bloggang.com mainmenu search



ชื่อละคร : ライアーゲーム ( Liar Game Season 2)
นักแสดง : Toda Erika, Matsuda Shota
กำกับโดย : Matsuyama Hiroaki, Oki Ayako , Nagase Kunihiro
ประเภท : Psychological thriller
Written By : LIAR GAME - Kaitani Shinobu , Kuroiwa Tsutomu
ปี : 2009 ออกอากาศ : 10 พ.ย. 2009
ออกอากาศช่อง Fuji TV ทุกวันอังคาร เวลา 21:00 น.



Smiley อ่าน Liar Game Seson 1 เกมแห่งการโกหกหลอกลวง


ตั้งใจรอมาเนิ่นนาน เพราะเคยเป็นซีรีย์ที่ชื่นชอบมากจริงๆ
สนุกถึงขั้นประทับใจเลยก็ว่าได้สำหรับ Liar Game

"เกมแห่งการโกหกหลอกลวง"

แค่ชื่อเรื่องก็โดนแล้ว

แต่ที่ยังรั้งรอมานานสำหรับ Season 2 เพราะติดขัดอยู่ข้อเดียว
เชื่อมั้ยละคะว่า บางครั้งก็เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทำใจลำบาก

"ทรงผมของพระเอก" คืออุปสรรคน้อยนิดที่ว่า

เกลียดทรงนี้จริงๆ ให้ดิ้นตาย แต่คนมันชอบในบทบาทน่ะนะ "ภาพลักษณ์"
จึงเป็นเปลือกนอกของนักแสดงและตัวละครที่หลายต่อหลายครั้งต้องยินยอมโยนมันทิ้งไป



มัตสิดะ โชตะ (Matsuda Shota)
ที่รับบทพระเอก อากิยามะ ชินนิจิ ปกติเขาก็ไม่ใช่คนหล่อในสายตาเราอยู่แล้ว นี่ถ้าเห็นกันมาก่อนในเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ Liar Game คงจะไม่ปิ๊งปั๊งกันง่ายๆ แต่เพราะหลงใหลเสน่ห์ของ "เกมแห่งการโกหกหลอกลวง" ประกอบกับโชตะ ผู้รับบทพระเอกก็เท่สุดๆ จึงเอาชนะใจได้โดยไม่ต้องอาศัยความหล่อเหลาใดๆ ถึงกระนั้นเขาก็อุตส่าห์ฝากผลงานให้เกลียดขี้หน้าไว้กับเรื่อง The flower shop without roses แต่แล้วก็เปลี่ยนกลับมาให้ชอบอีกมากมายใน Love Shuffle ซึ่งเขาอยู่ในทรงผมสั้นเกรียนที่ชอบมาก น่ารักดี

เดี๋ยวชอบ เดี๋ยวไม่ชอบ นี่ถ้ายืนอยู่ตรงหน้าตัวเป็น ๆ จะถามว่า
"มัตสึดะซังคะ คุณจะเอายังไงกับฉันกันแน่"

ยังอดบ่นอีกไม่ได้เรื่องทรงผม ทรงนี้นะจะว่าไปแล้ว
ก็ช่วยทำให้โชตะในซีซั่นแรกหล่อขึ้นมามากมายก่ายกอง



ความจริงแล้วก่อนจะดู Liar game ก็ทำใจกับหน้าตาของพระเอกอยู่นาน เพราะไม่เคยรู้จักผลงานกันมาก่อน การดูละครที่พระเอกหล่อไม่โดนแนวของตัวเอง มันช่างทำใจยากเย็น ทรงผมเดิมก็ไม่ชอบ ยิ่งยาวลงมาอีกใน Season ๒ จนกลายเป็นผมบ๊อบ ยิ่งไม่ชอบหนักเข้าไปใหญ่ แต่ความดีเคยมีกันมา ทำให้เชื่อใจในผลงาน ที่สุดแล้วจำเป็นต้องยอมเปิดใจให้กัน


**แต่เวลายิ้มน่ารักเอาเรื่องเลยนะ เพียงแต่ในเรื่องมันไม่มีบทให้ยิ้มน่ะสิ**







ในซีซั่นแรก นาโอะจัง ( Toda Erika ) ถูกหลอกให้ไปเล่นเกมอันตรายนี้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนอากิยามะ นักต้มตุ๋นมืออาชีพที่เพิ่งออกจากคุก ก็จำต้องเข้าร่วมสถานการณ์เพราะอดสงสารแม่คนซื่อ(บื้อ)คนนี้ไม่ได้ โดยมีพื้นฐานมาจากความรู้สึกของตัวเอง เกี่ยวกับแม่ ผู้หญิงซื่อตรงที่ถูกหลอกและผลกระทบทำให้เธอฆ่าตัวตาย กับผู้หญิงใสซื่ออีกคนที่อยู่ตรงหน้าและเธอกำลังตกทุกข์ได้ยากเพราะความสุดซื่อของตัวเอง อากิยามะจึงทำใจทอดทิ้งเธอไปไม่ได้

สำหรับ Season ๒

นาโอะจัง - เข้าร่วมใน Liar Game อีกครั้ง เพราะอยากจะช่วยเหลือคนอื่นๆ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเกมๆ นี้ ถ้าช่วยใครได้สักคนก็ยังดี แต่ก็ไม่รู้เธอไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าเธอเฉลียวฉลาดมากพอจะช่วยใครๆ เขาได้ ถ้าเปนเหตุผลตรงๆ ง่ายๆ ว่าอยากจะพบอากิยามะ น่าจะเป็นเหตุผลที่เชื่อได้และดูดีกว่า พอเข้าไปในเกมแล้วค่อยว่ากันเรื่องความคิดอยากช่วยคนอื่นตามประสาสาวซื่อจิตใจดี



ส่วนอากิยามะ เขาอยากจะสาวให้ถึงต้นตอของ LGT และทำลายมันให้สิ้นซาก! ก็เป็นเหตุผลของฮีโร่ที่ไม่ค่อยสนิทใจนิดหน่อย ถ้าเป็นเพราะนาโอะจังกลับไปร่วมเกมอีกแล้วจึงต้องทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวตามไปช่วยยังพอฟังไหว แต่เมื่อใช้เรื่องนี้เป็นเหตุชักจูงเขากลับทำไม่ไยดีเอาซะเลย แม้ว่าหลังจากเข้าร่วมเกมเขาได้ช่วยเหลือและปกป้องนาโอะจนถึงที่สุดก็เถอะ แต่พอเอาเรื่องรากเหง้าก่อกำเนิด Liar game มาล่อนะ พี่แกหูผึ่งเลยทีเดียวเชียว



ซูซึกิ โคสึเกะ (Suzuki Kosuke) รับบท ฟุกุนากะ ยูจิ ยังคงความเจ้าเล่ห์ และไม่น่าไว้วางใจอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เห็นแก่ตัวอย่างถึงที่สุด พร้อมจะเปลี่ยนข้างและทรยศตลอดเวลาเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องสนุก หากขาดเขาคนนี้ไป Liar Game 2 คงจะจืดชืดเป็นต้มจืดค้างคืนไปเลย



คิชิเสะ มิจิโกะ (Kichise Michiko) กับบทของเอริ หลังจากติดตามทุกคนกลับมาเล่นเกม เธอยังคงอยู่ต่อไปและทำหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์ตลอดทั้งเรื่อง เหมือนเป็นเจ้าของเกมซะเอง เพราะไม่มี LGT คนไหนหรืออะไรโผล่มาเพิ่มอีก คำว่า "ต้นตอ" เป็นเพียงลมที่อากิยาม่าและนาโอะหวังจะสาวไปถึง แต่ไม่มีร่องรอยให้จับต้องเลยสักนิดตลอดทั้งเรื่อง (กะขายหนังภาคต่อเต็มที่หรืออย่างไร? ไม่เข้าใจจริงๆ)


ตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเป็นตัวละครหลัก คือ คิคุจิ รินโกะ (Kikuchi Rinko) รับบท คัตสึกิ เรียว เธอมาเป็นคู่แข่งความฉลาดของอากิยามะในซีซั่นนี้ แสดงบทบาทได้ดีมากทีเดียวดูแล้วน่ากลัวแบบจิต ๆ

Liar Game Season 2 ยังคงรูปแบบเกม การแข่งขัน และกฏกติกาของ สำนักงาน LGT ไว้อย่างคงมั่น เกมยังคงสนุก แต่ .. อารมณ์ในการดูกลับเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ความเร้าใจหดหายไปเยอะ

เหตุผล ?

อดีตอันเป็นปริศนาระหว่างคัตสึรากิกับอากิยามะนั้นชวนติดตามค้นหา ปูทางมาอย่างสับสน ชวนคิดไปต่างๆ นานา ให้อยากรู้ ว่าเคยเป็นอะไร เคยมีอดีตอย่างไร แต่บทจะเปิดเผยออกมา ก็ช่างง่ายดายอย่างไร้เชิง ทั้งยังเป็นเหตุผลไม่เข้าท่าที่ไม่เข้ากันเลย กับสิ่งที่ปูทางมา ทำอย่างกะว่า มันลึกลับซับซ้อน แต่เอาเข้าจริง หะ! ฮ้า.......................แค่นี้เองเนี่ยนะ

แค่นี้เองเหรอที่ทำให้คนสองคนเป็นศัตรูกัน แล้วที่ให้หล่อนดูร้ายหยั่งแรงงงเหมือนคนโรคจิต ทำไมมาหักมุมด้วยความน่าสงสารอันใสซื่อในอดีต คิดอีกร้อยตลบก็ไม่หนักแน่นพอกับสิ่งที่เธอเป็นอยู่กับภาวะในเรื่องปัจจุบัน เช่นเดียวกัน พระเอกคนปัจจุบัน ไหงเป็นคนเยี่ยงนั้นในอดีต เรื่องขี้ผงแค่นั้น รับไม่ได้ และกลายเป็นความทรงจำร้ายๆ ระดับนี้ มันไม่ใจปลาซิวไปหน่อยเหรอ ไม่แมนอย่างแรงงงง อดีตกับปัจจุบันของทั้งชินอิจิ และคัตสึรากิ ดูเป็นคนละคน และไม่สมเหตุสมผล ด้วยประการทั้งปวง นี่ถ้าสับอดีตการเป็นผู้กระทำและถูกกระทำ (ย่ำยี่ทางจิตใจ) ของกันและกันซะ จะดูเข้าท่ากว่านี้เยอะ เนื้อหาจึงพาให้อารมณ์กระโดกกระเดกชอบกล



เกมแรก ที่ฟุกุนากะ เล่น ก็น่าสนุกดี แต่กลับรู้สึกเบื่อ และบทบาทของตัวละครดูผิดเพี้ยน คือตัวนาโอะจัง ทำไมถึงกลายเป็นคนฉลาดขึ้นมาเยอะเลย การที่เธอคิดแก้ปัญหาในเกมล่วงหน้าไปก่อนอากิยาม่าจะนำทางไปนั้น ค่อนข้างขัดความรู้สึกไปสักนิด บางครั้งก็ดูเติบโตขึ้นสุขุมเป็นผู้ใหญ่ สักพักก็กลับไปออกอาการอาโนเนะ เบ๊ะๆ ร้อนรนเป็นเด็กจ๋า จะเอาอย่างไรกันแน่

แต่เกมที่ ๒ - ๑๗ โป๊กเกอร์ ที่อากิยามาเล่น อารมณ์ตื่นเต้นเร้าใจกลับพุ่งปรี๊ดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หรือนี่เป็นเพราะทัศนคติที่มีต่อพระเอกก็ไม่อาจยืนยันได้แน่ชัด แต่เป็นเกมที่ลุ้น และเป็นเกมที่สะใจโก๋มากจริงๆ


"น่าเศร้าจังน้า นายได้เสียโอกาสเฮือกสุดท้ายไปแล้ว
ฉันจะบอกเป็นครั้งสุดท้าย นายจะต้องแพ้"

"ฉันไม่ได้มองหาโจ๊กเกอร์
แต่ฉันมองหาไพ่ทุกใบ"

"คราวหน้านายควรจะลดการฝึกสายตา
แล้วหันมาฝึกสมองให้หายกลวงซะ"

อากัปกิริยา ตลอดจนการพูดจากเรียบๆ เย็นๆ ของอากิยามะ มันได้อารมณ์จริงๆ

"มีอะไรงั้นเหรอ นายไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย"
"ข้องใจอะไรเหรอ"

โดยเฉพาะยามพูดกับนางเอก มีอยู่คำนึงที่ชอบมาก

"อ๋า" แล้วลากเสียงยาวออกมาหน่อย ถ้าเป็นไทยเราก็คือการรับคำ "อื้อ" "อื้ม" นั่นแหละ แต่เวลานาโอะออกความเห็นอะไรแล้วอากิยาม่ารับคำ "อ๋า" ทำไมถึงชอบมากจริงๆ ก็ไม่รู้สินะ

เกมที่ ๓ ถ้าจำไม่ผิดเหมือนว่าจะชื่อ สล็อตรูเล็ต (หรือเปล่า ?) เกมนี้ก็สนุกดี แต่ขัดใจอย่างที่บอก คือ นาโอะไปเอาความฉลาดมาจากไหน หรือสองปีที่หายไปเธอหันไปกินแต่ปลา เธอเอาชนะเกมได้ด้วยสติปัญญาของตัวเอง ซึ่งถ้าเรารู้จักนาโอะในซีซั่นแรก นี่เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เลย และสำคัญอีกอย่างวิธีที่เธอใช้ก็ดูไม่เข้ากันกับลักษณะนิสัยของคนที่เคยเป็นคนซื่อสุดชีวิต Liar Game ที่ผ่านมา เป็นเหตุผลที่ทำให้นิสัยคนเปลี่ยนแปลงกันได้ แต่สมองน่ะมันเปลี่ยนได้ด้วยหรือ อย่างไรก็ตาม เกม ๑๗ โป๊กเกอร์ของอากิยาม่าต่อเนื่องมาจนถึงเกมของนาโอะจำก็ทำเอาตามติดไม่ยอมหลับยอมนอนกันเลยทีเดียว


อยากให้ในละคร มีภาพน่ารักแบบนี้บ้าง Smiley**


สิ่งที่ต่างออกไป คือ ความกดดันของ Liar Game ดูน้อยลง

เพราะทุกคนเคยผ่านเกมมาแล้ว ก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่ง ดังนั้น อารมณ์หวาดกลัวความพ่ายแพ้ ตกเป็นหนี้ และความวิตกกังวลถึงอันตรายที่ไม่สามารถถอนตัวออกจากเกมได้ ดูจะหดหายไปพอสมควร บางครั้งบางช่วงยังแอบรู้สึกว่าผู้เล่นแต่ละคนทำไมดูดี๊ด๊ามีความสุขจัง เหตุผลของนาโอะจังอาจเป็นเพราะมีอากิยามะอยู่ด้วยและเธอก็มั่นใจได้ว่าเขาจะไม่ทอดทิ้งไปไหน พอๆ กับ ฟุกุนากะ ที่อาจจะไว้วางใจในความฉลาดหลักแหลมของอากิยามะ และความซื่อตรงที่เชื่อใจได้ของนาโอะ (แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะซื่อตอบหรอกนะ) ทั้งหมดนี้ทำให้ความตื่นเต้นลดน้อยตามไปด้วย LGT ดูไม่น่ากลัวอย่างที่เคยคิดว่าเมื่อเข้าสู่รอบลึก Liar game จะเข้มข้นและให้ความรู้สึกอันตรายมากขึ้น เจ้าหน้ากากผีที่ออกมาดำเนินรายการร่ายกติกาของเกมอยู่บ่อยๆ ไม่ก่อให้เกิดอารมณ์ thriller อีกแล้ว เพราะชิน และแต่ละครั้งที่ออกมาก็แสนสุภาพน้ำเสียงไม่มีร่องรอยคุกคามแม้แต่น้อย

ชอบเกมปิศาจกับเทวทูตในรอบตัดเชือกค่ะ
สนุกและชิงไหวชิงพริบในแง่มุมเชิงจิตวิทยากันสนุกดี



หลังจากเกมแรกที่น่าเบื่อ เกมที่เหลือต่อมาก็สนุกมาโดยตลอดนะ แม้จะขัดใจตัวละครตามที่กล่าวมา แต่เมื่อมาถึงเกมสุดท้ายรอบรองชนะเลิศ เกมตกทองอะไรนี่แหละ เป็นเกมคล้ายๆ กับที่เคยเล่นกันช่วงท้ายสุดของซีซั่นแรก แต่กติกาดูซับซ้อนเข้าใจยากมากขึ้น เหมือนจะดีนะ แต่กลับไม่ชอบ เพราะความซับซ้อนมีมากขึ้น แต่การเอาชนะทำไมดูง่ายและรวดเร็ว ดูเป็นกลโกงมากกว่าความเป็นเลิศของสติปัญญา เกมยากมากขึ้นก็จริง แต่ชั้นเชิงของไหวพริบที่ใช้ในการแข่งเกมกลับดูฉาบฉวย ศิลปะของการหลอกลวงที่เคยเท่ ทำไมไม่ค่อยเท่ซะแล้วล่ะ

ประเด็น ไม่มีอะไรเพิ่มเติม พวกเขาแค่กลับมาเพื่อเอาชนะและรุกคืบไปถึงต้นตอของ Liar Game นาโอะจังยังคงพูดเรื่องเดิมๆ ที่เธอค้นพบจากซีซั่นหนึ่งคือ "ให้ทุกคนร่วมมือกัน" ด้วยสีหน้ามีความสุขอย่างคนที่เชื่อว่า ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แล้วก็ไม่มีบทสรุปอะไร เพราะทิ้งค้างไว้ให้ไปตามกันต่อในภาพยนต์

แต่ในซีซั่นแรกนั้นให้ความรู้สึกต่างออกไป
เพราะ Liar Game เปรียบเหมือนเป็นเกมแห่งการค้นหา



จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อมนุษย์ไม่เชื่อใจมนุษย์ด้วยกัน

ฉันค้นพบ วิธี...
ที่จะทำให้ทุกคนใน Liar Game มีความสุข
จะเกิดอะไร ถ้าคุณไม่พยายามเอาเงินคนอื่น
ถ้าทุกคนร่วมมือกัน

ไม่ต้องห่วง..ไม่ว่าคุณจะไปไกลแค่ไหน
ถ้าทุกคนร่วมมือกัน ... คุณก็จะปลอดภัย
ถ้าเราไม่หลอกลวงทำร้ายผู้อื่น
เราจะไม่ได้ผลประโยชน์
แต่เราก็ไม่ได้สูญเสียอะไรไปเช่นกัน

ด้วย Liar Game
ไม่มีทางที่จะทำให้ทุกคนในโลกนี้มีความสุข
แต่ถ้าเราไม่หลอกลวงทำร้ายผู้อื่น
ก็จะไม่มีใครจบลงด้วยความพ่ายแพ้

เธอซื่อบริสุทธิ์ เธอเชื่อมั่นคนอื่น
ไม่เคยสงสัยอะไรพวกเค้า
หลายคนอาจคิดว่าเธอโง่
แต่เดี๋ยวพวกเขาจะได้รู้


"แต่เดี๋ยวพวกเขาจะได้รู้" คำนี้แหละที่เป็นเสน่ห์มัดใจของซีซั่นแรก ซึ่งเต็มไปด้วยคำพูดคมๆ ชวนคิด ทั้งจากฝ่ายคนเล่นเกมอย่างนาโอะผู้เชื่อมั่นในความซื่อสัตย์และจริงใจ และจากฝ่าย LGT รวมถึงคนเล่นเกมอื่นๆ ที่มองธรรมชาติของมนุษย์อีกมุมหนึ่งในแง่ของการโกหกหลอกลวง เห็นแก่ตัว และเอาตัวรอด แต่ในซีซั่น ๒ หาคำพูดโดนๆ ไม่พบเลย แม้จะมีคัตสึรากิมาแสดงแง่มุมการวิเคราะห์ผู้คนในเชิงจิตวิทยา แต่ก็ไม่ได้มีอะไรจับใจ เท่าที่เห็นเธอแค่เพียงใช้ประโยชน์จากความเห็นแก่ตัวและความหวาดกลัวมาใช้ควบคุมคนเหล่านั้น



ซีซั่นแรก ความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอก ยังมีเชิงกล้าๆ กลัวๆ เรียนรู้และเชื่อใจกัน แต่ในซีซันสองราบเรียบจนไม่มีอะไรให้ลุ้นเพราะเชื่อใจกันเต็มร้อยอยู่แล้ว

และตลอดซีซั่นไม่มีอะไรมาทำให้ความเชื่อใจนี้สั่นคลอนได้ จะเพิ่มพัฒนาการให้รักๆ กันสักหน่อยก็ไม่มี งานนี้วัยรุ่นเซ็ง! แต่มีแอบน่ารักนิดหน่อยตอนที่นาโอะคิดแผนเอาชนะ โดยให้ฟุกุนากะช่วยเหลือ อากิยามะมีปฏิกิริยา "น้อยใจนะ แต่ไม่แสดงออก"

"ฉันรู้ว่าพวกเธอมีแผนอะไรกันก่อนเกมเริ่ม
ฉันไม่สนหรอก แต่ทำไมไม่มาปรึกษากันบ้าง"

"เพราะฉันอยากลองสู้ด้วยตัวเองสักครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งคุณค่ะ
ฉันรู้ ฉันไม่สามารถให้คุณช่วยได้ตลอดเวลา"

นอกเหนือจากเกม และเกม เกมอยู่ตลอดเวลา
มีแอบพูดจาถึงความรู้สึกออกมาเอาใจคนดูนิ๊ดนึง

ตอนที่นาโอะอมยิ้ม และอากิยามะสงสัย

"อะไรเหรอ?"

"ว่าแล้ว คุณต้องใจดี"

"คุณอากิยามะเป็นคนฉลาดมากเลย แต่คุณแตกต่างจากคุณคัตสึรากิ
เธอเลือดเย็น แต่คุณอากิยามะ อบอุ่น"

"อบอุ่น?"

"ถ้าคุณอากิยามะมีนิสัยเคร่งเครียดเจ้าความคิดอย่างเธอ
คุณก็คงทอดทิ้งไม่ไยดีฉันตั้งนานแล้ว"

ความโดดเด่นในเรื่องคงหนีไม่พ้นพระเอก และที่เด่นโดนอีกคนไม่ใช่นางเอก แต่เป็นคัตสึรากิ ยามยิ้มน่ารัก แต่ยิ้มเย็นๆ เดียวกันนี่แหละที่ดูโรคจิตด้วย ชอบมากเลยเวลาสองคนนี้เผชิญหน้ากัน

คัตสึรากิ " ใครมาก่อน มีสิทธิ์ก่อน"
อากิยามะ " ใครไปก่อน แพ้อย่างไม่ต้องสงสัย"

เกมที่ที่ต้องมี "ทีม" เท่านั้นถึงจะชนะ แล้วพวกฉลาดน้อยแต่เห็นแก่ตัวอย่างหน้าไม่อายทั้งหลายที่อยู่ตรงกลางระหว่างการแย่งชิงของคนฉลาดสองคน จะเลือกใคร? โชตะ แสดงได้ถูกใจใช่เลย ฉลาด รู้ทัน เย้ยหยัน และเยือกเย็น เท่สุโค่ยไปเลยเพ่!

ดูรวมๆ แล้วไม่ถึงกับน่าเบื่อ ยังคงสนุกอยู่ เพียงแต่ความสนุกของซีซั่นแรกที่มีอะไรมากกว่าแค่การเล่นเกม ทำให้ความคาดหวังถูกตั้งเอาไว้สูงกว่าที่เป็น

เมื่อไม่ถึงระดับที่หวัง เสน่ห์ของเกมแห่งการหลอกหลวง
จึงกลายเป็นเกมโกหกที่ตกม้าตายอยู่ตรงเกมสุดท้ายนั่นเอง

แต่ก็ไม่แน่นะ เพราะความจริงอาจเป็นตัวเราเองที่ไม่ฉลาดพอจะเข้าใจเกม Smiley

ฮ่าฮ่าฮ่า ขอหักมุมจบด้วยคน


ในมุมที่ต่างกันของ ---> Liar Game Season 1





*** ที่ว่าโชตะไม่หล่อ ขอเปลี่ยนใจเอาภาพมายืนยัน
ความจริงก็เป็นคนหน้าตาดีนะเนี่ย แค่โดนทรงผมนั่น มันทำพิษ**




-----------------------------------------------------------------------------

Credit : Blike.net

Create Date :26 มิถุนายน 2553 Last Update :22 กุมภาพันธ์ 2558 8:49:13 น. Counter : Pageviews. Comments :27