เมื่อฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงรักกัน

ก็เพราะชื่อ ภาษาไทยของเรื่องนี้แหละค่ะ ที่ทำให้ ในช่วงเริ่มแรกที่สนใจหาซีรีย์ญี่ปุ่นมาดูทำให้มองข้าม เรื่องนี้ไปอยู่หลายครั้ง ก็มันฟังดูเครียดๆ นะคะ

แต่ก็นะ...ระหว่างที่ค้นหาซีรีย์แนะนำจากชาวอินเตอร์เน็ตทั้งหลายอยู่นั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถ้าพูดถึงซีรีย์ญี่ปุ่น เสียงลือเสียงเล่าอ้างถึง Takuya Kimura นั้น มันช่างล้นหลาม

"ถ้าอยากดูซีรีย์ญี่ปุ่น ต้องเริ่มดูจากซีรีย์ของทาคุยะ"

"ซีรีย์ที่ทาคุยะเล่น สนุกทุกเรื่อง"

"ทาคุยะ คิมูระ พระเอกยอดนิยมตลอดกาล"

อะไรประมาณนี้แหละค่ะ  ก็เลยต้องหามาดูสักหน่อย และการดูภาพในอินเตอร์เน็ตนั้น ขอบอกว่าไม่สามารถจะมองเห็นความหล่อของพระเอกซีรีย์ญี่ปุ่นได้ชัดเจนนัก ดูรายไหนเป็นอันไม่หล่อทุกรายไปสิน่า อันนี้เป็นเพราะอะไรเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ก็เพราะรูปนี้ ที่ทำให้เลือก Pride จากซีรีย์หลายๆ เรื่องของทาคุยะมาดูเป็นเรื่องแรก

อืม...เหมือนว่าจะหล่ออยู่เหมือนกันแฮะ...ชุดก็เท่ห์พอสมควร



อ๊ะ! ยิ้มน่ารักด้วย



ดูเหมือนว่าชุดนักกีฬาฮอกกี้....จะเท่ห์มากเลยนะ



แต่พอเปิดฉากออกมาในห้องพักนักกีฬาก่อนที่จะออกไปเริ่มแข่งขัน เอ๋...ไงหว่า ? ไหนว่าทาคุยะหล่อนักหนา แล้วทำไมหน้าตาแปลกๆ เอาน่า รอดูอีกหน่อย อาจจะเหมือนพระเอกหนังเกาหลีก็ได้ที่ต้องดูไปสักพักให้ชินก่อน แล้วจะเริ่มรู้สึกว่า เออ หล่อดีเหมือนกันแฮะ ยิ่งถ้าเล่นบทดีๆ  รัศมีความหล่อก็จะเปล่งประกายดั่งแสงออร่า ล่า ลัน ล้า จากนั้น ก็จะค่อยๆ หลงรักผู้ชายหล่อๆ เหล่านั้นแบบหัวปักหัวปำ

ก็บอกแล้วว่า ดูแรกๆ ไม่เห็นความหล่อ และสงสัยอยู่ว่า  หล่อตรงไหน ?  แต่พอเหล่านักฮอกกี้สวมชุดลงสนาม ซึ่งก็รวมถึงทาคุยะ พระเอกของเราด้วย แต่น แตน แต๊นนนนนนน

ปิ๊ง !



อ๊ายย!!! ทำไมถึงได้หล่อและเท่ห์มากมายอะไรอย่างนี้ แต่ก็นะถือว่าชุดฮอกกี้ช่วยได้เยอะเลย และลีลาที่พลิ้วไปบนลานน้ำแข็งก็ทำให้ตกหลุมรัก ทาคุยะ คิมูระ คนนี้ทันที จากนั้นก็กลายเป็นภารกิจสำคัญให้ต้องกระทำ นั่นคือการตามหาซีรีย์เรื่องอื่นๆ ของทาคุยะมาดู เพราะหลังจากดูเรื่อง Pride แล้ว เชื่อว่าชายหนุ่มคนนี้คงไม่ได้ดังเพราะหน้าตาอย่างเดียว อ่านจากประวัติในเน็ตที่พอจะเสิร์ชหาดูได้แล้ว เชื่อว่าช่วงเวลาอันยาวนานที่เขาอยู่ในวงการนี้มา คงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าอยู่มาได้ด้วยฝีมือของนักแสดงระดับแนวหน้าของวงการจริงๆ ไม่งั้นคงไม่ได้รับฉายา

"Prince แห่งวงการซีรีย์ญี่ปุ่น" (เคยอ่านเจอคนพูดถึงอย่างนั้น)

ว่าแล้วก็กลับมาเข้าเรื่อง Pride กันดีกว่า

เนื้อเรื่องและนักแสดงไม่ได้ทำให้ผิดหวัง โดยเฉพาะนางเอก ยูโกะ ทาเคอุฉิ ที่รับบท อาคิ มุราเสะ นั้น เธอน่ารักสุดๆ ไปเลย ยิ้มออกมาทีเหมือนว่ามันทำให้โลกสดใสขึ้นทันตา



เรื่องย่อ



Pride เป็นเรื่องราวของเหล่านักกีฬา Semi-Pro Ice Hockey Team ตัวเด่นที่ดำเนินเรื่องคือบรรดาหนุ่มๆ ที่เป้นนักกีฬา Ice Hockey ของทีมบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีฮารุเป็นดาวเด่นของทีม ตอนแรกนั้นมี อันไซเป็นโค้ชของทีมซึ่งเขาเป็นแบบอย่างและเป็นแรงบันดาลใจให้กับ ฮารุในการเล่นไอซ์ฮอกกี้ตลอดมา เขาบอกฮารุเสมอว่าไม่ควรมีความรัก เพราะ นักไอซ์ฮอกกี้ไม่สามารถจะเล่นได้ดีหากไม่อุทิศตนเพื่อเกมกีฬาอย่างจริงจัง การที่มีความรักอาจทำให้ความมุ่งมั่นในการเล่นกีฬาลดน้อยลง และคุณจะไม่มีวันเล่นมันอย่างไม่เกรงกลัวอะไรหากมีภรรยาและลูก หรือคนที่รักคอยห่วงอยู่ข้างหลัง ดังนั้นขอให้คิดซะว่าความรักเป็นเพียงเกมๆหนึ่งอย่าได้ไปจริงจังกับมัน

ในตอนนี้โค้ชอันโค้ชไซรักฮารุมาก และแทนที่จะใช้เวลาเฮือกสุดท้ายกับภรรยาและลูก เขากลับขอให้ฮารุมารับเพื่อพาออกจากโรงพยาบาลไปกับ Hotta เพื่อใช้เวลาที่เหลืออยู่สอนฮารุเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจตรงนั้น

ปกติหลังจากจบเกมการแข่งขันและในนัดล่าสุดที่ Blue Scorpions ได้รับชัยชนะอีกครั้ง บรรดาสมาชิกในทีมต่างก็มาสังสรรค์กันที่บาร์แห่งหนึ่งใกล้ๆชื่อว่า Face Off หนุ่มๆในทีมที่สนิทสนมกันนอกจากฮารุ, Hotta แล้วก็ยังมี Ikegami ต่างก็เป็นหนุ่มโสดและมักเสวนากันเรื่องความสัมพันธ์และการออกเดทกับสาวๆ และฮารุในฐานะที่เป็นกัปตันทีมก็ให้คำแนะนำกับเพื่อนร่วมทีมว่าความรักเป็นเพียงแค่เกมๆ หนึ่ง

ระหว่างที่คุยกันอยู่นั่นเองพวกเขาก็เหลือบไปเห็นสาวๆ ที่นั่งอยู่ชั้นล่าง 3 คน และเริ่มพนันกันว่าฮารุจะสามารถทำให้ความรักเป็นเพียงแค่เกมๆ หนึ่งได้จริงหรือไม่ ฮารุปฏิเสธคำท้า จนกระทั่งเขาได้เห็นอากิแล้วเอ่ยว่า

“เธอดูเหมือนสาวที่มาจากยุคโบราณเลย”

หลังจากนั้นฮารุก็เริ่มปฏิบัติการเรียกร้องความสนใจจากอากิแล้วขออีเมลจากเธอ



อาคิพนักงานสาวสวยของบริษัทบลูเทคโนอินเตอร์เนชั่นแนลซึ่งเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของทีม "บลูสกอร์เปี้ยน" ที่จริงเธอมีแฟนอยู่แล้ว แต่เขาไปเรียนต่อต่างประเทศ และปล่อยให้เธอเฝ้าแต่รอคอยมานานถึง 2 ปี โดยที่ไม่เคยได้รับข่าวคราวจากเขาเลย ทั้งที่บอกให้เธอรอและสัญญาว่าจะติดต่อกลับมา ดังนั้น ฮารุจึงคิดว่าเธอเหมาะที่จะลงเล่นในเกมแห่งความรักนี้กับเขา เพราะทั้งเขาและเธอ ไม่จำเป็นต้องมีอะไรผูกมัดกันและคบกันอย่างไม่จริงจัง ฮารุบอกกับอากิว่า หากแฟนของเธอกลับมาเมื่อไหร่ก็เป็นอันเกมโอเวอร์ คือจบกันแค่นั้น เขาจะเดินจากไปแต่โดยดี หรือจะเรียกง่ายๆ คือ ตกลงมาคบกันเพื่อเป็นการฆ่าเวลา ไปจนกว่าฮารุจะได้เริ่มต้นความสัมพันธ์กับใครอย่างจริงจังหลังจากที่เขาเลิกเล่น Ice Hockey ส่วนอากิก็คิดว่า ในระหว่างที่รอแฟนหนุ่ม การยอมคบกับเขา มันคงไม่มีอะไรต้องเสีย

และนั่นเอง กลายเป็นจุดเริ่มต้นของคนสองคน ที่ใครจะรู้ว่ามันไม่ใช่แค่เพียงเกมๆ หนึ่งในเวลาต่อมา



เป็นซีรีย์ที่นำเสนอความสัมพันธ์ในหลายๆ แบบ ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน และความสัมพันธ์ระหว่างคนรัก ที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความรักในแง่มุมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ตัวละครในเรื่องก็ล้วนแล้วแต่มีปมหลังที่น่าสนใจ ทั้งตัวของพระเอกนางเอกเอง ตลอดไปจนถึงกลุ่มเพื่อนร่วมทีมฮอกกี้ของพระเอก และเพื่อนสาวที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกันของฝ่ายนางเอก

เรื่องนี้..ทาคุยะในบทของฮารุจะมีบุคลิกเป็นคนมีเสน่ห์ มั่นใจในตัวเองสูง เขาเป็นนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ที่อยู่ในระดับซุปเปอร์สตาร์ จึงไม่ขาดแคลนสาวๆ แวดล้อม แต่การที่ถูกแม่ทิ้งไปตั้งแต่เด็กๆ ก็ทำให้เขามองความรักในด้านที่ต่างไปจากคนอื่น และการที่เขาเป็นชาวน้ำแข็งอาชีพที่เสี่ยงกับการบาดเจ็บพิการ ก็ยิ่งทำให้เขาไม่อยากมีความรักที่จริงจังกับใคร นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นเกมรักระหว่างหนุ่มใบไม้ผลิ กับสาวใบไม้ร่วง (ชื่อ ฮารุ แปลว่า ฤดูใบไม้ผลิ และ อากิ แปลว่า ฤดุใบไม้ร่วง ซึ่งในญี่ปุ่นจะมี 4 ฤดูกาล คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน  ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ในเรื่อง ฮารุ และ อากิ จะเปรียบความหมายของชื่อกับความสัมพันธ์ของพวกเขา 2 คน นั่นคือ ไม่ว่ายังไง ฤดูใบไม้ผลิ กับ ฤดูใบไม้ร่วง ก็ไม่มีทางเชื่อมต่อกันได้อยู่แล้ว เกมรักของพวกเขา จึงไม่มีอะไรต้องห่วง ประมาณนั้นแหละค่ะ)

ส่วนนางเอกของเรื่อง อากิ เธอเป็นสาวหัวโบราณ ทุกวันอาทิตย์เธอจะไปรอคนรักซึ่งไปต่างประเทศ และไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย กว่า 2 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังยึดมั่นกับการรอคอยมาตลอด ด้วยความหวังว่าคนรักจะกลับมา และแต่งงานกันตามที่สัญญาไว้  สำหรับฮารุเธอเป็นเหมือนผู้หญิงที่มาจากศตวรรษที่แล้ว และเป็นผู้หญิงที่เอาแต่เฝ้ารอ เขาจึงชวนเธอมาเล่นเกมรักชั่วราวนี้ และ อากิ ก็ตอบตกลง โดยทั้งคู่ต่างนึกไม่ถึงว่าเกมๆ นี้จะส่งผลอะไรตามมาบ้าง 



ทางด้านเพื่อนของพระเอกนางเอก ก็จะมีหลายบุคลิกบางคนดูเป็นคนอ่อนโยน ใจดี แต่เขากลับเคยทำให้คนตายมาก่อน แถมสาวที่หมายปอง(เพื่อนของอากิ)ก็ชื่นชอบเขาเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเขารวย ขณะที่เพื่อนอีกคน รวยจริง พ่อเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โต แต่เพราะแม่เป็นแค่เมียน้อย ไมค่อยได้รับการยอมรับ เขาจึงประชดชีวิตด้วยการใช้มันอย่างไร้แก่นสารแบบอยู่ไปวันๆ เพื่อผลาญเงินพ่อแม่ให้หมดไป จนกระทั่งได้มาพบการเล่นฮอกกี้และเป็นเพื่อนกันกับพระเอก มากกว่านี้ก็ยังมีอีก นั่นคือ ความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกับครอบครัวของโค้ชอันไซที่เขาเคารถนับถือ แต่เมื่อโค้ชอันไซเสียชีวิตไป ได้โค้ชคนใหม่มาแทนก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันกับพระเอกของเรานัก สรุปคือเรื่องนี้ก็เป็นซีรีย์อีกเรื่องหนึ่งที่มีอะไรดีๆ อยู่เยอะ และชอบอย่างมากมาย การดำเนินเรื่องก็กระชับฉับไว ไม่มีอะไรให้ยืดเยื้อน่าเบื่อเลย

สำหรับเรา การที่คนๆ หนึ่งจะสามารถหยิบซีรีย์ที่ดูไปแล้ว มาดูซ้ำอีกทีนั้น มันเกิดขึ้นไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ แต่ Pride ก็เป็นหนึ่งในความไม่ง่ายไม่ดายนั้น สิ่งที่ชอบในซีรีย์เรื่องนี้ก็คือการเล่นไอซ์ฮอกกี้ ที่เสริมบทบาทให้ทาคุยะโดดเด่นและได้ใจไปมากมาย  จริงๆ แล้ว ควรจะเรียกว่า เทใจให้เลย
 


และจากที่ดูซีรีย์ของทาคุยะในอีกหลายๆ เรื่องต่อมา ก็บอกได้ว่าแม้จะมีนักแสดงชายที่ชอบพอ (พูดเหมือนว่าเป็นแฟนเลยนะ) อยู่ในใจหลายคนที่หน้าตาดีกว่าทาคุยะตั้งมากมาย แต่ว่านะไม่มีใครเลยที่จะมีผลงานการแสดงให้รู้สึกชื่นชอบและชื่นชมได้มากมายหลายเรื่องอย่างที่ทาคุยะทำได้ ก็เลย ซูฮกให้เป็นพระเอกเบอร์ 1 ในใจเลยนะ ในฐานะนักแสดงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถทางการแสดง  ข้าน้อยขอยกน้ำชาคารวะ