Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
15 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
==เดินทางไกลไปตามฝัน==3=


เราเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้วซิน๊ะ.....หลังจากที่เราเข้าเครื่องมาได้ก้หาที่นั่ง คราวนี้ฉันโชคดีอีกแล้ว ได้นั่งติดกับหน้าต่าง และ เป็นที่นั่ง สองที่.....ในใจคิดอีกแล้ว ว่าเราจะได้นั่งกับผู้หญิง หรือ ผู้ชาย จะเป็นฝรั่งอ้วน ๆ หรือเปล่า คิดไปคิดมาเออ..ช่างมันเหอะ และแล้วก็มีผู้ชายญี่ปุ่น...ลักษณะท่าทางดี ใส่สูตร มานั่งแปะที่ข้าง ๆ เรา.....เอาน๊ะ......ยังดีกว่า คนอ้วน ๆ มานั่งเบียดเรานี่นา เรายิ้มให้ตามประสาคนยิ้มง่าย เค๊าก็โค้ง เราตามแบบฉบับ พ่อยุ่นนนั่นแหละ.....


เครื่องบินที่เรานั่งมาเนี่ยเริ่มออกจากสนามบิน โซล ประมาณ บ่าย สองโมงได้......ท้องฟ้ายังสว่างไสว เราก็เพลิน กับการดูโน่น ดูนี่ มองไปในเคครื่อง คนเต็มที
นั่ง แต่แหม๊.....มีเด็กแยะจัง นั่งซักพัก เริ่มมีเสียงเด็กร้องบ้าง เด็กโตหน่อยก็เล่นกันแบบ พ่อแม่ ไม่เอาปากมาด้วย คือ ไม่เคยดุลูก หรือปรามลูกเลย.....เราก็ได้แต่นั่ง ทนไป ทุกคคนคงมีความรู้สึกเดียวกับฉัน ต๊าย.....ตุ๊กตาเอ๋ย
จะต้องทนเสียงแบบนี้ไปอีก 20 ชั่วโมงรึเปล่าหนอ... นึกในใจ ฌราอยากจะเป็นแอร์ ซะจริง ๆ จะได้ผสมยานอนหลับให้เจ้าพวกเด็กที่ร้อง ๆ เล่นกันเสียงดัง ๆ นั่ย จะได้หมดฤทธิ์ อิอิอิ นอนไม่หลับเลย........พนักงานก็แสนดี เสริ์ฟ น้ำ เครื่องดื่ม ถั่ว อาหาร บ่อยดี....พ่อหนุ่มยุ่นข้างเรานั้นก็ดูสุภาพ ไม่เห็นเคยหลับ เห็นเอาหนังสือเล่มหนาเตอ๊ะมานั่งอ่านตั้งแต่เครื่องออก ยังไม่เห็นละสายตาไปไหน


เรานั่งเพลิน ๆ มองออกไปเห็นท้องฟ้ากว้างไกล ฟ้าวันนี้ช่างสดใส เหมือนกับชีวิตของเราที่จะไปเริ่มต้นใหม่ ก็คงสดใสเช่นฟ้าวันนี้แหละน๊ะ นั่งไปได้ชั่วครู๋
เฮ้ย....ทำไมฟ้ามันถึงได้มืดตึดตื๋อ.....อย่างนี้เล่า....เราคิดในใจตายล่ะ จะมีพายุฝนรึเปล่านี่ คิดว่าคคงเป็นเมฆฝนที่ก่อตัวขึ้น มันมืดมาก...... แต่ไม่เห็นฟ้าแลบเลยนี่นา ซักพักใหญ่ .ฝนก็ไม่ได้ตก......แต่ทำไมท้องฟ้าอยู่ ๆ จากสว่าง .กลับมืดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย........เรายกนาฬิกาขึ้นมาดู เวลาตอนนั้นแค่ 3 โมงเย็นกว่า ๆ เอง จากนั้น เราไม่เห็นท้องฟ้าสว่างอีกเลย

นี่คงเป็นการเดินทางข้ามเส้นศูนย์สูตร อะไรละมั้งที่เป็นเส้นแบ่งซีกของโลก อีกฟากฝั่งของโลก มีดวงอาทิตย์ให้แสงสว่าง.ส่วนอีกฟากฝั่งของโลก มีดวงจันทร์ทอแสงยามค่ำคืน........แต่นี่มัน สามโมงเย็นเอง.นี่นา........เราก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ จนทุกวันนี้แหละ จึงเขียนมาเล่าไว้ที่นี่ซะงั้น


เวลา เกือบ 20 ชั่วโมงของเราบนเครื่องบิน มันทำให้เราได้มีเวลาคิดถึงสิ่งต่าง ๆ มากมาย อย่างที่เราไม่เคยมีเวลาให้กับตัวเองมาก่อน คิดไป แล้วก็คิดมา......เอ.นี่เราจะไปอยู่อเมริกาจริง ๆ เหรอเนี่ย........เราทำอะไรลงไปหนอ........สับสนตัวเองอีกแล๊ะ...เราเอาหนังสือมาอ่านแข่งกับคุณยุ่น แต่แพ้คุณยุ่นค่ะ พี่แกอ่านได้นานมากกกกก จนเราม่อยหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็คุณยุ่น สะกิดเราให้ตื่น มาหม่ำอาหารที่พนักงานกำลังเดินมาแจกเกือบจะถึงที่เรานั่งอยู่.........อาหารเป็นอะไรเราจำไม่ได้แล้วอ่ะ จำได้ว่ากินหมด....อีกตามเคย.....จะด้วยหิว หรือว่าเป็นคนชอบหม่ำอยู่แล้วก้ไม่รู้น๊ะอิอิ พอหนังท้องตึงก็เริ่มหลับอีก ทั้ง ๆ ที่มีเสียงเด็กรบกวน เราเลยเอาหูฟังเพลงขึ้นมาใส่หู เหิดเพลงฟัง ซึ่งเพลงก็ฟังไม่รู้เรื่องอีกนั่นแหละ แต่ก็คิดว่าดีกว่าที่จะทนฟังเด็ก ๆ ร้องน๊ะ


นั่งบนเครื่องคราวนี้ ทรมาร สังขารของเรามาก เพราะว่า นั่งนานซะเหลือเกิน ไม่เคยนั่งเครื่องบินนานขนาดนี้.......เมื่อไหร่จะถึงเสียทีหนอ.มองออกไปก็ไม่เห็นอะไรเลย มืออย่างเดียว.......รู้สึกว่ามืดนานมาก นานผิดปกติมันหลายชั่วโมงซะเหลือเกิน จะเดินไปไหนก็ไม่ได้....ไม่รู้จะเดินไปไหน จะพูดกับหนุ่มยุ่น พี่แกก็ไม่เคยสนใจเราเอาซะเลย เอาแต่นั่งอ่านหนังสือของพี่แกปาย......และแล้วเราก็พยายามข่มตาให้นอนหลับ แล้วเราก้หลับได้สมใจนึก




พนักงานมาเสริ์ฟ อาหารเช้า ประมาณ 6 โมง แหม๊......ฉันก็กินได้กินดีอิอิ ไม่ได้รู้สึกว่าผิดที่ผิดทางอะไรกับใครเค๊าเล๊ย....และก็มีแบบฟอร์ม มาให้กรอก คราวนี้ ถึงเวลาที่เราต้องกรอกแน่นอน เพราะว่าจะเข้าประเทศอเมริกาแล้ว ทีนี้ ก็แหมอ่ะน๊ะ.......ภภาษาอังกฤษทั้งนั้น.อีกแล้วเหรอเรา.......... ตตอนขาออกจากประเทศ คคุณนายบัตรเพื่อนของอิชั้นเป็นคนกรอกเอกสารให้ทุกอย่าง คราวนี้ฉันก็ต้องมานั่งแก้ปัญหาเองละซี่ทีนี้ ได้ที..ควัก Tlaking Dict ประจำตัวออกมา กางอย่างไม่อายใคร กลัวกรอกผิด ทีนี้ยิ่งยุ่งกันไปใหญ่....เอาแน่ ๆ ชัวร์
ป๊าบ....เลยดีกว่า


11.30 น. 22 พฤศจิกายน 2546

เครื่องบินที่ฉันนั่งมาก็พาฉันมาส่ง โดยสวัสดิภาพ ทุกคนบนเครื่องพากันปรบมือให้นักบิน....ตามมารยาท.....เราเตรียม ตัวที่จะหยิบสัมภาระ เป้ประจำตัวซึ่งหนีบมาด้วยอย่างไม่ยอมห่าง บัดนี้ก็ถึงด้วยความปลอดภัย ด้วยอาการงัวเงียขี้ตาอิอิ เตรียม เช็คพาสปอร์ตอยู่ที่ไหน........เอกสารซองสีน้ำตาลที่สถานทูตสหรัฐให้เราถือติดตัวมาให้ INS ที่นี่ตรวจก่อนเข้าเมือง ซึ่งใครได้วีซ่าคู่หมั้นมาอย่างฉันก็คงมีเหมือน ๆ กัน......

ความกลัวของฉันก็เข้ามาครอบงำอีกระรอก ก็กลัว กองตรวจคนเข้าเมืองของอเมริกานะซี่.มีแต่คนบอกว่า เขาจะถามอะไรมากมาย หรือมีการเปิดกระเป๋าตรวจ ถ้าเห็นว่าผิดปกติ
เขาจะถามอะไรบ้างหนอในใจคิด.....แล้วเราจะตอบเป็นภาษาอังกฤษ พวกเค๊าจะเข้าใจฉันไม่หนอ.....แล้วต้องทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ คนอื่นมีใครเหมือนเราบ้างหนอ..(หาพวกอ่ะ)

ฉันมาที่สนามบิน Dallas เป็นสนามบินค่อนข้างเล็กไม่มีตึกมากมาย ให้เดินหลง ฉันเดินตามคนในเครื่องบินออกมา ก้เดินมาถึง กองตรวจคนเข้าเมือง...คนไหนที่ถือพาสปอร์ตอเมริกาก็ไปต่ออีกแถว พวกที่เป็นคนต่างชาติก็มาต่ออีกแถว ทั้งหมดก้มีอยู่ประมาณ 7 แถว...
ณ. ช่วงเวลานั้น ฉันกลัวมาก กลัวไปซะหมด กลัวไม่เจอโจอี้ กลัวการตอบคำถามของ INS กลัวเดินหลงทาง ...จะไปเอากระเป๋าเดินทางของฉันที่ไหน เพราะว่า รู้สึกว่าฉันจะอยู่ชั้นล่าง เห็นคนที่ตรวจเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นบันไหไปกัน ก็นึกในใจคงจะไปเอากระเป๋าข้างบนแน่ ๆ แต่เอาเหตุการตรงนี้ก่อนเถอะตุ๊กตาเอ๋ย

ฉันสังเกตุ หลาย ๆ คน ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เป็นประมาณ คุณป้าแก่ ๆ คุณตา ที่มาเยี่ยมลูกหลานที่อเมริกาซะมากกว่า แต่ดีที่มี แอร์โฮสเตส เกาหลี มาช่วยเป็นล่ามให้ตลอดทุกคน แต่ไม่ยักกะมีล่ามคนไทยมาให้ฉันบ้างเลย ไม่เห็นยุติธรรมเลยน๊ะเนี่ย

พอถึงคราวฉันต้องเข้าไปพบINS เป็นผู้หญิงผิวดำ ตัวโตมาก...แต่หน้าตายิ้มแย้มดี ทำให้ใจฉัน ค่อยดีขึ้นมาหน่อย หลังจากที่ตกไปอยู่แถว ๆ ตาตุ่ม ฉันก็ยิ้มสู้ Hello How are you? แล้วเธอก็ถามฉันกลับ เราก็ยิ้มสู้ค่ะ เอาพาสต์ปอร์ต แบบฟอร์มที่กรอกบนเครื่องบิน ซองจากสถานทูต ส่งให้เธอไป....เธอก็....บอกให้ฉันยืนรออยู่ก่อน แล้วเธอก็เดินหายไปเข้าห้อง ซึ่งมีกระจก ทำให้ฉันมองเห็นคนทำงานในนั้น อีกหลายคน ส่วนมากเป็นคนผิวดำ....ซักพักน้อย ๆ เธอก็เดินมาบอกให้ฉันเดินเข้าไปในห้องที่เธอพึ่งเดินออกมา........ตายละหว่า.....ฉันมีเอกสารผิดอะไรรึเปล่า ทำไมไม่ให้ฉันเดินเข้าไปเอากระเป๋าเหมือนคนอื่น ๆ......เริ่มใจหายไปอยู่ใต้ตาตุ่มเลยทีนี้.....อยากร้องไห้ซะแล้ว....เคยมีคนเล่าให้ฉันฟังว่าถ้าไม่ผ่านกองตรวจคนเข้าเมือง....ก็ต้องถูกส่งกลับบ้าน.....ฉันยังไม่ได้เจอหวานใจของฉันเลย แล้วเค๊าจะรู้มั๊ยหนอว่าฉันจะต้องเข้าห้องอะไรไม่รู้ ........ตอนนั้น.สับสนอลหม่าน ท้องใส้ปั่นป่วน....หูตาเลือนลาง....ขาเดินแทบไม่ถูกทาง....แต่ก็เอาน๊ะ.......เป็นงัยเป็นกันอย่าไปกลัว อะไรเกิดก็ให้เกิดไป........


เมื่อฉันเดินเข้าไปที่ห้องนั้น อย่างกลัว ๆ กล้า.....ก็มีเจ้าหน้าที่ผู้ชาย ยิ้มมาให้ฉัน....ทำให้ฉันใจกรุโดดกลับมาที่เดิมได้........เค๊าถามชื่อฉัน และถือซองสีน้ำตาล ฉันมองที่ซองนั้น ยังไม่ได้เปิดออก..... แล้วผู้ชายคนนั้นก็บอกให้ฉันนั่งรอ พูดจาสุภาพมาก.........แล้วเขาก็ดำเนินการเปิดซองออก แล้วเดินไปที่โต๊ะตัวยาว ๆ และเริ่มเรียงเอกสารของฉันซึ่งฉันก็มองไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ รู้แต่ว่ามีหลายแผ่นเหมือนกัน เค๊าวางเสร็จ ก็เอาตราประทับหลายอันมาก มาประทับในกระดาษที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ฉันเริ่มรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อไม่มีอะไร ไม่มีการซักถามอะไร ทำให้ฉันทำตัวเริ่มสบาย ๆ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงมาเรียกฉันไปหา แล้วถามชื่อฉันอีก และเธอก็บอกว่า ฉันต้องทำการจดทะเบียนสมรส แต่งงาน ภายใน 90 วัน....มิฉะนั้น ฉันจะตต้องกลับประเทศไทย......ฉันไม่ได้ฟังเธอพูดเท่าไหร่หรอกค่ะ เอาแต่ ยิ้ม แล้วก็ พูด YES........I understand.......Thank you.......แล้วเธอก็เอาเอกสารใบเล็ก ๆ คลิปมาในพาสปอร์ตของฉัน นั่นเป็นอันว่า ในแผ่นเล็ก ๆ นั่นคือ แบบ I-94 ซึ่งตัวนี้สำคัญที่สุดห้ามหายเด็ดขาด ฉันก็มารู้ทีหลังเหมือนกันว่ามันมีความสำคัญมาก จะทำอะไรก็ต้องมีตัวนี้ควบคู่กันด้วย แล้วจะค่อย ๆ เล่าเกี่ยวกับเจ้า I-94 ให้ฟังทีหลัง ....(ถ้าฉันไม่ลืมอิอิ)


จากนั้นฉันก็ลิงโลด.....เดินออกมาจากห้องนั้น โดยไม่ลืมถามว่าฉันจะไปรับกระเป๋าของฉันได้ที่ไหน... ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก พออพ้นบันได....ก็เห็นมีผู้ชายผิวดำอีกแล้ว ยืนยิ้มเผล่ มีรถสำหรับใส่กระเป๋าเดินทาง แล้วถามว่า ฉันมองหากระเป๋า เจอรึยัง.... แหม๊.....ฟ้าส่งคุณชายผู้นี้มาโปรดฉัน.........ก็กำลังคิดอยู่ว่า ฉันจะจัดการกับกระเป๋า.อันหนักอึ้งของฉันอย่างไร......ตอนขามาก็มีคนช่วยลาก ช่วยยก คราวนี้ฉันก็ตัว.นี๊ดเดียว(ตอนนั้นน๊ะอิอิ)
แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าจะไปเอารถมาใส่กระเป๋าอย่างไร คราวนี้รีบยิ้ม แล้วเดินไปหา แล้วก็ชี้กระเป๋า ยักษ์...ขอบอกว่ายักษ์ อิอิ แถมหนักอีกตะหาก แล้ว เจ้าชายตัวดำของฉันก็เป็นคนจัดการกับกระเป๋ายกใส่รถ ลากให้ฉันเสร็จ.....นึกในใจ ยังก้ถ้าเสียเงินค่าช่วยยกเดี๋ยวโจอี้ก็คงจัดการให้ฉันเอง งัยก็ให้พ่อหนุ่มตัวดำนี้ยกให้ฉันก่อน.....แล้วเค๊าก็ออกนำหน้าพาฉันมาที่ทางออก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาวผิวขาว ยืนยิ้มอีกเช่นกัน แล้วขอดูพาสปอร์ตอีก และถามฉันว่า มีพวกอาหาร สดหรืออะไรติดมาในกระเป๋ารึเปล่า......ฉันรีบบอกไปว่า No have แล้วเธอก็ให้ฉันยืนผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ ที่มันจะดัง ปี๊ย...ป๊าง...ปี๊บ...ป๊าบ...แล้วฉันก็ผ่านออกมา เดินออกมาเห็นโจอี้ของฉัน ยืนชะเง้อ คอเป็นยีราฟ.....ยิ้มหวานเดินมาหาฉันแล้วเค๊าก็กอดฉัน แล้วร้องไห้ออกมา.....จนฉันตกใจ....... แล้วบอกว่า it's ok I'm Here.....


การเดินทางไกล ของฉันครั้งนี้ก็ได้มาถึงฝันที่ฉันจะได้มาใช้ชีวิตใหม่ กับคนที่ฉันรัก และเค๊าก็รักฉัน......ถึงจะเหนื่อยกับการเดินทาง.....แต่ฉันก็มีความสุข....เมื่อเห็นหน้าคนที่เรารักยืนรอด้วยความหวัง และแล้ว เราสองคนก็ได้ทำความฝันให้เป็นความจริง


Tukata




Create Date : 15 กรกฎาคม 2548
Last Update : 15 กรกฎาคม 2548 3:52:43 น. 11 comments
Counter : 562 Pageviews.

 




โดย: tukata001 วันที่: 16 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:40:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ
น่ารักและประทับใจมากค่ะ


โดย: oneni วันที่: 20 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:17:20 น.  

 
หนุกดี ค่ะ โชคดีที่ได้อ่าน เพราะมีโครงการณ์
อาจจะไปปีหน้าเหมือนกันค่ะขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านกันค่ะ


โดย: TuiNui IP: 203.170.244.42 วันที่: 27 กรกฎาคม 2548 เวลา:12:41:36 น.  

 
พี่ทีเจนี่เก่งจังค่ะ แบบว่า..... ข้ามาคนเดียวเลยนะคะ อ่านแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองได้เดินทางไปกับพี่ทีเจด้วยเลย ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแล้วค่ะ เพราะได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ คนเราเนี่ยน้า.........
กลัวในสิ่งยังมาไม่ถึงนี่เอง

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โดย: แม่มดน้อย IP: 61.91.141.194 วันที่: 28 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:21:51 น.  

 
เก่ง ๆ จริง ๆ ค่ะพี่ตุ๊กตา...พี่สาวของเรา


โดย: แม่น้องธัย วันที่: 30 กรกฎาคม 2548 เวลา:9:41:42 น.  

 
พี่ตุ๊กตาเก่งมากเลยค่ะ
โบว์แอบร้องไห้ไปกะคุณโจอี้ด้วย
ตอนที่เจอพี่ตุ๊กตาแล้ว ซึ้งจริงๆเลยค่ะ


โดย: (นู๋โบว์)booboo IP: 210.203.183.228 วันที่: 7 สิงหาคม 2548 เวลา:5:23:47 น.  

 
พี่ตุ๊กตา เขียนได้ดีมาก ๆ เยย
เปน นักเขียนได้แล้ว
หนูอ่านเข้าใจหมด หนูได้ความรู้เยอะเลย
พี่ทำไงดี หนูอยากอ่านอีกง่ะ


โดย: บีมาอ่านแล้วนะ IP: 58.9.29.216 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:23:20:59 น.  

 
ขอความเห็นหน่อยฮะ พอดีจะไปที่เดียวกันเลยสายการบินเดียวกันลงที่เดียวกันอะ แต่ไปลง วอชิงตัน dc อาฮะ เมล์ homo_st_teez@hotmail.com ช่วยหน่อยนะค้าบบ เมล์มาหรือ เล่น msn ก้อได้


โดย: homosexual IP: 58.9.42.199 วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:0:30:44 น.  

 
หนูก็มาสายการบินเกาหลีมาลงที่เดียวกับพี่เลยแต่หนูเพิ่งมาเมื่อเมษานี่เองมาคนเดียวกลัวมากๆตอนที่ขึ้นเครื่องจากสุวรรณภูมินะยังไม่เท่าใหร่เพราะมาตอนตี1กว่าๆ แต่มาเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลีนี่สิเริ่มแล้วมองหาคนไทยก็ไม่เห็น แล้วพอมาถึงที่ Dallas นะเค้าก็ให้ไปที่ห้อง ตอนเค้าพาไปที่ห้องนั้นนะกลัวมากเพราะคนก่อนหน้านั้นเค้าก็แค่ถามบางอย่างแล้วให้พิมพ์ลายนิ้วมือที่เครื่องแล้วก็ไปได้แต่ของเรานี่สิภาษาก็ไม่ค่อยจะเวิคร์เท่าใหร่พอพิมพ์ลายนิ้วมือเสร็จเค้าก็พาไปที่ห้องอะไรก็ไม่รู้รู้แต่ว่ามองหาโทรศัพท์ค่ะเพราะคิดว่าคงได้กลับเมืองไทยแน่ แต่พอเข้าไปแล้วก็เห็นหลายคนนั่งอยู่ในห้องนั้น หนูก็รอประมาณครึ่งชั่วโมงเค้าก็เรียกเข้าไปและบอกว่าต้องแต่งงานภายใน90 วันและให้พิมพ์ลายนิ้วมืออีกครั้ง แล้วก็ให้ ไอ94 กลับมาพอออกมาแล้วก็ไปหากระเป๋าพระเจ้าช่วยหนูหากระเป๋าไม่เจอก็มีฝรั่งเดินเข้ามาถามว่าให้ช่วยอะไรไหมหนูก็ถามกลับไปว่ากระเป๋าที่มาจากสายการบินที่หนูมานะอยู่ที่ไหนเค้าก็บอกว่าอยู่ตรงหน้ายูนี่แหละ หนูก็ยิ้มและขอบคุณทั้งหัวเราะตัวเอง แล้วเดินออกประตูเจอพนักงานถามอีกละมีของสดอาหารหรือป่าวหนูก็บอกว่าไม่มี เค้าก็ถามอีกนะว่าแฟนชื่ออะไรอยู่ที่ไหน เราก็บอกเค้าไปว่าแฟนชื่อเจฟ แล้วเค้าถามว่าจะอยู่นานไหมเราก็นึกในใจ ว่ามาแต่งงานแล้วอยู่เลย ทำไมต้องถามงั้นด้วย แต่ก็ตอบเค้าตามมารยาทค่ะว่า อยู่ตลอดเลย แล้วเค้าก็ถามอีกนะว่าใครมารับ ตกลงจะให้ฉันผ่านป่าวเนี่ย ก็บอกเค้าอีกว่าแฟนรอรับอยู่ข้างนอก เค้าก็โอเค พอเดินออกมาพนักงานผู้หญิงบอกให้หยุดและหันไปถามพ่อพนักงานชั่งซักนั้นอีกว่าปล่อยไปเหรอ เค้าก็ตอบผู้หญิงว่าเยส แล้วหันมาบอกเราให้ไป พอออกมาค่ะมองหาแฟนแต่เจอคนไทยถามหาคนไทยอีกคนหนึ่งเราก็ตอบว่าไม่ทราบเหมือนกันเพราะแค่ตัวเองยังเอาตัวเกือบไม่รอดแนะ หันไปอีกทางเจอพ่อทูลหัวนั่งกินแซนวิสรอค่ะแบบไม่ตื่นเต้นเลยพอเค้าเห็นหนูนะก็ถามว่าหิวไหม แล้วถอดเสื้อหนาวให้ใส่ ขับรถกลับบ้าน 2ชั่วโมงค่ะเพราะอยู่ที่วิชิด้าฟอ วันที่หนูมามีหิมะด้วยที่สนามบินแต่ไม่มากค่ะนิดหน่อย วันหลังจะเข้ามาเล่นด้วยใหม่ค่ะ


โดย: กอล์ฟ IP: 66.25.204.97 วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:1:29:00 น.  

 
บังเอิญเปิดเข้ามาได้ยังไงก็ไม่รู้นะค่ะ แต่อ่านจนเพลินเลย ชอบมากค่ะ อ่านแล้วมีกำลังใจอีกเยอะเลย ขอบคุณเรื่องเล่าดีๆนะค่ะ


โดย: KATE IP: 125.24.50.129 วันที่: 23 กรกฎาคม 2554 เวลา:18:13:34 น.  

 
พออ่านจบเหมือนจะร้องเลยค่ะใครไม่อ่านจนจบคงไม่รู้ว่ามันซึ้งค่ะยิ่งตอนนี้น้ำมีแฟนเป็นคนอเมริกาและเราหมั้นกันแล้วและคงจะแต่งงานในเร็ววันนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด
ขอบคุณที่เขียนบล็อกนี้ทำให้ดิฉันเตรียมตัวและเตรียมใจกับชีวิตที่จะเปลี่ยนจากเดิมค่ะ


โดย: น้ำ IP: 180.183.195.94 วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:13:55:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tukata001
Location :
Texas United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




พี่ตุ๊กตา ยินดีต้อนรับทุกท่านที่มาเยี่ยมบล๊อคนี้นะค

pk12th

 

Tukata Hemphill

Create Your Badge
Friends' blogs
[Add tukata001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.