Paris, I love you บอก‘ปารีส’ว่า...รัก


Paris, I love you
บอก‘ปารีส’ว่า...รัก

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 29 เมษายน 2550


*ไม่รู้ว่านิยาม “เมืองแห่งความรัก” ของกรุงปารีสเริ่มต้นเมื่อใด แต่นิยามดังกล่าวเป็นจุดเริ่มของหนังนานาชาติปี 2006 เรื่อง Paris, je t’aime หรือ Paris, I love you

ที่ว่าเป็นหนังนานาชาติเพราะแม้จะใช้ฉากกรุงปารีสล้วนๆ แต่หนังเป็นการร่วมสร้างของบริษัทหลากสัญชาติ ที่สำคัญ บุคลากรที่ถูกระดมมาเสกสรรค์ปั้นแต่งนิยามสวยหรูให้กับปารีสในครั้งนี้มาจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งเอเชีย แอฟริกา อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป ไปจนถึงออสเตรเลีย ประกอบด้วยผู้กำกับฯและนักแสดงชื่อดังหลายคน

ถ้านี่คือแผนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวกรุงปารีส ต้องถือว่ายอดเยี่ยมเหลือเกิน

Paris, I love you คือหนังสั้นจำนวน 18 เรื่อง โดย 23 ผู้กำกับฯ(บางเรื่องกำกับฯ 2 คน) โดยแต่ละเรื่องจะถูกกำหนดให้ใช้ฉากต่างกัน แบ่งตาม “อาร็องดิสเซอม็อง” (arrondissement) ซึ่งหมายถึงเขตหรืออำเภอของกรุงปารีส ทุกคนต้องทำงานภายใต้กรอบเดียวกัน นั่นคือจำนวนวันที่ใช้ถ่ายทำเพียง 2 วัน และผลงานต้องมีความยาว 5 นาที ส่วนจะสร้างสรรค์เรื่องราวเช่นไรนั้นขึ้นอยู่กับผู้กำกับฯแต่ละคน

อันที่จริง จำนวนหนังสั้นต้องมี 20 เรื่อง เท่ากับจำนวน 20 เขต ของกรุงปารีส แต่ผลงานของ คริสโตเฟอร์ โบ ผู้กำกับฯหนุ่มชาวเดนมาร์ก กับของ ราฟาเอล นัดจารี ผู้กำกับฯชาวฝรั่งเศส-อิสราเอล ถูกตัดออกเสียก่อน

มาดูกันว่า 18 เรื่องราว มีอะไรบ้าง(เรียงตามลำดับในหนัง)

Montmartre (18th arrondissement) กำกับฯโดย บรูโน โปดาลีแดส์ คนทำหนังชาวฝรั่งเศส เกี่ยวกับการหาที่จอดรถลำบากยากเย็นในย่านเนินเขาแห่งปารีส ไม่ต่างจากการหาที่จอด “หัวใจ”

Quais de Seine (5th arrondissement) เกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่สนใจเด็กสาวชาวมุสลิม โดย กูรินเดอร์ ชาดา ผู้กำกับฯหญิงเชื้อสายอินเดีย เกิดที่เคนยา แต่เติบโตและอาศัยในอังกฤษ เป็นเจ้าของหนังดังเรื่อง Bend It Like Beckham (2002)

Le Marais (4th arrondissement) โดย กัส แวน แซนต์(อเมริกัน) เล่าถึงการพบกันของชายหนุ่ม 2 คน ซึ่งคำตอบของความรู้สึกเดินทางช้าเพราะติดขัดเรื่องการสื่อสาร แสดงโดย กัสปาด์ อุลลีล จาก Hannibal Rising

Tuileries (1st arrondissement) โดย โจล และอีธาน โคน(อเมริกัน) นักท่องเที่ยว(สตีฟ บุสเซมี่) นั่งรอรถไฟใต้ดินอยู่ดีๆ โชคร้ายตกเป็นเครื่องมือของคู่รักหนุ่มสาวชาวฝรั่งเศส


Loin du16e (16th arrondissement) วอลเตอร์ ซาลเลส และดาเนียล่า โธมัส สองนักทำหนังชาวบราซิล เล่าถึงหญิงสาวเชื้อสายละตินลูกอ่อนที่ต้องทำงานดูแลลูกคนอื่น แสดงโดย คาตาลีน่า ซานดิโน มอเรโน

Porte de Choisy (13th arrondissement) คริสโตเฟอร์ ดอยล์ ผู้กำกับภาพชาวออสซี่ ขาประจำของหว่อง กา ไว ขยับมากำกับฯเองบ้าง โดยจับเอาเสน่ห์ของแฟชั่นมาใส่ไว้ในย่านไชน่าทาวน์ของปารีส

Bastille (12th arrondissement) โดย อิซาเบล โกยเซต ผู้กำกับฯหญิงชาวสเปน ชายหนุ่มคิดจะหย่ากับภรรยา แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร

Place des Victoires (2nd arrodissement) ผลงานของ โนบุฮิโระ ซูวะ ผู้กำกับฯชาวญี่ปุ่น ถ่ายทอดอารมณ์ของแม่(จูเลียต บิโนช) ที่เพิ่งสูญเสียลูกชาย

Tour Eiffel (7th arrondissement) โลกหัวเราะของชายผู้เปลี่ยวเหงา แสดงโดยนักแสดงหน้าขาว ผลงานกำกับฯของ ซิลแว็ง โชเมต์(ฝรั่งเศส)

Parc Monceau (17th arrondissement) อัลฟองโซ คัวรอง(เม็กซิกัน) ถ่ายทำช็อตเดียวตลอดทั้งเรื่อง เป็นการนัดพบกันของชายสูงวัย(นิค โนลตี้) กับสาวสวย(ลูดิวีน ซานิเยร์)

Quartier des Enfants Rouges (3rd arrondissement) นักแสดงสาวชาวอเมริกัน(แม็กกี้ จิลเลนฮาล) ต้องการเพียงเพื่อนสักคนในค่ำคืนของปารีส กำกับฯโดยโอลิวิเยร์ อัสซายาส(ฝรั่งเศส)

Place des fetes (19th arrondissement) โอลิเวอร์ ชมิตซ์ จากแอฟริกาใต้ เล่าถึงหนุ่ม-สาวผิวสีมาพบกันในช่วงเวลาแห่งความ(สิ้น)หวัง

Pigalle (9th arrondissement) ริชาร์ด ลากราเวนีส(อเมริกัน) จับเอาสองนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างบ๊อบ ฮอสกินส์ กับแฟนนี่ อาร์ดังต์ มาปะทะคารมกันโดยมีโรงโชว์เป็นฉากหลัง

Quartier de la Madeleine (8th arrondissement) ความรักของแวมไพร์ โดยวิเชนโซ นาตาลี(แคนาดา) ได้ เอไลจาห์ วู้ด แสดง

Pere-Lachaise (20th arrondissement) ราชาหนังสยองขวัญอย่าง เวส คราเวน(อเมริกัน) เปลี่ยนแนวมาทำหนังสไตล์ยุโรปที่เน้นการแสดงและบทสนทนา เล่าถึงสามี-ภรรยานักท่องเที่ยวทะเลาะกันหน้าหลุมศพของ ออสการ์ ไวล์ด

Faubourg Saint-Denis (10th arrondissement) ทอม ทิคเวอร์ ผู้กำกับฯชาวเยอรมัน(แต่ชื่อออกเสียงแบบอังกฤษ) ได้ นาตาลี พอร์ตแมน แสดงเป็นนักแสดงชาวอเมริกันพบรักกับหนุ่มตาบอดชาวฝรั่งเศส

Quartier Latin (6th arrondissement) เชราร์ เดอปาร์ดีเยอ ดารารุ่นใหญ่ชาวฝรั่งเศส กำกับฯร่วมกับ เฟรเดอริค ออบูร์แตง เกี่ยวกับอดีตคู่รักวัยชรานัดพบพูดคุยกันฉันเพื่อน

14e arrondissement (14th arrondissement) สาวใหญ่ชาวอเมริกันเก็บเงินมาเที่ยวปารีสตามลำพัง เขียนบท-กำกับฯโดย อเล็กซานเดอร์ เพย์น


ไล่เรียงดูจะพบว่ามีหลายเรื่องหลายผู้กำกับฯพร้อมใจกันนำเสนอเรื่องราวของคนต่างถิ่นที่เดินทางมายังปารีส หรือเป็นคนเชื้อชาติอื่นซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ และใช้ความแปลกแยก ความเหงา โดยเฉพาะอุปสรรคด้านการสื่อสาร เป็นใจความหลักของความสัมพันธ์

ขณะที่ผู้กำกับฯอีกกลุ่มหนึ่งจะเน้นที่การโต้ตอบระหว่างตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนาหรือการกระทำ อันเป็นลักษณะของหนังยุโรป

นอกจากนี้ งานที่ต่างออกไปอย่างโชว์ของนักแสดงหน้าขาวโดยซิลแว็ง โชเมต์ แวมไพร์ขาว-ดำของวิเชนโซ นาตาลี และงานเน้นอารมณ์ตามสไตล์ผู้กำกับฯแดนปลาดิบของโนบุฮิโระ ซูวะ ทำให้ Paris, I love you ซึ่งมีถึง 18 ตอน เต็มไปด้วยความหลากหลาย และน่าจะเข้าถึงผู้ชมต่างชาติต่างภาษาทั่วโลกไม่มากก็น้อย

แม้จะอยู่ภายใต้โจทย์ “ความรัก” แต่เพราะปารีสมีบุคลิกเด่นชัดนอกเหนือจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นแหล่งศิลปวัฒนธรรม ความหลากหลายของผู้คน หรือประวัติศาสตร์บาดแผล บุคลิกเหล่านี้น่าจะส่งให้ผู้กำกับฯหลายคนตีโจทย์พ้นกรอบออกไปจากเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กระทั่งหลายเรื่องมีแง่มุมน่าใคร่ครวญคิดตามมากไปกว่าความสัมพันธ์ของคนไม่กี่คน

หนังในกลุ่มนี้ที่ดีที่สุดคือ Quais de Seine โดย กูรินเดอร์ ชาดา ที่จับประเด็นเรื่องความต่างทางศาสนาได้อย่างคมคาย

ถ้ายังจำกันได้เมื่อปี 2004 ฝรั่งเศสได้ผ่านกฎหมายห้ามเด็กนักเรียนสวมใส่สัญลักษณ์ทางศาสนาในโรงเรียนประถมและมัธยมสังกัดรัฐบาล โดย “ฮิญาบ” หรือผ้าคลุมศีรษะของหญิงสาวชาวมุสลิมเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกยกมาเป็นประเด็นมากที่สุด

ชาดาให้เด็กหนุ่มกล่าวแก่เด็กสาวชาวมุสลิมสวม “ฮิญาบ” ที่เขาอยากผูกมิตรด้วยว่าผมเธอสวย ทำไมต้องสวมผ้าปกคลุมไว้ เด็กสาวตอบว่าเธอไม่ได้ “ต้องสวม” แต่เธอ “เลือก” สวม นั่นหมายความว่าการแสดงออกซึ่งสัญลักษณ์ทางศาสนาไม่ควรที่จะให้ใครห้ามหรือบังคับ

บทสนทนาสั้นๆ ตอนจบที่ให้เรารู้ว่าเด็กหนุ่มเรียนประวัติศาสตร์ ส่วนเด็กสาวอยากเป็นนักหนังสือพิมพ์ กลายเป็นแบ๊คกราวน์ดที่เติมเต็มตัวละครและสอดรับกับเรื่องราวก่อนหน้านั้น

ขณะที่แม่น้ำแซนซึ่งเป็นฉากหลัง คำว่า Seine มีที่มาและรากศัพท์ตรงกับคำว่า sacred อันมีความหมายในเชิงศาสนา อาจแปลได้ว่า "ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "การปฏิบัติ(ตามหลักศาสนา) ด้วยความเคารพ"

นี่คือตัวอย่างของหนังสั้นซึ่งแม้จะมีความยาวเพียง 5 นาที แต่จับประเด็นใหญ่และถ่ายทอดได้แม่นยำยิ่งนัก





Create Date : 08 กรกฎาคม 2550
Last Update : 9 กันยายน 2550 11:16:48 น.
Counter : 2208 Pageviews.

9 comments
  
โดย: m IP: 203.113.33.6 วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:36:37 น.
  
ชอบตอน Quais de Seine มากๆเหมือนกันครับ
แต่ว่าตอนดูดูซับอังกฤษในเทศกาล เลยอาจจะทำให้ตามเรื่องไม่ทันไปหลายช่วงอยู่
(โดยเฉพาะตอนของ Gerard Depardieu ที่พูดๆๆๆๆ กันจนฟังไม่ทันเพราะไม่มีซับ ฟังออกแต่ Bitch! ตอนจบ)
อีกตอนที่ชอบมากคือ Place des fetes


แต่ว่าผมเผลอหลับตอนที่ Maggie Gyllenhaal เล่นง่ะ 55555
โดย: nanoguy วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:47:33 น.
  
อยากดู........................
อยากดู
อยาก
อยาก



อยากดู
โดย: ดาริกามณี วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:40:25 น.
  
น่าสนใจ ครับ อยากดูเหมือนกัน
โดย: ปุถุซน วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:39:03 น.
  
ชอบตอน Le Marais ของ กัส แวน แซนต์
ตรงที่ ทำตามความรู้สึกของตัวเอง
ทำไปเพราะไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่
และตอน แวมไพร์ Quartier de la Madeleine ก็สะใจดี
โดย: renton... IP: 58.8.14.119 วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:09:45 น.
  
เก่งจัง น่าสนใจมากๆเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ อยากดูบ้างจังเลย ต้องดูๆๆ

บีตามคุณประกายดาวมาน่ะค่ะ
เป็นเพื่อนกันนะคะ
โดย: rendezvous (be-oct4 ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:11:35 น.
  
ในชุดนี้มีหนังหลายๆเรื่องที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆๆครับ ส่วนตัวชอบเรื่องของ ทอม ทิคเกวอร์ ( ที่ นาตาลี พอร์ตแมน เล่น ) มากที่สุดครับ แต่ตอนของ ผกก. bend it like beckham ผมก็ชอบนะครับ
โดย: joblovenuk วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:27:53 น.
  
one word to descibe each segment..

Montmartre - Boring! (C-)

Quais de Seine - Cute! (A-)

Le Marais - Umm.. What!?! (C+)

Tuileries - Hilarious (A)

Loin du16e - Touching (A-)

Porte de Choisy - Crazy (C+)

Bastille - Moving (B+)

Place des Victoires - Solid (B)

Tour Eiffel - Brilliant (A)

Parc Monceau - Clever (A+)

Quartier des Enfants Rouges - Effective (A)

Place des fetes - Moving story with smart turn (A+)

Pigalle - Boring (C)

Quartier de la Madeleine - Coolness! (A-)

Pere-Lachaise - Disappointing (B-)

Faubourg Saint-Denis - Exhilarating! (A+)

Quartier Latin - Brilliant (A-)

14e arrondissement - Simple yet wonderful (A+)

Overall = A-
โดย: Juring IP: 41.233.107.199 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:21:22:18 น.
  
Montmartre (18th arrondissement) ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่นะคะ น่าเบื่ออ่ะ
Quais de Seine (5th arrondissement) ชอบเรื่องนี้ค่ะ ตอนจบให้ความรู้สึกดีมากๆ ต่างศาสนาก็คุยกันได้นี่คะ
Le Marais (4th arrondissement) กัสปาด์ล่ำมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 555 แต่เพราะดูแบบพากษ์ไทยมั้งคะ เลยให้ความรู้สึกว่ากัสปาด์พูดมากอย่างกับคนบ้าอ่ะ
Tuileries (1st arrondissement) น่าสงสาร-*- แต่เพราะฟังภาษาฝรั่งเศสไม่รู้เรื่อง แล้วก็ไม่รู้จะพูดตอบกลับไปอย่างไร กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นตัวตลกซะละ
Loin du16e (16th arrondissement) เรื่องนี้ดูแล้วให้ความรู้สึกเหงาแบบเว่อๆค่ะ ในที่นี้แปลว่าเหงาได้ใจหนูมาก ชอบสุดๆ
Porte de Choisy (13th arrondissement) ...ต้องการอะไรจากสังคมคะ????
Bastille (12th arrondissement) อีกเรื่องที่ชอบค่ะ สุดๆเลยเอ๊าะ! พระเอกของเรื่องแบบว่าแมนมากกกกกก ไม่รู้จะบอกอย่างไรดี แต่เป็นเรื่องที่ให้ความรู้สึกดีมากทีเดียว
Place des Victoires (2nd arrodissement) ก็โอเคนะคะ คนที่คิดจะฆ่าตัวตายหรือไม่รักตัวเองนี่น่าจะได้ดูเรื่องนี้ ในขณะเดียวกันก็ต้องฉลาดแล้วก็คิดตามความรู้สึกของตัวเอกด้วย จะได้รู้ว่าถ้าตายไปแล้วพ่อแม่จะรู้สึกอย่างไร...
Tour Eiffel (7th arrondissement) Symbolเยอะเว่อค่ะ ไม่เข้าใจอย่างแรง ใครก็ได้อธิบายที!!!!!!
Parc Monceau (17th arrondissement) พูดกับพ่อแม่ดีๆหน่อยนะคะ ดูแล้วใจไม่ดีเลย แหมเรียกเค้ามาดูลูกให้ ตัวเองไปดูหนัง แล้วยังพูดจา.... สวัสดีค่ะ
Quartier des Enfants Rouges (3rd arrondissement) Everyone's lonely somtimes......
Place des fetes (19th arrondissement) เสร้าเว่อค่ะ! เดี๋ยวนี้เค้าคุยกันด้วยกำลังเหรอ???? ที่บ้านไม่สั่งสอนให้ทำตัวเป็นคนดีไม่ทำผู้อื่นเดือดรอดกันเหรอเนี่ย
Pigalle (9th arrondissement) ต้องการอะไรจากสังคม?????
Quartier de la Madeleine (8th arrondissement) ชอบเรื่องนี้ค่า!!!!! โจ้กเว่อๆ
Pere-Lachaise (20th arrondissement) อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม no comment
Faubourg Saint-Denis (10th arrondissement) no comment too
Quartier Latin (6th arrondissement) ความรู้สึกในหนังน่ารักดีค่ะ
14e arrondissement (14th arrondissement) สื่อได้ดีค่ะ ชอบที่บอกว่าอาหารฝรั่งเศสไม่อร่อย แล้วกล้องแพลนไปที่แฮมเบอเกอร์ที่สั่งจากรูมเซอร์วิซ กับตอนที่ไปนั่งกินอาหารจีน .....ไปเที่ยวฝรั่งเศสทั้งที -*- ชอบค่ะ เสียดสีคนอเมริกันเล็กๆ

ที่ไม่ค่อยประทับใจอาจจะเพราะว่าดูแบบพากษ์ไทย ทำให้ขาดอารมณ์ที่จะเข้าถึงตัวละคร หนังบางเรื่องไม่ค่อยเน้นบรรยากาศให้เข้ากับเรื่องเท่าไหร่ ประมาณว่าเรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องถ่ายในParisเลย
โดย: Kisseylicious IP: 118.172.2.8 วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:1:09:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aloneagain.BlogGang.com

แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด