|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
ถาม : คนที่ทำบาปแล้วตกนรกไป ในขณะที่กำลังรับโทษอยู่นั้น เขาเกิดสำนึกได้ ต้องการที่จะทำความดี จะได้ไหม ? ตอบ: ตอนนี้ ไม่มีโอกาสแล้ว ถาม : ไม่มีโอกาสที่จะทำความดีอีกหรือคะ ? ตอบ: ในขณะที่กำลังรับโทษอยู่นั้นไม่มีโอกาส ถาม : แต่การทำความดีเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริม ถ้าไม่ส่งเสริมในขณะที่เขากำลังอยากจะทำความดี … ? ตอบ : นี้เป็นเรื่องของธรรมชาติ เราจะเข้าไปแทรกแซงได้อย่างไร นี่แหละจึงว่า ความเป็นได้หรือไม่ได้ในธรรมชาติ เป็นเรื่องของกฎธรรมชาติ เรื่องของธรรมชาติเป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่เป็นไปตามใจอยากของคน ในเมื่อเรารู้ว่าตายไปแล้ว ทำความดีไม่ได้ แก้ตัวไม่ได้อีกจึงต้องทำเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ คือ ประมาทไม่ได้ ท่านก็เลยสอนเท่าที่ทำได้ปฏิบัติได้ ก็จึงเอามาย้ำว่า นี่นะ เธอตายไปแล้ว ถ้าไปตกนรกไปแก้ตัวใหม่ในนั้นไม่ได้นะ ฉะนั้น จึงต้องทำความดีเสียตั้งแต่บัดนี้ แต่ตามปกติ มนุษย์ย่อมทำความดีบ้าง ทำความชั่วบ้างปนกันไป ดังนั้น เมื่อรับผลกรรมชั่วในนรกแล้ว ต่อไปกรรมดีที่เคยทำไว้ก็ให้ผลได้อีก เช่นกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ถาม : ท่านคะ แต่พอรู้สึกตัวว่าทำความชั่วมา เพียงแค่ตอนที่รู้สึก ก็เรียกว่าทำความดีแล้วใช่ไหมคะ ? ตอบ: ก็เป็นความดีแล้ว เป็นความสำนึก เพราะมันจะเป็นจุดเชื่อมต่อที่เกิดสติ แล้วหันกระแสได้ต่อไป เราจะเปลี่ยนกระแสได้นี้ ต้องสำนึกก่อน สำนึกแล้วก็รู้ เป็นสติกับปัญญา ทำให้เปลี่ยนแปลงหันเหวิธีการ หันเหทิศทาง ถาม : เพราะฉะนั้น นักโทษที่กำลังได้รับโทษอยู่ ก็ยังมีโอกาสอยู่ โอกาสสุดท้ายตอนที่สำนึกได้ ? ตอบ: เอาละ แกก็ทำดี แม้แต่จิตที่สำนึกนี้ ก็ทำให้แกหันมายึดเหนี่ยวสิ่งที่เป็นคุณงามความดี สิ่งที่เป็นธรรมะ เป็นกุศลขึ้น
ถาม: อยากกราบเรียนถามพระคุณเจ้าว่า เรื่องผี หรือวิญญาณนี่ มีจริงไหม ท่านเคยพบเองบ้างไหมคะ ? ตอบ: อาตมายังไม่เคยพบกับผีเลย ถาม: แล้วในความคิด ท่านว่ามีจริงไหมคะ ? ตอบ: ยังเผื่อไว้เฉย ๆ ก่อน เผื่อไว้ คือตอนนี้เราก็แค่มองจากเหตุผล เหตุผลก็ไปเนื่องด้วยศรัทธา เห็นว่ามีเหตุผลแล้วก็ศรัทธา แต่มันไม่ใช่ภาพที่เห็นจริงเห็นประจักษ์ ก็พูดกันแค่ว่า พอมีทางเป็นไปได้ไหม เอาอย่างนี้ดีกว่า เอาทฤษฎีอย่างนี้แล้วกัน ในกรณีที่ผีมีอยู่ผีจะปรากฏแก่คนได้อย่างไร จะปรากฏได้ ก็เป็นเรื่องของกำลังจิตต่อกัน ถ้าผีมีกำลังจิตแรงกว่าของคนนั้น และผีต้องการให้เขาเห็นคนที่มีกำลังจิตอ่อนกว่า ก็จะเห็น แต่ถ้าคนนั้นมีกำลังจิตแข็งกว่าผีก็สะกดไม่ได้ ก็จะไม่เห็นผี เพราะฉะนั้น การที่จะเห็นผีได้ต้อง ๑. ตกใจ ใจไม่ปกติ กำลังใจเสียไป ครึ่งหลับครึ่งตื่น จิตใจไม่แข็ง (ผีได้โอกาส) ๒. ต้องสัมพันธ์กันระหว่างผีใจแข็งแค่ไหน หรือคนใจอ่อนแค่ไหน คนธรรมดายากที่จะเห็นได้ ถาม : ขอเรียนถามว่า คนเรานี้ เวลาตาย ถ้าทำดีจะไปสวรรค์เลย หรือทำชั่วจะไปนรกเลย หรือต้องรอให้มีการตัดสินก่อนคะ ? ตอบ: ไม่รู้จะเอาใครมาตัดสิน เพราะทุกสิ่งเป็นไปตามกฎธรรมดาหรือกฎธรรมชาติ เป็นไปตามเหตุตามผล ทำความชั่วผลชั่วก็เกิด ทำความดีผลดีก็เกิด จึงบอกว่านี่เป็นกฎธรรมดา ไม่จำเป็นต้องอ้อนวอนอะไรอีก ผลเกิดจากเหตุ ฉะนั้น ถ้าจะไปสวรรค์ เวลาตายก็ต้องทำระดับจิตใจของเราให้ดี ถ้าระดับจิตของเราผ่องใส นึกถึงสิ่งที่ดีงามก็ไปสวรรค์ เป็นการตัดสินตัวเองเลย ไม่ต้องมีใครมาตัดสินอีกแล้ว
ถาม: ขอเรียนถามท่านต่อว่า คนเราต้องทำดีกี่เปอร์เซ็นต์จึงจะได้ไปสวรรค์ และทำชั่วกี่เปอร์เซ็นต์ จึงจะไปนรก แล้วถ้าเป็นกรณีก่ำกึ่งกัน จะเป็นยังไงคะ ? ตอบ: อันนี้ขึ้นอยู่กับภูมิระดับจิตที่มีอยู่ตามธรรมดา ไม่ต้องพูดเป็นเปอร์เซ็นต์ จิตอยู่ในระดับใด ก็ไปตามนั้น แต่ถ้าระดับก่ำกึ่งกัน ก็น่าจะมามนุษย์ละมั้ง แต่การเกิดเป็นมนุษย์นี่ ท่านว่ายากเหลือเกินนะ ตามหลักบอกว่า มนุษย์นี่เป็นสุคติของเทวดา เทวดานี่อยากเกิดเป็นมนุษย์นะ เทวดาที่เราว่ามีความสุขสบายนี่ พวกนี้ตรัสรู้ยาก เพราะว่าเทวดาได้รับแต่อารมณ์ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในสิ่งที่เป็นสุข มีแต่ทางให้ลุ่มหลงมัวเมามาก พวกนี้หลุดพ้นยาก การได้มาเกิดเป็นมนุษย์นี่ดี เพราะได้รับสุขบ้างทุกข์บ้าง มีบทเรียนชีวิตมาก มีประสบการณ์ที่จะสอนตนเอง ทำให้เกิดสติจะทำให้ชีวิตสุกงอม ญาณปัญญาแก่กล้า ทำให้ตรัสรู้ได้ดี ฉะนั้น ท่านว่า การมาเกิดเป็นมนุษย์นี่ดีแล้ว เทวดายังอยากมาเกิดเป็นมนุษย์เลย ทีนี้ ปัญหาอยู่ที่ว่า จะใช้ชีวิตมนุษย์อย่างไรจึงจะดีที่สุด
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2567 |
|
0 comments |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2567 16:42:10 น. |
Counter : 99 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|