bloggang.com mainmenu search


Attention Please



ตราบใดที่ละครไทยบ้านเรายังไม่เลิกเปิดพินัยกรรมให้ตัวอิจฉาผิดหวัง ละครญี่ปุ่นบ้านเขาก็คงไม่เลิกทำละครสู้เพื่อฝันให้พระ-นางได้ฝ่าฟันเอาชนะอุปสรรคไปจนถึงจุดหมาย ฉันใดก็ฉันนั้น

Attention Please จึงเป็นละครญี่ปุ่นอีกเรื่องหนึ่งที่นำเสนอเกี่ยวกับอาชีพชวนฝันอย่างแอร์โฮสเตส

แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคนหรอกนะ ตัวผู้เขียนเองอยากทำร้อยแปดอาชีพแต่หนึ่งในนั้น ไม่เคยมีอาชีพนี้แว่บผ่านเข้ามาในหัว แม้จะชายตาแลจนเหลียวหลังยามเห็นสาวๆ แอร์โฮสเตสในสนามบินก็เถอะ ( มองแล้วเจริญตาเจริญใจนี่นา)

แอร์โฮสเตส จึงไม่เคยอยู่ในสามัญสำนึกการคิดหาคำตอบ
"โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร" อย่างแน่นอน เหตุผลง่ายๆ คือ

1. ไม่มี service mind หรือจิตใจฝักใฝ่รักการให้บริการ
2. ว่ายน้ำไม่เป็น และ

3. สวยไม่พอ (โอ้ อันนี้เรื่องใหญ่เลย)

ดังนั้น ไม่ว่าจะชอบละครแนวสู้เพื่อฝันเพื่อวันเกียรติยศอย่างไร
Attention Please ก็ยังคงถูกเมินมาตลอด

Good luck - นักบิน
IRU / Code Blue - คุณหมอ
Hero - ทนาย
Change - นักการเมือง
Karei Naru Ichizoku - นักธุรกิจ
Minamoto - นักรบ
GTO - คุณครู
Call Center - บริการรับเรื่องร้องเรียน
Engine - นักแข่งรถ
Pride - นักกีฬาฮอกกี้
Rookies - นักเบสบอล (แม้จะเป็นแค่วัยมัธยม)

เที่ยบกันแล้ว แอร์โฮสเตสก็แค่พูดภาษาอังกฤษฟุดฟิดฟอไฟ เดินสวยไปสวยมา ไม่เห็นจะเท่ตรงไหน

เมื่อสาวซ่าส์ขาร็อคอยากเป็นแอร์โฮสเตส ก็คงหนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงบุคลิกสาวห้าวสุดแสบมาเป็นสาวสง่างามตามแบบฉบับของแอร์โฮสเตสสุดสวย

แบบนี้แหละค่ะ ที่เขาเรียกว่าปรามาสหน้า ตัดสินกันเพียงสิ่งที่มองเห็นและรับรู้เพียงเปลือกนอก

เพราะเมื่อหลงเข้าไปดู ด้วยวัตถุประสงค์ ขอลองดูผ่านๆ
ปรากฎว่าติดแหงก ไปไหนไม่รอดเลย จนกว่าจะครบ 11 ตอนรวด!




มิซากิ โยโกะ ( Aya Ueto ) สาวห้าวที่พื้นฐานชีวิตแวดล้อมไปด้วยผู้ชาย มีพี่ชาย 4 คน อยู่กับเพื่อนชายสบายใจ แต่อยู่กับเพื่อนหญิงส่ายหน้ารำคาญ จึงมีแต่เพื่อนผู้ชายแวดล้อมไร้เงาเพื่อนหญิงเคียงข้าง ที่สำคัญเธอเป็นนักร้องวงร็อค และสไตล์การแต่งกายก็บ่งบอก เธอนี่แหละ ร็อคตัวแม่

หลังจบมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ (ชายล้วน) ในวงร็อคต้องยุบวงและต่างแยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง โยโกะกับเพื่อนไปส่งเพื่อนร่วมวงคนนึงที่สนามบินเพื่อนชายทุกคนต่างพากันชื่นชมความสวยเริ่ดของบรรดาแอร์โฮสเตสสุดสวย รวมทั้ง เขาคนนั้น เพื่อนสนิทที่โยโกะแอบคิดไม่ซื่อ และเขากำลังจะเดินทางไปโตเกียว

เพียงคำพูดเดียวจากปากของคนที่ตัวเองแอบชอบ
"อยากเห็นโยโกะใส่ชุดแบบนั้นบ้าง"

ความฝันอะไร โยโกะไม่เคยมีหรอก การที่เธอก้าวสู่เส้นทางของแอร์โฮสเตสก็เพราะมีความรักเป็นแรงผลักดัน เหตุผลง่ายๆ และโง่ๆ ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเกิดลูกบ้า ฮึดขึ้นมาทำอะไรๆ ที่ขัดกับความเป็นตัวเอง

แรงผลักดันมีอันสูญสิ้นไป ว่องไวเหมือนโกหก เขาคนนั้นพบรักที่โตเกียว และโยโกะต้องยอมรับความจริงที่ว่า เขาไม่เคยเห็นเธอเป็นอื่นนอกเพื่อน และอาจไม่เคยแม้แต่จะเห็นเธอเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ

แล้วจะพยายามเป็นแอร์โฮสเตสไปเพื่ออะไร และเพื่อใคร
เพียงแค่แหย่ขาเข้าไปข้างนึงก็มีอันต้องถอดใจถอยออกมาซะแล้ว

แต่อะไรล่ะ ที่ทำให้โยโกะยังคงก้าวต่อไปข้างหน้า ในเมื่อความหวังที่เคยมีไม่มีอยู่ ไม่มีความหมายอะไรที่จะใส่ชุดแอร์โฮสเตสให้ใครดู

จะมีอะไรซะอีกถ้าไม่ใช่ "คำสบประมาท"
ใครๆ ก็บอกว่าเธอทำไม่ได้หรอก
ใครๆ ก็บอกว่ามันไม่เหมาะกับเธอ
อะไรไม่ร้ายเท่า คำที่บอกว่า จริงๆ แล้วการปฏิเสธของเธอคือการหลบหนี
เป็นการกลบเกลื่อนความจริงที่เธอรู้ตัวดีว่า เธอทำไม่ได้

พูดแบบนี้จะต่างอะไรกับการถูกด่าว่าเป็นหมาขี้แพ้

คนอย่าง มิซากิ โยโกะ มีหรือจะยอมให้ใครมากล่าวหาว่าเป็นคนขี้แพ้

งานนี้ ขอสู้ตาย

จากนั้นก็เป็นเรื่องของการฝึกฝน เรียนรู้คุณค่า ยอมรับ ปรับตัว ต่อสู้ ก้าวผ่านความล้มเหลว เอาชนะตัวเอง ลบล้างคำสบประมาท และชนะใจคนดู (คนนี้) ในที่สุด



ถ้ารู้อย่างนี้ คงดูไปนานแล้ว



ถ้ารู้ว่า อายะ อุเอโตะ (Aya Ueto)คือ เพื่อนสมัยเก่าแก่แต่ครั้งเยาว์วัยของท่านชานะโอ (คุโร โยชิสึเนะ แสดงโดย ทักกี้ ในเรื่อง Minamoto No Yoshisune) สาวน้อยน่ารักที่ติดตามเอาใจใส่ทั้งในฐานะเพื่อนและฐานะข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์เพราะความแตกต่างระหว่างชนชั้นไพร่-ขุนนางเป็นสาเหตุ เห็นกันมาแต่ยามละอ่อน โตเป็นสาวขึ้นมาน่ารักถูกใจ คบหากันมาตั้งนาน แต่จู่ๆ น้องหนูหน้าบึ้งอย่างอิชิฮาระ ซาโตมิ ที่รับบทท่านชิสึกะ ก็โผล่ขึ้นมารำพัดอยู่หน้าวัด และหยิบชิ้นปลามันด้วยการคว้าเอาหัวใจท่านชานะโอไปครอง ... ขัดใจอย่างยิ่ง เพราะหนูอุเอโตะน่ารักกว่าเป็นไหน ๆ ผูกสมัครรักกันมาฉันท์เพื่อนยาวนานกว่า เหตุไฉนความผูกพันจึงไร้ค่ากลายไปเป็นแค่เพื่อนต๊อกต๋อย พลาดตำแหน่งศรีภรรยาของนักรบผู้เกรียงไกรผู้มีชาติตระกูลสูงส่งไปซะเฉยๆ

เคืองขุ่นอย่างแรง

เปิด Attention Please เห็นหน้าเธอโผล่ขึ้นมา ... จำได้

ว้าว ว้าว ว้าววววววว เซอร์ไพรส์มากเลยค่ะ ดีใจมากๆ

เธอได้บทเป็นนางเอกเต็มตัว เต็มความสามารถ และเต็มความสดใสน่ารัก

ที่สำคัญคือ เธอไม่ได้มาในมาดสวยใสไร้สติ แต่โผล่มาก็ซื้อใจไปโดยพลันและผูกใจกันไว้ได้ตลอดด้วยมาดเท่ๆ ของสาวร็อคเต็มขั้น

แค่สไตล์การแต่งตัวก็โดนใจใช่เลย นี่แหละคือหนึ่งในสเป๊กผู้หญิงในฝัน ต้องให้ได้แบบนี้เลยนะจ๊ะหนู ร็อคหนึ่ง โมฮีเมียมอีกหนึ่ง เป็นไสตล์การแต่งกายที่ถูกใจมากจริงๆ ( แต่ถ้าจะให้แต่งตัวเองในชีวิตประจำวันคงไม่มั่นพอจะออกไปเดินตามท้องถนนหรอกนะ ฮ่า ๆ )

ถ้ารู้ว่า เรียว นิคิชิได รับบท นากาฮาระ โชตะ พระเอกเรื่องนี้ บทบาทก็ไม่ใช่ใครกิ๊กก๊อกไกลวงการแอร์พอร์ต เท่ไม่หยอกเลยล่ะเพราะเป็นถึงวิศวกรเครื่องบิน แต่นี่เป็นความบังเอิญเกินไปไหม Attention Please กับ Good luck ใครเกิดก่อนกัน บทของคนบนฟ้าจึงต้องคู่กับคนบนภาคพื้นดินเหมือนกันเด๊ะ

Good luck พระเอกเป็นนักบินฝึกหัดผู้ฟันฝ่าอุปสรรค
นางเอกเป็นวิศวกรเครื่องบินด้วยปมในใจที่พ่อแม่เคยประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก

Attention Please นางเอกเป็นแอร์โฮสเตสฝึกหัด
ส่วนคุณพระเอกฝันอยากเป็นกัปตันขับเครื่องบิน

พระเอกอุตส่าห์ไปเล่าเรียนฝึกหัดและสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนการบิน แต่ต้องอกหักฝันไม่มีวันเป็นจริงเพราะดวงตามีปัญหานิดหน่อย ไม่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น ไม่มีผลให้การมองผิดปกติใดๆ แต่สำหรับคนขับเครื่องบินต้องเป็นดวงตาเพอร์เฟ็คต์เท่านั้น จะมีรอยผิดปกติได้ (ถ้าชีวิตจริงเกิดกับใคร คงปวดใจน่าดู) เพราะรักในฝันของตัวเอง จึงยังฝากชีวิตไว้ในวงการ อาจไม่ได้ตามฝันเป๊ะ แต่ไม่ถือว่าห่างไกล ไม่ได้เป็นคนขับเครื่องอยู่บนฟ้า ก็ขอเป็นคนส่งเครื่องขึ้นฟ้าอย่างปลอดภัย

แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไม่ให้พระเอกเป็นกัปตันไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

ถ้ารู้ว่าอาชีพแอร์โฮสเตสคือแบบนี้ คือ กว่าจะเป็นแอร์โฮสเตส ต้องผ่านการฝึกฝนมากมาย ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างสูง และมีวินัยอย่างยิ่งยวด ทุกอย่างต้องเนี๊ยบ ความรู้ต้องมี สติปัญญาต้องดี มีความมั่นใจเพียงพอที่จะตัดสินใจรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า นอกจากนี้ยังต้องมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงอีกด้วย จึงพอเข้าใจได้ ทำไมแอร์โฮสเตสจึงควร เก่ง สวย และหุ่นดี (ก็ควรจะหุ่นดีให้ร่างกายสมดุลแหละน่ะ) กว่าจะเดินเฉิดฉายออกมาอย่างไฉไลได้ ต้องผ่านอะไรมามากกว่าที่คิด




นี่คือประเด็นของแอร์โฮสเตส ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงอะไรกับ "สงครามนางฟ้า" ละครช่อง 5 ที่ทำให้วงการสื่อโทรทัศน์ ตลอดถึงวงสนทนาในสภากาแฟ (ตามห้องครัวบริษัท) มีหัวข้อฉาวให้เมาท์กันได้ระยะหนึ่ง

บทบาทของมิซากิมีความเป็นธรรมชาติมาก เพราะเธอไม่ใช่คนแสนดีที่ทำตัวเป็นนางเอ๊กนางเอก แต่เป็นคนธรรมดาที่ถูกได้และผิดได้ ปกป้องตัวเอง ด้วยการเพ่งโทษคนอื่น ปากร้าย ใจร้อน วู่วาม มั่นใจสูงจนไม่รู้กาลเทศะ และบางครั้งก็เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่

การฝึกฝนช่วยทำให้เธอเปิดใจ ระเบียบวินัยทำให้เธอบังคับตัวเองอยู่
เรียนรู้ เข้าใจ และปรับตัว

แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าจริงๆ แล้วในหัวใจไม่มีคำว่า รับผิดชอบ

ฝัน..ไม่เคยฝัน ความหวัง .. .ไม่มีแล้ว คุณค่าใดๆ ของการเป็นแอร์โฮสเตส..ไม่เคยมองเห็น

แอร์โฮสเตสก็แค่นั้น แค่คนเสิร์ฟน้ำชาบนเครื่องบิน

แต่เมื่อถูกสบประมาท ทนฟังไม่ได้ เมื่อประกาศไปแล้ว

ฉันจะเป็นให้ได้

ฉันจะเป็นให้ดู!

คำพูด พูดออกไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ มีแค่สองทางให้เลือกทำคือ
ถอนคำพูด และยอมรับซะ ว่าทำไม่ได้ หรือ

รักษาคำพูดของตัวเองไว้ให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าหนทางจะยากลำบากเพียงใด

บทบาทของโยโกะทำให้เห็นใน Attention Please กับคนธรรมดาไม่ใช่พระอิฐพระปูน ย่อมต้องมีบ้างล่ะ ความเหนื่อยหน่ายและท้อแท้

โยโกะเป็นแอร์โฮสเตสฝึกหัดเพียงคนเดียวที่ไม่ผ่านการทดสอบ ขณะเพื่อนร่วมคลาสทุกคนต่างสอบผ่านและได้ก้าวขึ้นเครื่องบินไปสู่ฟ้ากันหมด เป็นตอนของความบีบคั้นทางอารมณ์ที่กระตุ้นต่อมน้ำตาให้ทำงานอย่างแท้จริง

ความคิดแรกคือ คิดว่าโยโกะที่เสียใจสุดๆ จะน้อยใจในดวงชะตาแล้วตัดใจหันหลังจากไปทันที แต่ความเป็นไปของบทละครคือ เธอยังคงยืนหยัดอยู่ที่นั่น ยังคงเข้ารับการฝึกพิเศษ ยังคงฝืนยิ้มแสดงความยินดีกับเพื่อนๆ และไม่แสดงความเสียใจให้ใครเห็น ยังพยายามเป็นโยโกะผู้ร่าเริงอย่างเคยเป็น(นางเอกยังไม่ร้องไห้ แต่นั่งดูอยู่ดันร้องนำไปแล้ว อยากร้องก็ร้องออกมาสิ ทำไมต้องพยายามเก็บไว้ขนาดนั้น ถ้าเกิดกับคนใกล้ตัวอยากจะบอกแบบนั้น)

ชั่วระยะเวลาหนึ่งที่โยโกะยังคงอดทนฝึกหัดต่อไป ด้วยคำถามค้างคาภายในใจ

ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไมเธอถึงไม่ผ่านการทดสอบ

แล้วก็ถึงเวลาที่ความอดทนของคนเรามาสิ้นสุดที่ขีดจำกัด

ฉากเข้าไปร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำฉากนั้น
โยโกะที่ปลดปล่อยตัวเองไปกับความเสียใจทั้งหมดที่เคยเก็บกักไว้

ทำเอาน้ำตาท่วมหน้ายิ่งกว่าตัวนางเอกเองซะอีก

อินจัด

.........

กับทั้งหมดที่เคยพยายามทำมา นับจากนี้ต่อไป พอกันที

ในช่วงชีวิตของคนเรา ต้องมีสักครั้งหนึ่งล่ะ ที่รู้สึกอย่างนั้น
และขอแสดงความยินดี กับคนที่ผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้

โยโกะ ก็เช่นกัน ในโลกนี้ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ผิดหวัง

คนที่ไขว่คว้าโอกาสไม่ได้ กับคนที่ไม่มีโอกาสให้ไขว่คว้านั้นต่างกัน

โยโกะสอบไม่ผ่านครั้งนี้ ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสครั้งต่อไป ตราบใดที่ยังสู้และยังไม่ทิ้งความตั้งใจ

หนทางยังมี

เทียบกัน กับ นากาฮาระ โชตะ (เรียว นิคิชิได) ที่ใฝ่ฝันมาแต่ต้น ลงทุนลงแรงมาจนเรียนจบการบิน
แต่โอกาสกลับเป็นศูนย์ไปทั้งชีวิต โยโกะที่แค่นึกสนุกอยากเป็นแอร์โฮสเตสขึ้นมาเพราะผู้ชายคนนึง
ผ่านการคัดเลือกมาแบบฟลุ้คๆ เข้ารับการฝึกหัดมาไม่เท่าไหร่ อย่าอ่อนแอนักเลย

แค่นี้ยังเป็นเพียงเริ่มต้นเท่านั้น

แค่บทพิสูจน์ว่า นี่ไม่ใช่เรื่องแผลงๆ สนุก ไม่ใช่เรื่องที่ทำเพื่อลบคำสบประมาทใด แต่เป็นการมองเห็นค่า และนึกรักอาชีพนี้ขึ้นมาจริงๆ ทั้งหมดต่อไปนี้ คือการ รักจริงทำจริง ไม่ได้ทำเพื่อใครอีกแล้ว

แต่จะทำเพื่อตัวเอง

เหล่านี้แหละค่ะ Attention Please ที่ไม่มีเนื้อหาอะไรมากนัก แต่เอาจริงเอาจังกับการใส่รายละเอียดขั้นตอนของการฝึกฝนแอร์โฮสเตส ไม่ได้ฝึกให้แค่มารยาทและความสวยงาม แต่ฝึกทักษะ ความรู้ ความมั่นใจ เพื่อจะจัดการกับปัญหาแต่ละสิ่งจากผู้โดยสารแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม ต้องฝึกฝนความมีระเบียบวินัยอย่างเข้มงวด ซึ่งสำคัญและจำเป็นต่อการทำงานในสายการบิน แม้แต่ความสวยก็มีเหตุผลที่ต้องสวย ให้ผู้โดยสารมองหน้าแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ไม่แต่งอ่อนไป ไม่เข้มไป ต้องดูสว่างสดใสอยู่เสมอ รูปร่างที่ต้องหุ่นดีสมส่วนเพื่อความคล่องตัว เพราะทางเดินในเครื่องบินแคบ ห้องครัว ห้องอุปกรณ์คับแคบ (นั่นคือเหตุผลที่แอร์โฮสเตสต้องไม่อ้วน) เพื่อหยิบจับสัมภาระ เครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องกู้ภัยที่มีน้ำหนักไม่น้อย นั่นคือเหตุผลที่แอร์โฮสเตสต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง แม้แต่รอยยิ้มก็ต้องฝึกให้ผู้โดยสารเห็นแล้วรู้สึกอุ่นใจ แม้แต่น้ำเสียง ไม่ใช่อ่อนหวานอย่างเดียว ไม่ใช่ราบเรียบไร้อารมณ์ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเป็นอันตราย ต้องสั้น เร็ว เข้ม และดังเพื่อกระตุ้นให้ผู้โดยสารตื่นตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

กัปตันและผู้ช่วยนักบิน มีหน้าที่บังคับควบคุมเครื่อง แต่จะขับเครื่องบินไปอย่างสบายใจได้อย่างไร หากไม่อาจมั่นใจว่าแอร์โฮสเตสสามารถควบคุมห้องโดยสารทั้งลำไว้ได้

นั่นคือจุดที่ละครชี้ให้เห็นคุณค่าของอาชีพ

ดูแล้วจรรโลงใจดีจริงๆ



ในส่วนของนักแสดง ถ้าจะชมใครสักคนต้องเป็นเธอคนนี้

มิคามิ ทามากิ (แสดงโดย มายะ มิกะ) อดีตแอร์โฮสเตสผู้มีความสามารถสูงและมีชื่อเสียงเป็นตำนานในวงการแอร์ฯ เธอผันตัวเองมาเป็นอาจารย์สอนแอร์โฮสเตส หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น "ครูฝึก" สุดเนี๊ยบ เรียบหรู และดูสวยสง่า (แม้ว่าจะสูงวัยแล้ว)

เข้มงวดต่อลูกศิษย์ อ่อนน้อมต่อเจ้านาย วางตัวดีต่อเพื่อนร่วมงาน ไม่แสดงอารมณ์ ไม่โต้ตอบเมื่อถูกกระทบกระเทียบ ยืนหยัดในอุดมการณ์ของการเป็นครูฝึก ไม่มีไหวเอนไปตามกระแสความคิดใดๆ

คณะกรรมการที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุด ยังยอมให้โยโกะผ่าน แต่ครูฝึกประจำชั้น เป็นคนเดียวที่คัดค้านและปรับตก มิซากิ โยโกะ

บทของเธอน่าชื่นชม และเธอผู้เป็นนักแสดงก็แสดงดีไม่มีอะไรจะติ

นักแสดงสมทบอื่น

วาคามุระ ยาโยอิ (แสดงโดย ไอบุ ซากิ) เพราะถูกโยโกะล็อดคอลากเข้าห้องน้ำ สาเหตุเพราะเธอมาด้วยมาดร็อคเต็มขั้น แต่ไอ้หย๋า ชาวบ้านเค้าใส่สูทเนี๊ยบมากันทั้งนั้น ขอเปลี่ยนหน่อยเถอะนะ โยโกะยืมชุดจากยาโยอิ (หรือจะเรียกว่าบังคับเปลี่ยนชุด น่าจะถูกต้องกว่า) ใส่เข้าไปในห้องสัมภาษณ์ เมื่อผ่านการคัดเลือกเข้ามาเป็นแอร์โฮสเตสฝึกหัดคลาสเดียวกัน จึงกลายเป็นเพื่อนสนิท ยาโยอิ เป็นลูกสาวร้านโซบะที่เพื่อนๆ ชอบไปรวมตัวกัน โยโกะโปรดปรานรสชาดโซบะที่ร้านของยาโยอิมาก และยังสนิทกับพ่อของยาโยอิด้วย

ยาโยอิ แอบชอบ โชตะ มาตลอด แต่เพราะเพื่อนที่อยู่ด้วยกันเสมออย่างโยโกะไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงมาก่อน จึงไม่มีสายตาจะมองเห็นความรู้สึกของเธอ และยังกลายเป็นตัวทำลายโอกาสของยาโยอิแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่อยู่ทุกครั้ง ยาโยอิพาลโกรธเอากับเพื่อน และโยโกะก็เช่นเคย คือไม่เข้าใจอารมณ์หญิงๆ (ที่พลาดนัดจากเดทแรก) น้ำผึ้งหยดเดียวที่นำไปสู่การทะเลาะกันแทบแตกหัก

เรื่องนี้ ไอบุจากดูเด็กๆ ใสๆ แก้มอูมป่อง น่ารักอยู่เลย ( หลังๆ ความน่ารักหายไปไหน ? หรือความน่ารักเปลี่ยนแปลงไปตามบทบาทการแสดง ?)

เซกิยาม่า ยูกิ (แสดงโดย โอซูกะ ชิฮิโร่) สาวขี้อาย กลัวความสูง และขาดความมั่นใจ ทำให้การฝึกของเธอไม่ค่อยราบรื่นนัก แต่ก็ได้กำลังใจและความช่วยเหลือจากยูกิและโยโกะจนผ่านพ้นปัญหาไปได้ ยูกิมีฐานะดี และฝันอยากเป็นแอร์โฮสเตสเพราะแรงบันดาลใจจากคุณพ่อที่เป็นกัปตันขับเครื่องบิน

ฮิโรตะ ซาโอริ (แสดงโดย อุเอฮาระ มิสะ) แฟนเก่าของท่านจิอากิ จากเรื่องโนดาเมะ นั่นเอง เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ชื่นชอบ ไม่ถูกกันเลยกับโยโกะ แดกดัน ประชดประชันกันตลอด แม้ภายหลังจะสัมผัสลึกเข้าไปในจิตใจที่เป็นเบื้องหลังพฤติกรรมแสดงออกและปรับความเข้าใจกันได้ ซาโอริก็ยังคงคอยประชดประชันโยโกะไม่เคยเปลี่ยน เพราะนั่นคือบุคลิกของเธอ น่ารัก น่าหมั่นไส้ ไปอีกแบบ

กับเธอคนนี้ไม่รู้เป็นอะไร ใช่ว่าเธอจะเป็นคนสวยมากมาย แต่เห็นเธอในละครเมื่อไหร่ จะรู้สึกว่าเรื่องนั้นจะสนุกทุกที ชอบมากค่ะ

อาโซ คาโอรุ (แสดงโดย ฟูอิโกะ ยูโกะ (ยูมิน) ) เคยได้ยินแต่ชื่อ เพิ่งเห็นหน้าเห็นตากันชัดๆ นี่แหละค่ะ กับนักแสดงเกาหลีที่ชื่อยูมิน เธอรับบทเป็นแอร์โฮสเตสรุ่นพี่ รั้งตำแหน่งมิสแอร์โฮสเตสประจำเดือนเมษายน เป็นคนที่ คุณพ่อของยาโยอิแอบปลื้ม และโยโกะก็ชอบรุ่นพี่คนนี้ด้วย แต่ความซุกซนของโยโกะไปทำเรื่องให้คาโอรุเดือดร้อน สองคนจึงมีปัญหากัน

คาโอรุ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของคนที่ไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาปนกับงาน แม้ปากจะพูดคล้ายกับว่ากำลังรอคอยเล่นงงานอยู่เมื่อโยโกะขึ้นเครื่องมาเป็นรุ่นน้อง และชวนให้คิด..เธอคืออีกหนึ่งสิ่งกีดขวางในเส้นทางแอร์โฮสเตสของโยโกะ คิดว่าเธอจะเก็บความแค้นมากลั่นแกล้งรุ่นน้อง ผิดถนัด! เอาเข้าจริง คาโอรุเป็นคนตรงไปตรงมากับเรื่องงานมาก

ซึซึมิ ชูซูเกะ (แสดงโดย โคอิซูมิ โคทาโร่) นักบินฝึกหัด ที่หัดมานานยังสอบไม่ผ่านการเป็นนักบินที่สองจริงๆ ซักที (นักบินที่สอง คือ ผู้ช่วยกัปตัน) เหตุบังเอิญทำให้กลายเป็นเพื่อนกับโยโกะแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก และยังคอยตามจีบซาโอริด้วย มีนิสัยเจ้าชู้และชอบวางมาดนักบินกับสาวๆ ไปทั่ว

นึกว่าใครที่ไหน หน้าคุ้น ๆ "โตคุระ วาตารุ" หนุ่มนักออกแบบผลิตภัณฑ์ผู้ตกกกระป๋องจากการดูแลโปรเจ็กต์สินค้าต่างๆ ที่สำนักงานใหญ่ไปเป็นพนักงงานรับเรื่องร้องเรียนที่แผนกบริการลูกค้าในศูนย์ Call Center บ้านนอกจากเรื่อง Call Center No Koibito นั่นเอง หน้าตาไม่อ่อนไม่แก่จากเดิมเลย เห็นปุ๊บจำได้ปั๊บ

*****




และเมื่อพูดถึงละคร ตัวละคร จะไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของคู่พระ-นาง เป็นไปไม่ได้ ต่อให้ไม่มีความรัก ความชอบพอ ก็ยังคงประเด็นนี้ไว้เป็นหัวข้อสำหรับการบ่นอยู่ดีนั่นแหละค่ะ

ดูละคร ย่อมต้องอยากเห็นพระ-นาง รักกันสิคะ แม้จะชินแล้วกับละครญี่ปุ่นที่ไม่หวานไม่แหววและไม่ต้องรักกันมากมาย ขาดเธอไปฉันจะตายให้ได้ หรือบางเรื่องก็มีประเด็นอื่นให้มุ่งนำเสนอมากกว่าจะมาเสียเวลากับความรัก แต่ถ้ามีให้เห็นก็เป็นของแถม ดีใป ชอบใจ และ แฮปปี้ๆ

เรื่องนี้ไม่หวานเช่นกัน แต่โดยรวมแล้วน่ารักค่ะ

โยโกะ ที่ไม่ชินกับการมีเพื่อนหญิง เมื่อบังเอิญมารู้จักกับโชตะ แต่เคยมีแต่เพื่อนผู้ชายนี่ จึงทำตัวเป็นเพื่อนกับโชตะทันที เขาจะอยากเป็นเพื่อนตัวหรือเปล่าไม่รู้ล่ะ

มองผ่านตัวละครโชตะ

คนอื่นเขาเรียกกันสุภาพ นากาฮาระซัง ยัยนี่มาจากไหนกัน โผล่มา ก็เรียกอยู่ได้ โชตะๆ สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ (เข้าข่าย โยโกะเป็นเพื่อนโชตะ แต่โชตะเป็นเพื่อนโยโกะหรือเปล่า นั่นอีกเรื่องนึง)

ยัยเด็กกะโปโล สภาพแบบนี้น่ะเหรอ จะมาเป็นแอร์โฮสเตส

ฝึกลิงยังง่ายกว่ามั้ย

เอาแต่พูดๆๆๆ ตามความคิดของตัวเอง ไม่เคยแคร์ความรู้สึกใคร
พูดมาทีไร จี้ใจดำ ทำร้ายความรู้สึกกันทุกที จะไม่ให้โกรธจนต้องเดินหนีได้ไง

แล้วพออีกวันสองวันไม่รู้ผีตัวไหนมาเข้าฝัน โผล่หน้าหงอยๆ มาแสดงความสำนึกได้ ยอมรับผิด เอ่ยปากขอโทษ ที่โกรธก็ต้องยอมหายโกรธ

นิสัยแบบนั้น บทจะเอาจริงก็ทำได้เหมือนกันนี่ แต่..เรื่องจะเอ่ยปากชมไม่มีเสียล่ะ
เดี๋ยวเหลิง.. คอยเฝ้าดู และคอยรับฟังอยู่ห่างๆ ละกัน
เมื่อล้มลงไป จะอยู่กับเธอตรงนั้น ยื่นมือออกไปและฉุดดึงขึ้นมา

ขนาดไม่เคยเอ่ยถาม คุณเธอยังชอบแจ้นมาเล่า อยากฟังหรือเปล่าไม่รู้ล่ะ ขอแค่ได้บ่นก็พอ

แต่กับปัญหาใหญ่ที่สุด กลับไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ปั้นหน้ายิ้มอยู่ได้
น่าโมโหสุดๆ

****


ไปๆ มาๆ ก็เลยลงเอยที่ความรู้สึกเดียวกัน

****


เรื่องทั้งเรื่อง เท่าที่จำได้โชตะโดนตัวโยโกะครั้งเดียวเองมั้ง คือ กระชากแขนตอนที่จับได้ว่าโยโกะโกหกและเธอกำลังจะเดินหนี

ละคร อาจไม่ต้องมีอะไรมาก ไม่ต้องใส่สายเดี่ยวให้ล้นทะลัก ไม่ต้องใส่สั้นคืบเดียว ไม่ต้องแต่งหน้าจัด โปะแป้งเนียนกิ๊ก ไม่ว่ายามตื่น ยามกิน หรือยามนอน ไม่ต้องวางยาในน้ำส้ม ปลุกปล้ำ ก่นด่า หรือตบตีกัน

ถ้าทำเนื้อหาน่าสนใจ ละครสนุกได้

ตัวละครกับการห่วงใย คอยเป็นเพื่อน ดูแลช่วยเหลือกัน ก็เป็นที่มาตามธรรมชาติของความรู้สึกดีๆ ที่เรียกว่ารักอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรักเพื่อน รักครอบครัว หรือความรักในแบบของคนรัก

ซึ้งได้ แม้จะไม่หวานแหวว หรือโรแมนติกอะไรนัก

ชอบค่ะ น่ารักดี

สำคัญยิ่ง ดูแล้วมุมมองเปลี่ยนไป แอร์โฮสเตส ไม่ได้มีดีแค่สวย
แต่เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เท่ไม่เป็นสองรองใคร

เรื่องนี้ไม่รู้ทำให้อัตราแอร์โฮสเตสฝึกหัดพุ่งสูงขึ้น เหมือนอัตรานักเรียนการบินที่ Good Luck ของป๋าทาคุยะเคยทำกระแสได้หรือเปล่าไม่รู้นะ

 




***


ขอบคุณ

ศูนย์รวมซีรีย์ดีๆ ที่ยังมีซีรีย์เก่าๆ เรื่องนี้ให้ดูที่
//series-8.blogspot.com
Create Date :12 กรกฎาคม 2553 Last Update :22 กุมภาพันธ์ 2558 8:49:40 น. Counter : Pageviews. Comments :7