ริมฝั่งแม่น้ำหัวใจสลาย: พิบูลศักดิ์ อ้อยอิ่งอยู่กับสองสามหน้าสุดท้ายของ "ริมฝั่งแม่น้ำหัวใจสลาย" ด้วยหลากหลายความรู้สึกระคนกันไป เหมือนเราได้ใช้เวลาช่วงหนึ่งกับมนุษย์ "อนาล็อก" คนสุดท้ายที่จดจารบันทึกของเขาลงบนกระดาษปาปิรุสหยาบแข็งกลางเสียงระงมของอึ่งอ่างคางคกหลังฝนตกในเดือนกันยายน ก่อนที่เสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือจะผุดขึ้น และเครือข่าย 3G จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปตลอดกาล เรายินดีที่ได้ใช้ชัวิตช่วงหนึ่งร่วมยุคสมัยกับเขาและร่วมรำลึกถึงวันเวลาเหล่านั้นร่วมกัน ไม่ได้รู้สึกกับหนังสือเล่มใดแบบนี้มานานแล้ว การอ่านมันทำให้เราหวนนึกถึงวันเวลาเก่า ๆ ที่ถึงที่สุดแล้วก็ได้แต่เพียงคืดถึง สายธารของโลกไหลไปสู่อนาคตอย่างเชี่ยวกรากโดยเราไม่อาจขวางกั้นได้ แต่มันก็เป็นความชอบธรรมของเราที่จะเหลียวไปมองมันอย่างอาลัยอาวรณ์กับอดีตที่นับวันจะถอยห่างออกไปไกลขึ้นทุกที ส่วนหนึ่งของเรื่องนี้เป็นความเรียง และบางส่วนเป็นเรื่องสั้น แต่ส่วนที่บีบคั้นความรู้สึกของเราคือการที่เราไม่รู้ว่าส่วนไหนเป็นเรื่องจริงและส่วนไหนเป็นเรื่องเล่า เหมือนวันเวลาเก่า ๆ ของเรานั่นแหละ มันพร่าเลือนและอยู่ไกลแสนไกลจนบางทีเราก็ยังสงสัยอยู่ว่ามันเคยมีอยู่จริงหรือเปล่า มันทำให้ผมนึกย้อนกลับไปถึงสมัยเมื่อสักสามสิบปีก่อน เราเคยยืนดูหนังสือ "ชูมาน" เอามือล้วงกระเป๋านับเหรียญทั้งหมดที่มีคำนวนว่ามันพอจะซื้อหนังสือเล่มบาง ๆ นี้มาอ่านหรือเปล่า มันนานมาแล้วแต่เราก็ยังจำได้ว่ามันเป็นชั้นสองของโรงอาหารในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่จัดงานสัปดาห์ห้องสมุดและมีร้านขายหนังสือมาร่วมงาน ...และวันนั้นเรามีเงินไม่พอ อดีตช่างโหดร้ายกับเราเสียจริง ๆ |
บทความทั้งหมด
|