เมื่อเดือนที่แล้วมีเหตุให้ต้องเก็บข้าวของเก่าๆ หนีการจะถูกโยนใส่รถซาเล้ง สิ่งที่ได้มาแม้จะเป็นข้าวของธรรมดาแต่กลิ่นอายของอดีตยังอวลติดอยู่ให้รู้สึกดีๆ เวลามอง อย่างชุดโต๊ะ-เก้าอี้เขียนหนังสือที่ระบุว่าซื้อมาตั้งแต่ปี 2529 ยังคงสภาพใช้การได้เป็นปกติ แค่ปรับระดับจากตอนที่ใช้ช่วงมัธยมนิดหน่อย ก็พอดีกับการใช้งานในปัจจุบัน ตารางเรียนสมัยมัธยมยังคงติดอยู่ที่หัวมุมเหมือนเคย-เหมือนเราไม่โตขึ้นเลย อิอิ ตอนนี้ได้โต๊ะทำงานใหม่แม้จะเล็กหน่อยแต่ก็ดีกว่านั่งปวดเข่ากับโต๊ะญี่ปุ่น อยู่กับของเก่าๆ แล้วรู้สึกมีไอเดียอะไรวิ้งๆ เต็มไปหมดเลย-ชอบจัง

นอกจากโต๊ะวัยเบญจเพสแล้ว งานนี้ยังได้เจอกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานมาก นานกว่าโต๊ะชุดนี้เสียอีก

 ฉันเจอหมอนี่ในสภาพแขนขาหลุดเหมาะแก่การโยนลงถังขยะเป็นที่สุด แต่ก็สะดุดกับดวงตาสีฟ้าเศร้าๆ นั้น ทำให้ฉันลองจับแขนขาของหมอนี่มาต่อเข้าที่ อื้ม... ต่อแล้วก็ดูดีมากๆ หล่อขึ้นมาทันที ดูเผินๆเหมือนของใหม่เลย จากตอนแรกที่จะทิ้งแล้วก็เปลี่ยนใจเก็บไว้ดีกว่า เพราะแววตาคู่นั้น หรือเพราะอดีตของหมอนี่ หรือเพราะอะไรก็ไม่แน่ชัด รู้แต่ว่าเป็นสิ่งที่ต้องเก็บไว้ ทำให้บ้านฉันมี...มนุษย์ต่างดาว

 เท่าที่จำได้ฉันกับหมอนี่ไม่สนิทสนมกันเท่าไร อาจเพราะหน้าตาเจ้านี่แปลกๆ ให้ความรู้สึกยึกยือยังไงไม่รู้ หมอนี่น่าจะสนิทกับพี่ๆ ฉันมากกว่า ก็ดูจากสภาพที่บอบช้ำน่าจะมาจากการทำวิจัยเรื่องมนุษย์ต่างดาวของพี่ๆ ที่แกะซะเครื่องในไม่เหลือ มีเพียงสายไฟไม่กี่เส้นทิ้งให้ดูเป็นซากอารยะ แต่ถึงแม้จะไม่สนิทกัน ฉันก็รู้ว่าหมอนี่ชื่อ E.T.

 ฉันจำไม่ได้ว่าเคยดูภาพยนตร์เรื่อง E.T. เพื่อนรักหรือเปล่า คิดว่าดูแต่จำอะไรไม่ได้เลย จำได้แต่หน้าอี.ที. เพราะฉันว่าอี.ที.มีรูปลักษณ์ที่น่ากลัว ผิวจะย่นๆ แขนยาว ขาสั้น พุงป่อง คอยาว หัวโต หน้าตาไม่ยิ้ม แต่หน้าตาแบบนี้ก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ฮิตมากในสมัยนั้น และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ตำนานของ สตีเวน สปีลเบิร์ก

 หุ่นอี.ที. ที่ฉันพบครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าได้มาตอนไปดูหนังหรือมีใครใจดีซื้อมาฝาก เท่าที่จำได้มันเป็นหุ่นที่ไฮเทคมากในตอนนั้น เพราะที่ตาจะมีไฟที่ปลายนิ้วชี้ข้างขวาจะมีไฟเหมือนในภาพยนตร์ แขน ขา หัว จับขยับได้ จำไม่ได้ว่ามีเสียงด้วยหรือเปล่า ก็สภาพตอนนี้อี.ที. เป็นแค่หุ่นโมเดล เพราะระบบอิเล็กทรอนิกส์ข้างในหายไปหมดแล้ว

 เจ้าอี.ที. ตัวนี้แก่กว่าโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เย็นแน่นอน แต่ฉันระบุไม่ได้ว่าเท่าไร ที่รู้ๆ คือปีนี้ภาพยนตร์เรื่องอี.ที. ครบรอบสามสิบปีแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเรามีความคิดเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมานานมาก แถมยังคงรูปลักษณ์ไม่ต่างกับในยุคแรกๆ คือ มีสัณฐานใกล้เคียงมนุษย์โลก หรือมนุษย์ต่างดาวมีรูปลักษณ์แบบนี้จริงๆ ไม่มีใครคิดว่ามนุษย์ต่างดาวจะมีรูปลักษณ์เหมือนโดราเอมอนบ้างหรือไง ก็มนุษย์เรายังคงเชื่อตามแบบทฤษฎีที่เป็นไปได้อยู่นี่นะ

 สงสัยฉันต้องรีบหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาซ่อมเจ้าอี.ที. ตัวนี้ให้ส่งสัญญาณไปที่ยานแม่แล้วมาไขความจริงกันว่า มนุษย์ต่างดาวหน้าตาเป็น

อย่างไร