ดิฉันอยากเป็นผู้จัดการแผนก (ในอเมริกา)คะ ภาค1
ท้าวความกันซักนิดนะคะ เผื่อน้อง ๆ ที่เข้ามาอ่าน สงสัย ว่าพี่ตุ๊กตา ทำอะไรเนี่ย คือว่าทำงานอยู่ที่ H.E.B แผนก Deli มา 3 ปีแล้ว การที่จะก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทางบริษัท
เขามีมาตรฐาน ต้องเข้า Class ที่บริษัทกำหนด ยูถึงไต่เต้า เลื่อนตำแหน่ง ขึ้นไปได้ เช่น ตำแหน่งผู้จัดการแผนกดังนั้น ดิฉัน ก็ Apply ด้วยความที่มั่นใจตัวเองมากคะ ว่า สามารถเป็นผู้จัดการแผนก Deli ได้
เมื่อ ส่งใบสมัคร เรียบร้อย ก็ต้องมีการสัมภาษณ์ เหมือนเริ่มต้นใหม่คะ ถึงแม้ว่ายูจะทำงานอยู่ที่บริษัทเดิมนี้ก็ตาม
จึงมีเรื่องที่จะมาเล่ามากมายเกี่ยวกับการถูกสัมภาษณ์เพื่อจะไปเป็นผู้จัดการ (ในอเมริกา) คะ
หลังจากที่เครียดกับการรอคอยในวันสัมภาษณ์ School of Retail Management Interview
วันนี้ก็มาถึง July 10, 2008 เป็นวันสัมภาษณ์เพื่อจะเข้าไปร่วม Class เป็นผู้จัดการคะ
เริ่มกันด้วย นอนไม่หลับเมื่อคืน เพราะว่า จะเป็นกังวล เรื่องต่าง ๆ กลัวจะทำไม่ได้ดี
อีกทั้งไม่รู้ว่า จะเจอคำถามแบบไหน เราจะเข้าใจคำถามรึเปล่า....(ก็ไม่ใช่ภาษาไทยนี่เนอ๊ะ)
ก่อนนอน กราบพระ อธิฐาน นึกถึง ตา ยาย น้า ลุง ที่ล่วงลับ กลับมาช่วยหลานก่อนอิอิ
แล้วก็ไม่ลืมที่จะกราบเหรียญ พระบรมรูปรัชการที่ 5 ซึ่ง หน้าชายให้มาไว้เมื่อ ตอนมาอยู่อเมริกาใหม่ ๆ
แล้วทุกครั้ง ที่กราบไหว้บูชาท่าน ก่อนออกทำศึก เอ้ย ไม่ใช่ ก่อนจะไปสัมภาษณ์ ทุกครั้ง ครั้งที่แล้ว
ก็3 ปีที่แล้ว เมื่อเริ่มหางานครั้งแรกในอเมริกา กราบท่านก่อนไปสัมภาษณ์ แล้วก็ได้งานในวันนันคะ
ต่อมาให้หลัง อีก 3 ปี ดิฉันก็ต้องไปสัมภาษณ์อีกครั้ง บริษัทเดิม แต่หน้าที่ใหญ่ขึ้น จะสัมภาษณ์ให้ได้ก้าว
ขึ้นไปเป็นผู้จัดการแผนกคะ เป็นความเชื่อที่ติดตัวเสมอ และก็ทำสม่ำเสมอ
ดิฉันก็แต่งตัวสุภาพคะ พวกฝรั่งเนี่ย เขาชอบใส่กางเกงกัน ดิฉันหัวโบราณ ใส่กระโปรง เสื้อสูตรดูเป็น Pro ขึ้นมาหน่อย แต่ก็อย่างว่า ตอนนี้อ้วนมากมาย เลยต้องไปซื้อชุดใหม่ ลงทุนไม่มากคะ ก็ใส่หนเดียว ก็ไป Rossคนอยู่อเมริกา คงทราบนะคะ ว่าระดับไหน แหะ ๆ เป็นร้านเสื้อผ้ารวมมิตรคะ ราคา ไม่เกิน 20 เหรียญ ก็หรูได้คะ ดิฉันก็เลือกมาเลยได้ชุดสีดำเสื้อลายสก๊อตเป็นสูตร หาเสื้อลูกไม้สีขาวใส่ให้เข้ากัน เบ็ดเสร็จก็ได้มาในราคา 30 เหรียญ ถูกเนอ๊ะ แหม...ไม่ได้ใส่กระโปรงมานานหลายปี หลังจากที่มาอยู่ที่นี่ รู้สึกเขินเหมือนกัล....
เช้า เวลานัดเริ่มที่ 9.00 am ดิฉันไปก่อนเวลา 20 นาที ลงชื่อเสร็จหันมา โอ้...แม่เจ้า....มีฝาแผดของดิฉันเกิดขึ้นบนโลกนี้ จริง ๆ คะ ชุดหมือนกันเป๊ะ รูปร่างใกล้เคียงกันอีกด้วยผิดกันตรงที่ผิวอ่ะคะ เธอขาวฝรั่งจ๋า อิชั้นก็ดำขำสีแทนค๊า..... เธอ ก็หัวเราะดังลั่น ดิฉันก็หัวเราะดังลั่น ทุกคนหันมามอง นังสองคนนี้มันหัวเราะอะไรกัน สรุป คนทั้งห้อง ก็หัวเราะดิฉันกับแฝดคนละฝาที่มาบรรจบกันทีนี่ แต่ดิฉันก็ไม่ได้เขินอะไร เพราะว่า ถือว่า ดิฉันแต่งตัวมาสัมภาษณ์แบบให้เกียรยติ กับสถานที่ แต่มันบังเอิญเท่านั้นเอง ก็เป็นที่คลื้นเครงกันไป ก็ขำ ๆ ดีคะ ดิฉันได้อยู่กลุ่มA มีประมาณ 15 คน
ก็ทักทายเพื่อนๆที่เข้ามาสัภาษณ์ร่วมกันเสร็จ พอเริ่ม 9.00 เป๊ะ ก็มีเจ้าหน้าที่เรียกกลุ่มแต่ละกลุ่มเข้าห้อง
วันนี้เป็นการสัมภาษณ์กลุ่ม Grop Interview ในใจเราเคยผ่านการสัมภาษณ์ แบบนี้มาแล้ว ก็ไม่ค่อยกลัว
แต่ที่จะกลัวนั่นคือ โจทย์ ที่พวกเราจะต้องทำนี่ซิ เรื่องใหญ่ นอกจากกลัวเรื่องภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการแล้ว
ยังต้องมากังวลว่าเราจะ แสดงออกได้ดีมั่นใจได้แค่ไหน..เฮ้ออออออออออ
พอเข้าไป ก็เลือกที่นั่ง โต๊ะเรามี 4 คน ผู้หญิง 3 ผู้ชาย 1 ก็ยิ้ม ๆ เราจะร่วมหอลงโรงกันแล้วน๊า อิอิ
จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ทักทายกัน แล้วอธิบาย วันนี้ จะมีการสัมภาษณ์แบบกลุ่ม ทุกคนจะต้องทำให้คณะกรรมการเห็น
ถึงตัวตนให้ได้ ว่า ยูมีความมั่นใจ มีการตัดสินใจ บุคคลิกภาพ การแสดงออก การร่วม Teamwork ทุกอย่างจะอยู่ในสายตากรรมการ
แล้วจะมี โจทย์สถานการณ์ ตัวอย่างมาให้เราทำ 5 สถานการณ์ โหย แยะวุ๊ย.......เริ่มสั่นนิด ๆ แล้วคะ
โจทย์ที่ 1. ให้จับฉลากเลือกสถาณการณ์จำลองที่กรรมการจัดให้ เหมือนเลือกคำตอบนางงามเลยแหละคะ แต่เลือกสำหรับกลุ่ม
และแล้ว ความมือไวของอิชั้น ก็จับขึ้นมาได้สถาณการณ์ ที่เกี่ยวกับเวลาไป Shopping เกิดเหตุการใดที่เราไม่ชอบการบริการ
ของสถานที่นั้น ๆ
แล้วก็ให้เวลา 5 นาที เกี่ยวกับการสอบถามเพื่อน เราต้องแนะนำเพื่อนที่นั่งด้านข้างเราว่า เขามาจากไหน ทำงานแผนกอะไร
เขามีเหตุการณ์ เกี่ยวกับการไป Shopping แล้วไม่พอใจอย่างไร
โจทย์นี้ ก็ยากน๊ะ เราต้องถามเพื่อนนั่งข้างเรา ให้ละเอียด ต้องจำให้ได้ด้วยว่าเขาพูดว่าอะไร เกี่ยวกับสถานการณ์ ที่เขาเจอมา
แล้วเราต้อง Precent ให้ทุกคนฟัีง
คราวนี้ คิดกันอยู่นานเกี่ยวกับสถานการณ์ เลยลืม ที่จะถามเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนว่าทำงานอะไร กี่ปี นิสัยเป็นอย่างไร อันนี้เริ่มเหวออ่ะ
เวลาก็หมดแล้ว อิฉัน ยังไม่รู้ว่าจพูดอะไรเลยอ่ะ เอาว๊ะ Make up story เองแล้วกัน มีแอบถามเพื่อน ผู้ชายนั่งข้างเรา ทำงานที่ไหน แผนกอะไร
ชื่อไม่ต้องถาม เขามี ชื่อติดหน้าอก มองเห็นคะได้แค่นั้นจริง ๆ คะ แล้วที่เหลือ ตอนนี้ ก็ต้องดำน้ำว่ากันเอาเอง แต่ก็ใจดีสู้เสือ
เขาถามใครจะ Precent ก็รีบยกมือกะเค๊า ทั้ง ๆ ที่ใจเรายัง
ไม่รู้เลยว่ ตรู จะพูดอะไร....ทุกคนดูมั่นใจมาก รีบแข่งกันยกมือ เราก็เอามั่ง ทั้ง ๆ ที่สั่นอยู่
แต่โชคดี กรรมการเลือกคนอื่นก่อน เรายังพอมีเวลาววุ๊ย
และแล้ว ดิฉันก็ออกไป Present แบบยิ้มร่า แอบหัวเราะตัวเอง อีนี่ ปั้นเรื่อง แต่สถาณการณ์แบบนี้ จะยืนอื้ง ไม่พูดอะไร ไม่ได้คะ ต้องทำให้ได้
แล้วก็เริ่มพรรณา เพื่อนชายที่อยู่ด้านข้าง ไปเขายิ้มง่าย บริการลูกค้าเยี่ยม ทำงานที่นี่ มา 4 ปี แผนก Drug storeบลา บลา บลา
แถมยกตัวอย่างเองทั้งหมด เช่น เพื่อน ไป Shopping ที่ Walmart แล้ว หาสินค้าที่ต้องการไม่เจอเลยไปสอบถามพนักงาน
แต่ไม่มีพนักงานคนไหนที่จะสนใจมาช่วยเพือนหาสินค้า เลยทำให้รู้สึกไม่ดีกับการบริการ อะฮ้าา เอาซิ ไปได้น้ำขุ่น ๆ ทั้ง ๆ ที่เพื่อนไม่ได้บอกแบบนี้อ่ะ
อีเพื่อนผู้ชาย แอบ อมยิ้ม
คงนึกว่า นี่นังนี่ Make up story ฮา ฮา ฮา แต่ก็จบลงด้วยดีคะสำหรับโจทย์นี้
โจทย์ที่ 2 ให้กระดาษ และอุปกรณ์เครื่องเขียน มากมาย หลายหลาก มากองให้บนโต๊ะ แล้วให้ทำผลงานเกี่ยวกับ บลา บลา
(เฮ้ย...ไม่เห็นเข้าใจเลยอ่ะ ทำอะไรวุ๊ย....)
จริง ๆ คะ โจทย์ที่ 2 ดิฉัน โง่ ..... งง เป็นไก่ตาแตก ไม่รู้จริง ๆ ฟังไม่เข้าใจจริง ๆ เขาให้ทำอะไร รู้แต่ว่า ทำอะไรกับกระดาษ แล้วก็ต้องพรีเซ้น ว่าเราทำอะไร
นึกไม่ออกจริง ๆ เพราะว่า ไม่เข้าใจแต่ก็เอาวะ เวลาไม่มี เขาให้ 5 นาที มัวถามคนอื่น ก็เกรงใจ แปะ ๆ อะไร ต่อมิอะไรลงไป เรื่อยเปื่อย
มีแอบมองคนด้านข้างด้วยอ่ะ ทำอะไรวุ๊ย ก็เลยนึกถึงเมื่อเวลาเด็ก ๆ คุณครูคงให้ทำศิลป แล้วก็ ให้พรีเซ้น เรื่องราวของเรา ก็นึกเอาเองอีกแล้ว
แต่ว่า เราต้องทำให้ผ่านให้ได้ ทำไปเรื่อย ๆ ไม่มีจุดมุ่งหมายคะ จริง ๆ คิดว่า ตายเอาดาบหน้าวุ๊ย แล้วแล้ว เวลาก็หมดลง
ทุกคนก็ต้องนำผลงานออกไป พรีเซ้น ดิฉัน ก็รออีกแล้วคะ ให้คนอื่นผ่านกันไปซัก คน สองคนก่อน ดูลาดเราว่า มันทำอะไรกันวุ๊ย...
นี่เป็นการเอาตัวรอดของดิฉันคะ เมื่อฟังภาษาอังกฤษไม่เข้าใจ ก็รอดูคนข้างหน้าไปก่อน ยังไม่สายนี่นา และแล้ว ก็แต่ละคนก็พรีเซน แต่ละรูปแบบ
ไอ้ตัวเราก็เอางัยดีวุ๊ย ขืนยกมือเป็นคนสุดท้ายก็ไม่ดีน๊ะ เดี๋ยวกรรมการหาว่าไม่กระตือรือล้นจะพรีเซน เลยยกมือ
แล้วก็มั่ว Make up Story อีกแล้วครับทาน จริง ๆ การทดสอบแบบนี้ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิดคะ เพียงแต่ว่า เราต้อง พรีเซ้น ตัวตนของเราออก
มาให้ไ้ด้มากที่สุดเท่านั้นเอง
ดิฉันก็มั่ว ว่าไอ้ศิลป ปะ ๆ ติด ๆ ของดิฉันเนี่ย คงไม่มีใครดูออกหรอกเนอ๊ะ ทุกคนก็หัวเราะ สร้างบรรยากาศคะอันนี้ แล้วก็บอกไปว่า นี่เป็นภาพเกี่ยว
กับ HEB (ชื่อบริษัทที่ดิฉันทำงานอยู่นี่แหละ) รอบ ๆ ข้าง จะมีผู้คนมากมาย แล้วเราเป็นจุดศูนย์รวม การบริการ และการขาย ซึ่ง ทุกคนต้องกิน ต้องใช้นี่นา
เพราะฉะนั้น เรามีสินค้ามากมายให้เลือกหาซื้อ ที่นี่ที่เดียว ดีที่สุด มีบริการที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเท็กซัส สินค้าถูกที่สุด บลา บลา บลา.........
เออ
.........เห็นหน้ากรรมการยิ้มวุ๊ย แล้วก็ตบท้าย ด้วย สโรแกน ประจำ บริษัท H.E.B. Here Everything Better.......WOW คิดได้งัยเนี่ยเรา
โจทย์ที่ 3 มีสินค้าแบรน HEB มาให้ กลุ่มละ 1 ตะกร้า แล้วให้จัดเรียงสินค้าให้น่าชม และต้อง present แบบรวมกลุ่ม ให้เวลา 5 นาที
กลุ่มดิฉัน ได้แผนก Drug store เป็นของใช้เกี่ยวกับ Baby และก็เพื่อน ในกลุ่มทำงานอยู่ Drug store 2 คน เลยสบายหน่อย
เรียงสินค้าก็ไม่มีปัญหา แต่
การที่จะนั่งรอคนอื่นเรียงสินค้านี่ คะแนนตกแน่ ตุ๊กตา เอ๋ย จงลุกขึ้น กุลีกุจอ ช่วยเพื่อนในทันใด จัดตรงนั้น ยกตรงนี้ แบบว่า เหมือนเคยทำมาก่อน
แต่ก็อีกนั่นแหละคะ แสดงความกระตือลือร้นในงานแต่ละงาน ให้กรรมการเห็นไม่เป็นเรื่องแปลกคะ เรียกคะแนน คิดซะงั้น แล้วก็หมดเวลา ยังไม่ได้
คุยกันว่า ใครจะพรีเซ้น กันอย่างไร แบบไหน เอาละซี่ ต่างคนก็ต่างก็มองหน้ากัน ไม่รูวุ๊ย รู้แต่ว่า งานนี้ต้องทำให้ดีที่สุด ยืนเฉยไม่ได้นะเรา
พอดี หนุ่มน้อยในกลุ่ม ก็ยกมือ ขอกลุ่มเราพรีเซ้น เฮ้ย......เอาจริงเหรอ มองกันด้วยสายตา อิอิ เอาว๋ะ เป็นงัย เป็นกัน ก็มันทำอยู่แผนก Drug store นี่หว่า
มันคงมั่นใจตัวเองมาก จนลืมนึกว่า เพื่อน ๆ อย่างดิฉันเนี่ย พร้อมรึเปล่า ฮึ่ม....
ก็เริ่มด้วยหนุ่มน้อย พูดของเขาไปเกี่ยวกับตัวสินค้า .....ณ เวลานั้น คิดในใจ ยืนเฉยไม่ได้น๊ะตุ๊กตา ทำอะไรซักอย่าง เพื่อให้กรรมการเห็นว่า ยูก็มีกึ๋น
พอหนุ่มน้อยแกพรีเซ้นจบ อิชั้นก็ต่อแบบไม่ต้องคิดมากคะ เอาแบบง่าย ๆ ใครซื้อสินค้านี้แล้ว เรายังมีคูปองให้ท่านได้เลือกแบบราคาต่ำลงกว่าห้างอื่นอีกด้วย
แล้วก็มีซื้อ 1 แถม หนึ่ง บลา บลา บลา แบบว่าเคยเปิดท้ายขายของมาก่อน เลยไม่อายคะ อันนี้ประสบการณ์จากเมืองไทย มาใช้ที่นี่ได้นะเออ
ดิฉันจะพยายามมมาก เน้นเกี่ยวกับ ชื่อบริษัท ให้มามีส่วนร่วม อยู่เสมอ แล้วก็หยอดน้ำตาล HEB บริษัทของเรา แคร์เสมอ เมือนลูกของคุณ คือ ลูกของเรา
ฮาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา คิดได้งัยวุ๊ย....แอบเห็นกรรมการยิ้มด้วยอ่ะ
แล้วเพื่อนในกลุ่มทุกคนก็ได้พูด Present กันไปงานนี้อิชั้น ก็ขุดกึ๋น ที่มีอยู่ออกมาใช้ทุกกบวนการเลยแหละ......
เขียนมา ยาวเนอ๊ะ ใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวต่อ ยำยอด ไปต่อ ภาค 2 นะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้ ก่อน และหลังไปสัมภาษณ์นะคะขอให้ทุกคนร่ำรวย สวย หล่อทุกคนค๊า..........สาธุ
Create Date : 11 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 11 กรกฎาคม 2551 4:08:55 น. |
|
5 comments
|
Counter : 578 Pageviews. |
|
|
สองนะค๊ะ