จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
1 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
บุปผา







ช่างเป็นความไร้เดียงสาที่แก่แดดของเด็กชายผู้โง่เขลาอย่างผมเสียจริงๆ ที่ได้พบตัวเองตั้งแต่เป็นเด็กว่ามีความสุขและตื่นเต้นอย่างประหลาดเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับเพศตรงข้าม ไม่ว่าจะตอนเล่น หรือตอนเรียน หรือตอนไหนๆก็ตาม เมื่อมาไล่เรียงความทรงจำและพฤติกรรมต่างๆในวัยเด็กนั้นมีทั้งส่อและซ่อนปมปรารถนาไว้มากมาย…

กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นคนมากรักหลายใจก็ย่างเข้าสู่วัยหนุ่มแล้ว และกว่าจะรู้ว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นพิษภัยต่อชีวิตก็ล่วงเข้าสู่วัยหนุ่มใหญ่ใกล้ชราแล้ว…

ช่วงที่เป็นเด็กชั้น ป.1 - ป.2 – ป.3 นั้นความทรงจำในเรื่องนี้ไม่แจ่มชัดหรือไม่รู้ว่าหายไปไหน มาปรากฏชัดขึ้นอีกครั้งก็ตอนชั้นป.4 – ป.5 ในช่วงรอยต่อนี้ เป็นช่วงที่เปลี่ยนจากการใช้ดินสอไปใช้ปากกาเป็นอุปกรณ์การเรียน นับว่าเป็นรอยต่อแห่งความเปลี่ยนแปลงช่วงหนึ่ง

เด็กนักเรียนหญิงในห้องหลายคนดูเหมือนว่าจะอยู่ในความสนใจของผมเกือบทั้งนั้น ใครก็ตามที่พูดจาดีกับเรา แต่งตัวสะอาดสะอ้าน เรียนดี ยิ่งเป็นลูกพวกข้าราชการด้วยแล้วจะยิ่งดูทันสมัยและดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น นั่นคือความคิดของเด็กวัยประถมอย่างผมในสมัยนั้น อาจจะเป็นเพราะผมมีพ่อเป็นครู และรู้สึกว่าอาชีพราชการในพ.ศ.นั้นช่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีตามค่านิยมตามยุคสมัย

เด็กหญิงพักตร์ประภา เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา เป็นลูกสาวของที่ดินอำเภอ ที่คุณครูบอกให้พวกเราเรียกเธอว่า “คุณน้อง”ตามชื่อเล่นของเธอ แต่ไม่รู้ว่ามีเด็กบ้านนอกอย่างพวกเราคนไหนเรียกเธอว่าอย่างนั้น แต่จำได้ว่าก็มีอยู่บ้าง

สมจิตและสายใจ วงษ์เวช คู่แฝดสาวสวย ซึ่งเป็นที่หมายปองของนักเรียนชายทั้งห้องเดียวกันและรุ่นพี่หลายคน เธอทั้งสองเป็นลูกของจ่าตำรวจที่มีร้านอาหารทันสมัยที่สุดในยุคนั้น

เด็กนักเรียนหญิงชื่อเพ็ญศรีมีสองคน คือเพ็ญศรี ไทยขำ ลูกตำรวจและอีกคนคือเพ็ญศรี พจนาภรณ์ ลูกเจ้าของร้านค้าที่มีชื่อร้านเหมือนนามสกุล ส่วนวรรณี โลณะพานิช เด็กสาวตาโตอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เรามักเจอกันระหว่างทางเดินไปโรงเรียนเสมอ

แต่เด็กสาวที่ป๊อปปูล่าร์ในโรงเรียนตอนนั้นก็คือ กรแก้ว เนียมทรัพย์ เธอเป็นเด็กนักเรียนเพิ่งย้ายมาใหม่จากจังหวัดอื่นมาเรียนต่อชั้นป.5 ที่โรงเรียนของเรา นามสกุลของเธอใครๆในอำเภอต้องรู้จัก เพราะพ่อของเธอเป็นนายอำเภอคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมานั่นเอง

ดอกฟ้ากรแก้วเป็นที่หมายปองของเด็กผู้ชายในโรงเรียนทั้งรุ่นพี่และชั้นเดียวกันมากมาย ไม่วายที่จะรวมไปถึงหมาวัดอย่างผมด้วย

ในบรรดาเด็กนักเรียนผู้หญิงในห้องเดียวกัน ผมจำได้ว่าผมแอบชอบพวกเธอหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามช่วงฤดูกาลของหัวใจ เพียงได้อยู่ใกล้ชิดพูดคุยก็เป็นสุขตามประสาเด็ก เทอมต้นอาจจะรู้สึกชอบคนนี้ ยังไม่ทันจบเทอมก็เปลี่ยนไปชอบคนโน้น เปิดเทอมใหม่ก็ไปชอบอีกคนไม่แน่นอน

แต่กับดอกฟ้ากรแก้วนั้นเหมือนว่าจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมจำได้ว่าเคยแอบหลงรักเธออย่างมาก และเป็นคนที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับเธอน้อยที่สุด

เพียงแค่ได้นั่งโต๊ะใกล้กับเธอก็มีความสุขแล้ว ได้ยืมยางลบของเธอ ยืมสมุดจดวิชา ยืมปากกา ยืมสีน้ำ ฯลฯ ได้ทำกิจกรรมอะไรต่างๆที่ใกล้ชิดกับเธอ เธอพูดเพราะกิริยามารยาทงดงาม แค่เพียงได้ออกไปยืนชักธงหน้าเสาคู่กับเธอหัวใจผมก็พองโตแล้ว หากมีโอกาสผมจะเลือกนั่งอยู่โต๊ะด้านหลังเธอ ความรู้สึกต่ำต้อยแบบ “ดอกฟ้ากับหมาวัด” เป็นอย่างไรนั้นผมเข้าใจได้ดี

ผมไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกอย่างไรกับผม แต่เท่าที่สังเกตก็เห็นว่าเธอก็เป็นมิตรกับทุกๆคน แค่เธอพูดด้วยหรือยิ้มด้วยนิดหน่อยก็พอใจแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมจดจำได้ไม่ลืม เพราะความไม่ระมัดระวัง ผมพลาดพลั้งทำหมึกจากปากกาลูกลื่นกระเซ็นเปื้อนเสื้อเธอ

หัวใจผมตกวูบไปอยู่ที่ปลายเท้า เมื่อเห็นรอยหมึกสีน้ำเงินเข้มดวงโตปรากฏบนเสื้อขาวสะอาดสะอ้านของเธอ เธอร้องไห้คิดว่าผมแกล้งทำเอาผมก็ตกใจและเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก ทั้งกลัวเรื่องไม่มีปัญญาที่จะซื้อเสื้อใหม่ใช้เธอ และประการสำคัญกลัวเธอจะโกรธเกลียดไม่พูดคุยด้วย ผมพูดอะไรไม่ออกแม้แต่จะกล่าวว่า “ขอโทษ” ผมก็ไม่สามารถพูดออกมาได้

วันรุ่งขึ้นสิ่งที่ทำให้ผมเศร้าอย่างบอกไม่ถูกก็คือ เธอบอกว่าเธอได้ทิ้งเสื้อตัวนั้นไปแล้ว นั่นเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ผมไม่เคยลืมเลือน แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานแสนนานแล้วก็ตามที

ผมยังเป็นเด็กนักเรียนที่ชอบแอบหลงรักนักเรียนหญิงคนโน้นคนนี้อยู่เรื่อยไป ส่วนมากก็จะเป็นแบบแอบรักอยู่ข้างเดียว แต่จะมีเด็กหญิงอยู่คนหนึ่งที่ผมไม่เคยสนใจเธอเลย ทั้งที่เราเรียนร่วมห้องเรียนเดียวกันมาตั้งแต่ชั้นป.1 แล้ว ภาพของเธอจะถูกเด็กหญิงคนอื่นๆบดบังเสียหมด ภาพของเธอมาปรากฏชัดก็ตอนเมื่ออยู่ชั้นป.7 เธอชื่อบุปผา เสถียร

บุปผาไม่เคยอยู่ในสายตาของผมเลย เธอเป็นคนเรียนอ่อนประจำชั้น ถ้าครูถามว่าการบ้านของใครไม่เสร็จให้ยกมือขึ้น ในจำนวนนั้นมักจะมีมือของบุปผาข้างหนึ่งรวมอยู่ด้วยเสมอ เท่าที่จำได้เกี่ยวกับใบหน้าเธอคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าเธอจะมีเขี้ยว เวลายิ้มจึงจะเห็น เวลาเธอยิ้มแล้วจะทำให้โลกสว่างไสวทันที แต่ก็น้อยครั้งที่จะมีใครเห็นบุปผายิ้ม

เธอมีเพื่อนผู้หญิงคู่หูคนหนึ่งชื่อจุ๋มจิ๋ม พจนาภรณ์ ซึ่งเป็นญาติกับเพ็ญศรี พจนาภรณ์ เสื้อสีขาวนักเรียนของบุปผามีสีขาวตุ่นๆ ไม่ขาวอมครามเหมือนเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นอย่างพวกลูกข้าราชการทั้งหลาย เธอคนเดียวเท่านั้นที่ผมไม่รู้จักชื่อพ่อให้ล้อเล่น เพราะว่าเธอไม่มีพ่อนั่นเอง ผมยังจำได้แต่ว่าแม่ของเธอชื่อ "พิมพ์"

ในวัยนั้นมีการเริ่มมีการล้อว่าคนนั้นเป็นแฟนกับคนโน้นคนนี้กันแล้ว บุปผาเป็นเด็กในห้องที่ไม่มีเพื่อนผู้ชายสนใจเธอเลยและไม่มีใครล้อเธอว่าเป็นแฟนกับใครเลย ในตอนปลายปีขณะที่เรียนอยู่ชั้น ป.7 (ชั้นม.1 ในสมัยนี้)มีอยู่ช่วงหนึ่งบุปผานำขนมไข่นกกระทาที่แม่เธอทำมาขายที่โรงเรียนช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน

ผมรู้สึกว่าเวลาหันไปทางโต๊ะที่บุปผานั่งอยู่ทีไรก็จะพบแววตาเธอมองมาทุกที แต่รู้สึกผมจะไม่ค่อยชอบแววตาของเธอนั้นเลย สายตาที่เหมือนจะชื่นชมแอบชอบในตัวผมอยู่ แต่ถ้าเปลี่ยนแววตาแบบนี้ไปอยู่ในดวงตาของกรแก้ว ,สมจิต ,สายใจ ,เพ็ญศรี หรือวรรณี พวกเธอเหล่านั้น ผมก็คงเป็นสุขยิ่งนัก

แต่ทว่ากับบุปผาทำไมผมจึงรู้สึกว่าไม่อยากได้รับสายตาแบบนี้จากเธอก็ไม่รู้ และเวลาไปไหนเมื่อพบเห็นผมเธอจะรู้สึกเขินอาย เหมือนอาการที่ผมได้พบกับกรแก้ว , สมจิต,สายใจ,เพ็ญศรีหรือวรรณีอย่างนั้นแหละ

เพื่อนสนิทของเธอคือจุ๋มจิ๋มทำเป็นล้อว่าผมเป็นแฟนกับบุปผา แต่ผมก็ไม่ชอบให้เธอล้อ แตกต่างไปจากความรู้สึกที่ถูกล้อว่าเป็นแฟนกับกรแก้ว ,สมจิต ,สายใจ หรือ เพ็ญศรี หรือวรรณีพวกเธอเหล่านั้น

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ยังอยู่ในความทรงจำของผมอย่างแม่นยำจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ วันนั้นเป็นเวลาช่วงพักกลางวันผมไม่ได้เอาข้าวกลางวันมากินและก็ไม่มีตังค์กินขนมกลางวันด้วย บุปผาเอาขนมไข่นกกระทาใส่ถุงที่พับด้วยกระดาษสมุดมาให้ผมกิน ผมจำได้ว่าขนมไข่นกกระทาของเธอเอร็ดอร่อยมาก ราวกับว่ามันเป็นขนมไข่นกกระทาที่อร่อยที่สุดในโลก ถึงวันนี้ผมก็ยังรู้สึกว่าไม่เคยกินขนมไข่นกกระทาของใครอร่อยเหมือนกับของบุปผา

จนกระทั่งเรียนจบชั้นระดับประถม ผมไปเรียนต่อระดับมัธยมที่ตัวจังหวัด บุปผาไม่ได้เรียนหนังสือต่อ นับตั้งแต่เรียนจบแยกจากกันมา ผมกับบุปผาก็แทบไม่ได้พบกันอีก

ยิ่งผมไปเรียนต่อระดับมัธยมในตัวจังหวัด ก็ยิ่งมีนักเรียนหญิงสวยๆให้ผมแอบหลงรักและชื่นชมอีกมากมาย

โรงเรียนใหญ่โตขึ้น สถาบันการศึกษาใหญ่โตขึ้นมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักให้ผมได้หลงรักได้แอบรักมากยิ่งขึ้น เริ่มมีการเขียนจดหมายรัก มีการพูดคุยแบบหนุ่มสาว มีการแลกรูปถ่าย มีการไปดูหนังด้วยกัน มีการให้ผ้าเช็ดหน้า มีการสัมผัสเล็กๆน้อยตามแต่โอกาสใกล้ชิด

ยิ่งเมื่อตอนโตทำงานทำการแล้ว ผมไม่ได้พบกับบุปผาอีกเลย ได้ข่าวว่าเธอย้ายไปอยู่ที่อื่นไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้านนี้แล้ว เวลากลับบ้านทีไรผมว่าจะถามข่าวคราวถึงเธอก็ลืมเสียทุกทีไป

เมื่อมาถึงวันนี้เมื่อหวนรำลึกถึงแววตาของบุปผาที่มองผมและน้ำใจที่เธอหยิบยื่นให้ผมในตอนนั้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างที่ติดค้างคาใจอยู่ เธออาจเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ชอบผมในตอนนั้น ในขณะที่กรแก้ว ,สมจิต ,สายใจ, เพ็ญศรี หรือวรรณี พวกเธอเหล่านั้นคือบุคคลที่ผมแอบไปหลงรักพวกเธอเพียงฝ่ายเดียวมากกว่า พวกเธอเหล่านั้นไม่เคยได้ชอบตอบผมเลย

เมื่อตอนที่ผมได้จัดทอดผ้าป่าเพื่อนำเงินไปบูรณะสระน้ำวัดที่บ้านเกิด ผมพยายามติดต่อเพื่อนๆสมัยในวัยเด็กให้ไปร่วมงานกัน ตอนแรกตั้งใจว่าจะหาที่อยู่เพื่อติดต่อบุปผาเพื่อชวนให้เธอมาร่วมงานนี้ด้วย แต่พอเอาเข้าจริงๆจนกระทั่งถึงวันงานผมก็ไม่ได้ค้นหาที่อยู่เพื่อติดต่อเธออย่างจริงจัง

เมื่อถึงวันงานปรากฎว่าผมได้พบเพื่อนเก่าสมัยเป็นเด็กนักเรียนมากมาย ได้พูดคุยล้อเล่นกันอย่างสนุกสนานราวกับวัยเด็กหวนคืนกลับมาอยู่ต่อหน้า เวลาที่ผ่านไปทำให้แต่ละคนมีเรื่องราวมากมายมาสนทนากัน

จนกระทั่งถึงเวลาที่งานเลี้ยงเลิกรา ผมเพิ่งนึกถึงบุปผาขึ้นมาและในที่สุดผมก็ลืมสอบถามเรื่องที่อยู่ของบุปผาจากเพื่อนๆอีกจนได้.



---------------------------------------




หมายเหตุ เรื่องนี้ตีพิมพ์รวมกับนักเขียนหลายคนในชื่อเล่ม “รักสบายๆ”

ต้นกล้า นัยนา หรือ แม่กูก้อย เป็นผู้จัดพิมพ์

หลังจากเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์แล้ว ผมจึงได้ทราบจากเพื่อนเก่าว่าบุปผาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ไม่นานนัก

ขอให้เธอจงไปสู่สุขคติด้วยเถิด !



Create Date : 01 มีนาคม 2551
Last Update : 1 มีนาคม 2551 17:59:51 น. 26 comments
Counter : 728 Pageviews.

 
ขอไว้อาลัยให้เพื่อนน้าด้วยค่ะ

อ่านแล้วสมชื่อหนังสือ "รักสบายๆ " จริงๆ นะคะ เหมือนได้เดินย้อนเวลา ทำให้นึกถึงตัวเองเหมือนกันว่าสมัยเรียนหนังสือเป็นยังไง



...เอ่อ นึกออกแต่ว่า มาโรงเรียนสายแทบทุกวัน


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:18:09:54 น.  

 
จารย์ศิลป์บอกว่า
พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว


โดย: ม่วนน้อย IP: 125.24.184.49 วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:18:24:07 น.  

 
อ่านเรื่องรักสบายๆ แล้วก็ได้แต่อมยิ้ม

สมัยเป็นเด็กนักเรียนตัวผอมดำ จนเพื่อนล้อว่าเป็นชาวประเทศเพื่อนบ้านอพยพมา

ป่านนี้เจอเพื่อน นานๆ นะ ถึงจะมีเพื่อนที่เป็นผู้ชายจำได้ หนูคงเป็นคล้ายๆ เพื่อนพี่โดมที่ชื่อบุปผานะคะ

คือ ผู้คนมักจะมองผ่าน ไม่ได้สนใจ
ขอให้เพื่อนของพี่โดมไปสู่สุขคติด้วยคนค่ะ



โดย: filmgus วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:20:41:14 น.  

 
ขอไว้อาลัยให้เพื่อนของคุณอาด้วยนะคะ

หลานแวะเข้ามาเพื่อจะถามว่าคุณอาเป็นอย่างไรบ้างค่ะตอนนี้
อาการไม่สบายดีขึ้นหรือยัง
หัวใจอายังจะเดินตามฝันอีกไหม

อยากให้คุณอามีแรงที่จะเดินตามฝันต่อไปค่ะ

หลานเป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:20:43:35 น.  

 
พี่โดมนี่จำชื่อเพื่อนเก่งชะมัด

แต่อย่างว่า

สิ่งที่เราจำได้ตอนด็กมักฝังสมอง

อย่างตอนนี้เวลาไปเจอเพื่อนสมัยประถม มัธยมต้น

ก็เรียกชื่อนามสกุลเพื่อนอย่างถูกต้อง

ในทำนองเดียวกัน

เพื่อนก็ชี้หน้า เรียกชื่อนามกุลของแม่โสมได้ถูกต้อง แถมท้ายด้วยชื่อพ่ออีกต่างหาก


โดย: โสมรัศมี วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:21:45:19 น.  

 
แหม..คุณโดมเล่าซะทำให้
นึกถึงคนที่ตัวเองแอบชอบในวัยสาว
ทั้งๆที่ มีคนแอบชอบเราอยู่มากมาย แต่ทำไมเราไม่ชอบตอบ

ก็คงมีแต่พ่อเจ้านิกนี่แหละค่ะ
ที่เราชอบแล้วเขาชอบตอบ
และก็ไม่ผิดหวังเล๊ยที่เธอ
ตกบ่วงเราเข้าให้

นั่งนึกไป ถ้าตอนนั้นเราดื้อดึง
ริจะรักให้ได้ น่ากลัวต้องไปนั่ง
ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ก็ไม่รู้ค่ะ
คนมันจะไม่ใช่คู่กันน่ะคุณโดม


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.88.177 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:1:10:48 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม


บุปผา --- ยังคงงามอยู่เสมอ
โดยเฉพาะเมื่อเค้าอยู่ในความทรงจำของเรา



อ่านงานเขียนพี่โดม
แล้วนึกถึง "ดอกไม้" ในใจของผมเหมือนกันครับ
ป่านนี้คงมีลูกโตๆกันหมดแล้ว



โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:8:00:46 น.  

 
ว่ากันว่า
ผู้ชายสิบคนต่อผู้หญิงหนึ่งคน
แต่
ดอกฟ้าหนึ่งดอกต่อหมาวัดร้อยตัว
ผมก็หนึ่งในร้อยตัวนั้น

อยากฟังเรื่องราวร้านที่ตะกั่วป่าน่ะพ่อพเยีย ได้ข่าวว่าตกแต่งเรียบร้อยแล้วด้วย


โดย: ตาพรานบุญ วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:12:26:58 น.  

 
เห็นด้วยจริงๆค่ะ พ่อพเยียนอกจากจะจำเรื่องราวที่ผ่านมาเกือบสี่สิบปีได้แม่นยำแล้ว
ที่น่าทึ่งมากๆคือ จำชื่อและนามสกุลได้ดีอีกด้วย
จำได้ไปถึงใครเป็นลูกใคร...
เรื่องแบบนี้หนูยอมแพ้ราบคาบ

ถึงหนูพอจะมีป๊อบปี้เลิฟกับเขาบ้าง
แต่ก็ไม่ชุกชุมขนาดของพ่อพเยียหรอกค่ะ
ที่แน่ๆจำอะไรไม่ได้มากนัก
พอจำได้ว่า ตอนป. 5 มีหนุ่มมาดักมองหน้าห้องเรียนทุกวัน
(และก็มองจนจบมหา'ลัยน่ะแหละเพราะบ้านติดกัน)
ตอนมศ. 5 เคยมีหนุ่มขับมอไซมาดักรอหน้าโรงเรียน
และขอแต่งงานจะพาไปอยู่ระยอง
แหม..ถ้าหล่อกว่านั้นซะหน่อย ไม่แน่ป่านนี้หนูคงกำลังปลูกทุเรียนอยู่ก็เป็นได้ ฮิฮิ
คิดแล้วก็ตลกดี...
มีมากกว่านี้อีกแต่ไม่เล่าหรอก
เพราะ อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันฉันรัก.............ใครก็ไม่รู้...


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.60.9 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:14:46:24 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม คนมากรักหลายใจ
(จริงหรือนี่)

ทำไมช่วงนี้ผู้เฒ่าเล่าความหลังกันจัง ทั้งเฒ่าปอนและเฒ่าโดม แหะ พาดพิงข้ามบล็อก

พี่โดมคงฟื้นไข้ แกร่ง กระฉับกระเฉงขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ

ขอแสดงความเสียใจและร่วมไว้อาลัยแด่คุณบุปฝาเพื่อนพี่โดมด้วยนะคะ

เรื่องมีคนแอบรัก สำหรับนกแสงฯแล้วอย่าหวัง 55เพราะมีหน้าตาเป็นอาวุธ
ด้วยหน้าตาอันแสนจะเชย ๆ นอกจากพวกเขา(เพื่อนชาย)จะไม่มองแล้วยังจำเราไม่ได้อีกต่างหาก อันนี้ยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงค่ะ เมื่อไม่นานนี้เองเพื่อนร่วมชั้น มศ.5 ซึ่งจากกันเกือบยี่สิบปีเจอกันที่โรงเรียนลูก เราแสนจะดีใจรีบรี่เข้าไปทักทายเพื่อน เขาบอกว่า จำไม่ได้ นึกไม่ออก เราลงทุนบอกบอกชื่อเสียงเรียงนาม ตำบลที่อยู่ก็แล้ว เขายังคงคืนยันว่า จำบ่ได้ โธ่ !

(แต่เมื่อถึงงานรวมรุ่น เราเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง เพื่อน ๆรุมเขกหัวไอ้เพื่อนขี้ลืมคนนั้นแล้วค่ะ)



โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:15:08:00 น.  

 
สวัสดีครับทุกๆท่าน

ช่วงนี้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า

มีชีวิตมีชีวาขึ้นมาแล้วครับ

แต่ทว่าต้องขอโทษที่ไม่ได้ตอบ

เป็นรายๆ

ตามประสาคนแก่ก็อย่างนี้แหละครับ

เริ่มหวนระลึกความหลังในวัยเด็ก

ที่จำนามสกุลเพือ่นๆได้ก้เพราะ เพื่อนรุ่นนี้เรียนกันตั้งแต่ประถมปีที่หนึ่งถึงปีที่เจ็ดเป็นอย่างน้อย
บางคนก็ต่อมาถึงระดับมัธยม และอยุ่บ้านเดียวกัน

ที่เอ่ยอ้างนามสกุลก็เพราะเผื่อว่าลูกๆของเธออาจจะเข้ามาพบบ้าง เพราะตอนนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้นามสกุลเดิมกันแล้ว



โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.20.229 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:16:51:50 น.  

 
หวัดดีค่ะคุณโดม
แก่แล้วชิค่ะถึงได้โหยหาอดีด เพื่อนเรียนป.๑ ถึงป.๖ พองานเทศการ มีหลายคนื่แอบชอบดิฉัน เขาบอกชอบดิฉันมาก สารภาพกับคุณแม่ ดอกไม้หน้าหนาวกำลังร่วงบนพื้น ส่วนดอกไม้ ฤดูพลัดใบกำลังมาคะ


โดย: คนสวย (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:18:27:46 น.  

 
:)


โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:8:59:38 น.  

 
:))) ด้วยคน


โดย: J IP: 58.137.145.222 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:9:54:18 น.  

 
เสียใจเรื่องเพื่อนด้วยนะคะ แต่ก็เป็นความทรงจำที่ดีไม่น้อย เมื่อเรานึกถึงเพื่อนๆ สมัยเป็นเด็กๆ


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:11:25:18 น.  

 
เห็นแม่บอกว่าน้าวุฒิไม่สบาย อาการดีขึ้นหรือยังคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง หายเร็วๆนะคะ
ป.ล.เสียใจเรื่องเพื่อนด้วยค่ะ


โดย: หลานจิ๊บ IP: 210.1.21.114 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:12:58:58 น.  

 
มาตาม...
มาถามหา...
มาเยี่ยมหน้า...ว่าอยู่ดีไฉน


หายป่วย....หายไข้
หายเปล่าดายหัวใจหรือไรนะ....

พี่ชายคนนี้...ยังอยู่ดี
ยังมีฝัน...ยังอิ่มฝันที่เพียงก้าว เราอยู่กับฝัน


ฝันใฝ่...กับใฝ่ฝัน...
นั้นต่างกันใช่ไหมคะพี่


ในคืนค่ำ...ย่ำรากไม้ในรอยเท้ามอญ

เสียงแห่งคืนค่ำ....
รัตติกาล....สร้างสรรพเสียงมากมายในจินตนากาล
เพลงร้อนล้านเพลง...ละครร้อยล้านเรื่อง
ไม่อาจบรรยายค่ำคืนเพียงเสี้ยวนาทีที่มีจินตนากาล


รักษาะสุขภาพใจ.....ดูแลสุขภาพกายนะคะพี่
ยืนยันค่ะ...ว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตจริงๆ แม้ทุกวันี้สังคมจะห่างไกลจากคำว่า"ครอบครัว"
พี่โดมเคยถามใช่ไหมว่า...เราเคยห่างกันเกิน 24 ชั่วโมงไหม ?
วันนั้นเหมือนจะไม่ได้ตอบ....
และคงไม่มีคำพตอบกระมังกับคำว่า "ครอบครัว"

เนอะ.....ป่วยไข้หายได้
ขอแต่อย่าป่วยใจ

ปลายวายังคิดถึงพี่ค่ะ


โดย: ปลายแปรง วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:19:41:27 น.  

 
โธ่เอ๋ย อ่านเพลินๆ ตอนแรกยังจะแซว
ว่ามนต์รักไข่นกกระทานี่นา
พอตอนจบ..ก็ความตาย
ที่หมายปลายทางของทุกคน..เศร้าเลยค่ะ
คงมีเพื่อนและคนรู้จักอีกหลายคน ที่เราเคยรู้จัก
แต่จากไปโดยที่เราไม่ได้รับรู้
ตอนนี้น้องหนูก็ตามหาเพื่อนรัก ตอน ป1-6
ชื่ออารีย์ ทรัพย์ประดิษฐ์ค่ะ
เธอเป็นเพื่อนตัวสูง ตาโตที่น่ารักที่สุด แต่เธอไม่เคยติดต่อใครเลย..

ปล.พี่โดมถ่ายภาพโบสถ์ในขวัญเรือนสวยจัง


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:8:02:43 น.  

 
เอากำลังใจใส่มาเต็มกระบุง
เพื่อมาปรุงให้อาโดมจิตแจ่มใส
กลับมาเป็นอาน่ารักคนดีตลอดไป
หายไวๆเรื่องทุกข์ใจนะคะอาโดม

.........
แวะเอากำลังใจมาส่งเหมือนเคยค่ะอา


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:21:06:28 น.  

 
แหม..คุณโดม อย่าเพิ่งแก่ค่ะ

วันนี้จอห์นก็เพิ่งจะพูด..บ่นๆว่า
ทำไมเดี๋ยวนี้พอผมวิ่งออกกำลัง
มันถึงได้เหนื่อยนัก ไม่แข็งแรง
อย่างแต่ก่อน

แม่น้องนิกก็เลยบอกเธอว่า
อ้าว..ใจตัวเองคิดว่าหนุ่ม
แต่สังขาร ใช้มาตั้งปีละ 365 วัน
มันไม่เอื้อนี่จ้ะ มันก็เหนื่อยสิ

จะบอกว่า เธอแก่แล้ว
ก็กลัวเธอจะเสียใจ..


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.105.46 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:9:43:15 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ

อยากให้บล็อกตัวเองสะอาดตาแบบนี้จัง แต่ทำไรไม่เป็นสักอย่างเลยอ่ะค่า

อยากมีภาพไว้ตรงเม้นท์แบบนี้อีกด้วย ...

มาบล็อคคุณโดมวันนี้ รู้สึกสบายตา สบายใจดีจังค่ะ

ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ
ด้วยความระลึกถึงอยู่เสมอ ๆ ค่ะ



โดย: สาวิกา IP: 124.120.127.211 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:16:10:06 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ดีจังดอกลีลาวดีดูสดชื่นขึ้นแล้ว
แหมลุงโดมนี้ใช่ย่อยนะค่ะ
มีสาวๆแอบชอบตั้งแต่เรียนประถมเลยนะเนี้ย

ลุงโดมไปดูภาพพระอาทิตย์ลับดอย(ภูเขา)ไหมค่ะ
พระอาทิตย์ลับดอยจริงๆนะค่ะ
ไม่ใช่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า


โดย: เบญจวรรณ (lukkongpoka ) วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:19:04:56 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะพี่โดม
มิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
----------------------------------
ไม่ได้เขียน ไม่ได้ Up Blog
ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน
ไม่สะดวกในการใช้คอมฯ ค่ะ

แต่...ยังติดตามอ่านสม่ำเสมอ (เมื่อว่าง) ค่ะ

ปล. 3-4 มี.ค. เข้ากทม. ไปถวายความเคารพพระศพ พระพี่นางฯ ค่ะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:19:05:20 น.  

 


อาโดมขาหลานมาเยี่ยมที่นี่
สบายดีสบายใจใช่ไหมหนา
ดูสดชื่นกว่าหลายวันที่ผ่านมา
ที่เคยล้าก็เบาบางจางหายไป

.....................................

มองบุปผาผกากรองของวันเก่า
ที่อาเฝ้ารำพึงถึงหนไหน
เมื่อวัยเยาว์มาคลุกเคล้าเข้าในใจ
ผ่านวัยไหนไม่สุขใจเท่าวัยนั้น

ธรรมดาของชีวิตจิตมนุษย์
แม้มิหยุดวันเวลาพาสุขสันต์
แต่ในจิตยังรำพึงถึงทุกวัน
ดังกับฝันในวันวานผ่านเร็วจริง

ในวันนั้นมีเพื่อนมาเยือนจิต
มีมวลมิตรมากเห็นที่เป็นหญิง
แฝดสมจิต สายใจ วิไลจริง
อีกเพื่อนหญิงเพ็ศศรี พักตร์ประภา

อีกวรรณี กรแก้ว และจุ๋มจิ๋ม
ดูเอิบอิ่มกว่าอีกคน คือบุปผา
สะดุดใจด้วยขนมไข่นกกระทา
ที่มีค่าด้วยน้ำใจและไมตรี

จากวันนั้นจวบวันนี้หลายปีแล้ว
เธอคือแก้วแววมิตรตรึงจิตนี้
ยังนึกถึงตราบชั่วนาและตาปี
แม้วันนี้ไม่มีเธอในโลกา

คงรำลึกถึงเพื่อนมาเตือนย้ำ
ผ่านลำนำให้มิตรชื่อ..บุปผา
ไปสู่สุขคตินิมิตรา
ยังไม่ลืมชีวาครั้งวัยเยาว์

................................

หลานร้อยเรียงกลอนกานท์ขับขานให้
หวังให้ใจของอาพาหายเหงา
มีความสุขคลายทุกข์ร้อนบรรเทา
หวนคิดถึงความเก่า...รักสบาย

อาจไม่ใช่กลอนศรีที่ดีเลิศ
มิบรรเจิดดังกวีที่เฉิดฉาย
แต่จารจากความเคารพนบใจกาย
หวังเพื่อสายสัมพันธ์ฉันท์หลานอา





โดย: Nok_Noah วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:7:23:38 น.  

 
กลอนคุณนกเพราะมากๆเลยค่ะอาโดม (อายเลยเรา)

แบบนี้คงทำให้อาโดมสดใสขึ้นอีกเยอะเลย


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:10:09:47 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม


ผมกำลังจะส่งหนังสือทำมือของผมไปให้พี่โดมนะครับ
ส่งไปที่ตะกั่วป่าโปสการ์ดนะครับพี่




เปลี่ยนรูปโปรไฟล์
เดี๋ยวสาวๆได้ใจละลายกันบ้างล่ะครับพี่ อิอิอิ



โดย: ก. วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:12:11:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.