จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
4 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
ฝากเพื่อนด้วย







แม่กับน้องตักบาตรตอนเช้าตรู่




เช้าตรู่วันนี้ (3 พ.ย. 2550) ลุกขึ้นมาตักบาตรกับแม่และวีดวาด เพราะวันนี้เป็นวันเปิดตลาดใหม่ ตะกั่วป่า ริเว่อร์ไซด์ พลาซ่า อยู่หลังตลาดบขส.บางนายสี





เก้าโมงเศษ ฉมังฉายขับรถมารับผมที่หน้าบ้าน ด้วยมาดศิลปินเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและทรงผม หากย้อนหลังไปสักสองปี เราจะไม่มีวันได้เห็นเขาในรูปแบบเช่นนี้เลย เพราะเขาคืออดีตหนุ่มธนาคารซึ่งตัดสินใจลาออกด้วยเหตุผลสองสามประการ และหนึ่งนั้นคือการได้มานั่งเขียนหนังสือตามที่หัวใจเขาปรารถนา





ฉมังฉาย นักเขียนหนุ่มไฟแรง


ความจริงนักเขียนหนุ่มไฟแรงผู้นี้มีภูมิลำเนาอยู่ตะกั่วป่า แต่ตัดสินใจไปปักหลักอยู่ที่อำเภอบ่อสร้างจังหวัดเชียงใหม่ เรารู้จักกันมานานพอสมควรแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่เขาทำงานธนาคารอยู่ที่กรุงเทพฯ เคยพบปะสังสรรค์กันบ้างมาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว

ช่วงนี้เขากลับมาเยี่ยมแม่ที่ตะกั่วป่าและมานั่งเขียนหนังสือไปด้วย เรานัดหมายกันว่าจะไปเยี่ยมพี่สิทธิ์ หรืออาจารย์ประสิทธิ์ ศรีหะรัญ เพื่อนสนิทของพี่ไพบูลย์ พันธุ์เมือง (ลุงบูลย์แห่งบล็อกแก๊งแห่งนี้) ผมรู้จักกับพี่สิทธิ์เพราะพี่บูลย์ และอัธยาศัยเราต้องกันดี ผมเคยนอนที่บ้านปลายฟ้ามากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว (บ้านหลังนี้ที่ปลายแปรงอยู่) ฉมังฉายเป็นลูกศิษย์ของพี่สิทธิ์และพี่บูลย์ในสมัยเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถม

เราคุยกันไปตลอดทางขณะที่เขาทำหน้าที่ขับรถและชวนชี้ให้ชมภูเขาโขดเขินเนินไศลระหว่างทางฉากเหล่านี้เขาเก็บไปเขียนเรื่องสั้นหลายเรื่องแล้ว เขาขับผ่านหมู่บ้านที่เขาเคยอยู่ในวัยเด็กและชี้ให้ดูบ้านญาติของเขาหลังโน้นหลังนี้ ผมก็ฟังไปถามไป ชั่วเวลาไม่นานนักก็ถึงบ้านปลายฟ้าที่ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปลายวา ตำบลเหมาะ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา

เมื่อถึงบ้านเจ้าของบ้านไม่อยู่ อยู่แต่ลูกชายบอกว่าพ่อกับแม่เข้าไปในสวนพร้อมชี้ให้ดูภูเขาลูกนั้น ตอนแรกว่าจะตามไปในสวนอยู่แล้ว แต่บวกลบคูณหารใช้วิธีดักรอที่บ้านสะดวกกว่า





ภูเขาหน้าบ้านปลายฟ้า



ผมนั่งสนทนากับฉมังฉายอย่างเพลิดเพลิน จนเจ้าของบ้านเข้าบ้านมาตอนไหนไม่รู้ตัว จากนั้นเจ้าของบ้านก็ทำอาหารมื้อกลางวันเลี้ยงดูแขกผู้มาเยือนด้วยน้ำใจแสนดี

เรื่องที่ผมสนทนากับฉมังฉายส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องหนังสือ วรรณกรรม และการเขียน ก็มีทั้งเห็นด้วยและเห็นต่างกันเป็นเรื่องปกติ วันนี้ฉมังฉายไม่ใช่ละอ่อนในวงการวรรณกรรมเหมือนเมื่อสี่ห้าปีก่อนแล้ว เขามุ่งมั่นเอาจริงเอาจังและเข้มข้นกับสิ่งที่เขาเลือก เขาอ่านหนังสือมากขึ้น และประการสำคัญคือการลงมือ “เขียน”

ช่วงเวลาปีเศษๆที่ผ่านมาหลังจากที่เขาลาออกจากงานธนาคารแล้ว เขาเขียนนิยายจบไปสองเรื่องแล้ว และเรื่องสั้นอีกประมาณ 30 เรื่อง และมีเรื่องสั้นจำนวนหนึ่งที่กำลังทยอยตีพิมพ์ในนิตยสาร และทุกวันนี้เขาก็ยังคงเขียนหนังสือเกือบทุกวันและมีโครงการที่จะเขียนโน่นเขียนนี่อีกหลายอย่าง พูดได้ว่าไฟแรงจริงๆ

วันนี้ผมพกหนังสือที่อ่านแล้วติดตัวมาสามเล่ม เล่มหนึ่งคือ “ถนนนักเขียน” ของเออร์สกิน คอลด์เวล เล่มที่สอง “ไม่ผลักไสไม่ฝ่าหา” ของพระไพศาล วิศาโล และเล่มที่สาม “มีไว้เพื่อซาบ” ของอุรุดา โควินท์ หนังสือเรื่องสั้นเล่มโปรดในรอบปีของผม

ผมเห็นความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังทั้งน้ำเสียงและแววตาของเขา และที่ชัดเจนไปกว่านั้นก็คือจำนวนผลงานที่เขาลงมือเขียน เมื่อเห็นความเอาจริงเอาจังของคนหนุ่ม ผมจึงมอบหนังสือ “ถนนนักเขียน” ของเออร์สกิน คอลด์เวล ให้เขาเผื่อว่าอาจเป็นแรงบันดาลใจเพิ่มให้เขาได้อีก ในการที่เขาเลือกที่จะเดินบนถนนนักเขียนต่อไป

เล่มที่สอง “ไม่ผลักไส ไม่ใฝ่หา” เป็นหนังสือธรรมะเล่มที่ผมชอบอีกเล่มหนึ่งซึ่งได้รับน้ำใจมาจากหมี แมกไม้ – เธอผู้มีน้ำใจที่ส่งหนังสือมาให้อ่าน ตามปกติแล้วผมจะไม่ให้หนังสือที่คนอื่นให้ต่อกับใคร ครั้งนี้อาจนับเป็นครั้งแรก เพราะเห็นว่าเรื่องในหนังสือนั้นดีมากจึงอยากให้พี่สิทธ์ได้อ่านบ้าง



พี่สิทธิ์


ส่วนเล่มที่สาม “มีไว้เพื่อซาบ” เพิ่งอ่านรอบเดียวยังไม่ทันช้ำเลย แต่เต็มใจยกให้ปลายแปรง เพราะอยากให้เธออ่านเรื่องสั้นชุดนี้ของอุรุดา โควินท์บ้าง เพราะขนาดผมเป็นผู้ชายผมยังชอบเรื่องชุดนี้ แต่ปลายแปรงไม่อยู่บ้าน(ยังไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไร)เลยฝากไว้กับพี่สิทธิ์ รอให้เธอกลับมาอ่าน



พี่พิศคู่ชีวิตพี่สิทธิ์


หลังอาหารมื้อกลางอันอันเอร็ดอร่อยผ่านไป เราก็นั่งสนทนากันอีกพักหนึ่งในบรรยากาศแสนสบาย เดี๋ยวฝนตกๆหยุดๆสลับกันไป



พี่สิทธิ์-ฉมังฉาย



ผมบอกกับพี่สิทธิ์ว่า ผมต้องการที่จะไปเกาะปันหยี พี่สิทธิ์โทรศัพท์ติดต่อเพื่อนฝูงให้ทันที แต่ปรากฏกว่าติดต่อไม่ได้ ผมจึงบอกให้พี่สิทธิ์เขียนเป็นจดหมายให้ผมถือติดตัวไปดีกว่า ผมเพียงแต่อยากได้ไปนอนบนเกาะปันหยีสักคืนสองคืน ผมจะไม่รบกวนหรือเบียดเบียนใคร เพียงแต่ต้องการให้รู้ว่าผมไม่ใช่คนร้ายที่ไหน (ถึงหน้าจะเหมือนคนร้ายก็เถอะ)

เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้วผมเคยไปเที่ยวเขาพิงกัน ถ้ำลอด เกาะตาปู แวะมารับประทานอาหารกลางวันที่เกาะปันหยีและได้เดินเล่นมาถึงโรงเรียน ตอนนั้นผมกับภรรยาเพิ่งแต่งงานกันใหม่ๆมาพร้อมกับแม่ยาย ผมจำความรู้สึกครั้งนั้นได้ว่าผมชอบบรรยากาศบนเกาะปันหยีมาก ถ้ามีโอกาสอยากได้นอนค้างสักคืนสองคืน

แต่ที่เกาะปันหยีไม่ใช่สถานที่ที่ใครๆก็จะไปพักได้ ไม่ใช่มีเงินก็ไปพักได้ เพราะฉะนั้นผมก็ควรจะแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการมีใครสักคนแนะนำให้รู้จักกับใครสักคน ผมเพียงแต่อยากไปสัมผัสกับบรรยากาศของหมู่บ้านกลางทะเล ได้รู้ว่ายามเช้านั้นเป็นอย่างไร กลางดึกนั้นเป็นอย่างไร ยามเย็นนั้นไปอย่างไร ได้เห็นวิถีชีวิตของพี่น้องมุสลิมเขาดำเนินชีวิตเป็นอยู่อย่างไร ผมจึงต้องขอให้พี่สิทธิ์ช่วยเหลือในกรณีนี้ เพราะพี่สิทธิ์เคยเป็นผอ.โรงเรียนอนุบาลพังงา น่าจะรู้จักกับใครที่เกาะปันหยีบ้าง พี่สิทธิ์ไม่รอช้า เขียนจดหมายฝากตัวผมกับเพื่อนมอบให้ผมทันที



จดหมายฝากตัว



เมื่อกลับจากบ้านพี่สิทธิ์มาถึงบ้านที่พักอยู่ พบน้องชายภรรยาผมกำลังรื่มรมย์สุรากับเพื่อน ผมก็เลยขอนั่งสนทนาด้วย และเล่าเรื่องว่าจะไปเกาะปันหยีให้เขาฟัง เพื่อนของน้องชาย(อำพล มาศทอง สท.เขต 2 ตะกั่วป่า)เอ่ยบอกว่าจะแนะนำให้ไปหาเพื่อนเขาซึ่งไปมีครอบครัวที่นั้น ผมยินดีรับไว้อีกเพื่อเป็นการเสริมไว้อีก เขาเขียนใส่เศษกระดาษ ด้วยถ้อยคำสั้นๆว่า “ฝากเพื่อนด้วย”



"ฝากเพื่อนด้วย"


พรุ่งนี้สายๆผมจะออกเดินทางไปอำเภอเมืองจังหวัดพังงา ยังไม่รู้ว่าจะนอนที่พังงาสักคืนหนึ่งหรือว่าตรงไปที่เกาะปันหยีเลยทันที ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตอนนั้น และพยายามไม่คาดหวังอะไรไว้ให้มากนัก

ผมเก็บเศษกระดาษแผ่นนั้นใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ ทำให้ผมนึกถึงเมื่อยี่สิบปีก่อนที่ผมตามภรรยามาที่ตะกั่วป่า (ตอนนั้นยังเพิ่งเริ่มรู้จักกัน) ทั้งที่ผมไม่รู้จักใครที่นี่เลย ก็น้องชายของเธอคนที่นั่งอยู่ในวงตรงนี้แหละที่เขียนโน้ตสั้นๆใส่เศษกระดาษให้ผมมาหาเพื่อนเขาคนหนึ่งที่ตะกั่วป่า ด้วยถ้อยคำเดียวกันว่า “ฝากเพื่อนด้วย” แบบนี้แหละ

เรื่องที่ผ่านมายี่สิบปี บางเรื่องก็ลืมเลือนไปบ้างแล้ว แต่ความทรงจำที่เกิดจากน้ำใจในเรื่องนี้ผมยังไม่ลืม และเมื่อนึกถึงจดหมายน้อยสองฉบับในกระเป๋า ก็ทำให้รู้สึกว่าการเดินทางไปเกาะปันหยีของผมครั้งนี้คงไม่โดดเดี่ยวจนเกินไปนัก


-----------------------------------------



ต้องขอขอบคุณในน้ำใจของพี่สิทธิ์และสท.อำพลมา ณที่นี้ด้วย





Create Date : 04 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 7:39:34 น. 47 comments
Counter : 2157 Pageviews.

 
นั่นแน่ กะมาแอบเอาลิงค์บางอย่างที่นี่หน่อย

ตกใจเลยเจอพี่โดมอัพบล็อก
..........
อ่านแล้วค่ะ..ไม่มีความเห็นใด
นอกจากอืมม์ ฉมังฉายไฟแรงและหล่อดีจัง..คริคริ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:21:08 น.  

 
พ่อพเยียกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว...
คือ ชอบเดินทาง และแน่นอน..หนูอิจฉา
แค่ดูรูปเห็นบรรยากาศธรรมชาติเช่นนั้น
อยากได้มีชีวิตอยู่ในอ้อมอกต้นไม้ไหล่เขาแบบนี้บ้าง

คุณฉมังฉายน่าทึ่งมาก ขอให้เขาประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป
หน้าตาท่าทาง..ติสต์สุดๆ

พ่อพเยียเดินทางไปไหนก็ขอให้ระวังนะคะ
อย่างน้อยมีจดหมายฝากตัว รับรองความเป็นพลเมืองดี
คงช่วยได้เยอะ
รักษาตัวนะคะ


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.65.172 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:43:17 น.  

 
อาโดมไม่สนใจมานอนกลางสวนยางพาราบ้างหรือค่ะ อิอิ

เห็นอาเดินทางไปไหนมาไหนได้ตามสบายแล้วอิจฉาจัง แต่ภาระความรับผิดชอบบวกกับความเป็นลูกผู้หญิง(ยิงเรือ) คงทำไม่ได้ ถ้าใจไม่กล้าจริง

ขอให้คุณอามีความสุขกับการเดินทางและได้เรื่องราวดีๆมาเขียนหนังสือนะค่ะ

รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ ฝั่งอันดามันฝนตกไหมค่ะ อ่าวไทยตกทุกวันเลย


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:56:38 น.  

 
เป็นมิตรภาพที่น่าภิรมณ์รื่นจริงๆ ครับ


โดย: พ่อข้าวปั้น (takechio ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:46:46 น.  

 
เช้าวันนี้เตรียมตัว ออกเดินทางแล้ว แต่ไปวอร์มร่างกายให้กระฉับกระเฉงเสียหน่อย

แวะเข้าบล็อกเสียก่อน
ก่อนที่จะเดินทางยามสาย

ไม่รู้ว่าช่วงที่อยู่ที่โน่นจะได้แวะเข้ามาที่บล็อกได้ไหม ?

แต่คิดว่าเดี๋ยวนี้ที่ไหนๆก็มีอินเตอร์เน็ตมั้ง ?



สวัสดีจ้ะยิปซีสีน้ำงน


กลับมาก่อน
มาทำเสน่ห์หกตกหล่นแถวนี้...
ระวังนะ..!


สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

จะเดินทางหรือไม่ก็เป็นคนเดิมนั่นแหละจ้ะ

ภาพภูเขาที่เห็นนั่นแหละ
ถ่ายจากที่นั่งอยู่ในบ้าน

บรรยากาศรื่นรมย์จริงๆ
อย่างตะเบบูญ่าอยู่ไหนก็มีความสุขได้ที่นั่นแหละจ้ะ

ขอบคุณความห่วงใยที่ฝากมาทางบล็อก

สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์


อย่ามาแกล้งถามน่ะว่าสนใจบรรยากาศสวนยางหรือเปล่า ?

เดี๋ยวแวะไปจริงๆหรอก

ถ้าไปที่เกาะปันหยี
สำหรับมัยดีนาห์สบายเลย
พอบอกชื่อก็รู้ว่าเป็นพี่น้องมุสลิมด้วยกันแล้ว

มีเพื่อนบอกว่าช่วงนี้ฝนเริ่มเบาบางแล้ว แต่ก็เดินทางได้สบายๆ

แล้วค่อยคุยกันใหม่นะ


สวัสดีครับคุณข้าวปั้น

ที่ไหนมีคำว่ามิตรภาพก็อบอุ่นที่นั่น

เกี่ยวกับมิตรภาพผมชอบสโลแกนบล็อกของคุณ 9A ที่ว่า...

"ในโลกนี้ไม่มีคนแปลกหน้าสำหรับเรา มีแต่เพื่อนที่เรายังไม่ได้พบเท่านั้น"


โดย: พ่อพเยีย IP: 117.47.104.185 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:6:39:39 น.  

 
วันนี้ตื่นแต่เช้า...

ฝนสั่งลาหน้าวสันต์จากจร...
ลมหนาวหอมข้าวท้องอ่อนโชยชาย
ยะเยือกย้ายหัวใจไปร่วมลงเล....


เสียดายไม่มีคุณนายมังคุดเนอะ...

ฉมังฉายเปลี่ยนไปจริงๆ.....
ผิดตาจากวันที่แต่งตัวเรียบร้อยเมื่อครั้งมากับลุงบูลย์ในวันนั้น...

สองปีแล้วกระมัง...วันที่ฉมังฉายมาบ้านปลายฟ้า ปลายแปรงยังเป็นแปรงล้างขวดอยู่นิ...ฮี่

ฝนยังตกอยู่แน่ๆเลย...เห็นเขียวสนามหญ้าฉ่ำเช่นนั้น
เย็นจมูกเลยล่ะพี่โดม......ปันหยีอาจมีคลื่นลมบ้างกระมังเพราะฝนยังไม่หยุด

ใส่เสื้อชูชีพให้พร้อมเน้อ...
อย่าลืมส่งเคยปันหยีกะกุ้งเสียบมาให้สาวดอยบ้างนะพี่


โดย: ปลายแปรง ณ ปลายดอย IP: 222.123.210.95 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:16:34 น.  

 
สวัสดีจ้ะปลายแปรง

ขอบคุณมากเลยที่ท้วงรูปพี่พิศมา
เพราะว่าเมื่อวานย่อทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว

แต่พอใส่ไหงกลับลืมนางเอกเสียนี่ ?

ปลายแปรงบอกเลยเอามาใส่ให้ยลกันคิดถึงเวลาอยู่ดอย


เมื่อวานอาจจะรีบร้อนไปหน่อย

ก็คิดว่าถ้าเรือเขาแล่นได้ บรรทุกผู้โดยสารได้เราก็ไปกับเขาได้แหละ แต่เพื่อนเพิ่งกลับมาจากเกาะปันหยีบอกว่าช่วงนี้คลื่นลมสงบแล้ว

ขอบคุณที่เป็นห่วง


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:43:44 น.  

 
ฝากเพื่อนด้วย
สั้นๆแต่ซึ้งใจและอบอุ่นใจด้วย


โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:48:19 น.  

 
"ฝากเพื่อนด้วย"

ข้อความสั้น ๆ แค่นี้แหละโดมสำหรับคนใต้แล้วเขาไม่พูดกันให้มากความหรอก

และสำหรับคนใต้แล้ว ถ้าเขานับว่าเป็นเพื่อนเขาจะเป็นเพื่อนกันยาวนาน แบบว่า มีเรื่องไม่วิ่งหนีทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลัง

แค่เพื่อนของเพื่อน และเพื่อนฝากไปเช่นนี้ หายห่วง "ใบเบิกทาง"

"เพื่อนกรู เพื่อนกรู"


โดย: แพรจารุ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:18:39 น.  

 
สวัสดีครับ


ตอนนี้ถึงเกาะปันหยีแล้ว

สบายมาก

นั่งพิมพ์ไปลมเย็นๆพัดมาชื่นใจ

โรงเรียนปันหยีสวยงามมาก

พร้อมครูอาจารย์ใจดี

แล้วค่อยมาคุยใหม่ก็แล้วกัน


โดย: พ่อพเยีย IP: 203.172.199.254 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:07:43 น.  

 
วงสนทนาคงออกรรสออกชาติดีนะท่านพี่ เคยได้ยินชื่อเสียงของหนุ่มท่านนี้มาบ้างเหมือน เด็ดเดี่ยวดีแท้ ทำให้นึกไปถึงพี่ชิต ที่ลาออกจากนายธนาคารมาเขียนหนังสืิอ ขอให้มีความสุขกับการเดินทางบนเส้นทางสายเก่านะท่านพี่
โจรสลัดแห่งบางนายสี


โดย: พราน (ตาพรานบุญ ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:10:15 น.  

 
"ฝากเพื่อนด้วย" ข้อความสั้น ๆ แต่บ่งบอกถึงมิตรภาพและน้ำใจครับ

ข้อความสั้นก็จริง เป็นข้อความที่ลืมได้ยากใช่ไหมครับ 20 ปีผ่านมายังไม่ลืมเลย


โดย: 9A วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:27:08 น.  

 
เพิ่ง อ่านเจอ จากสกุลไทย ตามมาอ่านค่ะ


โดย: PenKa วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:07:56 น.  

 


อาโดมคะ..

นกหนีงานไปทอดกฐิน 2-3 วันค่ะ ไปวัดป่าหนองดงหมู ที่นครพนม เป็นวัดบ้านป่าค่ะ อาโดม บริเวณวัด สงบดีค่ะ ได้ทำบุญแล้ว ใจเป็นสุขนะคะอา

ตามมาดูที่ทางบ้านปลายวา ของพี่ณุกับพี่ปลายแปรง น่าเที่ยวจังเลย นกไม่เคยไปทางใต้เลยค่ะ เห็นรูปแค่นี้ก็ตื่นตา ตื่นใจเหมือนกัน เลยตั้งหน้าตั้งตารอดูภาพบรรยากาศแถวเกาะปันหยี

ประทับใจกับคำว่า "ฝากเพื่อนด้วย" แค่นี้ก็บ่งบอกถึงความสัมพันธ และมิตรภาพที่ดีมากแล้วนะคะ



โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:08:41 น.  

 


หวัดดีครับพี่โดม

“ถนนนักเขียน” ของเออร์สกิน คอลด์เวล
ซื้อมาเก็บไว้ตั้งนาน
ยังไม่ได้หยิบมาอ่านเลยครับ

ข้อเขียนพี่วันนี้
ทำให้ผมอยากไปรื้อชั้นหนังสือ
หาหนังสือเล่มนี้มาอ่านครับ



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:32:08 น.  

 
หลบความวุ่นวายจากงานมาเยี่ยมบล็อกซักกะหน่อย

พ่อพเยียคะ
อิจฉาคนไปนอนฟังเสียงคลื่นทะเลที่ปันหยี กลางคืนจะเป็นไงบ้างน้อ เวลาไปทะเลก็มักจะได้ยินแต่เสียงคลื่นทะเลน่ะ

คิดถึงฉมังฉายจัง
ยังไม่ทันได้ไปเยือนบ้านที่เชียงใหม่ ก็ลงมาอยู่บ้านเกิดซะแล้ว
ถ้าพ่อพเยียไม่เอารูปมาให้ดู ก็คงจะจำไม่ได้
เดี๋ยวนี้เป็นหนุ่มมาดเซอร์ไปซะแล้ว

เคยมีโอกาสคุยกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ คุยกันทางโทรศัพท์ - -ได้ยินน้ำเสียง ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่รูปลักษณ์เปลี่ยนไป

เป็นนักเขียนอีกคนที่คุ้นเคย และหนอนฯ ได้เห็นความเพียรพยายาม รวมทั้งความมุ่งมั่นของเขามาตั้งแต่เริ่มต้น ขอให้ประสบความสำเร็จบนถนนหนังสือค่ะ

ถึงคุณแพร จารุ
ข้อความต่าง ๆ ที่เคยฝากถึงพี่มธุริน หนอนฯ ฝากบอกไปหมดแล้วค่ะ โดยเฉพาะเรื่องภาพวาดที่ชักชวนกันไปแสดงถึงทางเหนือนั้น พี่มธุรินว่าไม่มีเรี่ยวแรงพอ พี่เขาฝากความระลึกมาถึง "ยาย" ด้วยค่ะ รับไปซะดีดี



โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 202.28.180.201 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:38:21 น.  

 
เขาไปเที่ยวใต้
เราให้นึกอิจฉา
นายฉมังยังมา
ทำไมไม่ไม่บอกเราด้วยวะ

ดูสนุกสนานกันดีนะ
โอ้เกาะปันหยี ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว คิดถึงโรงแรมพังงาเบย์รีสอร์ท วันเปิดครั้งแรกยังมาจ้างลุงเขียนป้ายไปออกทีวี

เคยไปกินอาหารที่นี่ ครั้งสองครั้งอร่อยมาก ป่านนี้โทรมหรือยัง เปลี่ยนเจ้าของไปกี่ครั้งแล้ว คิดถึง...
คงจะต้องหาโอกาสไปเบย์รีสอร์ทและปันหยีสักวัน ตอนนี้หาตังค์ก่อน

ตอบเรื่องนางฟ้า
นางฟ้าเหาะแบบเมขลานั้น มันเรอร์ชั่นเก่า เหาะแบบนั้นต้านลม นมหก...

มันจึงต้องเหาะแบบซุปเปอร์เกิร์ล

ความจริงจะวาดแบบซุปเปอร์เกิล แบบที่ก็อบมาสะสมไว้จากเวบยัยแปรง แต่กูรูเค้าไม่อาว จะอาวนางฟ้าลิเก ก็เลยต้อง โอเค...

คำตอบนี้พอใจหรือยัง หาพ่อ domeair มัวแต่บินไปโน่นไปนี่ ไม่มีสนามลง(ถ่ายน้ำมันเครื่อง) ระวังเครื่องจะระเบิดนะ ฮ่า ๆ ๆ

นายฉมังฉายยังอยู่ใต้หรือ?


โดย: lungboon (pantamuang ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:06:39 น.  

 
ฝากกินบรรยากาศเผื่อด้วยนะคะ ตอนนี้งานยุ่งมาก แถมยังป่วยซะอีก เซ็งเลย..ย..


โดย: โตมานาน วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:25:22 น.  

 
น่าอิจฉาหนุ่มๆจัง เราจะมีโอกาสไม่เนี่ยได้ท่องเที่ยวอย่างมีความสุขแบบนี้อีก กี่พ.ศ.ถึงจะเป็นจริง ขอให้มีความสุขกับการเดินทาง


โดย: มด (Kanchanasuwan ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:04:56 น.  

 
เก็บรูป บรรยากาศ สวยๆมาฝากด้วยนะค่ะ
คิดถึงทะเลจังน่ะ


โดย: ทะเล IP: 58.9.96.192 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:47:39 น.  

 
น่าอิจฉาจังเลยอยากมีโอกาศ
ได้ไปเที่ยวมั่งจังเลย


โดย: หน่อย IP: 222.123.232.18 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:35:29 น.  

 
เที่ยวปันหยีให้เบิกบาน
แล้วขอ "ปัน" ความสุขจากการเดินทางให้ด้วยครับ

6-7 ปีที่แล้ว ททท เคยนำภาพถ่ายเกาะปันหยีจากทางอากาศไปประกวดโปสเตอร์การท่องเที่ยวที่ปารีส ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นภาพเกาะปันหยีและหมู่บ้านกลางท่องทะเลเขียวเข้ม รายล้อมด้วยเขาหินปูนอีกหลายลูก


โดย: J IP: 203.154.114.253 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:10:31 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆคน

นอนเกาะปันหยีมาสองคืนแล้ว
ยังไม่เบื่อเลย

คืนแรกนอนแห่งหนึ่ง
คืนที่สองย้ายมาอีกแห่งหนึ่ง
ตอนนี้คิดว่าไม่ย้ายแล้ว

ผู้คนบนเกาะอัธยาศัยใจคอดี
บรรยากาศสบายๆ

น่าจะอยู่ต่ออีกสักสองสามคืน

แล้วย้อนกลับไปที่ตะกั่วป่าอีก


ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่เข้ามา
ไม่ปล่อยให้บล็อกร้างว่างเปล่าจนเกินไป



มองออกไปริมหน้าต่างก็เห็นหมู่เกาะและน้ำทะเลสีเขียว ท่ามกลางเสียงเด็กๆที่ไร้เดียงสา

ซึ่งเวลาโตขึ้นมาแล้วไม่รู้ว่าเดียงสาหายไปไหนกันหมด



สวัสดีครับตาพรานบุญ

วงสนทนาก็เป็นไปตามประสาพี่ๆน้องๆ ไม่ขัดคอกันเอาเป็นเอาตาย ไม่เอาชนะ ไม่เอาแพ้กัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ้างธรรมดาๆ

สบายๆ วันหนึ่งวันใดมีโอกาสคงได้พบกับพรานบุญบ้าง คงจะคุยเก่งเหมือนตัวหนังสือนะครับ


สวัสดีครับคุณ 9A


อย่างสโลแกนบล็อกของคุณแหละครับ

ผมได้พบผอ.และภารโรงมีน้ำใจ

พาไปหาที่พัก

แล้วผมก็ได้พบกับบังเตน ซึ่งเกินความคาดหมายเลยครับท่าน

เขามีอาชีพรับจ้างพายเรือแคนูให้นักท่องเที่ยวตามหมู่เกาะต่างๆ

เขาเป็นมุสลิมที่น่ารักมาก
เราคุยกันหลายๆเรื่อง


สวัสดีครับคุณ penka


ด้วยความยินดีครับที่แวะมาทักทายกัน


สวัสดีครับกะว่าก๋า


ลองอ่านดูเถอะครับ เล่มนี้นอกจากจะได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของนักเขียนคนหนึ่งแล้ว สนุกชวนติดตามและยังถือว่าเป็นแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมสำหรับคนที่ฝันจะเป็นนักเขียนด้วย

ถ้าจำไม่ผิดกนกพงศ์ก็ได้อ่านเล่มนี้แล้วเกิดแรงบันดาลใจในการทำงานและใช้ชีวิตนักเขียน


สวัสดีจ้ะหนอน

ถ้าเจอฉมังฉายอีกหน
แล้วหนอนจะงงๆ

คือหล่อขึ้นเป็นกอง
น่าสนใจสำหรับเพศตรงข้ามและเพศเดียวกันขึ้นกว่าเดิมน่ะ
นั่นเป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอก
แต่ต้องติดตามความคิดและชีวิตภายในได้จากงานเขียนของเขาก็แล้วกัน


สวัสดีครับพี่บูลย์

นางฟ้าเหาะแบบซุปเปอร์แมนของพี่บูลย์น่ะ
ผมไม่ได้ว่าคนเดียวนะ คนข้างบนคอมเม้นท์ลุงเขาก็ว่าด้วย

เธอเปิดบล็อกพี่บูลย์ดูนางฟ้าเหาะแล้วก็หัวเราะดังมากเลยแหละ

เพราะนางฟ้าของพี่บูลย์เหาะแบบที่ผมก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อนก็แปลกตาแปลกใจนะสิ

ขอบคุณที่มาชี้แจงว่านางฟ้าเวอร์ชั่นนี้เหาะแบบนี้เพราะอะไร


ส่วนศิษย์รักนั้น ไม่ได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์บ้างหรือไร ?


สวัสดีครับคุณโตมานาน


เจ็บไข้ได้ปวยเป็นเรื่องธรรมดาครับ อย่าได้เซ็งไปเลย


สวัสดีจ้ะคุณมด

ไม่ได้คุยกันนานเลยนะ บล็อกคุณไปถึงไหนแล้วล่ะ เดี๋ยวว่างๆจะแวะเข้าไปดูนะครับ


สวัสดีครับคุณทะเล


เงียบหายไปนานเลย
คิดถึงนะ... รู้ไหมครับ ?


สวัสดีครับคุณหน่อย (ไหนหนอ ?)

ไม่ยากหรอกครับถ้าอยากทำจริงๆ หาเวลาว่าง อยากไปไหนก็ไปเลย มันยากตรงที่ตัดสินใจกับจัดการเรื่องเวลานี่แหละครับ ?


โดย: พ่อพเยีย IP: 203.172.199.254 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:45:09 น.  

 
ผมรู้จักหนังสือเล่มนี้จากบทสัมภาษณ์พี่กนกพงศ์ในไรท์เตอร์ครับ
จำได้ว่าพี่เค้าบอกที่บ้านว่าถูกลักพาตัว


วันก่อนผมลองเรียงหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านเป็น 3ตั้งครับ
ตั้งแรกที่อยากอ่านมากที่สุดประมาณ 50 เล่ม
ตั้งที่สองอ่านแน่นอนในเร็ววัน
มีประมาณ 100 กว่าเล่ม
ตั้งที่สาม...ยังไม่อ่านในตอนนี้

เล่มนี้อยู่ตั้งที่ 2 ครับ
เดี๋ยวจะเลื่อนมาอยู่ในตั้งที่ 1 ครับพี่


อ่านแน่นอนครับ

หวัดดีครับพี่โดม



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:20:49 น.  

 
พันพรือมั้งนายหัว ไปเที่ยวหนุกหม้าย
น่าจะครบทุกรสนะ
ฝนตก แดดออก
ผมจำได้ว่าเคยเห็นนายหัวโดม
ขับรถจิ๊บ เทห์ชมัดเลย(ถ้าจำไม่ผิดคนนะ)
ให้นึกถึงดาราหนัง สมัยกรุง ศีวิไลย์เลย
แล้วค่อแวะมาคุยด้วยเน้อ


โดย: พราน (ตาพรานบุญ ) วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:37:00 น.  

 
ขอบคุณพ่อพเยียสำหรับประโยคนี้..
อย่างตะเบบูญ่าอยู่ไหนก็มีความสุขได้ที่นั่นแหละจ้ะ
ได้คิดสะกิดใจ ฉุกคิดเตือนตัวได้ดีทีเดียว
หนูรู้สึกสงบขึ้นเยอะเลย...ค่ะ
ขอบคุณค่ะ


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.57.38 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:03:07 น.  

 
แหม ! นึกว่าจะขาดทุนอยู่คนเดียวซะละ อันเป็นว่าตอนนี้เราเสมอกันนะเจ้าค่ะ

คิดถึงบล๊อกคุณโดมเช่นกัน ช่วงก่อนคุณโดมไม่สบาย และยุ่งนิดหน่อย เลยไม่ได้ทักทายแขกเลย... พอหลังจากนั้น ทะเลก็ติดจ๊อบ เล็กน้อย เพิ่งเสร็จสิ้นไป เหนื่อยแต่หนุกดีค่ะ มีเรื่องราวที่ประทับใจหลายๆอย่างด้วยนะ เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆในชีวิตช่วงหนึ่ง... แล้วว่างๆ จะเล่าให้ฟังนะเจ้าคะ ....
แหะ แหะ ... รู้สึกจะติดไว้หลายเรื่องแล้ว



เอารูปสวยๆ มาฝากให้ชมกันด้วยนะค่ะ เหนื่อยจัง เลยคิดถึงทะเลมาก มากเลย


โดย: ทะเล IP: 58.9.159.165 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:07:48 น.  

 
แหม ! นึกว่าจะขาดทุนอยู่คนเดียวซะละ อันเป็นว่าตอนนี้เราเสมอกันนะเจ้าค่ะ

คิดถึงบล๊อกคุณโดมเช่นกัน ช่วงก่อนคุณโดมไม่สบาย และยุ่งนิดหน่อย เลยไม่ได้ทักทายแขกเลย... พอหลังจากนั้น ทะเลก็ติดจ๊อบ เล็กน้อย เพิ่งเสร็จสิ้นไป เหนื่อยแต่หนุกดีค่ะ มีเรื่องราวที่ประทับใจหลายๆอย่างด้วยนะ เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆในชีวิตช่วงหนึ่ง... แล้วว่างๆ จะเล่าให้ฟังนะเจ้าคะ ....
แหะ แหะ ... รู้สึกจะติดไว้หลายเรื่องแล้ว



เอารูปสวยๆ มาฝากให้ชมกันด้วยนะค่ะ เหนื่อยจัง เลยคิดถึงทะเลมาก มากเลย


โดย: ทะเล IP: 58.9.159.165 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:07:56 น.  

 
โฮะ...โฮะ....
ตาพรานเอ๋ย...

ถ้าเห็นพี่โดมขับรถจิ๊ปน่ะ ตาฝาดชัวร์ๆ....ชัวร์ป๊าป

อิชั้นให้ตาพรานมาเตะถึงปลายวาเลยเอ๊า.....

แล้วเราก็ต้องให้พี่โดมตอบเองแม่บ่อ.....

(ว่าแต่ว่า...เรามาอาศัยบ้านพ่อกำนันเขาหาเรื่องชาวบ้านทำไมหว่า.....ไป ตาพรานไปตีกันบ้านโน้น)


กลับมา....สงสัยจะขี้เกลือเคลือบแหงมๆเลยพี่โดม

อย่าลืมเคยกะกุ้งเสียบด้วยนะ....
เอาฝากท่านผอออกะคุณนายมังคุดพี่โดมไว้นั่นแหละ....

เพราะที่บ้านพะเยาเขาไม่ค่อยนิยมเคยกัน...นอกจากน้ำพริกกะปิ

แล้วหายข้องใจรึยังกะท่าซุปเปอร์เกิลร์เวอร์ชั่นนางฟ้าของลุงบูลย์น่ะ......
ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามาแอบแฮ๊ปรูปของปลายแปรงไป....แล้วก็ไม่บอกนะจะได้โหลดส่งไปให้...

จะส่งรูปเรทอาร์ไปก็เกรงใจคนที่บ้านลุงน่ะ.....

สุข สดชื่น ดื่มด่ำกับบรรยากาศกลางทะเลนะพี่....อย่าหลวมตัวปักหลักก็แล้วกัน


โดย: ปลายแปรง ณ ปลายดอย IP: 222.123.19.212 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:06:25 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

ไปถึงที่เกาะแล้วบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
จะเหมือนที่เห็นในละครหรือเปล่าค่ะ
ที่เขาปลูกบ้านไกลๆกัน
เดินลงบันไดบ้านมาเจอหาดทราย เดินไปอีกนิดก็เป็นน้ำทะเล
แล้วด้านหลังก็จะป็นภูเขา มีน้ำตกเย็นชื่นใจให้เล่นและอาบ
อยากเห็นภาพจังเลยค่ะ


โดย: เบญจวรรณ IP: 61.7.231.130 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:16:39 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม

แจมแวะมาทักทาย และดูรูป..ยังไม่ได้อ่านอะไรมากนักค่ะ

แต่ด้วยความคิดถึง จึงมาลงชื่อ
พร้อมกับคำถามเล็กๆ ถามเช่นเดียวกับถามพี่ปอน

"งานอินดี้" ปีนี้เมื่อไหร่คะพี่
เพื่อนแจมเขาอยากส่งงานประกวดน่ะค่ะ แจมก็เลยมาลองสอบถามพี่และพี่ปอนค่ะ



สวัสดีพี่โดมและทุกคนในบล็อกนี้อีกครั้งค่ะ..


โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.165.163 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:43:55 น.  

 
ท่านโดมช่วยตอบให้น้องปลายแปรงหายข้องใจหน่อยดิ ว่าท่านเคยเป็นไอ้หนุ่มรถจิ๊ปจริงหรือป่าว หรือว่าข้าน้อยจำคนผิด (ย้อนไปเมื่อสักสิบปีก่อนที่บุรีรัมโน่น)


โดย: พราน IP: 222.123.136.175 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:46:35 น.  

 
ดีจังเลยค่ะ คำว่า "ฝากเพื่อนด้วย" สามารถทำให้เราอุ่นใจยามเดินทางได้ ...แต่เห็นภาพแรกที่อุ้มเหมียวดำ..เหมียวน่ารักมากเลยค่ะ พุงป่องเชียว เหมียวดำพุงป่อง ขอให้คุณพ่อพเยียเดินทางอย่างมีความสุข สนุกสนานและปลอดภัยค่ะ


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:46:37 น.  

 
สวัสดีครับ

เพิ่งกลับมาจากเกาะปันหยี
มาถึงตะกั่วป่าแล้ว
คงอยู่สักสอง-สาม-สี่-ห้าวัน
แล้วค่อยกลับบ้านเมืองนนท์


สวัสดีครับกะว่าก๋า


ถ้าได้อ่านแล้วก็มาเล่าให้ฟังบ้างก็แล้วกัน
สำหรับหนังสือ "ถนนนักเขียน"
ผมอ่านนานเต็มทีแล้ว

แต่ก็จะมีติดบ้านอยู่เรื่อย
ให้คนอื่นไปหลายครั้งแล้ว
เจออีกก็ซื้ออีก


สวัสดีครับตาพรานบุญ

อย่างที่ปลายแปรงบอกนั่นแหละ

ไม่มีใครที่จะมีวันที่จะเห็นผมอยู่ในตำแหน่งคนขับรถจี๊ปได้เลย
เพราะผมไม่มีรถ ขับรถไม่เป็น
มอเตอร์ไซค์ก็ไม่มีและไม่เป็น
แต่เรื่องปั่นจักรยานไม่ยอมแพ้ใคร


ผมเดาเอาว่าคนที่คุณเห็นที่ขับรถจี๊ป น่าจะเป็นทนายกวีที่ชื่อ เทพย์ สิทธานี กวีแห่งเมืองจันทบูรณ์ แน่นอน

ตอนนี้ความลับคุณเผยออกมาแล้ว

มีคนมาตั้งทำจะจับให้ได้ว่าคุณเป็นใครแน่
เธอโทรมาซักถามผม ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าน่าจะใช่

แต่บอกที่บุรีรัมย์ปั๊บ ผม "คลิก" เลยทันที กุญแจดอกนี้ไขทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว

คุณคือคนที่ ใช่ คนที่ปลายแปรงสงสัยแล้ว

ผมจะไม่บอกตรงนี้หรอก แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว่าตาพรานบุญเป็นใคร

ทำไมผมถึงจำได้เพราะคำว่าบุรีรัมย์นี่แหละ ชัวร์
ไม่ใช่จำได้เพราะเคยเห็นหน้า แต่จำได้เพราะเรื่องราวบางอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้นที่บุรีรัมย์

ด้วยความยินดีครับ ทำให้เราได้ใกล้กันเข้ามาอีกนิด

รับรองว่าผมทายไม่ผิดแน่


สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

ขอบคุณสำหรับเพลงที่ส่งมาให้ เดี๋ยวอัพบล็อกใหม่จะเอาลงบล็อกนะจ๊ะ

สวัสดีครับคุณทะเล

รอฟังเรื่องที่คุณติดไว้ ส่งสัยจะรอเก้อแล้วมั้ง

แต่ก็จะรอครับ


สวัสดีจ้ะปลายแปรง

ชัวร์แล้วจ้ะปลายแปรง
คนนั้นแน่เลย

กลับมาถึงตะกั่วป่าด้วยความปลอดภัย เวลาลงทะเลไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพเลย

เพราะคิดว่าตัวเองว่ายน้ำเก่งน่ะ

ไม่ใช่อะไรหรอก ก็เห็นเขาไม่ใส่กัน แล้วดูท่าทางไม่มีคลื่นลมน่ากลัว ก็เลยไม่ได้ใส่



สวัสดีจ้ะหนูเบญจ์

เดี๋ยวลุงโดมอัพบล็อกใหม่จะเอารูปทะเลมาฝาก

แต่คงไม่เหมือนที่หนูเห็นในหนังหรือละครหรอกนะจ๊ะ


สวัสดีครับคุณชิน

กลับฝั่งแล้ว คุ้มค่ามากสำหรับการเดินทางครั้งนี้
ผมได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีก
และรู้สึกประทับใจหลายอย่างที่เกาะปันหยี


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:58:09 น.  

 
ถนนนักเขียนผมมีสองปกครับ
ปกแรกเล่มเก่าสั่งซื้อจากไรท์เตอร์
สมัยพี่กนกพงศ์เป็น บก.

เล่มหลังซื้อในงาน book fair ที่มช. จากมือของคุณเรืองเดชครับพี่

เดี๋ยวคงได้อ่านครับ
ตอนนี้ผมอ่านหนังสือเซ็นค้างอยู่ครับ
เซ็นสมัยราชวงศ์ซ่งครับ 555

........................


รูปที่เห็นผมยืนถ่ายน้ำจากเครื่องกรองน้ำที่บ้านครับ
ถ่ายซะปวดคอ ปวดไหล่
เพราะลองปรับสปีดชัตเตอร์
แล้วก็ตั้งความเร็วของรูรับแสงหลายๆแบบครับ

ถ้าใช้ออโต้ภาพจะออกมาอีกแบบ

แล้วก็นำรูปมาปรับสีใน photoshop อีกทีครับ

ดีใจที่พี่ชอบครับ
ผมว่าสีลูกกวาดดีครับ

หวัดดีครับพี่โดม



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:45:11 น.  

 
อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น
หลายครั้งที่ผมจำคนผิด เช่น ผมมักจำดาราฮอลิวู๊ดส์ผิดเสมอ เช่นจำ ออเลนโด บลูม สลับกับลีโอนาโด เดคาปิโอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่รายละเอียดว่าใครเป็นใครนั้นคงต้องไปว่ากันในชั้นศาล
โดยเฉพาะการให้ปากคำของคุณปลายแปรงนั้น กระผมขอให้ใช้วิจารณญาณด้วย
เพิ่งรู้ว่้าผมมีดี เฮช ไอ ตามแกะรอยอยู่แถมยังมีคุณหมอปลายแปรงทิพย์อีก ก็เป็นที่น่ายินดีที่คิดว่าท่านพี่เข้าใกล้อีกนิดหนึ่งแล้ว ถ้ารู้ว่ากระผมเป็นใคร วานช่วยบอกด้วยแล้วกัน เพราะกระผมก็ไม่รู้ว่ากระผมเป็นใคร?



โดย: พราน= เด็กขายน้ำอ้อยริมทางช้างเผือก IP: 124.157.221.116 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:23:00 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม

เข้ามาทักทายพี่คราวก่อน ดีใจจังที่พี่ยังจำได้อยู่ ตอนนี้อยู่ที่บ้านเมืองไทยนี่หล่ะค่ะ กลับมานานแล้ว ไปเถลไถลอยู่นั่นแค่ 2 อาทิตย์เอง จากที่ตั้งใจว่าจะอยู่ให้นานกว่านั้น ตอนนี้ก็เข้ามาติดตามอ่านเรื่องของพี่เป็นระยะๆ ค่ะ


โดย: ตาลจุง IP: 210.4.147.41 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:37:11 น.  

 
สวัสดีอีกครั้งค่ะพี่โดม..

แวะมาบอกว่า.. คุณใบข้าว เขาแปะรายละเอียดงานอินดี้
ที่บล็อกพี่ปอนให้แล้วค่ะ..

เผื่อว่าพี่จะได้ไม่ต้องค้นข้อมูล

ของแจมช่วงนี้ติดงานสหกรณ์ฯ
ว่างเมื่อไหร่ คงได้มาจ้ะจ๋าอยู่แถวนี้อีกค่ะ



โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.165.63 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:40:22 น.  

 
สวัสดีครับกะว่าก๋า

ขอบคุณครับที่บอกเทคนิค
แต่ผมก็คงทำไม่ได้หรอก

เพียงแต่อยากรู้ว่ารูปแบบนั้นเขาทำกันอย่างไร

เพราะการใช้อุปกรณ์จำกัดมาก
ทุกวันนี้ก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับกล้องดิจิตอลเลย ใช้ออโต้อย่างเดียว

และตอนที่ใช้ฟิล์มสไลด์ก็แค่ถ่ายให้ติดให้ชัด เรื่องเทคนิคต่างๆไม่รู้เลย

รู้แต่ว่าชอบดูรูปสวยๆ ไม่ว่าเป็นใครถ่ายก็ตาม


สวัสดีครับตาพรานบุญ

จะให้ผมบอกกลางอากาศเลยหรือเปล่าครับ ?

ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยสนใจหรอก

แต่คุณปลายแปรงทิพย์เธอตั้งข้อสงสัยขึ้นมา

ขนาดเธอชี้ให้ดูร่องรอยหลายจุด

ผมก็ว่ายังไม่ใช่ ไม่น่าจะใช่นะ

แต่พอบอกว่าเห็นผมที่บุรีรัมย์ ผมปิ๊งขึ้นมาเลยว่า ต้องใช่แน่ !



สวัสดีครับตาลจุง

ทำไมผมจะจำไม่ได้ และจำได้ว่าชื่อนี้เป็นชื่อของใคร (คุณเป็นแม่ของตาลจุงต่าหากล่ะ - หวังว่าผมคงไม่หน้าแตกนะ)

จำได้ดีด้วย

แล้วกลับมาทำงานที่เก่าหรือเปล่าครับ ?


สวัสดีจ้ะสีน้ำฟ้า

ขอโทษทีเมื่อกี้พลาดไปได้ไง ลืมตอบคอมเม้นท์ของสีน้ำฟ้า

มีอะไรส่งประกวดงานอินดี้หรือ

บอกได้ไหม ?


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:11:25 น.  

 
เพื่อนจะส่งกลอนค่ะพี่ ก็เลยถามดู แต่ทว่าของแจมเองถ้าทัน อยากส่งกลอนค่ะ..

จริงๆ แจมมีหนังสือทำมือเป็นของตัวเอง 3 เล่มแล้ว แต่ไม่ใช่สามเล่มของคุณภาพเท่าไหร่นัก

ทำไว้ตั้งกะปีที่แล้ว นี่หนังสือหมด (เอาไปบริจาค ประมูลเพื่อลุงไม้หลักปักมั่น กับกฐินที่วัดพระพุทธบาท)

ว่าจะส่งไปให้พี่โดมสักสองเล่ม อยากให้พี่แนะนำ หลังอ่านจบ(ประมาณนั้น)

แต่ก็เขินๆ



โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.165.63 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:25:15 น.  

 
พี่นุเล่าให้ฟังแล้วค่ะ.....

ตบเข่าฉาดๆๆ.....

ตั้งกะสมัยเตมูจิน อึ้งย้งลวงพิษปัจจิมจนยุคไปฝังขี้เถ้าบนดาวอังคาร

ไอ้แผนล่อเสือออกจากถ้ำนี่มันคลาสสิคแต้ๆน๊อ.....

ว่าจะเก็บไว้เป็นความลับแล้วนะ....แต่ว่าเสือหลุดกรงมาให้พี่โดมจับเองนี่นา
ข้าพเจ้าบ่เกี่ยวแล้วเด้อ.....

ไม่เป็นไร....ไปเที่ยวภูเก็ตรอบนี้มีที่ซุกหัวนอนอีกที่หนึ่งก็คุ้มแล้ว
นอนเอนตัวพิงต้นพร้าวร่ายกวีเพลินพิศชมทะเลบนเคปพันวา....

ใจคอเจ้าของบ้านเขาไม่รับรองญาติโกโหติกาก็ช่างประไร
ปลายแปรงกะตานุจะไปกางเต๊นท์นอนข้างๆร้านเขานั่นแหละ...อาศัยไว้เข้าส้วมเป็นใช้ได้.....

มีฟามสุขจริงว้อย....ปลายแปรงทิพย์...อะห้อย...อะห้อย


โดย: ปลายแปรง ณ ปลายดอย IP: 222.123.208.93 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:02:53 น.  

 
คุณโดมจำได้ไหมเอ๋ย.. ว่ามีเรื่องอารัยบ้าง ???????

คุณโดมเดาซิว่า คุณโดมจะ เก้อ ไม่หนอ????


โดย: ทะเล IP: 58.9.157.133 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:15:00 น.  

 
อาโดมขา ถ้ามามีหรือหลานตัวเล็กๆคนนี้จะไม่ต้อนรับขับไล่ เอ้ย ขับสู้ อิอิ แต่บ้านของนาเองไม่มีหรอกนะค่ะสวนยางน่ะ เป็นแค่ลูกจ้างเค้า แต่นาหาที่ทางให้ได้ เพราะพี่ชายของนามีค่ะ ไปพึ่งพาได้


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:17:32 น.  

 
สวัสดีดึกดึกค่ะพี่โดม
เดินทางขึ้นฝั่ง ปลอดภัยหายห่วงแล้วนะคะ
ช่วงไปภูเก็ต ขากลับแวะชิม เต้าส้อตะกั่วป่าด้วยค่ะ.. อร่อย
มองหาคนหน้าดุดุ..แต่ม่ายเจอ
พี่โดมสวมวิญญาณนักเดินทางนี่เอง

อ่านแล้วสงสัยจังค่ะ
พี่โดมก็คนในพื้นที่แท้ๆ เดินทางต้องมีใบผ่านทางด้วยหรือคะ

นกแสงตะวัน ครุ่นคิดแล้วไม่คลายสงสัย
ถ้าเราไม่รู้จักใครเลย..แต่ แค่เดินทางท่องเที่ยว ย่อมหมายถึงมีโอกาสได้รับการรังแกหรือคะ?



โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:2:13:18 น.  

 
สวัสดีจ้ะสีน้ำฟ้า


ถ้าจะส่งมาให้อ่านก็ไม่ต้องเขินหรอกจ้ะ

แต่ทว่าเกรงไม่มีคำแนะนำที่ดีให้น่ะสิ

เพราะจะมีคำแนะนำเฉพาะตัวที่อาจจะน่าเบื่อสำหรับคนที่เขียนใหม่ๆก็คือ "เขียนต่อไป" "เขียนอีกสิ" "เขียนอย่าหยุด" อะไรทำนองนี้แหละ


เพราะพ่อพเยียเชื่อว่า

การลงมือเขียนนั่นแหละคือคำตอบที่ดี่ที่สุดว่าเราเหมาะที่จะเขียนอะไร

หรือเขียนไปนานๆเราก็จะรู้เองว่าเราควรจะเขียนอะไร



สวัสดีจ้ะปลายแปรง


อย่านะ !

มาสะกิดบอกให้ดูแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


เดี๋ยวต้องรอให้เจ้าตัวสารภาพเองดีกว่าว่าใช่คนเดียวกันที่ปราสาทหินพนมรุ้งเมื่อหลายปีก่อนหรือเปล่า ?


สวัสดีครับคุณทะเล

คุณสัญญาว่าจะมาเล่าอะไรบ้าง

คุณเปลี่ยนเรื่องใหม่ผมก็ยังอยากฟังครับ



สวัสดีจ้ะมัยดีนาห์


อาโดมไม่ไปแล้ว เเพราะใกล้จะกลับบ้านเมืองนนท์แล้วหละ

ไปเกาะปันหยีอิ่มใจมาแล้ว

ขอบคุณสำหรับที่ทางจะหาได้


สวัสดีครับนกแสงตะวัน


ที่เข้าใจว่าพ่อพเยียเป็นคนพื้นที่ตะกั่วป่าหรือพังงานั้น

เข้าใจผิดแล้วครับ

พ่อพเยียเป็นเพียงเขยตะกั่วป่าที่ฝันอยากจะมาอยู่ตะกั่วป่าเท่านั้น

ส่วนที่ต้องมีใบฝากตัวนั้นก็เพื่อความรอบคอบ ไม่อยากเดินทางไปเก้อ (แต่ถึงไม่มีก็ตั้งใจไป แต่เห็นว่ามีคนรู้จักที่พอจะฝากได้ ก็ทำให้การเดินทางครั้งนี้มีเสน่ห์ขึ้นน่ะครับ)

เพราะเกาะปันหยีนั้นเคยไปคั้งแรกและครั้งสุดท้ายเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

ไม่รู้ว่าข้างบนเกาะเล็กๆนั้นมีที่พักหรือไม่ ถ้าไม่มีที่พักเราจะนอนที่ไหน เพราะจุดประสงค์ของการเดินทางไปเกาะปันหยีก็เพื่อต้องการไปนอนค้างบนเกาะ ไม่ได้ต้องการไปเที่ยวเห็นเกาะแล้วก็กลับ

ไม่ได้กลัวใครเขารังแกหรอก
แต่ทว่า...การมีคนแนะนำให้รู้จักกับคนท้องถิ่นบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือครับ ?

แต่เมื่อมีที่พักเราก็ไม่ต้องไปอาศัยนอนบ้านคนที่เขาฝากไป เราก็เช่าที่นอนของเราตามสบาย
และก็พบว่าการไปไหนแล้วได้ถามถึงใครบ้างนับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เดียว


อย่าลืมว่าบนเกาะปันหยีไม่มีวัดให้อาศัยนอนนะครับ

เพราะฉะนั้นเราเป็นคนแปลกหน้า ถึงแม้จะไปท่องเที่ยวเฉยๆ หากมีใครแนะนำให้ไปรู้จักกับใครบ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

และก็รู้สึกประทับใจมากเลยที่ได้พบคนที่แนะนำไปให้รู้จัก

แต่ถ้าไปตัวเปล่าๆ ก็คงกลับตัวเปล่าๆ แต่ครั้งนี้ได้เพื่อนกลับมาด้วย และคราวต่อไปถ้าไปเกาะปันหยีอีกก็ไม่ต้องมีจดหมายฝากจากใครแล้ว

นกแสงตะวัน..หายสงสัยหรือยังครับ ?






โดย: พ่อพเยีย IP: 222.123.240.155 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:6:53:05 น.  

 
สวัสดีรอบสองค่ะ
ขอบคุณพี่โดมที่อธิบายยาว ๆ ให้คลายสงสัย
ทราบค่ะว่าพ่อพเยียเป็นเขย... แต่ก็คิดว่าน่าจะเพียงพอแล้วในการเป็นคนในพื้นที่นี่นา แหะแหะ
พี่โดมอย่าดุนา นกแสงฯช่างสงสัย พอสงสัยก็ต้องถามอ่ะ


นั่นแน่ ได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกต่างหาก นี่กระมังที่ว่า คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็น..หนึ่ง

ทราบว่าครอบครัวพี่โดมจะมามหาสารคาม ยินดีฮับต้อนค่ะพี่ ถ้าไม่รังเกียจมาค้างที่บ้านใกล้ทุ่งของนกแสงฯนะคะ อาจไม่สะดวกสบาย แต่เจ้าบ้านยินดีและเต็มใจต้อนรับ..ที่สำมะคัญ ม่ายต้องมีจดหมายนำทาง จ้ากกก..!!

ไปแล้ววว..คืนนี้อยู่เวรยามจ้า


โดย: นกแสงตะวัน IP: 125.26.182.173 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:09:20 น.  

 
จำเรื่องไม่ได้ก็ไม่รู้จะเล่าอารัยเหมือนกันจ๊ะ


โดย: ทะเล IP: 58.9.234.184 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:21:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.