จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
30 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
ค่ำคืนแห่งความป่วยไข้และความคิดถึง

สวัสดีครับ


ผมรู้สึกติดค้างเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่บล็อกไว้หนึ่งอย่าง

คือเรื่องไม่ได้เล่ารายละเอียดว่า

ทำไมผมจึงตัดสินใจจากตะกั่วป่ากลับมาบ้านนนทบุรี

ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไปอยู่ตะกั่วป่าสักระยะหนึ่ง

อุตส่าห์ขนข้าวขนของไปมากมายและได้บ้านเช่าแล้ว

ผมแค่ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้เพียง 2 คืนเท่านั้น

ก็ตัดสินใจขอย้ายออกและลากลับบ้าน


คนแถวๆนั้นเขาคิดเอาเองว่าผมคงเจอ ผี !!

นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อราวๆเดือนกุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา

ผมจึงขอเอามาเล่าให้ฟัง


เรื่องนี้เพิ่งตีพิมพ์นิตยสารขวัญเรือนเมื่อเร็วๆนี้

ใครอ่านแล้วก็ผ่านไปเลยครับ














หลังจากที่ผมมาอยู่ที่ตลาดเก่าตะกั่วป่าเป็นเวลาราวสองสัปดาห์ ในที่สุดผมก็หาบ้านทรงชิโนโปรตุกีสได้สมกับที่ตั้งใจไว้ บ้านโบราณหลังนี้มีอายุราวๆ 50-60 ปี เป็นบ้านกงสีซึ่งเป็นมรดกที่ยังไม่ได้ยกให้ใครและถูกปิดร้างไว้ ทันทีที่ผมติดต่อเจ้าของบ้านได้ผมก็ขอเข้าไปดูบ้านทันที เจ้าของบ้านซึ่งมีฐานะระดับเศรษฐีของเมืองตะกั่วป่าเมื่อทราบความต้องการของผมก็มีเมตตาให้เช่าในราคาเพียงเดือนละ 1,500 บาท ผมตกลงโดยไม่ได้ต่อรอง

เมื่อเข้าไปดูภายในบ้านแล้วปรากฏว่ามีแต่ห้องน้ำไม่มีส้วมเพราะบ้านแบบโบราณนั้นจะมีส้วม(เว็จ)อยู่นอกบ้าน และปัจจุบันส้วมนั้นก็ใช้งานไม่ได้แล้ว ถ้าผมต้องการอยู่อาศัยก็จะต้องปรับปรุงห้องน้ำภายในบ้าน ผมตัดสินใจติดต่อช่างรับเหมาให้มาสร้างส้วมใหม่ทันที ด้วยความรู้สึกว่าได้บ้านตามที่ฝันไว้แล้ว ผมจ้างคนมาช่วยทำความสะอาดโดยที่ตัวผมเองก็ลงมือทำด้วย




แม้จะเป็นเพียงตึกสองชั้นแต่ทว่าความสูงของเพดานนั้นเทียบเท่ากับตึกสามชั้นทั่วไป ชั้นล่างเป็นห้องโล่งและแบ่งเป็นสามช่วงยาวๆ ผมนึกถึงการเปิดร้านค้าตามที่ฝันไว้ เมื่อส้วมเสร็จแล้วผมก็ตัดสินใจขนข้าวของที่ขนย้ายมาจากบ้านเมืองนนท์ซึ่งมาพักไว้ที่บ้านญาติของภรรยาเข้าบ้านหลังนี้ทันทีด้วยความอยากจะเข้าไปอยู่อาศัยและเปิดร้านขายของตามที่ตั้งใจไว้โดยเร็ว

สภาพบ้านที่กว้างสูงและยาวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ช่วงกลางบ้านมีช่องอากาศเปิดด้านบนทำให้อากาศถ่ายเทสะดวก และมีบ่อน้ำอยู่ช่วงท้ายบ้าน ผมจินตนาการไม่ถูกเลยว่าบ้านกว้างใหญ่อย่างนี้แต่ก่อนมีผู้คนอยู่อาศัยกันกี่คน แต่ตอนนี้มีผมอยู่เพียงลำพังคนเดียวเท่านั้น




อาจจะด้วยฝุ่นละอองหนาเตอะเพราะบ้านถูกปิดทิ้งร้างมานานประกอบกับในช่วงที่ร่างกายผมกำลังอ่อนแอจึงทำให้ผมมีอาการเป็นไข้และไอแห้งๆตั้งแต่ก่อนย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แล้ว ด้วยความเชื่อว่าตัวเองเป็นคนสุขภาพแข็งแรง ผมจึงเพียงแต่ซื้อยาลดไข้จากร้านขายยามากินและคิดว่าไม่ช้าก็คงหายป่วยไข้

คืนแรกของการนอนอยู่ในบ้านเพียงลำพัง สิ่งที่ผมไม่เคยคาดฝันมาก่อนก็คือตัวเมืองที่ผมเห็นเงียบๆแต่กลับมีเสียงรถราวิ่งอยู่บนถนนเกือบตลอดเวลา ผมนอนซมเพราะพิษไข้ มองเห็นเพดานสูงเหมือนหลังคาโบสถ์ เวลาจะลุกเข้าห้องน้ำผมต้องเดินออกจากห้องและลงบันไดสูงกว่าจะถึงห้องน้ำก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย



ถึงแม้จะเป็นบ้านที่นอนสบายเพราะมีอากาศถ่ายเทสะดวก แต่กระนั้นความใหญ่โตของบ้านก็ทำให้ผมรู้สึกตัวเล็กลีบลงอย่างบอกไม่ถูก เวลาตื่นขึ้นมากลางดึกก็ได้แต่นอนมองเพดานสูงอยู่เพียงลำพังด้วยความรู้สึกโหวงเหวง แสงนีออนที่ริมถนนเล็ดลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างทำให้เกิดลวดลายตามแต่จะจินตนาการทอดเงาอยู่ตามพื้นและผนัง ยามเช้าจะมีนกนางแอ่นบินว่อนเข้ามาส่งเสียงทักทาย เพราะใกล้ๆกันนั้นมีบ้านสำหรับเลี้ยงนกนางแอ่นเพื่อเอารัง

ความจริงผมก็เคยเดินทางไปไหนต่อไหนมาไม่น้อย แต่คราวนี้ความรู้สึกกลับแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งที่ที่นี่เป็นบ้านเกิดของภรรยาของผมซึ่งผมคุ้นเคยมาก่อน ผมนอนครุ่นคิดว่าผมผลีผลามทำตามเสียงหัวใจตัวเองมากเกินไปหรือเปล่า คิดถึงสิ่งที่จะต้องทำต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดร้านขายของ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปลูกต้นไม้ในผืนดินที่ตัวเองตั้งใจปลูกบ้านอยู่อาศัยในอนาคต และไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเขียนหนังสือตามที่ตั้งใจไว้



ผมนอนทบทวนดูแล้วเห็นว่าตัวผมเองคงไม่สามารถทำอย่างที่คิดและตั้งใจไว้ได้แน่นอน จึงเกิดเป็นภาระทางใจเพราะได้บอกใครต่อใครไปแล้วว่าจะต้องทำสิ่งนี้ให้ได้ เพียงคืนแรกในบ้านเก่าหลังใหญ่ผมก็รู้สึกเวิ้งว้างอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน อย่าว่าแต่ทำอย่างอื่นเลย แม้แต่งานเขียนหนังสือซึ่งเป็นสิ่งที่ผมรักและชอบมากที่สุด ผมก็ยังไม่มีสมาธิพอที่จะนั่งเขียนหนังสือได้เลย เพราะที่ผ่านมาผมคุ้นเคยกับห้องเล็กๆที่มีซอกมุมส่วนตัวเสียมากกว่า

ถึงแม้ผมจะไม่ชอบบรรยากาศของบ้านที่มีเสียงรถราแล่นผ่านไปมาก็ตาม ผมก็เฝ้าปลอบใจตัวเองว่านั่นอาจเป็นเพราะผมยังไม่คุ้นเคยก็เป็นได้ แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังไม่ยอมถอดใจง่ายๆ ยังมุ่งหน้าหาซื้อสิ่งของมาประดับร้านต่อไป

พอคืนที่สองผ่านไปผมก็เริ่มตระหนักว่าผมคงแบกรับภาระที่สร้างให้กับตัวเองไม่ไหวเสียแล้ว ผมนอนหัวใจระทมด้วยความคิดถึงลูกและภรรยาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

อาจเป็นเพราะครั้งนี้แตกต่างจากการเดินทางครั้งก่อนๆ ด้วยทุกครั้งที่ผ่านมาผมไม่เคยมีเงื่อนไขว่าจะกลับบ้านเมื่อไร นึกจะกลับบ้านเมื่อไรก็กลับได้ทันที แต่ครั้งนี้ผมตั้งเป้าหมายว่าจะต้องอยู่อย่างน้อย 6 เดือน และสิ่งที่ผมตั้งใจจะมาทำที่นี่นั้นมันไม่ใช่แค่เพียงการเคลื่อนย้ายตัวเองจากที่หนึ่งมาอีกที่หนึ่งเท่านั้น แต่ทว่ามันหมายถึงผมต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอีกหลายอย่างทีเดียว ซึ่งนับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก




ผมเคยคิดว่าผมเก่งและแกร่งพอที่อยู่เพียงลำพังได้ อยู่ห่างไกลลูกและภรรยาได้ครั้งละนานๆ ผมเคยบอกตัวเองเสมอว่าผมไม่เคยเหงาถ้าผมมีหนังสืออ่าน แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในยามที่ร่างกายและจิตใจกำลังอ่อนแอเช่นนี้ เป็นความเหงาที่จับขั้วหัวใจ อ่านหนังสืออย่างไรก็ไม่หายเหงา พูดคุยโทรศัพท์กับใครอย่างไรก็ไม่หายเหงา

ในฐานะนักฝันที่อยากจะทำโน่นทำนี่ ผมจึงต้องแบกความฝันค้ำคอไว้ ในท่ามกลางความเดียวดายอ้างว้างนั้น ผมเฝ้าถามตัวเองว่า แค่เพียงเป็นไข้หวัดนิดหน่อยก็ยอมถอยแล้วหรือ เราจะกลับได้อย่างไรเพราะข้าวของทุกอย่างก็ขนมาหมดแล้ว สินค้าบางอย่างก็ลงทุนซื้อไปแล้ว ค่าเช่าบ้านก็ถือว่าจ่ายล่วงหน้าไปเป็นปีแล้วเพราะจะหักจากค่าสร้างห้องส้วม ไหนใครจะว่าอีกว่าเป็นคนหนักไม่เอาเบาไม่สู้




หรือว่าเราคงไม่ใช่ชายหนุ่มที่จะฮึดสู้ด้วยการงานที่ใช้กำลังกายเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว นานขนาดไหนแล้วที่เราขุดดินปลูกต้นไม้ต้นสุดท้าย นานขนาดไหนแล้วที่เราไม่ได้ขายของ นานขนาดไหนแล้วที่เราใช้ชีวิตสบายๆไปกับการเดินทางและเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบตามอำเภอใจ ฯลฯ

ยิ่งพยายามต่อสู้ก็ยิ่งรู้สึกหนักและเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก ความคิดที่ว่าจะอยู่อย่างไรและจะทำอย่างไรให้สำเร็จนั้น ยิ่งทำให้รู้สึกหนักทั้งกายและใจเพิ่มมากขึ้น แล้วในที่สุดผมก็ตัดสินใจโทรศัพท์กลับบ้านบอกภรรยาว่า ผมขอกลับบ้านดีกว่า น้ำเสียงจากปลายสายของเธอบอกถึงความยินดีไม่น้อยที่ผมตัดสินใจกลับบ้าน

ผมยอมรับกับตัวเองว่าสิ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจจะมาทำนั้น ทำไม่สำเร็จ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผมขอยอมแพ้และยอมรับความจริงว่าเมื่อได้ลงมือทำแล้วแต่ทำไม่ได้ ผมขอถอยหลังกลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อน บ้านซึ่งไม่ใช่เป็นแค่สิ่งก่อสร้างที่มีหลังคา มีเสาหรือห้องหับเท่านั้น แต่หมายรวมถึงผู้ที่อยู่ร่วมด้วย เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีที่ผมคิดถึงบ้านมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน บ้านที่เป็นเพียงทาวน์เฮ้าส์หลังเล็กๆ แต่ทว่ามีภรรยาและลูกผมอยู่ร่วมด้วย

ขอบคุณความเหงาและความป่วยไข้ที่ทำให้ผมมองเห็นคุณค่าในสิ่งธรรมดาสามัญของความเป็น “บ้าน” อีกทั้งทำให้ผมได้มองเห็นความอ่อนแอของตัวเองซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่ในยามปกติไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น เพราะมันซ่อนอยู่ลึกและแนบเนียนนัก



-----------------------------------------






Create Date : 30 เมษายน 2551
Last Update : 30 เมษายน 2551 11:40:25 น. 60 comments
Counter : 2352 Pageviews.

 
ไปได้หนังสือมาอ่านจากแพร่พิทยา ตอนที่เห็นภาพจากในหนังสือ หนูชอบภาพบ้านมากๆ เลยค่ะน้าโดม

แต่ตัวหนังสือที่สายตากวาดอ่านตามไป มันทำให้ภาพบ้านนั้นดูวังเวงและหลอกหลอน ชวนอ้างว้างและป่วยไข้มาก นึกไม่ออกเหมือนกันว่า ถ้าต้องไปนอนแบ่บไม่สบายอยู่ตามลำพัง จะตะกายลงจากบันไดนี้ได้ยังไง...

ดีแล้วล่ะค่ะที่น้ากลับมา ดีแล้ว


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:11:41:35 น.  

 
อ่านแล้วเศร้าปนสุขนะคะ
มองอีกทีก็เป็นเรื่องแสนธรรมดา
การตัดสินใจเลือก เป็นสิทธิ์ของตัวเราอย่างแท้จริง
ดีเหลือเกินแล้วที่พี่โดมตัดภาระทางความรู้สึกที่มีต่อคนอื่นได้
สุดท้ายแล้ว คนที่สำคัญต่อชีวิตเราอย่างแท้จริง ก็ภรรยาและลูก นั่นแหละนะคะ
เธอคือลมหายใจ อืมม์
เห็นไหมล่ะ อากาศในตึกใหญ่ยังเอาไม่อยู่เลย อิอิ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน IP: 124.121.49.122 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:12:00:08 น.  

 
Home Sweet Home ค่ะพี่โดม



โดย: Kukoy IP: 125.27.115.87 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:12:28:11 น.  

 
ถอยหนึ่งก้าว เพื่อก้าวไปข้างหน้าอีกหลายก้าว

ถึงนาทีนี้ หนอนฯ ว่าความฝันที่จะไปอยู่บ้านโบราณ พี่ก็ได้ลงมือสร้างฝันนั้นเป็นจริงแล้ว แม้มันจะเป็นช่วงเวลาที่สั้นนัก แต่ทำให้ได้เรียนรู้และค้นพบบางสิ่งบางอย่างภายในจิตใจซึ่งในเวลาปกติคงมิอาจค้นพบ นี่ก็ทำให้ได้ประสบการณ์ชีวิตอย่างหนึ่ง

แต่ที่สำคัญ...เมื่อหวนกลับในเส้นทางเดิม ก็ได้มีโอกาสสร้างสรรค์งานที่รักที่ชอบอย่างต่อเนื่องต่อไป และได้อยู่ท่ามกลางความอบอุ่นใจซึ่งมีภรรยาและลูกอยู่เคียงข้าง

เป็นเรื่องน่ายินดียิ่งกว่า...



โดย: หนอนฯ IP: 202.28.180.202 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:12:52:15 น.  

 
ได้ฝัน ได้ทำ และได้อะไรอย่างมากระหว่างที่ทำ...
น่ายินดีออกค่ะ เพราะคิดว่า
บทจบที่อ่านมีค่ามากกว่านิยายเล่มใหม่ที่จะเขียนซะอีก คิดว่างั้นนะคะ


โดย: kangsadal วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:13:04:18 น.  

 
จริง ๆ ก็ไม่แปลกอะไร ถ้าเราจะยอมรับในความพ่ายแพ้

การแพ้ในศึกษาแล้วยังดึงดันต่อไปก็อาจทำให้พ่ายแพ้ในสงครามได้ครับ

แต่ถ้ายอมถอยสักก้าว ก็อาจทำให้เรามีโอกาสวิเคราะห์สถานการณ์ได้ดีขึ้น ได้มองเห็นในจุดที่เราไม่เคยมองเห็นมาก่อนก็ได้ครับ


โดย: 9A วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:13:08:08 น.  

 
20 กว่าปีก่อน มาตะกั่วป่าเพื่อได้พบกับ "คนที่ใช่เลย"

มา ปี 51 มาตะกั่วป่าแล้วทำให้ต้องพบ "คนที่ใช่เลย"

"ตะกั่วป่า" ยืนหยัดเคียงข้างอยู่ตลอดเวลา


โดย: J IP: 58.137.145.222 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:16:13:42 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดมและทุกๆคน...
ขอเข้ามาทักทายทุกคนที่เคยรู้จัก..เคยคุยกัน ด้วยความคิดถึงก่อน..

หายไปนานพอสมควรหวังว่ายังมีคนที่คิดถึงอยู่นะคะ..

ยานาสบายดีค่ะ..แต่ก็มีหลายเหตุหลายปัจจัยว่าทำไมถึงห่างหายไปนาน..เอาไว้ค่อยๆเล่าให้ฟังนะคะ..

ตอนนี้ขอแค่นี้ก่อน..เหมือนเด็กใหม่เขียนยาวมากไปเดี๋ยวครูดุ.


โดย: ยานา IP: 118.172.28.4 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:16:42:27 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณ J ค่ะ

แวะมาทักทายคุณยานา
ไม่เจอะกันนาน
ยังคิดถึงอยู่ค่ะ


โดย: หนอนฯ IP: 202.28.180.202 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:17:20:51 น.  

 
เห็นบรรยากาศแล้ว.....
ไม่อยากอยู่คนเดียวในบ้านนี้ตามลำพังเลยค่ะ


โดย: แนนนิสา วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:19:52:45 น.  

 
ไม่ว่าอาโดมจะตัดสินใจอย่างไรนาห์ก็ขอเป็นกำลังใจให้อาโดมเสมอค่ะ

อ่านแล้วเศร้าค่ะอาโดม แต่ก็ยินดีด้วยที่อาโดมทำตามใจเรียกร้องอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับนาห์ฝันบางครั้งนาห์ก็เตือนตัวเองว่าคือฝัน ถ้าทำได้ดั่งฝันก็คือกำไรชีวิต แต่ถ้าไปไม่ถึงก็ยังมีความสวยงามในโลกแห่งฝันยามที่นาห์คิดถึงมันค่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:20:52:53 น.  

 
มันว้างโหวง...

(ม่วนชอบบ้านเก่า
อย่างบ้านที่กำลังซ่อมที่ตรงข้ามสวนสันตินั่นก็ใช่ค่ะ
ม่วนเคยแอบปีนเข้าไปถ่ายรูปด้วยแหละ)


โดย: ม่วนน้อย วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:21:14:27 น.  

 
ได้อ่านในขวัญเรือนแล้ว บรรยากาศของบ้านเท่าที่ได้เห็นจากภาพ รู้สึกวังเวง ว่างว้างมากเหลือเกิน
เ้ข้าใจเลยค่ะ ว่าความเหงาคงบาดลึก และโหยหาคนใกล้ตัว ใกล้ใจเพียงใด
ดีใจที่คุณโดมกลับมาค่ะ



โดย: บอนหวาน วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:21:24:39 น.  

 
หาใช่การพ่ายแพ้ นั่นคือบททดสอบหัวใจค่ะ

มีฝันใหม่ รอเราอยู่เรื่อย ๆ ค่ะพี่โดม

คิดถึงเสมอค่ะ


โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:21:32:23 น.  

 
สวัสดีครับ แวะมาดูแล้ว
คิดว่าถ้าโสดก็อยากไปอยู่นะ
บ้านไม่ได้วังเวงอย่างที่เห็นหรอก
มันขาดชีวิตชีวาต่างหาก

ถ้าครอบครัวไปด้วยคุณคงไม่เหงา
เอาใจช่วยนะครับ..


โดย: นายปลาดาว.. (yjam ) วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:22:14:11 น.  

 
อ่านได้สองสามย่อหน้านึกว่าจะได้เจอเรื่องลึกลับเสียอีก .... หวังว่าตอนนี้คุณพ่อพเยียคงเดินทางกลับถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:23:58:58 น.  

 
กลับมาอ่านอีกที
คุณโดมรู้ไหม
ม่วนนึกถึงบทกวีบ้านเก่า ของ ประกาย ปรัชญา

- - -

ถูกทีเดียว,ดาวเรืองชราได้ราร้าง
มะลิแห้งลอยคว้างกลางลมโหย
เข็มโปรยช่อดอกเฉาช่างเปล่าโปรย
บานไม่รู้โรยก็โรยแล้ว

ชานพักหักพังยังฝุ่นผง
เกาะชายคาค้อมลง-ลูกกรงแก้ว
ทิ้งริ้วรอยกะเทาะผนังไว้ทั้งแนว
โดยวันอันลบแวว แล้วลับวัน

ถูกต้อง,ตะเกียงร้าวกับราวรั้ว
คราบเขม่าหม่นมัวทั่วปูนปั้น
เถาไม้เลื้อยเลื้อคร่ำรางน้ำนั้น
หนามเลื้อยพัน-ระนิ่งชิงช้านี้

ผูพื้นรื้นรา ยังหญ้ารก
คลุมกรอบกระจกตก-กระจกสี
แห่งหน้าต่างปิดตายทลายธุลี
ลงแทบเท้า-แทบที่ธรณีประตู

ถึงอย่างนั้น
คงคำยืนยันของฉันอยู่
ณ เบื้องการคาดเดา-การเฝ้าดู
มาสิ มาสู่ฤดูดอกไม้

ถูกแล้ว,เธอลัดตัดลานกว้าง
ขวางคุคมค้าง-ตัดทางให้
ตลอดทางเท้าทอด ตลอดใจ
ละเมียดละมุนในแผลไหม้นั้น

กลับจากความเปรื่องปราด-ประกาศสงคราม
ผ่านหมื่นแสนนามของความฝัน
กลับจากความเปลี่ยวเปล่า-ฉวยเงาจันทร์
ผ่านหมื่นแสนพันธสัญญา

แก่งแห่งการแยกแปลก เธอแลกเปลี่ยน
ด้วยเดียวดายว่ายเวียนเวียนวนหา
กล่องกลวง-ย่านซื้อขาย จ่ายราคา
ด้วยแดงเดือดเลือดทาเต็มตาเธอ

โลกเสนอสดุดีที่แดดับ
พร้อมกวาดคนเข้ามุมอับกับข้อเสนอ
เขียนเหรียญตรา ชั่วเวลาก็พร่าเบลอ
โลกเรียกคืนเสมอที่เธอรับ...


โดย: ม่วนน้อย วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:11:21 น.  

 
สวัสดีจ้ะครับทุกๆคน

ช่วงนี้เพิ่งเรียบร้อยจากงานไประลอกหนึ่ง

สวัสดีจ้ะแม่กูก้อย


เป็นอย่างไรบ้างช่วงนี้อยู่เมืองไทยหรือเปล่า ?

หวังว่าคงมีความสุขกับชีวิตดีนะ

ปีนี้มีผลงานเป็นเล่มที่เท่าไรแล้วเนี่ยะ ?


สวัสดีจ้ะยานา


หายหน้าหายตาไปนาน
หวังว่าคงมีความสุขที่บ้านเกิดนะ
ครับ

เพลงที่ร้อง ยังมีโอกาสได้เอามาเปิดฟังอยู่บ้าง เพราะมาก แต่ะระบบการผลิตอาจไม่ค่อยดี

น่าเสียดาย

ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังร้องเพลงได้เหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า ?



สวัสดีจ้ะหนอน


ช่วงนี้ต่างคนต่างยุ่งกับงาน

ไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะ

เมื่อไรจะเอหนังสือเล่มแรกโหษณาลงบล็อกเสียทีล่ะ

คำนำเขียนดีมากนะ 555


คุณ J ครับ


นานแล้วที่เราไม่ได้พบกันเลย

ว่างกริ๊งกร๊างมานัดกันไปกินกาแฟนอกบ้านบ้าง






โดย: พ่อพเยีย วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:39:05 น.  

 
"บ้าน" ไม่มีที่ไหนอุ่นใจเท่า

ดูภาพแล้วเหงา และอ้างว้างจริง ๆ ด้วย
โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ที่นั่นคนเดียว


โดย: ชมจันทร์ วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:08:30 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม

มาอ่านนิยามของคำว่า "บ้าน" ครับ

ใกล้เคียงในความรู้สึกของผมมากเลยครับ
เพราะบ้านสำหรับผม
ต้องมี "ความรู้สึกที่ดี" อยู่ในนั้นครับ




โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:12:51 น.  

 
อยู่คนเดียวมันเหงา...เข้าใจ
พ่อพเยียละจาก house ที่สร้างจากอิฐปูน เพื่อกลับ home ที่สร้างจากความรักครับ


โดย: manachanok วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:07:51 น.  

 
ขอบคุณครับพี่โดม





โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:14:21 น.  

 

สวัสดีครับแม่โสมฯ

วันงานอินดี้พยายามโทรศัพท์หาหลายครั้ง

ก่อนหน้านี้ก็โทร ไม่ติด

ให้เบอร์ผมผิดหรือเปล่าครับ ?



โดย: พ่อพเยีย


ว้าย คุณพี่ เบอร์แม่ดสมจำง่ายดายมาก

คุณพี่ลืมใส่แว่นตอนกดเลขหรือเปล่าคะ

เดี๋ยวแม่โสมให้ใหม่ที่หลังไมค์ค่ะ

และกราบขอบพระคุณมากๆค่ะ

ที่กรุณานึกถึงแม่โสม

หวังว่าคราวหน้า จะมีงานดีดี ให้แม่โสมได้ไปนั่งขายของเอาเฮ และเอาก๊ากอีก

อยากลองค่ะ

ยิ่งหากมีเพื่อนนั่งเม้าท์แตกฟองฟอด ยิ่งขายไปมันไป

เผลอๆจะดีใจแจกฟรี หรือมีคนขโมยของ ก็ยังไม่รู้ตัว เพราะเม้าท์เพลิน


โดย: โสมรัศมี IP: 58.10.195.35 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:51:35 น.  

 
อ่าว คนบ้านเดียวกั๋นนิ

ไว้ไปเที่ยวบ้านพี่พร้อมคุณเมี่ยงดีกั่ว แม่โสมทำอาหารเก่งค่า

(ใครเค้าเชิญยะหล่อน พล่ามออกเอี๊ยดเชียว)

(ทำไงได้ล่ะคะ ก็คนมันคิดอย่างไร พูดอย่างนั้น หาจริตมีไม่)


โดย: โสมรัศมี IP: 58.10.195.35 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:55:31 น.  

 
ก่อนอื่น ต้องขอเรียนว่า ชอบลักษณะของบ้าน มากมาย

สอง ชอบไอเดียที่จะลี้เมืองนนท์ ไปผจญ alone ที่ตะกั่ป่า (ยึกถึงเรื่องไข่ย้อยอะค่ะ แม่โสมชอบหนังเรื่องนี้มาก มันตรงกับตัวแม่โสม)

สาม ยินดีต้อนรับสู่ ชมรม นักฝัน และลงมือทำ

ทำสำเร็จ ไม่สำเร็จ อีกเรือ่งหนึ่ง

แต่อย่างน้อยได้ลงมือทำ

สี่ ยินดีที่ได้ร้จักคนที่มีความคิดและรสนิยมคล้ายๆกันอย่างแรง

ห้า พี่จ่ายเขาไปเป็นปีแล้ว ทวงคืนได้ป่าว เสียดายตังค์

หก ของที่ซื้อไปขาย แล้วพี่จะขายที่ไหน

แม่โสมมีดครงการณ์ขายเอาก๊ากอีกแล้ว แม่โสมก็มีของขายนะ

อยากขายแบบดินๆ บ้านๆ อยากรู้จักความรู้สึกนั้น

จริงๆ แม่โสมเคยเปิดบ. นำเข้า

และลงมือขายเอง และทำทุกอย่างเอง เท่าที่หน้าที่ ใน หนึ่ง บ. จะมี

พี่โดมลองนึกดุดิคะ

บ. นำเข้าและขายปลีกและส่ง ควรมีพนักงานกี่คน อะไรบ้าง

แม่โสมเหมาคนเดียว และทำได้ด้วย

ทำอยู่สามปี

ซ้ำร้าย ดันไปเปิดร้านที่จตุจักร เพื่อหวังเป้นโกดังส่งของ อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าส่งย่านนั้น และเปิดโอกาสให้กับ บ. ได้รู้จักลูกค้าใหม่




ขอเรียนก่อนว่า

แม่โสมทำ บ. นี้ ด้วยไม่มีประสบการณ์การขาย การบริหาร การบัญชี และการอะไร ก็ไม่มี เพราะ ครอบครัว มิได้ค้าขาย

แต่กระโดด เปิด บ. จำกัด โดยเริ่มจาก 0 ในทุกอณูและรูขุมขน โดยมีเพื่อนสนิทที่ดีที่สุด มาช่วยในวันหยุด และหลังสองทุ่ม อาทิ ดูเรื่องคอม และให้คำปรึกษา หรือเฝ้าร้านให้ ยามแม่โสมกลับไปบ้าน หุงข้าวให้หมากิน

แต่ที่จตุจักร เพื่อนจะเอ็นจอยกว่า เลยให้เขาไปนั่งหน้ามันแผลบที่นั่นเสียมากกว่า แม่โสมจึงได้กลิ่นดินน้อยหน่อย

แต่ก็ได้ และรู้ว่าเหนื่อยมาก

สนุกตอนขายกับลูกค้าที่ไม่เรือ่งมาก

หากรู้ค้าเรื่องมาก แม่โสมด่าเลย

แม่โสมเป็นคนขายของที่ ไม่ชอบการเซ้าซี้ และเป้นคนที่ยุติธรรม

มีคนมาทำเจ้าเล่ห์หรือเอาเปรียบ หากเห็นว่าเกินเหตุ

ไม่ แม่ดสมยกของให้ฟรีๆ บอก เอาไปเลย ให้

ก็ ด่า ไล่ออกจากร้าน ทั้งคนไทยและคนเทศ





(ตกลง ที่เล่ามาทั้งหมดนี่ เราควรจะขายของดีหรือเปล่าวะนี่...)


โดย: โสมรัศมี IP: 58.10.195.35 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:16:23 น.  

 
เอ่อ คุณพรี่คะ แม่โสมเขียนเองกลับไปอ่านเอง ยังงเต็ก

เขียนใหม่นิดๆแล้วกันค่ะ

______________

หากลูกค้าเรื่องมาก แม่โสมด่าเลย

แม่โสมเป็นคนขายของที่ ไม่ชอบการเซ้าซี้ และเป็นคนที่ยุติธรรม

หากมีคนมาทำเจ้าเล่ห์หรือเอาเปรียบ หากเห็นว่าเกินเหตุ

จะทำสองอย่าง ไม่ แม่โสมยกของให้ฟรีๆ บอก เอาไปเลย ให้!(ด้วยความจริงใจ)

ก็ ด่า ไล่ออกจากร้าน ทั้งคนไทยและคนเทศ

_____________________

^

ข้างบนนั้นแก้ไขแย๊ว


โดย: โสมรัศมี IP: 58.10.195.35 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:29:16 น.  

 
แวะเข้ามารอบหนึ่งเมื่อเช้า แต่คอมเจ้ากรรม ส่งเม้นท์ไม่ได้อ่ะ

แต่สงสัยกระแสจิตจะส่งถึงคุณโดม จึงได้แวะไปเยี่ยมกัน อิ อิ...


ระลึกถึงคุณโดมเสมอเช่นกันเจ้าค่ะ....หายงานยุ่งยังคะ???

ปล. สั่งกาแฟตั้ง 2 แก้ว พาใครไปด้วยกันเอ่ย????


หวัดดี คุณยานาด้วยนะค่ะ คิดถึงจัง


โดย: ช่อชบา (HHG ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:10:52 น.  

 
สวัสดีค่ะพ่อพเยีย

งานยุ่งจริง ๆ ค่ะ
แต่ตอนนี้ก็เพลงลงนิดหน่อย
ถ้าไม่มีงานเร่งด่วน
ก็พอหายใจหายคอได้บ้าง

ยังไม่มีเวลาอัพบล็อกค่ะ
(อันที่จริงชอบไปเที่ยวบ้านคนอื่นมากกว่า)
คำนำที่ว่าเขียนดี...(ชมจริง หรือชมเล่น)
สงสัยเพราะใช้สิทธิ์พาดพิงถึงใครบางคน
แต่ก็รู้สึกอย่างที่เขียนในคำนำจริง ๆ ค่ะ


โดย: หนอนฯ IP: 202.28.180.202 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:59:26 น.  

 
ขอโทษค่ะ พิมพ์ผิด
"แต่ตอนนี้ก็เพลาลงนิดหน่อย"
(อ่านแล้วเดี๋ยวงงจ้า)


โดย: หนอนฯ IP: 202.28.180.202 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:01:51 น.  

 
เรื่องนี้ อ่านแล้วในขวัญเรือน
ตอนเห็นภาพบ้านก็ยังนึกว่า บ้านดูดี แต่ว่า รู้สึกไม่น่าอยู่เลย
หนูว่าบ้านที่อยู่ริมถนน ก็มีขอ้เสียตรงนี้เอง
เคยไปเที่ยวแล้วพักที่ห้องพักที่อยู่ติดถนน ได้ยินเสียงรถวิ่งไปมาทั้งคืน โห นอนไม่หลับเลย
หนูชอบบ้านที่เงียบๆ กลางคืนได้ยินเสียงแมลง เสียงกบเสียงเขียด ตื่นเช้ามามีเสียงนกร้อง


โดย: filmgus IP: 222.123.216.123 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:36:11 น.  

 
น้าชอบภาพที่ส่งไปให้ หนูก็ดีใจแล้วค่ะ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:08:07 น.  

 
ทุกครั้งที่นึกถึง กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ผมรู้สึกเสียดายอย่างบอกไม่ถูก ก็เหมือนศิลปินอื่นๆ ที่ตายในวัยหนุ่มสาว เขาจะคงความเป็น “นักเขียนหนุ่ม” ไปตลอดกาล ความตายของเขาเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการวรรณกรรมไทย ในความเห็นของผม หากจะมีนักเขียนไทยร่วมสมัยสักคนที่มีศักยภาพได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ก็คือเขาคนนี้นี่เอง

....................

มาชวนพ่อพเยียไปอ่านคุณวินทร์พูดถึงคุณกนกพงศ์
และหนังสือจดหมายจากนักเขียนหนุ่ม ที่นี่ค่ะ

//www.onopen.com/2008/02/2755


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.249.20 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:39:00 น.  

 
ผมกับก๊วนได้ไปตระเวณดูร่องรอยของพี่ท่านแถวเมืองเก่าตะกั่วป่ามาแล้ว
ประทับใจครับ แต่ละตึกแต่ละห้องเหมือนออกแบบไว้ให้น่าถ่ายรูปยิ่งนัก ภาพความทรงจำในวัยเด็กที่เลือนลางครั้งเคยใช้ชีวิตอยู่ละแวกนั้น ตอนนี้มันเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ตะกั่วป่าไม่ใช่เมืองท่าสำหรับนักแสวงโชคเช่นแต่ก่อนแล้ว
พอรู้ข่าวมาบ้างว่าพี่ท่านไม่ค่อยสบายครั้งมาอยู่ใหม่ๆ
บ้านสวยจังเลยครับ แต่งานและการใช้ชีวิตคงไม่เอื้อเท่าไหร่ เก็บตะกั่วป่าเมืองเก่าไว้มาเยือนเป็นครั้งคราวก็ดี
คิดเล่นๆว่าเราจะทำยังไงดีที่จะให้เมืองที่มีสถาปัตยกรรมงามๆเช่นนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
แต่คิดแล้วก็บอกว่าให้ตะกั่วป่าเป็นไปแบบนี้ก็ดี นี่คือตะกั่วป่าวันนี้

แหม...ถ่ายภาพออกมาสวยเชียวครับ


โดย: ตาพรานบุญ วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:36:30 น.  

 
ไม่ได้แวะมาเยี่ยมนานพอสมควนเหมือนกันค่ะพี่โดม

บ้านปลายฟ้า..เรียกฟ้าฝนมาสมชื่อ
กลางเดือนที่แล้วก็พาดาวเทียม เครื่องคอม ทีวี ไปกราวรูด

เครื่องส่งไปเคลมที่ศูนย์ก็ต้องทำใจรอค่ะเพราะยู่ในระยะประกัน
แต่อินเตอร์เน็ตใช้ไม่ได้มาร่วมเดือนแล้ว
ก็วนเวียนกันอยู่รอบๆห้องนี่แหละ
เอาเครื่องตัวหน้าบ้านมาทำงานมันก็วิ่งไม่รอดเพราะงานพี่นุไฟล์ใหญ่มาก

วันนี้เข้ามาอัพบล๊อคอย่างแช่มช้า เพราะว่าเครื่องไม่เข้าท่าอีกนั่นแหละ

ก็มาบอกว่าคงจะหายหัวไปอีกสักพัก....แต่ยังคิดถึงค่ะ

ที่ตะกั่วป่าบ้านหัวมุมสามแยกที่วันก่อนกำลังทุบก็เริ่มสร้างกันแล้ว
ส่วนบ้านพี่โดม ตอนนี้ร้านข้าวมันไก่ที่อยู่หัวมุมสี่แยกร.ร.เสนาฯเขามาเช่าต่อ เพราะที่ร้านเขากำลังปรับปรุงเหมือนกัน

ตั้งแต่พี่โดมไปก็ไม่ได้แวะตลาดเก่ากันเลยค่ะจะผ่านไปบางม่วงกันตลอด เจอหน้าโกชายบ้างก็แว๊บๆ เวลาแวะซื้อส้มตำ

ขวัญเรือนเล่มนี้แม่ซื้อมาเก็บแล้วแต่เล่มก่อนหน้านี้ไปยืนอ่านที่ร้านกันค่ะ...ยังคุยกะแม่เลยว่าโชคดีนะที่วันนั้นไม่ได้หยิบไม้กระดานที่หลังบ้านนั้นติดไม้ติดมือมาด้วย

แล้วเขาก็มีข่าวเล่าว่ามีบ้านที่ใกล้ร้านตัดผมแถวนั้นแหละ....ลูกหลานมาปรับปรุงบ้านมีตู้ไม้โบราณที่ไม้หนักมากก็เลยทิ้งไว้อย่างเดิมจนมาปรับปรุงจำเป็นต้องย้าย พองัดตู้ออก...ทองเต็มตู้เลย
เราก็ว่า....ทำไมไม่เป็นบ้านหลังนั้นนะที่ไพ่โดมไปเช่า แหม...เราจะได้ทองมาทำทุนสักแท่ง...


ฝนครื้มมาแล้วค่ะพี่...สงสัยต้องไปก่อนเพราะไว้ใจฟ้าไม่ได้เลย
ถ้าฝนมาต้องรีบถอดอุปกรณ์ทุกอย่างทั่งทีวี โทรศัพท์ คอมฯ
ที่นี่ฟ้าลงมากกว่าที่อื่น...อาจเป็นเพราะยังมีสายแร่อยู่ใต้ดินด้วย

วันฟ้าใส...ค่อยมาคุยกันใหม่ค่ะพี่
ทุกคนที่บ้านคิดถึงนะคะ.....นินทากันวันเว้นวันค่ะ
ถ้าวันไหนพี่โดมจามหนักก็อาจจะนินทากันนานหน่อย
ถ้าว่างก็แวะมาเก็บมังคุดกะทุเรียนนะคะ


โดย: ปลายแปรง วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:48:18 น.  

 
อันที่จริงถ้าคิดว่าต่อไปอยากจะอยู่ที่นั่น ก็น่าจะอยู่ได้นะคะ
แต่อาจต้องเตรียมอะไรหลายๆอย่างตั้งแต่วันนี้
บ้านเก่า ได้บรรยากาศขลังๆ
มีอยู่หลายหลัง
แต่ถ้าปลูกใหม่หลังไม่ใหญ่มาก
อาจจะง่ายกว่าค่ะ


โดย: toon IP: 119.42.67.7 วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:58:36 น.  

 
ขอให้พื้นที่ตรงนี้ ส่งข่าวถึงพี่หนอนฯ

เรียน พี่หนอนฯ

ขอบคุณมากสำหรับหนังสือ ขนาดยุ่งตัวเป็นเกลียว ยังมีผลงานรวมเล่ม นับถือจริง ๆ
แค่อ่านไปสองเรื่อง สาระความรู้เพียบจริง ๆ ไปประกอบการงานบุญจะได้มีสาระอันอุดมเป็นเครื่องชี้นำทาง


ขอให้พี่หนอนฯอิ่มบุญมากขึ้นๆ

ถึงพี่โดม

จะฮัลโหลไปครับ


โดย: J IP: 58.137.145.222 วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:51:23 น.  

 
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ที่จะส่งหนังสือมาให้ แต่...ขอพยายามหาต่ออีกหน่อยนะคะ ไม่ใช่ไม่รับไมตรีนะคะ แต่เกรงใจจริงๆ ค่ะ แล้วอย่าลืมเล่าบรรยาศงานวันงานอินดี้ด้วยนะคะ





โดย: โตมานาน วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:18:41 น.  

 
อ่านเรื่องของพี่โดมจบ แล้วให้นึกถึงตัวเองจังเลยค่ะ ตั้งใจจะเข้าป่าเชอร์วู๊ดที่เมกาสัก 3 ปี ไฉนได้ 15 วันเผ่นกลับมาซะแล้ว


โดย: ตาลจุง IP: 210.4.147.41 วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:44:58 น.  

 
เข้าใจความรู้สึกพี่โดมดี แต่ไม่เป็นไรเพราะคงมีสักวันหนึ่งที่นอกจากเป็นเขยตะกั่วป่าแล้ว พี่โดมคงต้องไปอยู่ตะกั่วป่าแน่...ที่ดินแปลงนั้นกำลังรอการบ่มเพาะของเม็ดพันธุ์พืช และรอการเข้าอยู่อาศัยของพี่โดมและครอบครัว


โดย: ชิด IP: 203.172.82.33 วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:06:08 น.  

 
ขออนุญาตใช้พื้นที่เขียนถึงคุณ J

ดีใจที่หนังสือมีสาระและมีประโยชน์ตามสมควร

ในการรวมเล่มต้องยกความดีความชอบให้ทางสำนักพิมพ์ฉลองบุญค่ะ ที่มีวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่ง และมีความอดทนรอคอยร่วมงานกะคนงานยุ่งอย่างหนอนฯ โดยไม่ปริปากบ่นน่ะค่ะ

ส่วนคนที่ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่ง ย้ำอีกครั้งตรงนี้ ก็คงจะต้องเป็นคนชื่อ โดม วุฒิชัย นี่แหละ เพราะถ้าไม่มีพี่เขาทั้งเข็นทั้งเคี่ยวให้ลงมือทำ ก็คงไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอย่างงี้หรอกค่ะ

เมื่อทบทวนดูก็เห็นว่า พี่เขาน่าจะได้รับตำแหน่ง "ผู้จุดประกายให้กับนักอยากเขียน" จริง ๆ ค่ะ เพราะเห็นมีความสุขกับการยุยงส่งเสริมให้คนเขียนหนังสือ สำเร็จผลมาไม่น้อย

นินทาเจ้าของบ้านอย่างเปิดเผยให้คุณ J (และคนอื่น ๆ) ฟังอย่างงี้แหละค่ะ


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:47:24 น.  

 
พี่หนอนฯ ไม่ยอมอั๊พบล๊อก
ให้เห็นหน้าตาหนังสือ อย่างคุณโดมบอกไว้ล่ะคะ

อยากเห็นอ่ะ

คุณโดมคะ..มาอ่านความรู้สึกค่ะ
ดูแล้ว บ้านมันใหญ่เกินไปจริงๆ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.81.8 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:3:38:46 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม
และมิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
---------------------------------
คิดถึง..
คิดถึง...
คิดถึง....และคิดถึง
คงซึ้งพอ....


ตอนนี้อ่านหนังสือสนุกมากค่ะ
อ่านมันแบบตะพึ้ดตะพือ (ภาษาเว้าของท้องถิ่น) ค่ะ



โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:40:57 น.  

 
เห็นภาพบ้านแล้วน่าอยู่ทีเดียว
สองเดือนก็ถือว่าเยอะแล้ว เสียดายนิดหนึ่งน่าจะเช่าไว้ต่อเผื่อเพื่อนอยากไป


โดย: แพรจารุ วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:28:48 น.  

 
สวัสดีคะ พี่โดม
ดีใจมากคะที่ได้รู้จักคนเก่งอย่างพี่โดม(แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม) แต่ก็รู้สึกเสียดายนิดๆที่พี่โดมกลับนนท์ซะแล้ว ทีแรกก็งงเหมือนกันคะ ที่พี่ไม่ได้แวะมาห้องสมุดเลย แต่พอรู้สาเหตุก็เข้าใจแล้วคะ โรสยินดีด้วยนะคะ กับการตัดสินใจของพี่ ที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนการที่ได้อยู่กับคนที่เรารักและรักเรา จริงมั้ยค่ะ ยังไงก็แวะมาเที่ยวตะกั่วป่าอีกนะคะ ชาวตะกั่วป่ายินดีต้อนรับเสมอคะ


โดย: โรส เจ้าหน้าที่ห้องสมุด(ตะกั่วป่า) IP: 118.173.159.197 วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:32:03 น.  

 
สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

ขอบคุณจ้ะที่เอาข่าวมาบอก

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คัยกันเลยนะ
พ่อพเยียก้ไม่ค่อยว่าง


สวัสดีครับคุณ toon

ใช่ผมคงต้องพร้อมหลายๆอย่างกว่านี้จึงจะไปอยู่ตะกั่วป่าได้

สวัสดีครับตาลจุง

อะไรๆก็เปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้นแหละ ทั้งที่ตอนก่อนไปผมเตรียมตัวตั้งนาน แต่ตอนกลับสองวันเองเรียบร้อย รีบแจ้นกลับบ้านเลย

สวัสดีครับชิด

ตอนนี้เลยปล่อยๆไปก่อน นั่งทำงานที่บ้านที่นนทบุรีก็สบายไปอีกแบบ


สวัสดีครับคุณโรส

ด้วยความยินดีที่เข้ามาทักทายกัน ต้องขอบคุณคุณโรสที่มีน้ำใจให้บริการเป็นอย่างดี ตอนที่ผมได้ไปใช้ห้องสมุด

ซึ่งผมว่าห้องสมุดตะกั่วป่านั้นสวยและน่าใช้มาก เสียดายผมได้ไปใช้เพียงไม่กี่วัน ถ้ากลับตะกั่วป่าเมื่อไรจะแวะไปเยี่ยมเยียนครับ





โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.27.35 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:24:52 น.  

 
ระลึกถึงเช่นกันค่ะคุณโดม

ถึงจะห่างไกล แต่ไม่ห่างกัน

ใช่มั๊ยคะ?

แม่น้องนิก เข้ามาติดตามเสมอค่ะ
บางทีไม่ได้เม้นท์ และบางที
ก็ทราบข่าวความเป็นไปของ
คุณโดม จากคนใกล้ๆตัว
ที่บอกกัน ด้วยความเป็นห่วง
เป็นใย ทราบว่าคุณโดมสบายดี
ก็สบายใจค่ะ งานเยอะถือว่า
เป็นเรื่องธรรมดาของนักเขียน

หลังๆมา แม่น้องนิกมักจะไป
ช่วยครูที่โรงเรียนค่ะ ไปวันละ
สองชั่วโมงครึ่ง ได้ทำอะไรๆ
ให้เด็กบ้าง ก็เป็นความสุข
ที่ได้เก็บเกี่ยวความรู้ไปเรื่อยๆ



โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.86.115 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:23:36 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่โดม
ชื่นชมพี่โดมค่ะ ที่ได้ทำตามที่ตัวเองฝัน และกล้าที่ยอมรับความจริง
ดีใจด้วยนะคะ ที่จะมีผลงานรวมเล่ม อีกเล่มนึง


โดย: PenKa วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:54:52 น.  

 
ความเหงาหากไม่เจอกับตัวเองไม่มีวันรู้สึก
บรรยายได้ไม่เท่า
กลับบ้านเถิดค่ะ
รวงรังเราเอง
ไม่มีใครทำให้เราอบอุ่นเท่ากับคนของเรา(ลูกเมีย)
บางทีชีวิตก็ไม่ต้องการการแสวงหา ค้นหา ตัวตนอีกแล้ว
เพราะมันมีอยู่กับชีวิตจริงเราทุกบลมหายใจเข้าออก
ยังติดตามอ่านงานคุณอยู่ห่างๆ
และระลึกถึงในมิตรภาพเสมอค่ะ


โดย: อาริตา IP: 124.121.201.106 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:07:33 น.  

 
ยินดีกับพ่อพเยียและแม่พเยีย
ที่ลูกสาวคนเก่งสอบติดวารสารฯ ธรรมศาสตร์ค่ะ

น้องเยียเดินตามฝันมาอีกก้าวหนึ่งแล้ว
ขอให้ประสบความสำเร็จในการเรียนจ้ะ


src=https://www.bloggang.com/
emo/emo31.gif>

หมายเหตุข้างท้าย เจ้าของเรื่องยังไม่มากระโตกกระตาก
หนอนฯ มาชิงส่งเสียงก่อน คงไม่เป็นไรนะเจ้าคะ เพราะอดใจรอไม่ไหว


โดย: หนอนฯ IP: 58.9.169.227 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:32:29 น.  

 
ยินดีด้วยค่ะคุณโดม
คอยอยู่ว่าคุณโดมจะบอกเมื่อไหร่
หลานแมวก็ติดเหมือนกัน
ดีใจกันไปถ้วนหน้านะคะ

ค่อยหายใจโล่งหน่อย
ทางบ้าน..ยังดีใจกันอยู่เลยค่ะ

ขอบคุณนะคะพี่หนอนฯ
คุณโดมกินเลี้ยงกันอยู่มังคะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.69.173 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:41:18 น.  

 
ในเมื่อหนอนฯเป็นคนเปิดประเด็นแล้ว ผมก็ขอร่วมแสดงความยินดีด้วยอย่างเปิดเผยอีกครั้ง..

ขอแสดงความยินดีกับน้องเยียนะครับ

ช่วงนี้, คุณโดมมีข่าวดีมาให้ยินดีไม่ขาดสาย.. ดีใจด้วยนะครับ


โดย: ปะการัง IP: 72.197.61.207 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:06:40 น.  

 
อะไรกัน...มาไม่ทันอีกแล้วเรา...
ว่าจะมาเป็นคนที่สอง เพราะรู้ตัวว่า ชีวิตนี้เป็นรองพี่หนอนฯตลอด..
แต่ก็ยังช้ากว่าแม่น้องนิกและพี่ปะการังไปสามก้าว..
เอ้า..เป็นที่สี่ก็ได้จ้า...

เป็นว่า...ฟุตบอลประเพณีต้นปีหน้า
ใครเชียร์สีชมพูมีโกรธ...นะจ๊ะ
แฟนพ่อพเยียตัวจริงต้องเชียร์เหลือง-แดง...จ้ะ

ดีใจด้วยค่ะพ่อพเยีย....ดีใจด้วยจริงๆ เย้ เย้ เย้...


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.60.169 วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:45:54 น.  

 
พี่ตะเบบูญ่าก็...มาเย้ช้า
ดีกว่าไม่มาเลยนะจ๊ะ

ฟังข่าวตั้งแต่น้องเยีย
สอบติดเตรียม แป๊บๆ
เรียนมหาลัยละ

อีกหน่อย คงแต่งงานล่ะพี่

เรางี้ แก่ลงเรื่อยๆ


โดย: แม่น้องนิก IP: 216.175.73.119 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:2:50:03 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่โดม



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:24:17 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าๆอันเปียกแฉะของปลายวาอีกหนึ่งวันค่ะพี่

เทศกาลมังคุด ทุเรียน เข้าสวนกันแต่เช้าแล้ว มังคุดราคาติดดินเหมือนเดิม
มีทุเรียนที่ราคาดีหน่อย...แต่ป้าพิศคอตกแล้ว
สาลิกาต้นเดียวของแก กระรอกเจาะจนพรุน ว่าจะขายสัก 2-3 พันนิ

วันก่อนหล่น 4 ลูก ดีใจแทบตายว่ากระรอกไม่เจาะ
เอะใจว่ามันแปลก เลยเฉาะดู ลูกมันหล่นเหี่ยวน่ะ
ถ้ารีบเอาไปขาย...เพื่อนด่าแหงมๆนิ ถึงว่ากระรอกมันไม่แตะ ร้ายจริงๆ

แต่ปีนี้คงจะอดลองกองเสียแล้ว ฝนเยอะไม่ติดช่อเลย

เอ้า...มารายการสถานการณ์ชาวสวนแล้ว ไปก่อนล่ะค่ะ...ร่างกายแข็งแรงดีนะคะ


โดย: ปลายแปรง IP: 118.175.208.84 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:37:59 น.  

 
อ้อ...ลืมยินดีกะน้องเยียนะคะ
พ่อน้องเยียน่ะ หุบๆยิ้มบ้างนะ


โดย: ปลายแปรง IP: 118.175.208.84 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:39:39 น.  

 
ยินดีต้อนรับน้องเยีย เข้าร่วมวงพี่น้อง เจซี ครับ


โดย: J IP: 58.137.145.222 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:18:18 น.  

 
โอ้โห..เก่งมากเลย
ยินดีด้วยกับลูกสาวพ่อเพยียค่ะ


โดย: ชมจันทร์ IP: 202.29.77.2 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:35:37 น.  

 
ขอเป็นแบบเรียน สำหรับการตัดสินใจ "อยู่คนเดียว" และทำ"อะไรสักอย่าง" ที่คิดไว้ว่า คงไม่ยาก ยินดีกับหลานพเยีย จ้า


โดย: อาเครญา IP: 58.10.155.177 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:00:23 น.  

 
พอดีอยากจะซื้อบ้านแนวเก่าๆในตลาดเก่าอ่ะครับ บ้านอยู่บางม่วง ตะกั่วป่า ครับ อยากจะทราบราคาบ้านที่ตลาดเก่าจังเลยครับ


ช่วยหน่อยครับ


โดย: ตะกั่วป่า IP: 118.173.73.241 วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:21:42:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.