|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บุปผา
ช่างเป็นความไร้เดียงสาที่แก่แดดของเด็กชายผู้โง่เขลาอย่างผมเสียจริงๆ ที่ได้พบตัวเองตั้งแต่เป็นเด็กว่ามีความสุขและตื่นเต้นอย่างประหลาดเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับเพศตรงข้าม ไม่ว่าจะตอนเล่น หรือตอนเรียน หรือตอนไหนๆก็ตาม เมื่อมาไล่เรียงความทรงจำและพฤติกรรมต่างๆในวัยเด็กนั้นมีทั้งส่อและซ่อนปมปรารถนาไว้มากมาย
กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นคนมากรักหลายใจก็ย่างเข้าสู่วัยหนุ่มแล้ว และกว่าจะรู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นพิษภัยต่อชีวิตก็ล่วงเข้าสู่วัยหนุ่มใหญ่ใกล้ชราแล้ว
ช่วงที่เป็นเด็กชั้น ป.1 - ป.2 ป.3 นั้นความทรงจำในเรื่องนี้ไม่แจ่มชัดหรือไม่รู้ว่าหายไปไหน มาปรากฏชัดขึ้นอีกครั้งก็ตอนชั้นป.4 ป.5 ในช่วงรอยต่อนี้ เป็นช่วงที่เปลี่ยนจากการใช้ดินสอไปใช้ปากกาเป็นอุปกรณ์การเรียน นับว่าเป็นรอยต่อแห่งความเปลี่ยนแปลงช่วงหนึ่ง
เด็กนักเรียนหญิงในห้องหลายคนดูเหมือนว่าจะอยู่ในความสนใจของผมเกือบทั้งนั้น ใครก็ตามที่พูดจาดีกับเรา แต่งตัวสะอาดสะอ้าน เรียนดี ยิ่งเป็นลูกพวกข้าราชการด้วยแล้วจะยิ่งดูทันสมัยและดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น นั่นคือความคิดของเด็กวัยประถมอย่างผมในสมัยนั้น อาจจะเป็นเพราะผมมีพ่อเป็นครู และรู้สึกว่าอาชีพราชการในพ.ศ.นั้นช่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีตามค่านิยมตามยุคสมัย
เด็กหญิงพักตร์ประภา เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา เป็นลูกสาวของที่ดินอำเภอ ที่คุณครูบอกให้พวกเราเรียกเธอว่า คุณน้องตามชื่อเล่นของเธอ แต่ไม่รู้ว่ามีเด็กบ้านนอกอย่างพวกเราคนไหนเรียกเธอว่าอย่างนั้น แต่จำได้ว่าก็มีอยู่บ้าง
สมจิตและสายใจ วงษ์เวช คู่แฝดสาวสวย ซึ่งเป็นที่หมายปองของนักเรียนชายทั้งห้องเดียวกันและรุ่นพี่หลายคน เธอทั้งสองเป็นลูกของจ่าตำรวจที่มีร้านอาหารทันสมัยที่สุดในยุคนั้น
เด็กนักเรียนหญิงชื่อเพ็ญศรีมีสองคน คือเพ็ญศรี ไทยขำ ลูกตำรวจและอีกคนคือเพ็ญศรี พจนาภรณ์ ลูกเจ้าของร้านค้าที่มีชื่อร้านเหมือนนามสกุล ส่วนวรรณี โลณะพานิช เด็กสาวตาโตอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เรามักเจอกันระหว่างทางเดินไปโรงเรียนเสมอ
แต่เด็กสาวที่ป๊อปปูล่าร์ในโรงเรียนตอนนั้นก็คือ กรแก้ว เนียมทรัพย์ เธอเป็นเด็กนักเรียนเพิ่งย้ายมาใหม่จากจังหวัดอื่นมาเรียนต่อชั้นป.5 ที่โรงเรียนของเรา นามสกุลของเธอใครๆในอำเภอต้องรู้จัก เพราะพ่อของเธอเป็นนายอำเภอคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมานั่นเอง
ดอกฟ้ากรแก้วเป็นที่หมายปองของเด็กผู้ชายในโรงเรียนทั้งรุ่นพี่และชั้นเดียวกันมากมาย ไม่วายที่จะรวมไปถึงหมาวัดอย่างผมด้วย
ในบรรดาเด็กนักเรียนผู้หญิงในห้องเดียวกัน ผมจำได้ว่าผมแอบชอบพวกเธอหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามช่วงฤดูกาลของหัวใจ เพียงได้อยู่ใกล้ชิดพูดคุยก็เป็นสุขตามประสาเด็ก เทอมต้นอาจจะรู้สึกชอบคนนี้ ยังไม่ทันจบเทอมก็เปลี่ยนไปชอบคนโน้น เปิดเทอมใหม่ก็ไปชอบอีกคนไม่แน่นอน
แต่กับดอกฟ้ากรแก้วนั้นเหมือนว่าจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมจำได้ว่าเคยแอบหลงรักเธออย่างมาก และเป็นคนที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับเธอน้อยที่สุด
เพียงแค่ได้นั่งโต๊ะใกล้กับเธอก็มีความสุขแล้ว ได้ยืมยางลบของเธอ ยืมสมุดจดวิชา ยืมปากกา ยืมสีน้ำ ฯลฯ ได้ทำกิจกรรมอะไรต่างๆที่ใกล้ชิดกับเธอ เธอพูดเพราะกิริยามารยาทงดงาม แค่เพียงได้ออกไปยืนชักธงหน้าเสาคู่กับเธอหัวใจผมก็พองโตแล้ว หากมีโอกาสผมจะเลือกนั่งอยู่โต๊ะด้านหลังเธอ ความรู้สึกต่ำต้อยแบบ ดอกฟ้ากับหมาวัด เป็นอย่างไรนั้นผมเข้าใจได้ดี
ผมไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรกับผม แต่เท่าที่สังเกตก็เห็นว่าเธอก็เป็นมิตรกับทุกๆคน แค่เธอพูดด้วยหรือยิ้มด้วยนิดหน่อยก็พอใจแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมจดจำได้ไม่ลืม เพราะความไม่ระมัดระวัง ผมพลาดพลั้งทำหมึกจากปากกาลูกลื่นกระเซ็นเปื้อนเสื้อเธอ
หัวใจผมตกวูบไปอยู่ที่ปลายเท้า เมื่อเห็นรอยหมึกสีน้ำเงินเข้มดวงโตปรากฏบนเสื้อขาวสะอาดสะอ้านของเธอ เธอร้องไห้คิดว่าผมแกล้งทำเอาผมก็ตกใจและเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก ทั้งกลัวเรื่องไม่มีปัญญาที่จะซื้อเสื้อใหม่ใช้เธอ และประการสำคัญกลัวเธอจะโกรธเกลียดไม่พูดคุยด้วย ผมพูดอะไรไม่ออกแม้แต่จะกล่าวว่า ขอโทษ ผมก็ไม่สามารถพูดออกมาได้
วันรุ่งขึ้นสิ่งที่ทำให้ผมเศร้าอย่างบอกไม่ถูกก็คือ เธอบอกว่าเธอได้ทิ้งเสื้อตัวนั้นไปแล้ว นั่นเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ผมไม่เคยลืมเลือน แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแสนนานแล้วก็ตามที
ผมยังเป็นเด็กนักเรียนที่ชอบแอบหลงรักนักเรียนหญิงคนโน้นคนนี้อยู่เรื่อยไป ส่วนมากก็จะเป็นแบบแอบรักอยู่ข้างเดียว แต่จะมีเด็กหญิงอยู่คนหนึ่งที่ผมไม่เคยสนใจเธอเลย ทั้งที่เราเรียนร่วมห้องเรียนเดียวกันมาตั้งแต่ชั้นป.1 แล้ว ภาพของเธอจะถูกเด็กหญิงคนอื่นๆบดบังเสียหมด ภาพของเธอมาปรากฏชัดก็ตอนเมื่ออยู่ชั้นป.7 เธอชื่อบุปผา เสถียร
บุปผาไม่เคยอยู่ในสายตาของผมเลย เธอเป็นคนเรียนอ่อนประจำชั้น ถ้าครูถามว่าการบ้านของใครไม่เสร็จให้ยกมือขึ้น ในจำนวนนั้นมักจะมีมือของบุปผาข้างหนึ่งรวมอยู่ด้วยเสมอ เท่าที่จำได้เกี่ยวกับใบหน้าเธอคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าเธอจะมีเขี้ยว เวลายิ้มจึงจะเห็น เวลาเธอยิ้มแล้วจะทำให้โลกสว่างไสวทันที แต่ก็น้อยครั้งที่จะมีใครเห็นบุปผายิ้ม
เธอมีเพื่อนผู้หญิงคู่หูคนหนึ่งชื่อจุ๋มจิ๋ม พจนาภรณ์ ซึ่งเป็นญาติกับเพ็ญศรี พจนาภรณ์ เสื้อสีขาวนักเรียนของบุปผามีสีขาวตุ่นๆ ไม่ขาวอมครามเหมือนเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นอย่างพวกลูกข้าราชการทั้งหลาย เธอคนเดียวเท่านั้นที่ผมไม่รู้จักชื่อพ่อให้ล้อเล่น เพราะว่าเธอไม่มีพ่อนั่นเอง ผมยังจำได้แต่ว่าแม่ของเธอชื่อ "พิมพ์"
ในวัยนั้นมีการเริ่มมีการล้อว่าคนนั้นเป็นแฟนกับคนโน้นคนนี้กันแล้ว บุปผาเป็นเด็กในห้องที่ไม่มีเพื่อนผู้ชายสนใจเธอเลยและไม่มีใครล้อเธอว่าเป็นแฟนกับใครเลย ในตอนปลายปีขณะที่เรียนอยู่ชั้น ป.7 (ชั้นม.1 ในสมัยนี้)มีอยู่ช่วงหนึ่งบุปผานำขนมไข่นกกระทาที่แม่เธอทำมาขายที่โรงเรียนช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน
ผมรู้สึกว่าเวลาหันไปทางโต๊ะที่บุปผานั่งอยู่ทีไรก็จะพบแววตาเธอมองมาทุกที แต่รู้สึกผมจะไม่ค่อยชอบแววตาของเธอนั้นเลย สายตาที่เหมือนจะชื่นชมแอบชอบในตัวผมอยู่ แต่ถ้าเปลี่ยนแววตาแบบนี้ไปอยู่ในดวงตาของกรแก้ว ,สมจิต ,สายใจ ,เพ็ญศรี หรือวรรณี พวกเธอเหล่านั้น ผมก็คงเป็นสุขยิ่งนัก
แต่ทว่ากับบุปผาทำไมผมจึงรู้สึกว่าไม่อยากได้รับสายตาแบบนี้จากเธอก็ไม่รู้ และเวลาไปไหนเมื่อพบเห็นผมเธอจะรู้สึกเขินอาย เหมือนอาการที่ผมได้พบกับกรแก้ว , สมจิต,สายใจ,เพ็ญศรีหรือวรรณีอย่างนั้นแหละ
เพื่อนสนิทของเธอคือจุ๋มจิ๋มทำเป็นล้อว่าผมเป็นแฟนกับบุปผา แต่ผมก็ไม่ชอบให้เธอล้อ แตกต่างไปจากความรู้สึกที่ถูกล้อว่าเป็นแฟนกับกรแก้ว ,สมจิต ,สายใจ หรือ เพ็ญศรี หรือวรรณีพวกเธอเหล่านั้น
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ยังอยู่ในความทรงจำของผมอย่างแม่นยำจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ วันนั้นเป็นเวลาช่วงพักกลางวันผมไม่ได้เอาข้าวกลางวันมากินและก็ไม่มีตังค์กินขนมกลางวันด้วย บุปผาเอาขนมไข่นกกระทาใส่ถุงที่พับด้วยกระดาษสมุดมาให้ผมกิน ผมจำได้ว่าขนมไข่นกกระทาของเธอเอร็ดอร่อยมาก ราวกับว่ามันเป็นขนมไข่นกกระทาที่อร่อยที่สุดในโลก ถึงวันนี้ผมก็ยังรู้สึกว่าไม่เคยกินขนมไข่นกกระทาของใครอร่อยเหมือนกับของบุปผา
จนกระทั่งเรียนจบชั้นระดับประถม ผมไปเรียนต่อระดับมัธยมที่ตัวจังหวัด บุปผาไม่ได้เรียนหนังสือต่อ นับตั้งแต่เรียนจบแยกจากกันมา ผมกับบุปผาก็แทบไม่ได้พบกันอีก
ยิ่งผมไปเรียนต่อระดับมัธยมในตัวจังหวัด ก็ยิ่งมีนักเรียนหญิงสวยๆให้ผมแอบหลงรักและชื่นชมอีกมากมาย
โรงเรียนใหญ่โตขึ้น สถาบันการศึกษาใหญ่โตขึ้นมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักให้ผมได้หลงรักได้แอบรักมากยิ่งขึ้น เริ่มมีการเขียนจดหมายรัก มีการพูดคุยแบบหนุ่มสาว มีการแลกรูปถ่าย มีการไปดูหนังด้วยกัน มีการให้ผ้าเช็ดหน้า มีการสัมผัสเล็กๆน้อยตามแต่โอกาสใกล้ชิด
ยิ่งเมื่อตอนโตทำงานทำการแล้ว ผมไม่ได้พบกับบุปผาอีกเลย ได้ข่าวว่าเธอย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านนี้แล้ว เวลากลับบ้านทีไรผมว่าจะถามข่าวคราวถึงเธอก็ลืมเสียทุกทีไป
เมื่อมาถึงวันนี้เมื่อหวนรำลึกถึงแววตาของบุปผาที่มองผมและน้ำใจที่เธอหยิบยื่นให้ผมในตอนนั้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่ติดค้างคาใจอยู่ เธออาจเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ชอบผมในตอนนั้น ในขณะที่กรแก้ว ,สมจิต ,สายใจ, เพ็ญศรี หรือวรรณี พวกเธอเหล่านั้นคือบุคคลที่ผมแอบไปหลงรักพวกเธอเพียงฝ่ายเดียวมากกว่า พวกเธอเหล่านั้นไม่เคยได้ชอบตอบผมเลย
เมื่อตอนที่ผมได้จัดทอดผ้าป่าเพื่อนำเงินไปบูรณะสระน้ำวัดที่บ้านเกิด ผมพยายามติดต่อเพื่อนๆสมัยในวัยเด็กให้ไปร่วมงานกัน ตอนแรกตั้งใจว่าจะหาที่อยู่เพื่อติดต่อบุปผาเพื่อชวนให้เธอมาร่วมงานนี้ด้วย แต่พอเอาเข้าจริงๆจนกระทั่งถึงวันงานผมก็ไม่ได้ค้นหาที่อยู่เพื่อติดต่อเธออย่างจริงจัง
เมื่อถึงวันงานปรากฎว่าผมได้พบเพื่อนเก่าสมัยเป็นเด็กนักเรียนมากมาย ได้พูดคุยล้อเล่นกันอย่างสนุกสนานราวกับวัยเด็กหวนคืนกลับมาอยู่ต่อหน้า เวลาที่ผ่านไปทำให้แต่ละคนมีเรื่องราวมากมายมาสนทนากัน
จนกระทั่งถึงเวลาที่งานเลี้ยงเลิกรา ผมเพิ่งนึกถึงบุปผาขึ้นมาและในที่สุดผมก็ลืมสอบถามเรื่องที่อยู่ของบุปผาจากเพื่อนๆอีกจนได้.
---------------------------------------
หมายเหตุ เรื่องนี้ตีพิมพ์รวมกับนักเขียนหลายคนในชื่อเล่ม รักสบายๆ
ต้นกล้า นัยนา หรือ แม่กูก้อย เป็นผู้จัดพิมพ์
หลังจากเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์แล้ว ผมจึงได้ทราบจากเพื่อนเก่าว่าบุปผาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ไม่นานนัก
ขอให้เธอจงไปสู่สุขคติด้วยเถิด !
Create Date : 01 มีนาคม 2551 |
Last Update : 1 มีนาคม 2551 17:59:51 น. |
|
26 comments
|
Counter : 728 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ม่วนน้อย IP: 125.24.184.49 วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:18:24:07 น. |
|
|
|
โดย: filmgus วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:20:41:14 น. |
|
|
|
โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:20:43:35 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:21:45:19 น. |
|
|
|
โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.88.177 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:1:10:48 น. |
|
|
|
โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:8:00:46 น. |
|
|
|
โดย: ตาพรานบุญ วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:12:26:58 น. |
|
|
|
โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.60.9 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:14:46:24 น. |
|
|
|
โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:15:08:00 น. |
|
|
|
โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.20.229 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:16:51:50 น. |
|
|
|
โดย: คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:18:27:46 น. |
|
|
|
โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:8:59:38 น. |
|
|
|
โดย: J IP: 58.137.145.222 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:9:54:18 น. |
|
|
|
โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:11:25:18 น. |
|
|
|
โดย: หลานจิ๊บ IP: 210.1.21.114 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:12:58:58 น. |
|
|
|
โดย: ปลายแปรง วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:19:41:27 น. |
|
|
|
โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:21:06:28 น. |
|
|
|
โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.105.46 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:9:43:15 น. |
|
|
|
โดย: สาวิกา IP: 124.120.127.211 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:16:10:06 น. |
|
|
|
โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka ) วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:19:04:56 น. |
|
|
|
โดย: Nok_Noah วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:7:23:38 น. |
|
|
|
โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:10:09:47 น. |
|
|
|
โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:12:11:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
|
|
|
|
|
|
|
อ่านแล้วสมชื่อหนังสือ "รักสบายๆ " จริงๆ นะคะ เหมือนได้เดินย้อนเวลา ทำให้นึกถึงตัวเองเหมือนกันว่าสมัยเรียนหนังสือเป็นยังไง
...เอ่อ นึกออกแต่ว่า มาโรงเรียนสายแทบทุกวัน