื่องโกหก

ซึงมีพบว่าอึนซองเข้าไปเกี่ยวข้องในชีวิตของฮวัน เพราะกลัวสายตาของฮวันจะจ้องมองมาที่เธอ หากฮวันรู้ว่าแม่ไล่อึนซองออกจากบ้าน ซึงมีจึงยอมไหลไปตามเกมที่แม่ของเธอกำหนด ซุงฮีแม่ของเธอเรียกตัวอึนซองมาพบ เพื่อเห็นแก่ซึงมีที่ไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำของเธอ จึงขอร้องให้อึนซองแกล้งทำเป็นไม่รู้จัก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เห็นแก่ซึงมีที่ขาด "พี่ฮวัน" ไม่ได้ และที่ซึงมีเคยพยายามช่วยอึนซองตามหาอึนวู อึนซองจึงไม่เคยปริปากบอกใครว่าซุงฮีที่เป็นเพื่อนสนิทกับแม่ของฮวัน และซึงมีว่าที่หลานสะใภ้ของคุณย่าคือแม่เลี้ยงและน้องสาวของเธอเอง

ความจริงคือ พ่อของอึนซองยังไม่ตาย เพราะเขาถูกคนทำร้ายและฉกชิงเอาของมีค่าไป อุบัติเหตุแก๊สรั่วที่ศพถูกไฟไหม้ ของสำคัญติดกายจึงบ่งชี้ว่าศพคือ โกพยองจุง เพื่อกู้วิกฤตของชีวิต พ่อของอึนซองตัดสินใจปล่อยให้ชื่อของตัวเองกลายเป็นคนที่ตายไปแล้ว เพราะครอบครัวจะได้รับเงินประกัน และแก้ไขปัญหาทุกอย่าง เขาไม่รู้ความเลวร้ายของศรีภรรยาจึงไว้วางใจและเชื่อมั่นว่าซุงฮีจะดูแลลูกทั้งสองอย่างดีให้เหมือนกับซึงมีที่เป็นลูกของเธอเอง เหมือนกับที่เคยสัญญากันไว้

จึงปล่อยเวลาให้ล่วงเลยผ่านก่อนจะปรากฏตัวออกมา แต่การลอบมาพบภรรยาทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลง เพื่อปกปิดไม่ให้โกพยองจุงรู้ว่าเธอทอดทิ้งลูกของพวกเขา ซุงฮีไม่ยอมให้โกพยองยุงมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยอีก และหลอกสามีว่าอึนซองฮุบเงินประกันไป ทิ้งหนี้สินไว้ให้ พาอึนวูไปอยู่ต่างประเทศและไม่เคยติดต่อมาอีกเลย โกพยองจุงเลี้ยงลูกสาวมาจะไม่รู้หรอกหรือว่าอึนซองเป็นคนอย่างไร แต่ทุกสิ่งที่เขาถูกซุงฮีหลอกลวงเพื่อกีดกันไม่ให้พบอึนซองก็ล้วนแล้วแต่น่าเชื่อถือ ซุงฮีที่บอกกับเขา..อึนซองติดต่อมาและรู้แล้วว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ แต่พ่อเป็นคนที่ตายไปแล้ว จึงไม่อยากให้เกิดปัญหา ถ้าใครรู้เข้าและต้องคืนเงินประกันจะทำอย่างไร ถ้าพ่อกลับมาชีวิตของทุกคนจะต้องเดือดร้อน

เพื่อปกปิดความผิดหนึ่งซึงมีต้องทำอีกความผิดหนึ่ง เมื่อรู้ว่าพ่อเลี้ยงยังมีชีวิตอยู่ เธอใช้อีเมลในชื่อของอึนซองติดต่อกับพ่อเลี้ยง ทิ้งคำตัดเยื่อใยกับพ่อเอาไว้ เพื่อไม่ให้พ่อออกตามหาและหาทางติดต่ออึนซองได้ ลูกไม่ยอมพบหน้าและยังต้องการตัดขาด ไม่ต่างกับการทำร้ายหัวใจของพ่อ แต่ไม่ว่าทุกอย่างจะมีเหตุผลสมจริงแค่ไหน โกพยองจุงยังเชื่อมั่นในตัวอึนซอง ถึงอีเมลจะถูกลบไปตราบใดที่ยังไม่พบหน้าลูก เขาไม่มีวันยอมรับได้ว่าอึนซองไม่ต้องการพ่ออีกแล้ว

อย่างที่บอก เพื่อปกปิดความผิดหนึ่ง ซึงมีต้องช่วยแม่ทำอีกความผิดหนึ่ง และทำต่อไปเรื่อยๆ ความรู้สึกผิดทำให้ซึงมีเสียใจ ยิ่งเห็นน้ำใจเนื้อแท้ของอึนซองที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไม่ว่าชีวิตจะตกยากแค่ไหน ซึงมียิ่งเจ็บปวด แต่เพราะกลัวฮวันจะรู้เรื่องราวและสูญเสียฮวันไป เธอยังคงทำผิดถลำลึกลงไปเรื่อยๆ "อึนซองเป็นคนใจดี" นั่นคือสิ่งที่ซึงมีรู้และใช้มันเพื่อประโยชน์ของตัวเอง

ความสัมพันธ์ของอึนซองกับแม่เลี้ยงและน้องสาวซึงมี เป็นความสัมพันธ์แบบ "ชาวนากับงูเห่า" ไม่ว่าจะดีด้วยสักกี่ครั้ง ก็ไม่เคยสำนึกบุญคุณ ยังคงหาโอกาสแว้งกัดเสมอ เพราะความเจ็บแค้นที่รู้ว่าแม่เอาอึนวูไปทิ้ง อึนซองจึงขู่จะยอมรับมรดกที่คุณยายมอบให้ และชีวิตของว่าที่ลูกเขยซันวูฮวันจะไม่เหลืออะไรอีกต่อไป เป็นแค่คำขู่ที่อึนซองไม่คิดจะทำจริงๆ เรื่องมรดกเป็นเรื่องรู้กันสองคนระหว่างอึนซองกับคุณยาย อึนซองแค่อยากช่วยเหลือด้วยการยอมให้ท่านใช้เป็นเครื่องมือดัดสันดานลูกหลาน แม้ถูกเข้าใจผิดเป็นพวกชุบมือเปิด และอยู่ในบ้านหลังนั้นด้วยความอึดอัด แต่เพราะรักคุณยาย อึนซองจึงไม่ใส่ใจกับความคิดและความเกลียดชังของคนอื่นๆ

ซึงมีรักฮวันด้วยใจไม่ใช่ด้วยเงิน แต่แม่ของซึงมีรักเงินยิ่งกว่าชีวิต วัตถุประสงค์คนละอย่างแต่ก็เป้าหมายเดียวกันคือ ซันวูฮวัน อึนซองขู่จะเปิดเผยเรื่องราวและยอมรับมรดก ซึงมีกับแม่หวาดกลัว จึงรีบชิงปาดหน้าเค้กตัดหน้า รวมหัวกันปั้นน้ำเป็นตัวไปสารภาพต่อคุณย่าของฮวัน อึนซองคือลูกเลี้ยงของเธอเอง แต่เปลี่ยนรายละเอียดเรื่องราวทุกอย่างจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เป็นความเลวร้ายของคนที่อึนซองไม่เคยพบเห็น จึงพูดอะไรไม่ออก

สีหน้าของคุณยายผู้นิ่งฟังเรื่องราว ทำให้อึนซองยิ่งเสียใจ ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรออกไป เธอเก็บข้าวของออกจากบ้านและตัดสินใจไปตามทางของตัวเอง

ฮวันได้แต่ยืนมองตาปริบๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงเรื่องราวและหลักฐานจะสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง เขาก็ไม่อยากเชื่อว่าอึนซองเป็นคนแบบนั้น

"ทำไมเธอไม่พูดอะไรเลย ทำไมถึงไม่พูดอะไรสักคำ
เธอเข้าใจหรือเปล่า ถ้าเธอไม่พูดก็เท่ากับเธอยอมรับทุกอย่าง"

"ถ้าพูดแล้ว คุณจะเชื่อฉันหรือ?"
คำถามเดียวสั้นๆ แต่แทงใจดำ ฮวันรู้จักกับซึงมีมาแปดปีเขาย่อมรู้เธอเป็นคนอย่างไร ( เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนเปลี่ยนแปลงกันได้) ถึงเขาเชื่ออึนซองแต่จะพูดได้ยังไงว่าซึงมีโกหก

"น่าขยะแขยง เงินมันทั้งน่าขยะแขยง ทั้งน่ากลัว ฉันอยากให้ทุกอย่างมันจบลงแค่นี้"

เป็นที่สุดของความน่าสงสาร อึนซองกับคุณยายเหมือนคนหนุ่มสาวที่รักกัน เชื่อมั่นและไว้วางใจ
แต่แล้วที่อบอุ่นใจสุดท้าย..ก็ไม่มีเหลือ

"ฉันกลัว แม่เลี้ยงกับซึงมีช่างน่ากลัว ที่ทำกับฉันขนาดนี้ เพื่อเงิน"

"คนเรายอมทำทุกอย่างได้เพื่อเอาตัวรอด เธอคิดว่าคนอื่นจะซึ่อเหมือนเธอหรือ"

สุดท้ายไม่เหลือใคร อึนซองยังเหลือเฮรีเป็นเพื่อนแท้ ยังมีพี่จุนเซอีกคนไม่ว่าอึนซองจะรักหรือไม่รัก ความปรารถนาดีของพี่จุนเซไม่เคยเปลี่ยน เขายังคงอยู่ตรงนั้นเพื่อเธอเสมอ


พี่จุนเซ พี่ช่างเป็นคนดีจริงๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรพี่ก็ดีไปหมด พี่ช่วยอึนซอง ช่วยพ่อของอึนซองที่เร่ร่อนไร้หนทางโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นพ่อของเธอ พี่ช่วยฮวัน ช่วยคุณย่าไว้ แม้ว่าจะต้องหักหลังพ่อของตัวเองที่หวังฮุบตำแหน่งประธานบริษัทแทนคุณย่า

"แต่ ณ วินาทีนั้น
ผมรู้ว่าจะต้องทนอยู่กับความละอายไปชั่วชีวิต
ผมทนอยู่แบบนั้นไม่ได้ครับพ่อ
ผมมีชีวิตแบบนั้นไม่ได้
ผมจะอยู่อย่างไร้เกียรติไม่ได้"


กับอึนซอง ถึงเธอไม่รักพี่ก็อกหักอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่เคยเอาบุญคุณมาเป็นข้ออ้างให้หันกลับมามอง ในยามพี่เป็นฝ่ายต้องเผชิญกับปัญหาบ้าง พี่ไม่เคยเรียกร้องให้อึนซองมาคอยปลอบใจ และไม่เคยหยุดให้ความช่วยเหลือ ว่ากันด้วยเรื่องของพระรอง จากเรื่อง Autumn in my heart ก็มีเรื่องนี้แหละที่ความดีของพระรอง ดีซะจนต้องหลั่งน้ำตาให้ ถ้าจะมีอีกสักเรื่องคงเป็น Sunshine of love แต่เรื่องนั้นไม่ทันเสียน้ำตาเนื่องจากไม่สามารถทนดูความดีของพระรองอต่อไปได้ จึงดูไม่จบ ดีขนาดนั้นจะมีพระเอกไว้ทำไม ไม่ให้พระรองเป็นพระเอกให้รู้แล้วรู้รอด

อึนซองต้องออกจากบ้านไปทั้งหัวใจบอบช้ำโดยที่ฮวันไม่สามารถช่วยอะไรได้ คุณย่าล้มป่วยลง ถูกคณะกรรมการบริษัทตั้งวาระถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานฯ ฮวันอาจเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแต่ในความรู้สึกของพนักงาน เขายังคงเป็น "หลานชายนอกคอก" "อันธพาลจอมวายร้าย" ที่ไร้คนเชื่อถือ เมื่อคุณย่าล้มป่วย ฮวันที่หวาดกลัวจะสูญเสียคุณย่าไป เกิดความสำนึกครั้งใหญ่ เขาเพิ่งรู้..การใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าที่ผ่านมา ทำให้คุณย่าต้องผิดหวังและเสียใจมากแค่ไหน คุณย่ารู้ว่าลูกหลานสนใจแต่เรื่องเงินเมื่อเจ็บป่วยจึงไม่ยอมเอ่ยปากเรียกร้องความเห็นใจจากใคร หัวใจของฮวันเจ็บยิ่งกว่าเจ็บที่คุณย่าเก็บงำอาการป่วยไว้คนเดียว แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นเขาอาจไม่มีโอกาสเป็นคนดีกว่านี้ให้ท่านได้เห็น ให้ท่านได้ภูมิใจในตัวเขาสักครั้ง




เป็นเรื่องราวชวนติดตามอย่างเร้าใจ กว่าพ่อจะได้พบลูก ลูกพบพ่อ และพี่พบน้อง กว่าความจริงทุกอย่างจะเปิดเผย กว่าความรักจะลงตัว ทุกอย่างต้องใช้เวลา โดยเฉพาะฮวันที่จำเป็นต้องมีเวลาอย่างเพียงพอในการกลับตัวกลับใจให้แนบเนียน ซีรีย์เรื่องนี้มี 28 ตอนจึงค่อนข้างสมเหตุสมผล ไม่ทำให้รู้สึกยืดเยื้อ เรตติ้งเฉลี่ย 32 % ตัวเลขนี้ถ้าเป็นซีรีย์ญี่ปุ่นถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ในเกาหลีไม่รู้ว่าดีมากน้อยแค่ไหน ก็คงจะดีแหละค่ะเพราะ ฮันฮโยจู ไม่ใช่นางเอกกิ๊กก๊อก เรื่อง "Dong Yi" ที่ออนแอร์ปีนี้ก็ได้ข่าวว่าทำเรตติ้งสูงสุด ใน Brilliant Legacy มาประกบคู่กับ ลีซึงกิ เจ้าของฉายา "ลูกชายของคนเกาหลี" ที่ดังเดี่ยวมาคนเดียวไม่ได้สังกัดบอยแบนด์ใด ได้ยินเสียงร้องเพลงของซึงกิในรายการ X man อยู่หลายหนและพอจะบอกได้ว่าเป็นคนที่ร้องเพลงเสียงเพราะมาก พลังเชิดชูของแม่ยกรุ่นน้อยรุ่นใหญ่ในผลงานชินนี้จึงน่าจะล้นหลาม


ชื่นชมการเขียนบทให้มีทั้งความน่ารัก ความสุข ความโศก และความลุ้นให้ติดตาม ร้องไห้ไปมากมายให้กับนางเอกผู้ถูกกระทำ รักและสงสารพี่จุนเซสุดใจขาดดิ้น และเสียใจแทนพ่อของอึนซองกับการตัดสินใจที่ผิดพลาด หัวใจอันรวดร้าวของพ่อเมื่อรู้ว่าลูกรักสุดดวงใจทั้งสองคนที่เลี้ยงดูมาอย่างทนุถนอม ต้องพรัดพรากจากกันและต่อสู้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก ฉากที่พ่อของอึนซองนั่งมองลูกสองคนนอนหลับและออกจากห้องมาร้องไห้เสียใจกับการไว้ใจคนผิดและทำในสิ่งผิดพลาดไป มันช่างกะเทือนหัวใจ

Brilliant Legacy จึงเป็นน้ำเน่าสุดคลาสสิค และนี่คือเหตุผลที่ความน้ำเน่าจะยังคงอยู่ต่อไปอย่างอมตะนิรันดร์กาล

ดูแล้วอยากเป็นคนใจดีที่เข้มแข็งเหมือนอึนซอง อยากเป็นคนดีที่สุดเท่แบบพี่จุนเซ
ดูแล้ว รักฮวัน ถึงไม่ใช่คนดีที่หนึ่ง แต่ก็มีเหตุผลเพียงพอให้รัก (ราวกับเป็นนางเอกซะเอง)
ดังนั้น ดูแล้วโปรดร่วมกันยืนไว้อาลัย "แด่ความรักที่ต้องจากไปของพี่จุนเซ"


Create Date :29 สิงหาคม 2553 Last Update :22 กุมภาพันธ์ 2558 8:51:04 น. Counter : Pageviews. Comments :14