Tulpan ที่เก่าที่ฉันยืน



Tulpan
ที่เก่าที่ฉันยืน

พล พะยาบ
คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 6 กันยายน 2552


*สองปีก่อนมีหนังชีวประวัติเจงกิสข่านเรื่อง Mongol แนะนำตัวให้โลกได้รู้จักในฐานะหนังจากประเทศคาซัคสถาน แต่ตัวหนังเต็มไปด้วยองค์ประกอบสารพัดสัญชาติจนแทบไม่ได้แสดงความเป็นคาซัคสถานให้เห็นเลย จากนั้นไม่นานจึงมีเรื่อง Tulpan ซึ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นหนังคาซัคสถานแท้ๆ ตามออกมา อีกทั้งเนื้อหาเรื่องราวสะท้อนถึงคาซัคสถานในโลกปัจจุบันได้อย่างดี

Tulpan (2008) กำกับฯโดย เซอร์เก วอร์ตเซวอย หนุ่มใหญ่ชาวคาซัคสถานซึ่งหันมาทำ “หนังเรื่อง” เป็นครั้งแรก หลังจากประสบความสำเร็จกับหนังสารคดีขนาดสั้นมาก่อน ใช้ภาษาคาซัคและรัสเซียน ถ่ายทำตลอดทั้งเรื่องใน “เกรตสเตปป์” หรือทุ่งหญ้าสเตปป์ผืนใหญ่ที่สุดของโลกทางตอนใต้ของประเทศ ท่ามกลางพายุ-ลมแรงและสภาพที่ไม่เหมาะแก่การถ่ายหนังมากมาย แต่ผลที่ได้ถือว่าคุ้มค้าเมื่อสามารถคว้ารางวัลในหลายเทศกาลรวมถึงรางวัล Un Certain Regard จากเมืองคานส์ และได้เป็นตัวแทนคาซัคสถานชิงออสการ์หนังภาษาต่างประเทศในรอบปีที่ผ่านมา

ตัวละครนำคือ อาซา หนุ่มท่าทางเหลาะแหละที่เพิ่งปลดประจำการจากกองทัพเรือรัสเซียกลับมาอยู่กับ ซามาล พี่สาวในทุ่งสเตปป์เพื่อช่วยงานเลี้ยงฝูงแกะของ ออนดาส พี่เขย เขาฝันจะได้เป็นคนเลี้ยงแกะเต็มตัวอยู่บนแผ่นดินที่งดงามแห่งนี้ แต่นายจ้างยืนยันเงื่อนไขว่าอาซาจะได้ครอบครองฝูงแกะเป็นของตนเองก็ต่อเมื่อมีเมีย-มีครอบครัวเป็นหลักเป็นฐาน

ปัญหาคือผืนดินกว้างใหญ่สุดตานี้มีกันอยู่แค่ไม่กี่ครอบครัว ซ้ำครอบครัวเดียวที่มีลูกสาวชื่อ ตุลปัน ซึ่งอาซาพาพี่เขยและโบนี เพื่อนสนิท ไปสู่ขอกลับปฏิเสธยกลูกสาวให้โดยสาวเจ้าอ้างว่าไม่ชอบที่อาซามีหูใหญ่เกินไป

ในเมื่อไม่มีหญิงสาวคนอื่นอีกในรัศมีหลายตารางกิโลเมตร อาซาจึงไปสู่ขอตุลปันอีกรอบก่อนลงท้ายด้วยคำปฏิเสธเช่นเคยและโดนแม่ของเธอไล่ตะเพิด อย่างไรก็ตาม การได้พบตุลปันในระยะใกล้แม้เธอหันหลังให้ก็เพียงพอให้อาซาตกหลุมรักเธอเข้าจนได้

ระหว่างที่อาซากำลังกลุ้มใจเรื่องหาเมียอยู่นั้น ฝูงแกะของพี่เขยประสบปัญหาใหญ่เมื่อแกะตกลูกออกมาตายไม่เว้นแต่ละวัน ความเครียดทำให้ออนดาสระบายใส่น้องเมียซึ่งเหมือนเป็นตัวถ่วงมากกว่าจะพึ่งพาอะไรได้กระทั่งอาซาน้อยใจจนอยากหนีไปให้พ้น ยิ่งได้แรงยุจากเพื่อนสนิทอย่างโบนีที่เอาแต่พร่ำพูดถึงเมืองใหญ่ซึ่งจะทำให้ชีวิตสุขสบายกว่าการจมปลักอยู่กับฝูงสัตว์ ลมพายุ และความยากลำบากนานา

เมื่อถึงเวลาที่ครอบครัวของพี่สาวต้องอพยพย้ายถิ่นอีกครั้ง อาซาจึงต้องตัดสินใจแล้วว่าจะโยกย้ายตนเองไปอยู่แห่งใด

ระยะหลังมีหนังหลายเรื่องนำเสนอภาพชีวิตของชนเผ่าเร่ร่อนหรือกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตในดินแดนเวิ้งว้างห่างไกลตั้งแต่มองโกเลียถึงเอเชียกลาง ส่วนใหญ่เลือกเน้นความเป็นธรรมชาติของผู้คนและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม รวมทั้งฉายภาพแลนด์สเคปที่ดูงดงามกว้างไกล แต่ Tulpan ดูจะแตกต่างและโดดเด่นกว่าเรื่องอื่นๆ ตรงที่นำเสนออย่างสมจริงและเป็นธรรมชาติจนนึกแปลกใจว่าผู้สร้างทำได้อย่างไร

ทั้งฉากในร่ม(ในกระโจมที่พัก) และฉากภายนอกส่วนใหญ่ใช้การถือกล้องด้วยมือถ่ายต่อเนื่องจนจบฉากนั้นๆ โดยไม่มีการตัดต่อ แน่นอนว่าการถ่ายต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องยากเย็น แต่หากองค์ประกอบสำคัญของฉากนั้นมีทั้งเด็กเล็กและสัตว์ ทั้งยังมีลมแรง พายุหมุน และฝุ่นดิน ความยากจากการกำหนดกะเกณฑ์ไม่ได้ย่อมเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว

*ฉากเด่นที่สุดเป็นฉากสำคัญของเรื่องเมื่อตัวละครต้องทำคลอดแกะที่ตกลูกเองไม่ได้ พอคลอดออกมาแล้วก็ต้องหาทางให้ลูกแกะที่มีเมือกเต็มตัวนั้นมีชีวิตรอดแม้ต้องใช้ปากผายปอด หนังถ่ายทำต่อเนื่องตลอดขั้นตอนได้อย่างน่าทึ่ง

ดังที่กล่าวข้างต้นว่าเนื้อหาเรื่องราวของ Tulpan สะท้อนถึงคาซัคสถานในโลกปัจจุบัน หนังจัดวางสถานะของคาซัคสถานให้มีนัยยะเชื่อมโยงกับเนื้อหาตั้งแต่เริ่มต้น เมื่ออาซา(ซึ่งยังไม่รู้ว่าถูกสาวปฏิเสธ) ฉลองสุดเหวี่ยงระหว่างเดินทางกลับจากการสู่ขอตุลปันโดยตะโกนคำว่า “คาซัคสถานจงเจริญ”

เท่ากับว่าเนื้อหาว่าด้วยการเริ่มต้นสร้างครอบครัวเป็นหลักเป็นฐานของอาซามีนัยถึงคาซัคสถานโดยตรง

ต่อมาในกระโจมที่พักของออนดาส ลูกชายคนโตกำลังนั่งฟังข่าววิทยุเพื่อรายงานต่อให้พ่อฟังหลังสิ้นสุดการงาน เนื้อหาของข่าวพูดถึงแผนยุทธศาสตร์ “คาซัคสถาน 2030” ของประธานาธิบดีนูรสุลต่าน นาซาร์บาเยฟ ผู้นำหัวก้าวหน้าซึ่งเริ่มต้นไว้ตั้งแต่ปี 1997 มีเป้าหมายพัฒนาขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวทันและมีบทบาทในเศรษฐกิจโลก พัฒนาอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พัฒนาเมืองให้ทันสมัย ฯลฯ

เห็นได้ว่าเป้าหมายสวยหรูที่ว่ามาคร่าวๆ นี้ไม่เฉียดใกล้วิถีชีวิตคนเลี้ยงแกะแห่งทุ่งหญ้าเปล่าเปลี่ยวของอาซาแม้แต่น้อย

ขณะเดียวกัน ภาพฝันของอาซาที่ต้องการมีครอบครัว มีฝูงแกะของตนเอง และใช้ชีวิตเร่ร่อนบนแผ่นดินนี้ต่อไปก็ช่างสวนทางกับคาซัคสถานในฝันของผู้นำประเทศ

เพราะเหตุนี้หนังจึงให้หญิงสาวอย่างตุลปันเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องการยุติชีวิตเร่ร่อนเพื่อไปใช้ชีวิตอยู่ในเมือง กระทั่งน่าจะเป็นเหตุผลที่ไม่ยอมรับแต่งงานกับอาซา และการที่ตุลปันซึ่งเป็นตัวละครสำคัญแต่ตลอดทั้งเรื่องผู้ชมและอาซาไม่ได้เห็นหน้าค่าตาเธอจึงอาจหมายถึงคาซัคสถานที่ถูกวาดฝันเอาไว้นั่นเอง

เมื่ออาซาไม่ได้แต่งเมียและไม่ได้รับอนุญาตให้ดูแลฝูงแกะจนอาจต้องไปหางานทำในโรงงานในเมืองใหญ่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันคือการตกลูกตายตัวแล้วตัวเล่าของฝูงแกะซึ่งสื่อความหมายค่อนข้างชัดเจนว่าวิถีดั้งเดิมเช่นนี้อาจต้องสิ้นสุดลง

ฉากสำคัญช่วงท้ายเรื่องจึงเป็นเหตุการณ์ที่อาซาต้องทำคลอดแกะด้วยตนเองซึ่งเขาสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ทั้งแม่และลูก กระทั่งมีผลต่อการตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่าเขาควรจะอพยพเข้าเมืองหรือย้ายถิ่นไปกับครอบครัวพี่สาว

นอกจากสถานะของตัวละครและฝูงแกะที่สะท้อนถึงคาซัคสถานแล้ว หนังยังมีร่องรอยรายทางอื่นๆ ที่สื่อไปในทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเมืองอัลมาตีซึ่งหลานชายตัวน้อยรบเร้าให้อาซาพาไปคือเมืองหลวงเก่าที่ถูกพัฒนาปรับโฉมตามแผนคาซัคสถาน 2030

หรือเพลง Rivers of Babylon เวอร์ชั่นของ บอนนี่ เอ็ม. ซึ่งเป็นเพลงประจำตัวของโบนีผู้ใฝ่ฝันถึงการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ เนื้อเพลงมาจากเรื่องราวในพระคัมภีร์เก่าช่วง 586 ปีก่อนคริสตกาลที่ชาวยิวถูกกวาดต้อนไปเป็นทาสที่กรุงบาบิโลน แต่ยังเฝ้าฝันถึงเยรูซาเลม

เยรูซาเลมสำหรับโบนีคือเมืองใหญ่ แต่เมื่อไปถึงเมืองใหญ่แล้ว...หลายคนอาจหวนนึกถึงเยรูซาเลมที่จากมา




Create Date : 21 ธันวาคม 2552
Last Update : 21 ธันวาคม 2552 20:15:54 น.
Counter : 1677 Pageviews.

3 comments
  
ปีใหม่มีโปรแกรมไปเที่ยวไหนเปล่าคะ
ขอให้มีความสุขนะคะ
ขอให้มีโชคหมดทุกข์โศกโรคภัย
พ้นเคราะห์ที่เลวร้าย พันภัยด้วยเทอญ

โดย: chabori วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:21:05:36 น.
  
เห็นว่าเป็นหนังแห่งปีในมติชนด้วย
โดย: เอกเช้า IP: 124.122.152.144 วันที่: 21 ธันวาคม 2552 เวลา:22:37:07 น.
  

^
^
ครับ เดี๋ยวเอามาลงไว้ที่นี่อีกที


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:1:04:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aloneagain.BlogGang.com

แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด