จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
16 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
ความเปลี่ยนแปลงในรอบ 2 ปี (คิดถึงนครศรีฯ)







คลิกอ่าน "จากบล็อกสู่พ็อกเก็ตบุ๊ค" หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ วันเสาร์ 15 ก.ย.นี้








ขอบคุณ ต๊ะ มุตโต ส่งเพลงดีๆและมีความหมายมาให้ฟัง
และเงาศิลป์เอื้อเฟื้อโค้ดเพลง "กบในพลก"




---------------------------------------------------------




คืนนี้ผมรื้อสมุดบันทึกเก่ามาเปิดดู

เวลาผ่านไปเกือบสองปี แต่มีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ชื่อเพื่อนที่อยู่ในบันทึกหน้านี้เสียชีวิตไปแล้วสองคน

คนหลังยังได้ไปงานศพคนแรก

นักเขียนรุ่นพี่มือฉมังเรื่องสั้น ,ตอนนี้มีชื่อเสียงเรื่องจตุคามรามเทพ

ภรรยาของเพื่อนผมสองคนเป็นหม้าย

คนหนึ่งหวนคืนกรุงเทพฯ

และเพิ่งออกหนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มล่าสุด



เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งเธอมีน้ำใจให้ที่พักแก่ผมระหว่างเดินทาง โดยพาผมให้ไปพักที่รีสอร์ทบนเนินเขาของญาติเธอ เมื่อผมได้รับรู้เรื่องราวชีวิตและการเดินทางของเธอ ผมเคยยุให้เธอเขียนหนังสือ เพราะผมรู้ว่าเธอเขียนหนังสือได้และเธอก็เคยเขียนมาแล้วด้วย ส่วน "ใจรัก" นั้นเธอมีอยู่แล้ว...เธอเพียงแต่บอกว่าขอเวลาหน่อยเถอะ.. จนกระทั่งห่างหายกันไประยะหนึ่ง

เมื่อมาพบกันอีกครั้งในโลกอินเตอร์เน็ต ตอนนี้ตัวหนังสือของเธอปรากฏอยู่ที่เว็บไซต์ประชาไทดอทคอมและบล็อกโอเคเนชั่น อย่างไหลหลั่งพรั่งพรู

และเรื่องราวของเขาเหมน แห่งนครศรีธรรมราช ขณะที่ผมพักอยู่ที่รีสอร์ทหน้าเขาเหมน เมื่อมองยอดเขายามหมอกฝนปกคลุมสวยงาม เวลาผ่านไปเกือบสองปี ตอนนี้เขาเหมนกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างสุดๆ และเพื่อนผมคนนี้เธอกำลังปกป้องเขาเหมนด้วยความรักธรรมชาติอย่างสุดฤทธิ์

ขอเชิญ! คุณอ่านบันทึกดิบๆของผมได้เลยครับ แล้วอย่าลืมเดานะว่าใครเป็นใครในบันทึกหน้านี้ ?!?!


วันที่ 30 ธันวาคม 2548 ผมเดินทางพร้อมกับลูกและภรรยาจากนนทบุรีเพื่อไปฉลองปีใหม่ที่บ้านแม่ยายที่ตะกั่วป่า จากนั้นผมก็ปล่อยให้ลูกและภรรยาเดินทางกลับกรุงเทพฯสองคน ส่วนผมขออนุญาตเดินทางไปหาเพื่อนๆแถบนครศรีธรรมราช เป้าหมายคือไปบ้านกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ที่ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติที่หุบเขาฝนโปรยไพร อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช

ผมได้เห็นชีวิตและการงานของเขาดำเนินไปด้วยกันอย่างเรียบง่ายและสวยงาม คู่ชีวิตของเขาคือนักเขียนสาวอุรุดา โควินท์ ทั้งสองคนเลือกเดินบนเส้นทางถนนนักเขียนด้วยกัน ผมนอนซึมซับบรรยากาศอยู่ที่บ้านหุบเขาฝนโปรยไพรสองคืนทำให้ได้รับพลังอย่างประหลาดเมื่อได้พูดคุยกับคนพันธุ์เดียวกัน



ภาพกนกพงศ์ จากเว็บไซต์สมาคมนักเขียน





ภาพอุรุดา โควินท์ จากเว็บไซต์สมาคมนักเขียน





ส.ค.ส. ทำมือ ปีใหม่ ปีไหนก็ไม่รู้ ?





ปกรวมเรื่องสั้นเล่มล่าสุดของ อุรุดา โควินท์



กนกพงศ์กับอุรุดา พาไปคารวะพี่จำลอง ฝั่งชลจิตรที่บ้านในเมืองนครศรีธรรมราช ถึงแม้สภาพที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกัน เพราะบ้านพี่จำลองเป็นทาวน์เฮ้าส์เป็นชีวิตของคนเมือง แต่สิ่งที่ทั้งสองคนไม่แตกต่างกันก็คือความเป็นนักเขียนและการเลือกเดินทางตามสิ่งที่ตัวเองเชื่อ

สิ่งที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผมเป็นพิเศษก็คือเมื่อพี่จำลองหยิบต้นฉบับยาว 197 หน้า กระดาษขนาด A4 (ซ้ำยังตัวพิมพ์ขนาด 14) ให้ผมดู มันเป็นนิยายแฟนตาซีที่เขียนโดยลูกสาววัย 12 ปีของเขา ซึ่งใช้เวลาเขียนเพียงสองอาทิตย์เท่านั้น



จำลอง ฝั่งชลจิตร
ปัจจุบันเขียนคอลัมน์จตุคามรามเทพปริทรรศน์ ที่เนชั่นสุดสัปดาห์

(ภาพจากเว็บไซต์ประพันธ์สาส์น )




จากซ้าย กนกพงศ์ -โดม - อุทัย (ซ้าย-ขวาเสียชีวิตแล้ว เหลือคนกลาง)
ภาพนี้ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ
ก่อนกนกพงศ์เสียชีวิตราวเดือนเศษๆ
ต่อมาอีกไม่นานนักคนขวาก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตกบันได
ศีรษะกระทบกระเทือนอย่างแรง



จุดหมายปลายทางต่อมา เพื่อนที่ทำงานเอ็นจีโอชื่อ เงาศิลป์ มีความตั้งใจอยากให้ผมเดินทางไปยังเกาะตาครุฑเพื่อจัดกิจกรรมงานวันเด็กที่เกาะตาครุฑกับเธอด้วย เธอคนนี้เป็นนักเขียน และเป็นอะไรต่อมิอะไรมาสารพัด เมื่อก่อนนี้เราเคยแต่พบปะกันตามงานสังสรรค์ต่างๆในเมืองหลวง เรารู้จักกันเพียงผิวเผินเท่านั้น แต่ครั้งนี้เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกันมากมายหลายเรื่องจึงทำให้รู้จักกันในแต่ละด้านมากขึ้น

การไปร่วมกิจกรรมกับเธอครั้งนี้มีข้อแม้ว่าผมต้องมารอเธออยู่ที่หมู่บ้านจันดี กิ่งอำเภอช้างกลาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองนครนัก เพื่อที่จะได้มาพักซึมซับบรรยากาศภูเขาทางแถบบ้านของเธอบ้าง เธอส่งผมมาพักที่ “เขาเหมนรีสอร์ท” (ทางเข้าอยู่ทางวัดมะนาวติดกับตลาดคลองจันดี)ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่หลานๆ ของเธอดูแลอยู่

การสนทนากับเธอเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของเธอมากขึ้น ผมรู้สึกทึ่งกับการเดินทางไปในที่ต่างๆและการงานของที่เธอได้ทำมา ผมว่าชีวิตของเธอสามารถเขียนเป็นหนังสือได้หลายเล่มหากเธอต้องการ เพราะประสบการณ์ต่างๆที่เธอเล่าให้ฟังนั้นถือว่าเป็นวัตถุดิบชั้นดีทีเดียว

ปัจจุบันนอกจากจะทำงานให้ความช่วยเหลือชาวบ้านหลังคลื่นยักษ์สึนามิในเขต 6 จังหวัดแล้ว เธอยังทำห้องอบสมุนไพรที่บ้านเพื่อให้ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพได้มาใช้บริการ โดยที่ไม่ได้กำหนดราคาค่าอบสมุนไพรว่าเป็นราคาเท่าไร เธอให้ผู้ใช้บริการหย่อนเงินไว้ในหม้อดินตามความสมัครใจ เธอบอกเหตุผลที่ทำแบบนี้ว่าเพราะสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นี้ขาดหายไปจากสังคมไทยนานแล้ว เธออยากให้มีเหลือเอาไว้บ้าง

สี่คืนที่พักอยู่บนเขาเหมนสีรอร์ท ผมได้อยู่กับบรรยากาศเงียบสงบ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวชอุ่มของภูเขา และน้ำใจแสนดีของเจ้าของที่พัก

ตอนนี้เงาศิลป์ เธอมาเขียนบล็อกในนาม กู่ ที่ OK NATION










เงาศิลป์ (บล็อกของ กู่ โอเค เนชั่น)





คลิกอ่าน : เขาเหมน ท่องเที่ยวเชิงวิบัติ ทัวร์สะท้านโลก



การเดินทางต่างบ้านต่างเมืองครั้งนี้ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ ทั้งประสบการณ์ภายนอกที่มองเห็นด้วยตาได้ยินด้วยหูและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ เรียกว่าการเดินทางครั้งนี้ผมมีแต่ “ได้รับ” จากเพื่อนฝูงรอบข้างทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พักหรือการเดินทาง

ผมสัมผัสได้ว่ายามที่เป็น “ผู้รับ” จากผู้ที่เต็มใจให้นั้นก็เป็นความสุขชนิดหนึ่ง แม้ไม่อาจเทียบได้กับการเป็น “ผู้ให้” ก็ตาม

--------------


นี่คือบันทึกระหว่างเดินทางที่ผมเขียนไว้ เวลาผ่านไปเกือบสองปี แต่เป็นสองปีที่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน - มากอย่างที่ผมคาดไม่ถึงมาก่อน


----------------------------------



ป.ล. ผมไปบ้านกนกพงศ์ที่หุบเขาฝนโปรยไพรคราวนั้น ผมยังไม่มีกล้องดิจิตอล

แต่ถ่ายเป็นฟิล์มสไลด์รูปบ้านและรูปกนกพงศ์ไว้จำนวนหนึ่ง
ผมคิดว่าผมน่าจะเป็นคนถ่ายรูปเขาเป็นคนสุดท้ายก่อนที่เขาเสียชีวิต
(ไม่มั่นใจว่ามีใครถ่ายทีหลังผมอีกหรือเปล่า ?)

ไม่ได้ถ่ายรูปอุรุดาคู่กับเขาไว้เลย เพราะตอนนั้นอุรุดาไม่รู้เป็นอะไรปากบวมเจ่อ เธอไม่ยอมเป็นแบบให้ถ่ายรูปอยู่แล้ว

การได้ไปนอนบ้านไม้หลังนั้นเป็นการไปเป็นครั้งแรก แต่ไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นการไปเยือนครั้งสุดท้าย

และรูปที่ผมอัดส่งไปให้เขาเป็นที่ระลึก ไม่นึกเหมือนกันว่าผมจะได้เห็นรูปเหล่านั้นมาติดร่วมกับรูปที่คนอื่นถ่ายที่บอร์ดนิทรรศการงานศพของเขา



Create Date : 16 กันยายน 2550
Last Update : 16 กันยายน 2550 17:12:17 น. 60 comments
Counter : 3264 Pageviews.

 
การมีเพื่อนให้รำลึกถึงเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว
ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วก็ตาม


ผมรู้สึกว่าบล็อกโอเคเนชั่นมาแรงเหลือเกิน


โดย: 9A วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:6:29:45 น.  

 
สวัสดีครับโดม,

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องราวความเป็นไปของคนร่วมถนนสายเดียวกัน..

เห็นรูปพี่จำลอง แล้วคิดถึง เมื่อก่อนพี่เขาอยู่แถวลาดพร้าว คนละซอยกับผม แต่เราจะเจอกันบ่อยๆตอนเช้าที่แผงหนังสือหน้าปากซอย..

คุณกนกพงศ์นี่ ยังไม่ทันได้รู้จัก น่าเสียดายที่เสียชีวิตก่อนวัย ส่วนคุณอุทัยนี่เป็นใครครับ?

นอกจากนั้นไม่รู้จักเลยครับ

วันนี้คุณอยู่อัพบล็อกดึกหรือว่าตื่นเช้ากว่าปกติครับ?



โดย: ปะการัง (ชบาฉาย ) วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:6:43:24 น.  

 
แวะมาอ่านเรื่องราวความทรงจำ
ที่ควรค่าแก่การจดจำ และเก็บไว้ในกล่องของความทรงจำที่มีค่าค่ะ

เรื่องราวของคนหลายคนที่คุณโดมเอ่ยถึง ใกล้ชิดฉันในการติดตามอ่านความเป็นไปของพวกเขาเช่นกัน

คุณกนกพงศ์ คุณอุรุดา คุณจำลอง และเขาเหมนที่นครศรีธรรมราช ...

................................
ขอบคุณสำหรับลายเซ็นต์บนหนังสือ เมื่อวันที่ 14 กันยา ที่ดับเบิ้ลเอ บุ๊คทาวเวอร์ ในงาน "เรียนรู้รัก..เข้าใจชีวิต" ของคุณ "ขุนเขา ริมน้ำ" (นักเขียนอีกคนที่ฉันชื่นชอบผลงาน)

ขอบคุณคำสั่งสอน ที่ทำให้รู้สึกได้ ถึงความมีมิตรไมตรีที่ดีค่ะ



โดย: ฌาณชนก วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:7:13:55 น.  

 
หวัดดีคะคุณโดม
พออ่านแผ่นดินอื่นจบ ก็ชอบเอาไปถามใครต่อใครว่า ประเทศไทยอยู่ที่ไหน ? ไม่มีใครตอบได้สักคน ใครอ่านหนังสือ รวมเรื่องสั้น ของคุณกรนกพงศ์ ถึงจะรู้ว่าประเทศไทยอยู่หน้าเสาธง
อาจารย์สมัยภร เขียนบทกวีไว้อาลัยให้กับ กรนกพงศ์ ตอนหนึ่งว่า กนกพงศ์ เจ้าจากไปอยู่แผ่นดินอื่นแล้วหรือ ทำเอาน้ำตาชึม (นางเอก ๆ)


โดย: บุญสิตา (ดาวกระพริบฟ้า ) วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:8:17:48 น.  

 
สวัสดีค่ะ...เข้ามาดูเพราะ column ที่อ่านในหนังสือพิมพ์น่ะค่ะ...เห็นเป็นชาว Bloggang เหมือนกัน...

สองปี...ถือเป็นเวลาที่นานพอจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในชีวิตคนเรา...มีเพียงความทรงจำที่ยังคง..คงไว้กับเรา...มิตรภาพที่ดีๆ ก็ไม่มีวันเลือน จริงมั้ยคะ



โดย: uter วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:9:13:06 น.  

 
สวัสดีวันอาทิตย์

แวะมาอ่านก่อนเดินทางไปทำงานที่มหาวิทยาลัย (อีกแล้ว)

งานเขียนของอุรุดา โควินท์ เล่มล่าสุด "มีไว้เพื่อซาบ" อ่านแล้วชอบมากค่ะ (แต่ยังอ่านไม่หมดทั้งเล่ม) แม้จะเป็นเรื่องสั้นที่เคยอ่านมาแล้วบ้าง แต่เมื่อมารวมอยู่ในที่เดียวกันก็ให้อารมณ์ที่แตกต่าง

วันแรกที่เปิดอ่านเรื่อง "แค่เอื้อมมือ" ก็ทำให้คิดถึงเธอและคู่ชีวิตของเธอ คุณกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ เรื่องราวบอกเล่าง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ประทับใจจริงจังค่ะ

คุณปะการัง

ยินดีด้วยที่บทความซึ่งเขียนถึง "ห่างไกล ไม่ห่างกัน" ได้ลงตีพิมพ์ในคอลัมน์ "ผู้มาเยือน" ในจุดประกายวันอาทิตย์ นี่คงเป็นผลงานตีพิมพ์สู่สาธารณะชิ้นแรกในรอบสิบปีกระมังคะ เห็นไหมล่ะ ว่าทำได้ (เอ้อ...ขอโทษพ่อพเยียค่ะ หนอนฯ มาฝากข้อความถึงคุณปะการังที่นี่ ผิดกติกาหรือเปล่าเนี่ย)


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.171.244 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:9:13:34 น.  

 


*** สวัสดีจ้า แวะมาเยี่ยมในวันหยุด happy weekend นะคะ ***




โดย: หน่อยอิง วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:10:13:35 น.  

 
สวัสดีค่ะ อาโดม

เวลาที่ผ่านไปอะไรๆก็เปลี่ยนแปลงนะค่ะ นาเองเคยหยิบเอาสมุดบันทึกสมัยที่เรียนชั้นป.4 มาดู ก็พบความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทีเดียว

อาจารย์ใหญ่ ผู้ซึ่งเป็นคนเริ่มฝึกให้นาและเพื่อนๆเขียนบันทึกโดนย้ายไปอยู่ในหุบเขาที่จังหวัดสตูน แล้วไม่มีโอกาสติดต่อกันอีกเลย เพื่อนๆที่เคยเรียนด้วยกัน ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปก็หลายคน

เพื่อนๆพากันมีครอบครัวกันหลายคนแล้ว แต่ทำไมก็ไม่รู้เพื่อนที่เรียนจนจบตรีด้วยกันกับยังโสดกันทั้งนั้น

สงสัยรู้เรื่องมากแล้วเลือกมากหรือเปล่าค่ะอา


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:10:29:57 น.  

 
พี่โดมคะ ขอบคุณค่ะ
ที่บอกกล่าวเรื่องราวเขาเหมน ต่อๆไป

ภาพสามคน...
ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

"จากซ้าย กนกพงศ์ -โดม - อุทัย (ซ้าย-ขวาเสียชีวิตแล้ว เหลือคนกลาง)"

ตลกร้ายลึกจริงๆ

คิดถึงคนทั้งคู่...


โดย: ศิลป์ IP: 203.146.63.182 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:10:36:29 น.  

 
มาเยี่ยม และตามอ่านอยู่เสมอ ๆ ค่ะ

ขอให้มีความสุขกับชีวิตการเขียน กับการเดินทางค่ะ


โดย: สาวิกา IP: 124.120.104.44 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:10:41:52 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณพ่อพเยีย


"มีไว้เพื่อซาบ" นี้ มีมิตรสหายชาว Bloggang แนะนำไว้เหมือนกันค่ะ คงต้องรอให้เสร็จงานตรวจข้อสอบและภารกิจโรงเรียนลุล่วงไปพร้อมกับปิดเทอมเสียก่อนถึงจะได้ละเลียดซึมซาบอ่านให้อิ่มใจ


ขอไปอ่านลิงค์โพสท์ทูเดย์ก่อนนะคะ น่าสนใจมากๆ


ภาพคุณกนกพงศ์รูปเว็บไซต์สมาคมนักเขียนนี้งดงามมากค่ะ เห็นแล้วคิดถึงงานงามๆ ของเขามากๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:10:45:40 น.  

 
วันนี้วันอาทิตย์แล้ว หนูจะไปหาอ่านได้ยังไงล่ะ เสียดายจัง
คราวหน้าถ้าพ่อพเยียไปเผยโฉมที่ไหน
พี่หนอนฯช่วยบอกหนูด้วยนะจ๊ะ
หนูจะได้ซื้อทัน แหม..เห็นๆอยู่ข้างบนแต่ไม่ได้อ่าน
มันหงุดหงิดหัวใจมากถึงมากที่สุด

ยินดีกับคุณปะการังด้วยจ้ะ...เย้ เย้..

ภาพบนสุดน่ะ..่หนูว่าพ่อพเยียหล่อกว่า..


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.62.135 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:11:39:07 น.  

 
โอแม่เจ้า...คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะฉลาด(น้อย)ขนาดนี้
พ่อพเยียแปะไว้ตัวเบ้อเริ่มให้คลิกเข้าไปอ่าน
กลับมองข้ามไป...

คลิกแล้วค่ะ แต่กลายเป็นโพสต์ฯฉบับวันอาทิตย์
ไม่มีปัญญาจะทำให้มันเป็นวันเสาร์
วนหาเท่าไรก็ไม่เจอที่เปลี่ยนเป็นวันเสาร์
เฮ้อ...ฉลาดติดลบจริงๆ


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.62.135 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:11:49:04 น.  

 
"เพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งเธอมีน้ำใจให้ที่พักแก่ผมระหว่างเดินทาง โดยพาผมให้ไปพักที่รีสอร์ทบนเนินเขาของญาติเธอ เมื่อผมได้รับรู้เรื่องราวชีวิตและการเดินทางของเธอ ผมเคยยุให้เธอเขียนหนังสือ เพราะผมรู้ว่าเธอเขียนหนังสือได้และเธอก็เคยเขียนมาแล้วด้วย ส่วน "ใจรัก" นั้นเธอมีอยู่แล้ว...เธอเพียงแต่บอกว่าขอเวลาหน่อยเถอะ.. จนกระทั่งห่างหายกันไประยะหนึ่ง

เมื่อมาพบกันอีกครั้งในโลกอินเตอร์เน็ต ตอนนี้ตัวหนังสือของเธอปรากฏอยู่ที่เว็บไซต์ประชาไทดอทคอมและบล็อกโอเคเนชั่น อย่างไหลหลั่งพรั่งพรู">>>
คุณพ่อพเยียเป็นนักยุ จริงๆ ค่ะ
ยุใครเป็นได้เรื่องทุกคน

ไล่อ่านลงมาจนเจอภาพนักเขียน
สามท่าน
"จากซ้าย กนกพงศ์ -โดม - อุทัย (ซ้าย-ขวาเสียชีวิตแล้ว เหลือคนกลาง)

รู้สึกเศร้าจัง
และได้แต่คิดว่า
ความตายอยู่ใกล้ๆ เราจริงๆ เหมือนพระท่านว่าจริงๆ


สุดท้ายลิงค์โพสทูเดย์เข้าไปไม่ได้เลย
ปัญหาอยู่ที่อินเตอร์เนตทางนี้


โดย: filmgus (filmgus ) วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:12:01:15 น.  

 
สวัสดีครับคุณ 9 A

วันนี้คุณได้อ่านเรื่องบล็อกเก้อร์ที่จุดประกายวรรณกรรมหรือเปล่าครับ

เขาทำสกู๊ปปกเรื่องเกี่ยวกับบล็อก


เป็นเรื่องธรรมดาครับที่ OK เนชั่นมาแรง

ในความคิดของผมก็คือ ทางเนชั่นนั้นเขาสร้างบล็อกขึ้นมาตรงกับงานในองค์กรของเขาจริงๆ และมีสื่อคอยป่าวประกาศตลอดเวลา

ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีนะครับ ที่อย่างน้อยเนชั่นก็เป็นกระบอกเสียงให้คนรู้จักเรื่องบล็อกมากขึ้น และรู้ว่าบล็อกทำอะไรได้บ้าง

เพื่อนๆผมหลายคนก็มีบล็อกอยูที่เนชั่นเหมือนกัน


สวัสดีครับปะการัง

คุณกนกพงศ์สำหรับผมแล้วเป็นนักเขียนวรรณกรรมที่สุดยอดคนหนึ่งในเมืองไทย

เขาทุ่มเทกับสิ่งที่เขารักเต็มกำลัง และทำได้อย่างวิเศษ
ผมกลับมาจากไปเที่ยวบ้านเขามา ผมเขียนถึงเขาด้วยความรู้สึกประทับใจในการต้อนรับในช่วงที่ผมไปพักด้วย

ผมรู้ว่าตามปกติขวัญเรือนจะส่งหนังสือให้กนกพงศ์อ่านอยู่แล้ว ผมจึงยังไม่บอกว่าผมเขียนเรื่องเขา เพราะต้องการให้เขาเปิดหนังสือแล้วเจอเรื่องที่ผมเขียนถึงเขา

เรื่องที่ผมเขียนคือ "กองไฟและความฝันที่หุบเขาฝนโปรยไพร" กำลังจะตีพิมพ์ในปักษ์นั้นอยู่พอดี ผมก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวจากเพื่อนว่า เขาเสียชีวิตอย่างกระทันหัน

ผมโทรไปบอกบรรณาธิการเขียนล้อมกรอบท้ายเรื่องไว้อาลัยเขาด้วยความรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

เขาเป็นคนน่ารักสำหรับเพื่อนๆคนหนึ่ง - และก็คงมีอยู่บ้างที่ไม่รักเขา นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดา


สวัสดีจ้ะหนูฌาณชนก

ยินดีที่ได้พบหน้าและพูดคุยตัวจริง อย่างน้อยก็เมื่อเห็นชื่อฌาณชนกก็นึกใบหน้าออก

ขอให้ทำความฝันที่มีอยู่เคลื่อนไปข้างหน้าเรื่อยๆนะครับ


สวัสดีครับคุณบุญสิตา นางเอกคณะ "ดาวกระพริบฟ้า"

คนอ่อนไหวรู้สึกตื้นตันปิติก็ง่าย เศร้าก็ง่าย อะไรกระทบกับอารมณ์ก็รับเอาสิ่งนั้นเข้าไปไว้

ผมก็จำได้บทกวีบทนั้นของคุณชมัยภร แสงกระจ่าง เขียนถึงกนกพงศ์


สวัสดีครับคุณ uter

ด้วยความยินดีครับที่เข้ามาทักทาย แล้วผมจะแวะไปเที่ยวหาคุณบ้าง ใช่เราอยู่ชุมชนบล็อกแก๊งเหมือนกัน

ทำความรู้จักกันไว้ก่อน ส่วนต่อไปก็ค่อยว่ากันไป ใครถูกคอกับใครก็คุยกับคนนั้นตามแต่ใจตรงกัน

สวัสดีจ้ะหนอน

เรื่องสั้นชุดนี้ของ อุรุดา ซื้อมาแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านเลย แต่มีบางเรื่องที่เคยอ่านมาบ้างแล้ว เธอคงดีใจที่รู้ว่านักอ่านระดับหนอนชอบงานของเธอ

สวัสดีครับคุณหน่อยอิง

ขอบคุณสำหรับดอกกุหลาบแสนสวย ด้วยมิตรภาพจากคุณ


สวัสดีจ้ะหนูมัยดีนาห์

สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง เรื่องนี้เป็นความจริงโดยไม่ต้องสงสัย

ว่าแต่จะเปลี่ยนแปลงไปทางใดเท่านั้นเอง

สำหรับกรณีที่เพื่อนเรียนจบปริญญาตรีที่ยังเป็นโสดอยู่นั้นคงเป็นเพราะเธอต้องใช้เวลาคิดและไตร่ตรองนานหน่อยมั้ง ?



สวัสดีจ้ะเงาศิลป์

อ่านบันทึกเก่าแล้วคิดถึงรีสอร์ทเขาเหมนขึ้นมาทันที

คิดถึงบรรยากาศเงียบๆ มีจักรยานไม่แข็งแรงคันหนึ่งได้ปั่นลงมาจากเนินเพื่อไปตลาด

คิดถึงน้ำใจอันแสนดีของเงาศิลป์ในเวลาต่อมา...ที่ฝากให้ไปพักฟรีที่รีสอร์ทคุณอ๋าที่เกาะลันตาอีก ถ้าไม่รู้จักกับเงาศิลป์ก็คงไม่ได้ไปนอนเล่นเป็นเดือนอย่างนั้นได้แน่นอน

ก็ได้เก็บดน่นเก็บนี่มาเขียนตามประสา


สวัสดีครับคุณสาวิกา

ด้วยความยินดีและขอบคุณครับ



สวัสดีครับคุณแพนด้ามหาภัย

จู่ๆที่โพสต์ทูเดย์ก็ลิ้งค์ไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ?

ภาพกนกพงศ์ภาพนี้ ดูดีมาก ทั้งมุมกล้องและมาดจิบกาแฟของเขา

ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายรูปนี้ เหมือนกัน รูปที่ผมถ่ายกนกพงศ์ไม่มีเป็นดิจิตอลเลย มีแต่เป็นสไลด์ ก็เลยไปหาตามเว็บมาใช้


สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

ขอบคุณสำหรับคุกกี้แสนอร่อยและน้ำใจแสนดีที่มีให้เสมอมา

ว่าแต่ตอนนี้มีเพลงเพราะๆแบบตะเบบูญ่าชอบฟังบ้างไหมล่ะ ส่งโค้ดมาให้บ้างสิ แล้วจะเอามาลงบล็อกให้คนอื่นฟังบ้าง


สวัสดีครับคุณฟิล์มกัส

แรงยุเป็นแรงจากภายนอกเท่านั้นแหละครับ

แต่แรงที่ทำให้เขียนหนังสืออย่างจริงจัง จนปรากฏเป็นผลงานออกมานั้น ผมเชื่อว่ามาจากแรงใจภายในของคนนั้นเอง

ส่วนเรื่องความตายนั้นเป็นเรื่องธรรมดาครับ เพียงแต่เราไม่ค่อยคุ้นเท่านั้นเอง


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:19:25:05 น.  

 


มาอ่านเรื่องราวของมิตรภาพที่ดี ที่ยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของอาโดมค่ะ

เรียนตามตรง ไม่รู้จักทั้ง 2 ท่านเลย ทั้งคุณกนกพงศ์ และ คุณอุทัย

แต่กระนั้นก็ซึบซับถึงมิตรภาพที่มีต่อกันค่ะ

เห็นด้วยกับพี่ตะเบบูญ่าค่ะ ที่ว่า อาโดมหล่อกว่า จริงๆ นะคะ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:20:26:29 น.  

 
ขอบคุณค่ะที่เขียนบทความดีดีให้อ่าน

ขอบคุณค่ะที่ทำให้เรา(ไม่รู้จะเรา หรือหนูดี อิอิ) มีความรู้สึกอยากจะเจอคนพันธ์เดียวกันแล้วได้คุยกันจะรู้สึกเป็นสุขขนาดไหน (ซึ่งไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนพันธ์ไหนเหมือนกัน)

ขอบคุณค่ะ ที่ไม่รู้ว่าทำไมมาบล็อคนี้แล้วใจเย๊นน เย็น ขึ้นกว่าเดิม

ขอบคุณค่ะ ที่ทำให้รู้สึกอยากเขียนบทความ (บ้าง) ให้เป็นเรื่องเป็นราว (แต่ไม่เคยทำได้ซักที) อิอิ มันคงเป็นปมด้อยเรื่องการเขียนบรรยายยาว ๆ

ปล. ขอบคุณ และ ขอบคุณ


โดย: mojigirl วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:20:46:12 น.  

 
ผมไม่ได้อ่านจุดประกายวรรณกรรมมานานแล้วครับ ฉบับวันนี้ก็คงจะไม่ได้อ่าน

แต่สมัยหนุ่ม ๆ ผมเคยส่งงานไปลงที่สนามนี้ด้วยนะครับ ตอนนั้นฝันอยากเป็นนักเขียนเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขียนไม่ออกขึ้นมาซะเฉย ๆ

ปล. รู้สึกยินดีเป็นพิเศษทุกครั้งที่คุณเข้าไปคอมเม้นต์ที่บล็อกผมครับ คงเป็นเพราะผมเคยอ่านงานของคุณตอนที่ผมยังหนุ่ม

อ้อ คุณเคยเขียนสารคดีเรื่องล็อตเตอรี่ลงในนิตยสารสารคดีด้วยใช่มั้ยครับ ผมรู้สึกคุ้น ๆ แต่ไม่แน่ใจ ครั้นจะไปค้นหาหนังสือเล่มนั้นก็คงหาไม่เจอแล้ว


โดย: 9A วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:22:22:51 น.  

 
เคยได้ยินชื่อพี่ มานานมาก
และแอบชื่นชอบผลงานอยู่
จากการบังเอิญได้อ่านจากหลาย ๆ ที่
..
ฟลุ๊กมากเลยนะเนี่ย
ที่มาพบว่า blog นี้คือของ
"โดม วุฒิชัย"
..
ยิ่งพออ่าน..อ่าน..อ่าน
ประกอบกับมองภาพถ่าย
ยิ่งเหมือนเคยรู้จัก
..
แล้วจะมาเยี่ยมที่ blog
ละกันค่ะ.


โดย: malarn cha วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:22:28:14 น.  

 
ได้พบเจออุรุดาเมื่อวานไม่มีจังหวะที่ได้พูดคุยกับเขาเพียงสบตาในฐานะคนแปลกหน้ากับนักเขียนเพิ่งออกหนังสือ
แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้คือผู้หญิงคนนี้มีเวลาและลมหายใจของกนกพงศ์ที่ยังดำรงอยทุกขณะ
ผมเข้ามาชมบล็อกของพี่โดมบ่อยแต่ไม่รู้จะเขียนอะไร เกิดอาการเกร็งดั่งอยู่ที่อยู่เบื้องหน้า...ราชสีห์


โดย: พราน IP: 222.123.40.68 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:22:56:12 น.  

 
ดีใจจังมีคนขอเพลง...
อีก 2-3 วันนะคะพ่อพเยีย
เด็กๆปิดเทอม จะพอมีเวลาจัดเพลงให้ค่ะ
ด้วยความยินดี

เมื่อคืนฝนตก หลับสบายหรือเปล่าคะ...

สวัสดีทุกๆคนค่ะ
พี่หนอนฯหายยุ่งหรือยังจ๊ะ
แต่สุดที่รักจะคืนรังวันนี้แล้วนี่
แหม..มาให้ทันกอดคลายหนาวพอดีเลยเนอะ
ฝากบอกด้วยว่า น้าคนนี้คิดถึงจ้ะ



โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.57.106 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:5:40:34 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะคุณโดม
เมื่อวานเพิ่งไปรับขวัญเรือนมา
ยังได้อ่านเรื่องราวคุณปะการัง

สวัสดีพี่หนอนฯ พี่โนนะจ้ะ
ไหนๆก็มาบล๊อกนี้บ่อยๆแล้วน่ะ
ฝากความคิดถึงกันที่บล๊อกพ่อพเยียซะเลย

แม่น้องนิกอ่ะ เริ่มเดี้ยงแล้ว
พี่หนอนฯ แนะนำเคล็ดลับ
นอนดึก นอนไม่พอ แต่มีพลังล้นเหลือให้กันบ้างสิจ้ะ ผมก็เริ่มจะขาวแซมแล้วอ่ะพี่หนอนฯ
แว่นสายตาก็เริ่มต้องใช้ ไม่งั้น
มองไม่เห็น..แต่ความอ้วนมันไม่ยักลดนะพี่นะ ทำไงดีๆๆ


โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:6:14:35 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่โดม

เมื่อวันเสาร์ ภูเพยียได้อ่านไทยโพสต์ด้วยค่ะ คิดว่าพี่น่าจะทราบแล้วด้วย เปิดมาที่บล็อกพี่โดมก็เป็นไปตามคาดเลย

แต่อ่านในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ฉบับวันที่14-20 กันยายน นี้คอลัมน์ ในลิ้นชักความทรงจำ กล่าวถึง "การเปิดตัวหนังสือ ค่านิยมนี้ทำเพื่ออะไร"

ก็เข้าใจได้ในระดับหนึ่งว่า การเปิดตัวหนังสือ ทำไปเพื่ออะไร แต่แอบเห็นชื่อ พี่โดม ที่ว่า พี่โดมไปเปิดตัวหนังสือเรื่อง ย่ำไปใต้แสงจันทร์ฉาย ที่ร้านโอว์เล้ง ย่าน อาร์ซีเอ น่ะค่ะ
แล้วคุณยูร กมลเสรีรัตน์ถามพี่โดมว่า เมื่อไรจะมีการเสวนาหรือเปิดตัวหนังสือสักที

พี่โดมบอกว่า เปิดตัวแล้วนี่ไง..

"นับเป็นการเปิดตัวหนังสือแบบใหม่จริง ๆ " ท่านว่า



ภูเพยียมีประสบการณ์งานเปิดตัวหนังสืออยู่ครั้งค่ะ ตอนที่ เจ้าหงิญ ได้รับรางวัล แล้วมีงานหนังสือของสนพ.มติชนฯที่เชียงใหม่ วันที่ไปเป็นวันที่ คุณโหน่ง วงศ์ทนงไปเป็นแขกรับเชิญ น้อง ๆนัศึกษาจำนวนหนึ่งมานั่งฟังและพูดคุยกับนักเขียน ก็น่าสนใจดีค่ะ

และภูเพยียเจอเจ้าของหนังสือ เจ้าหงิญ หนังสือน่ะมีแล้ว เขาก็แจกลายเซ็นอยู่นะคะ แต่ก็ไม่ได้ขอลายเซ็น ในใจก็ยินดีด้วย เพราะชอบเรื่องนี้กว่าทุกเรื่องที่เคยอ่านงานเขา เป็นการเปิดตัวหนังสือที่มีการเสวนาอยู่นะคะ



ก็เลยสงสัย มาถามพี่ดูว่า การเปิดตัวสมัยนี้กับสมัยก่อน แตกต่างกันมากหรือคะ เพราะไม่เคยไปงานเปิดตัวหนังสือของนักเขียนท่านอื่นอีกเลย นอกจากสนใจแต่เรื่องหนังสือใหม่ที่ออกหรือนักเขียนที่ชื่นชอบ


ขวัญเรือนฉบับนี้ เห็นคุณปะการังด้วยค่ะ น่าจะเป็นภาพถ่ายปัจจุบันนะคะ ค่อยไปอ่านที่บล็อกที่พี่ ๆ เขียนคุยกันน่ะค่ะ

ระลึกถึงคุณกนกพงศ์อยู่เสมอค่ะ ตัวหนังสือและบทกวีของเขาค่ะที่ไม่มีวันตาย แอบยิ้มให้คุณอุรุดา นักเขียนคนโปรดอีกท่านหนึ่งด้วยค่ะ



พี่โดมสบายดีนะคะ


โดย: ภูเพยีย วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:10:13:12 น.  

 
จะเขียนโพสต์ทูเดย์ค่ะ เขียนผิดค่ะพี่ ขออภัย


โดย: ภูเพยีย วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:10:21:39 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาอวดว่า
หนังสือของพี่หนอนมาถึงแล้ว
รวดเร็วมากเพราะว่าพี่เขาส่งแบบด่วนพิเศษ
ขอบคุณพี่หนอน และ คุณพ่อพเยีย และคุณปะการัง


โดย: filmgus วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:11:24:12 น.  

 
สวัสดีคะ
ได้อ่านเรื่องเงาสีขาวของคุณอรัญ แล้วเจอชื่อ โดม วุฒิชัย
ไม่ทราบว่าคุณเป็นหนึ่งในตัวละครด้วยรึเปล่า


โดย: เพียงขวัญ IP: 124.120.173.105 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:11:25:31 น.  

 
สวัสดีครับคุณโดม
การรำฤกถึงสหายที่จากไปแล้ว
เป็นความทรงจำที่หอมหวาน
สำหรับพ่อมากครับ

อายุอย่างพ่อ
วันแล้ววันเล่าที่ได้รับทราบข่าว
ของการจากเป็นและจากตาย
ของญาติ มิตร สหาย
พี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์เดียวกัน

บางคน เขาโชคดีที่จากไป
โชคดีที่ว่า
คือไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน
กับโรคร้าย

บางคน โชคไม่เข้าข้างเขา
และครอบครัว
ที่ด่วนมาพรากเอาเสาหลักไปจากเรือน

เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
ซ้ำๆคล้ายๆกันทุกวัน
ใกล้ตัวบ้าง ไกลตัวบ้าง
ล้วนสอนให้คนที่เหลือ
พึงรู้จักการเจริญมรณานุสติ

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

ท่องให้ขึ้นใจ
จำกันไว้ให้มั่น นะลูกนะ

ด้วยรัก



โดย: พ่อ (be-oct4 ) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:12:30:42 น.  

 
การเดินทางของชีวิต
สั้นยาวบนถนนของแต่ละคน...ไม่อาจคาดหมาย
ว่าใครจะไปถึง...หรือแวะพักกลางทาง
ถนนบางคนอาจสั้นกว่าวันเวลา
บางคนกว่าจะเดินสุดปลายทางช่างยาวไกลจนไม่อาจเดินไหว....

แม้จะเป็นการพบครั้งสุดท้ายที่พี่โดมได้พบกนกพงศ์
แต่เป็นการเดินทางที่ได้มิตรภาพอันผูกพันเกิดขึ้น...
มิใช่มิตรภาพที่พี่เดินไปถึง
แต่เป็นมิตรภาพที่พี่เดินจากไป.....

จากใครบางคน...ที่ไม่รู้จัก
กลับแนบแน่นคุ้นเคย...
กล้าล้อ กล้าเล่นปานประหนึ่งพบกันมาห้าหกชาติ...
โอ....ทวิภพ สามรอบเชียว)

กะจะซีเรียส...ไม่วายเก็บอาการไม่อยู่อีกแล้วพี่...

แต่ข้างบนน่ะพูดจริงนะ
พี่โดมไปนครฯหลังจากเดินทางออกจากบ้านปลายฟ้าได้พักใหญ่

พี่โดมทิ้งร่องรอยไว้ในเวลาที่บ้านปลายฟ้า.....
เพราะฉะนั้นคนทั้งสองไม่ได้จากพรากหรอกค่ะ...แต่สร้างสิ่งใหม่ทดแทนเพื่อนสองคนที่จากไป แต่พี่มีเพื่อนใหม่อีกนับร้อยนับพัน เพราะมิตรภาพเช่นนั้นดำรงอยู่......

เอ้อ.....แต่งหนวดให้หนากว่านี้นะพี่โดม หวงน้องเยียแทนน่ะ..



โดย: ปลายแปรง วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:15:35:03 น.  

 
ลืมอีกล่ะ...
ชอบกบในพรกนะ...โดนใจกว่าการเป็นกบในกะลา
พรกมันสะใจ...ยิ่งพรกที่ติดขี้ยางด้วยนะ...อื้อหือ
หอมกลิ่นเงินเชียวล่ะท่าน


โดย: ปลายแปรง วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:15:36:52 น.  

 
สวัสดีครับคุณ mojigirl


จะเรียกแทนตัวเองว่าอย่างไรก็ตามสะดวกเลยครับ ผมไม่ถือ เพราะถือแล้วทำให้หนัก (ใจ)

ผมแวะไปที่บล็อกคุณหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้ทิ้งคอมเม้นท์ไว้ เพราะรู้สึกว่ายังอยู่บนเรืออยู่เลย


อยากเขียนอะไรก็เขียนเลย
เริ่มต้นที่ "อยากเขียน" ก่อนเถอะ

ถ้าอยากเขียนจริงๆเดี๋ยวมันก็ต้องออกมาจนได้แหละ

แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆเกินไป เดี๋ยวก็เปลี่ยนอยากไปทำอย่างอื่นเสียก่อนนะครับ


สวัสดีครับคุณ9A

โอ้โฮ ! คุณความจำเยี่ยมยอดเลย เรื่องล็อตเตอรี่ที่ผมเขียนลงในสารคดีนั้น นานเต็มที

แล้วใครถ่ายรูปเรื่องนี้ให้ผมทราบไหมครับ ?

ขอคุยหน่อยเถอะ มานิต ศรีวาฯ

เป็นคนถ่ายให้นะครับ

ตอนนี้มานิต ศรีวาฯ เป็นช่างภาพระดับโลกไปแล้ว

หนังสือสารคดีเล่มที่ว่านี้ผมก็ไม่มีแล้วเหมือนกัน

ดีใจที่ผมคนเคยอ่านอย่างคุณแล้วยังจำชื่อผมได้

ผมก็เคยมีประสบการณ์ที่เขียนหนังสือไม่ออกเหมือนกัน

กลับมาเขียนหนังสืออีกเถอะ เขียนเป็นเพื่อนกันน่ะ คุณเขียนเรื่องที่คุณอยากเขียน ผมก็เขียนเรื่องที่ผมอยากเขียน ปล่อยตัวตามสบายเดี๋ยวก็เขียนออกเองแหละครับ


สวัสดีครับคุณ Malarn cha

ด้วยความยินดีครับที่เข้ามาทักทาย

มองภาพถ่ายชัดๆแล้ว เหมือนเคยรู้จักหรือว่า "เคยรู้จัก"กันครับ

ยิ่งเคยรู้จักกันก็ยิ่งดี ถึงแม้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ไม่เป็นไร ก็ถือโอกาสทำความรู้จักกันเสียวันนี้เลยนะครับ

สวัสดีครับคุณพราน

ถ้าคุณเห็นอุรุดาเมื่อวานนี้ แสดงว่าคุณต้องอยู่ที่ภูเก็ตแน่เลย หรือไม่ก็ต้องมาทำอะไรที่ภูเก็ตจึงได้พบกับอุรุดาเมื่อวานนี้

ได้อ่านเรื่องสั้นเล่มนี้ของเธอหรือยัง เขาลือกันว่าดีนะครับ ผมยังไม่ได้อ่านเลย แต่มีไว้แล้ว

อย่ายกย่องผมเป็นราชสีห์เลยครับ ทำให้ผมนึกถึงสิงห์โต แล้วถ้าสิงโตมาเจอกับพรานก็จบกันน่ะสิครับ

ผมเป็นคนธรรมดามากเลยครับ ยินดีเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้าเป็นอาได้หมด เป็นมิตรกันไว้ไม่เสียหลาย

ไม่เสียเงิน ไม่เสียเวลา ไม่เสียความรู้สึก ผมชอบความเป็นเพื่อนครับ อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนมนุษย์กัน คุณทำบล็อกหรือเปล่าครับ ?

สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

เมื่อคืนฝนตกนอนหลับสบาย

ตะเบบูญ่าฟังเพลงนี้รู้เรื่องหรือเปล่า (รู้ความหมายน่ะ) เพลงที่ใส่บล็อกวันนี้น่ะ

เพลง "กบในพลก" เป็นภาษาใต้
แปลว่า "กบในกะลา" น่ะ พ่อพเยียฟังแล้วรู้สึกชอบคิดถึงคนร้อง เป็นรุ่นน้องที่มีนิสัยใจคอน่ารักมาก

เจอกันครั้งเดียวแต่รู้สึกประทับใจมาก ไปนั่งฟังเขาร้องเพลงที่ร้านเล็กๆร้านหนึ่งที่ทุ่งสง

ไม่ได้เจอเขานานแล้ว - คิดถึง


สวัสดีจ้ะแม่น้องนิก

ที่นี่ยินดีและเต็มใจต้อนรับทุกท่าน จะฝากข่าวถึงใครก็ได้ครับ

ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง

หวังว่าคงมีความสุขดีตามประสาคุณแม่ลูกสองที่ยังสาวนะครับ


สวัสดีจ้ะภูเพยีย

เมื่อกี้ไปกินข้าวผ่านร้านหนังสือดู ดูคอลัมน์ "ในลิ้นชักแห่งความทรงจำ"อ่านดูแล้ว...


การเปิดตัวหนังสือทุกวันนี้ก็เพื่อการประชาสัมพันธ์หนังสือนั่นแหละครับ

ส่วนใครจะทำอย่างไรน่าสนใจขนาดไหนก็แล้วแต่สำนักพิมพ์


แต่สำหรับงานเปิดตัวหนังสือ "ย่ำไปใต้แสงจันทร์ฉาย" เมื่อหลายปีมาแล้ว ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่อยากชวนเพื่อนๆมากินเหล้าพบปะพูดคุยกัน


เล่มนั้นไม่ได้เอาค่าเรื่อง เพราะสำนักพิมพ์เขาก็ไม่ค่อยมี แต่บอกเขาว่ายังไงช่วยอออกค่าเหล้ายาปลาปิ้งในงานด้วยก็แล้วกัน

จำได้ว่างานนั้นคุณกาละแมร์ ให้เกียรติขึ้นไปพูดอะไรเล็กๆน้อยให้บนเวที ตัวพ่อพเยียไม่ได้ขึ้นบนเวทีหรอก ดื่มเหล้าเมาชนแก้วไปตามโต๊ะ แจกหนังสือเพื่อนฝูง

จำได้ว่าเป็นงานเปิดหนังสือที่เปลืองเหล้ามากงานหนึ่ง พอเหล้าหมดก็มีคนซื้อมาให้

ช่างสนุกสนานเสียนี่กระไรในตอนนั้น

สวัสดีจ้ะฟิล์มกัส

ระวังนอนไม่หลับนะ
(มุขตลกน่ะ)

การกระทำบางอย่างเป็นสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยที่ไม่ต้องลงทุนมากมายเลย น้ำใจและความจริงใจเท่านั้นที่สร้างความรู้สึกดีๆเช่นนี้ได้


สวัสดีครับ คุณเพียงขวัญ

คุณคือใครกัน ?

ผมแกล้งถามให้ตกอกตกใจไปอย่างนั้นแหละ

แปลกใจที่เห็นชื่อเป็นผู้หญิงอ่านนิยายเรื่อง"เงาสีขาว" ของ แดนอรัญ แสงทอง เพราะส่วนใหญ่ที่ชอบเรื่องนี้ที่ผมรู้จักจะเป็นผู้ชาย

นับเป็นนิยายไทยเรื่องแรกหรือเปล่านะที่ไม่มีการย่อหน้า คุณอ่านฉบับไหนครับ พิมพ์ครั้งแรกหรือพิมพ์ครั้งล่าสุด

เพราะได้ข่าวว่า ดอนเวียง วชิระจัดพิมพ์ "เงาสีขาว"ใหม่อีกครั้ง แต่ผมยังไม่เห็นฉบับพิมพ์ใหม่เลย

เข้าคำถามเสียที ชื่อ โดม วุฒิชัยในเรื่องนั้น เป็นชื่อผมเอง ซึ่งผู้เขียนนำไปใช้เป็นชื่อตัวละครเล็กๆตัวหนึ่งในเรื่องนั้น

แต่ตัวละครตัวนั้นไม่ใช่ตัวจริงๆผมหรอก เพียงแต่เขาอาจจะหยิบบางส่วนไปน่ะครับ


คุณอ่านอสรพิษ และ มาตานุสสติหรือยัง สนุกนะครับ สำหรับงานของคนเขียนคนเดียวกันนี้

ผมกับเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยหนุ่มยี่สิบกว่าๆแล้ว เดี๋ยวนี้ไมได้พบกันเลย แต่ผมก็ติดตามงานเขียนของเขาตลอดมา เพราะทึ่งในความสามารถอันเอกอุของเขา

คนอะไรเขียนหนังสือโดยไม่ย่อหน้าได้ แล้วยังเขียนได้ดีเลิศเสียด้วยสิ


สวัสีครับคุณพ่อบูที่เคารพอย่างสูง


รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่คุณพ่อบูแวะมาเยี่ยมบ้าน

คุณหมอไม่ห้ามให้พิมพ์แล้วหรือครับ ?

เพื่อนๆคุณพ่อบูที่อยู่ในวัยเดียวกันคงจะเหลือน้อยแล้วนะครับ

แต่ด้วยหัวใจที่เปิดกว้างของคุณพ่อบูเปิดรับมิตรภาพหลากหลายวัย ช่างเป็นเรื่องวิเศษจริงๆ

พ่อคุณพ่อบูอายุยืนซ้ำยังแข็งแรงและทันสมัยอีกต่างหาก

ขอบคุณครับสำหรับคำสอนที่นำมาฝาก

มรณานุสติ ผมก็ต้องคอยหมั่นเตือนตัวเองไว้อยู่เสมอ


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.22.231 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:16:06:00 น.  

 
สวัสดีครับคุณโดม...
ยินดีที่ไปเยี่ยม
.....พิทักษ์ เคยพูดถึงคุณให้ฟังบ่อย ๆ รู้สึกว่าตอนนั้น คุณจะขายของที่สวนจตุจักร หรืออะไรประมาณนี้ ส่วนพิทักษ์ ใจบุญ ช่วงนั้น เขาขายหนังสือเก่า แถวสนามหลวง เห็นว่ามีหล้า แล้วก็ฉลาม ด้วยไม่รู้ว่าคุณโดม รู้จักสองคนนี้หรือเปล่า
ส่วนผมกลับมาอยู่สุพรรณแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นผมก็เวียนว่าย..อยู่กับกลุ่มกวีหน้าราม ทั้งศิริวร พจนาถ เดือนแรม อังคาร พิเชษฐ พินิจ ชวาลา หล้า ฉลาม และก็พิทักษ์ และก็อีกหลายคนอยู่
ส่วนร้านตอติญา ที่คุณพูดถึงผมไม่เคยไป แต่พิทักษ์ก็พูดให้ฟัง บ่อย ๆ ว่าเป็นที่ชุมนุมของกวีหน้ารามอยู่พักหนึ่ง เห็นว่าช่วงหลัง ๆ ก่อนปิดตัว หล้า ก็ได้เข้าไปช่วยพี่ ณรงค์ พัว อยู่จนมาทำร้านใหม่ ชื่อร้านอะไรไม่รู้ หล้าก็ช่วยดูแลร้านต่ออีก ....
ส่วนเรื่องจำชื่อผิด ชื่อถูก ลำภากับลำเนา คล้าย ๆ กันแฮะ เคยมีคนเรียกผม ลำเภา สงสัยจะจำผิดจำถูก จนเอาไปผสมกันละเนอะ
แต่ก็ไม่ว่ากัน แก่ ๆ กันแล้วนี่จะให้ความจำ เจ๋งเปรี๋ยะ เหมือนตอนเด็กได้อย่างไร ....
ยินดีที่ได้คุย สนทนา
ผมยังไม่ค่อยได้อ่านงานคุณ แบบรวมเล่ม แต่เคยได้เห็นอ่านตามหน้าหนังสือ นิตยสาร อยู่บ้างล่ะ ช่วงก่อน ๆ โน้น
ขอให้อายุมั่นขวัญยืน
ด้วยมิตรภาพ...ครับ


โดย: โฟล์คเหน่อ วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:16:22:19 น.  

 
มีหลากหลายความทรงจำ ของหลากหลายบุคคล บันทึกถึงการไปเยือนหุบเขาฝนโปรยไพร และบ้านนักเขียนกนกพงศ์ ผมสัมผัสได้ถึงมิตรภาพ น้ำใจ และบรรยากาศการทำงานของคนที่ทุ่มชีวิต จิตวิญญาณ เพื่องานเขียน น่าเสียดายที่เขาจากไป ผมมีหนังสือของกนกพงศ์ ทุกเล่ม แต่ที่ชอบที่สุดกลับเป็นความเรียง บันทึกหุบเขาฝนโปรยไพร....


โดย: โฟล์คเหน่อ วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:16:37:33 น.  

 
น้อมรับคำสอนของคุณพ่อบูไว้เตือนตนด้วยคนค่ะ
กราบสวัสดีค่ะ..มีโอกาสคุณพ่อบูมาสอนลูกหลานแถวนี้อีกนะคะ

แล้วมันเป็นอิ๊หยังหนอ..หนูไม่ได้ยินเพลงอีกแล้ว
กดๆที่อยู่บนภาพคุณต๊ะ ก็ไม่เกิดผลอันใด
คอมฯบ้านนี้บ๊องๆ(เหมือนเจ้าของ)
จะลองหาทางฟังใหม่ อยากฟังเพลงแบบใต้ๆบ้างจัง...

วันนี้ได้เปิดขวัญเรือนเล่มล่า...
แน่นอน..ได้เห็นภาพคุณปะการังซึ่งกำลังถูกกล่าวถึง
และฮือฮาที่สุดในช่วงนี้
แหม..ทำไมหน้าเด็กจัง เจอกันห้ามเรียกพี่นะ โกรธตายเลย
หลังจากที่พินิจพิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน
ระหว่างคนเมืองนนท์ คนแอลเอ และคนกรุงเทพฯ(ของพี่หนอนฯ)
ขอฟันธงอย่างไม่มีข้อต่อรองสงสัยว่า...
คนที่หล่อที่สุดคือ..... คนนครสวรรค์...จ้า...ฮ่าๆๆ
เสียงหล่อค่ะเสียงหล่อ...ใครจะเถียง...

สวัสดีแม่น้องนิกจ้ะ
รักษาตัวเน้อ จะเอาเยี่ยงพี่หนอนฯ นอนน้อย งานหนัก ท่าจะไม่ไหว
ระวัง...จอห์นจำไม่ได้คิดว่า ป้าของเมียมาเยี่ยม...


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.64.123 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:18:17:58 น.  

 


..ขอมาอ่านอีกครั้งค่ะ..


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:19:55:18 น.  

 
หวัดดีทุกคนคะ

พี่โดม...อ่านแล้วเศร้าจัง พี่อุทัย รู้จักเพราะได้รับการแนะนำจากพี่โดม อาเครญา เคยไปเยือนบ้านพี่อุทัย ศิลปินท่านนี้และได้รับภาพวาดสวยงามจากมือและติดไว้ที่ผนังทางขึ้นบันไดบ้านแม่(เมืองคอน) ...ข่าวการจากไปของ"พี่อุทัย"ทราบทีหลังจากพี่โดม...
กนกพงศ์ เป็นเพื่อนๆกลุ่มเดียวกันกับน้องชาย....
ไม่เคยเจอตัวจริงเลย เคยอ่าน"บ้านเกิด"เรื่องเศร้าๆ...
พี่จำลอง พี่โดม ไม่ยอมพาไปรู้จักอะ...
คิดว่า คงได้รู้จักสักวัน..เพราะอยู่ที่บ้าน...
เมื่อวันที่...พี่โดม ปั่นจักรยานอยู่ที่เขาเหมน..เราได้คุยโทรศัพท์กัน...และรู้ว่า... สุขมากมายขนาดไหน...
หลังกลับมาไม่นาน..ก็ทราบข่าวการจากไปของ"กนกพงศ์"
แม้จะไม่รู้จัก แต่ขอ..เสียใจกับคนที่ต้องมีชีวิตอยู่คะ"อุรุดา"


โดย: อาเครญา IP: 58.10.155.3 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:20:27:01 น.  

 
โห...คึกคักจังเลย

เงาสีขาว ของแดนอรัญ แสงทอง แปลกมาก ตอนพิมพ์ใหม่ ๆ ไม่เห็นคนพูดถึง มาเริ่มฮือฮาก็ในภายหลังนี่ล่ะ งานเขียนของแดนอรัญถูกแปลไปเป็นภาษาต่างประเทศ คนที่โน่นอาจอ่านงานของเขามากกว่าคนไทยซะอีก

อีกเล่มหนึ่งของเขาที่ชอบก็คือ อสรพิษ ค่ะ แนะนำให้เพื่อนหลายคนอ่านเขาก็ชอบนะ

ส่วนมาตานุสติยังไม่เคยอ่าน ตอนนั้นคงเพราะไม่ค่อยมีเวลาแหละ

ส่วนคุณกนกพงศ์
น่าเสียดายค่ะ
ชอบงานเขียนของเขามาก แต่ที่ชอบและกินใจก็เป็นความเรียงชุด หุบเขาฝนโปรยไพร ค่ะ

คุณฟิล์มกัส
ยินดีที่หนังสือไปถึงมือแล้ว
มีความสุขกับการอ่านนะจ๊ะ

ตะเบบูญ่า
แล้วที่สุดก็...
ไม่พ้นคนเสียงหล่อแห่งนครสวรรค์...คนนั้น
อือม์...เป็นไปได้นะน้องเรา...

คุณพ่อบูคะ
อย่าว่าแต่คนรอบข้างพ่อบู
ที่มีอายุอานาม
จะค่อย ๆ ล้มหายตายจากไปค่ะ
หนอนฯ เองในวัยนี้
ก็เริ่มรับข่าวคราวการจากไป
ของญาติสนิทมิตรสหาย
ตลอดจนเพื่อนที่เคยร่วมทำงานกันมา ทีละคน ทีละคน
ความตายไม่เลือกเพศเลือกวัยจริง ๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นก็รับมาเตือนสติและเตือนใจตัวเอง...
ต่างกันที่ช้าเร็วเท่านั้น

แม่น้องนิกจ๊ะ
ไว้พี่หนอนฯ บอกเคล็ดลับการนอนดึกแต่ยังอารมณ์ดีทางเมล์ดีกว่านิ เปลืองพื้นที่พ่อพเยียเขา

สวัสดีทุก ๆ ท่านค่ะ
ทักทายได้ไม่ครบถ้วน (ฮะ ฮ่า ยังกะเป็นเจ้าของบ้านนะเนี่ย) ไว้ค่อยแวะมาใหม่ค่ะ

ขอบคุณพ่อพเยียที่ให้ใช้พื้นที่ทักทายเพื่อน ๆ จ้า


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.174.80 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:22:42:08 น.  

 
คุณโดมคะ ไม่สาวแล้วค่ะตอนนี้
หวีผมที แหวกหาผมขาวแล้วล่ะ
ครั้นบอกให้ลูกช่วยดึงมันออก
ลูกบอก นิกกลัวแม่เจ็บ แต่พอถึงจริงๆ เธอเล่นดึงทั้งผมดำผมขาว

จอห์นบอก..แก่แล้วก็เป็นธรรมดาที่ต้องใส่แว่น (ว่าเมียแก่)

++++++++
พี่ตะเบบูญ่าขา..จอห์นอาจจะ
คิดอยู่มั๊งพี่ แต่คงไม่กล้าออกปากหรอก เพราะสมัยนี้
เมียหาง่ายนะพี่นะ แต่ที่จะดูแล
รับใช้ ปานราชาเนี่ย งมหาไปเหอะ หายากแท้ จอห์นเธอก็กลัวอยู่หรอกพี่ ว่าจะไม่มีคนใช้ประจำตัวน่ะ



โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.138.81 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:22:42:53 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

หนูไปอ่านเรื่องหอยทากของลุงโดมที่บล็อกแม่แล้วค่ะ

สนุกมากเลย หอยทากตัวใหญ่มาก

ทำไมพี่พเยียถึงกลัวคะ หนูไม่กลัวเลย มันน่ารักดี แต่หนูไม่ค่อยชอบเนื้อตัวมันที่เป็นสีดำ ๆ เท่าไหร่

ตอนนี้หนูมาอยู่กับแม่แล้ว เมื่อวานไปสอบมา หนูทำข้อสอบได้ด้วยแหละ

จั๊กจั่นบ้านลุงโดมแห้งหรือเปล่า ถ้าแห้งฝากส่งมาให้หนูด้วย หนูชอบเก็บจั๊กจั่นแห้ง ที่ทำงานแม่มีเยอะ แต่หนูไม่ได้ไปเลย รอปิดเทอมก่อน

แล้วพี่พเยียกลัวจั๊กจั่นรึเปล่า กลัวแมลงสาบหรือเปล่า กลัวกระต่ายตัวขาว ๆ หรือเปล่า

หนูอยากเลี้ยงหมา แต่แม่ไม่ให้เลี้ยง เพราะที่บ้านหนูต้องทำซิ่วท้อที่เป็นของกิน เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวไม่สะอาด

หนูคุยแค่นี้ก่อนนะ วันนี้แม่ให้อ่านหนังสือเตรียมสอบค่ะ พรุ่งนี้หนูสอบภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ คิดวิเคราะห์ หนูยังไม่รู้เลยว่าคิดวิเคราะห์นี่คืออะไร ?

คิดถึงลุงโดม ป้ากล้วย พี่พเยีย น้าโน แม่น้องนิก พี่ปลายแปรง (ปลูกผลไม้เยอะ) พี่ยิบปซีสีน้ำเงิน (มีภาพตุ๊กตาน่ารัก ๆ -เอามาจากไหนคะ) และคนอื่น ๆ ด้วยค่ะ

หนูอยากให้แม่หนอนฯ ทำบล็อกที่มีทะเลแบบลุงโดมจัง ตรงช่องที่พิมพ์นี่แหละ แต่แม่ยังไม่ว่างเลย


โดย: หนูแป้ง IP: 58.9.174.80 วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:7:43:22 น.  

 
เพิ่งได้อ่าน ห่างไกล ไม่ห่างกัน จบหลังจากซื้อมาไม่ถึง 2 วัน รู้สึกชอบมากค่ะ เลยตามมารู้จักคุณโดม ให้มากขึ้นกว่านี้ ตามที่ลงในหนังสือ พอเข้ามาได้เจออะไรหลายๆอย่างมาก ขอบคุณนะคะ ถ้าวันนั้นไม่ซื้อหนังสือเล่มนั้นมาคงไม่ได้เข้ามาที่นี่ ขอบคุณอีกครั้งจากใจค่ะ


โดย: kathin IP: 125.25.95.80 วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:9:09:58 น.  

 
แหม กบร้องดั่งสนั่นกระชากฟิลล์อ่านหนังสือไงไม่รู้
(ต้องปิดเสียงก่อน)
อ่านขวัญเรือนตามพี่หนอนโฆษณาไว้
เห็นรูปคุณปะการัง หล่อแบบแอบบๆนะ ใส่แว่นอำพราง
คงได้ใกล้มีพ็อกเก็ตบุ๊คคู่โอเร็วๆนี้แน่เลย เพี้ยง..
มีไว้เพื่อซาบ กำลังอ่านอยู่ค่ะ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:10:05:24 น.  

 
สวัสดีครับคุณลำภา


คุณยังได้พบปะกับพิทักษ์บ้างไหมครับ ?

ผมพบกับเขาครั้งสุดท้ายก็ตอนที่งานศพกนกพงศ์นั่นแหละ จากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลย

ไม่รู้ว่าเป็นความลับหรือเปล่าว่าตอนนี้ คุณอยู่ที่สุพรรณ แล้วยังเล่นดนตรี แต่งเพลงร้องเพลงอยู่ที่ไหน ?

อยากรู้น่ะครับ บ้านเกิดผมอยู่อุทัยธานี ใกล้ๆสุพรรณ แต่อุทัยเขาก็จะเหน่อไปอีกแบบ แบบเหน่อเล็กๆน่ะครับ

นอกจากเขียนบทกวีและแต่งเพลงแล้วคุณเขียนอย่างอื่นด้วยหรือเปล่าครับ ?


งานของกนกพงศ์ เรียกว่าเป็นงานคุณภาพน่ะครับ และเต็มไปด้วยเลือดเนื้อจิตวิญญาณมนุษย์หลายแง่มุม "บันทึกหุบเขาฝนโปรยไพร"ก็ชอบ และ "โลกหมุนรอบตัวเอง" ก็ชอบครับ




สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

แหม..แรงไปรึเปล่าที่บอกแม่น้องนิกว่าเดี๋ยวจอห์นนึกว่าป้าเมียมาเยี่ยมน่ะ

วันนี้ได้รับสบู่ที่ส่งมาทางไปรษณีย์แล้วนะครับ ต้องขอบคุณหลายคนทีเดียว ตั้งแต่เจ้าของผลิตภัณฑ์ คุณเล็ก และคุณติ๋มจัดการให้คุณตะเบบูญ่า ตะเบบูญ่าจัดส่งต่อมาให้พ่อพเยีย

ยินดีจ๊าดนักเจ้า !


สวัสดีจ้ะหลานนก

อัพบล็อกใหม่หรือยัง ?

ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาใช่ไหม

ซุ่มทำอะไรอยู่จ๊ะ

สวัสดีจ้ะอาเครญา

พูดอย่างนี้เดี๋ยวหาว่า่พ่อพเยียกันท่าไม่พาไปรู้จักพี่จำลอง

ก็อาเครญาคนนครฯ ด้วยกัน พี่ชายก็ทำนครโพสต์ด้วยกันไม่ใช่หรือ ? ทำไมยังไม่รู้จักกับพี่จำลองอีก

จังหวะไม่มี ถ้าเจอกันที่นครฯพร้อมกันจะพาไปรู้จักพี่จำลอง

แต่เดี๋ยวนี้ในนคร ถ้าคนไหนที่เล่นจตุคาม ไม่รู้จักพี่จำลองก็ถือว่าตกสมัยแล้ว


สวัสดีจ้ะแม่หนอนและหนูแป้ง

หนูแป้งหายหน้าไปอยูที่ไหนมาเสียนานเล่าจ๊ะ

จั๊กจั่นบ้านลุงโดมมันยังไม่ลอกคราบ มันจะมีช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ช่วงนี้สงสัยมันไปอยู่ใต้ดินมั้ง ?


หนูแป้งลองไปถามพี่เจซิว่าวงจรชีวิตจั๊กจั่น ก่อนที่มันจะมากรีดเสียงร้องในฤดูร้อนน่ะ มันไปอยู่ที่ไหนมาบ้าง

ขอให้สอบให้ผ่านทุกวิชานะจ๊ะเด็กว.ว. ไม่ต้องเอาที่หนึ่งหรอกจ้ะ


รูปทะเลถ้าน้องแป้งอยากได้เดี๋ยวลุงโดมจะส่งไปให้นะ


สวัสดีครับคุณ Kathin

รู้สึกดีใจที่คุณชอบเรื่องที่ผมเขียนและนำมาบอกให้รับรู้

สำหรับคนเขียนหนังสืออย่างผมแค่นี้ก็ถือว่าเป็นความสุขเล็กๆที่ผู้อ่านมอบให้กลับคืนมา

คุณมีบล็อกหรือเปล่าครับ ว่างๆก็เชิญมาพูดคุยกันนะครับ

สวัสดีจ้ะยิปซีสีน้ำเงิน

หนูฟังเพลงใต้รู้เรื่องหรือเปล่า
ลองฟังเพลงนี้ดูสิ
พ่อพเยียชอบเพลงนี้ในช่วงเวลานี้จัง

เพราะฟังๆแล้วมันเตือนตัวเองได้ว่าอย่าทำตัวเป็นกบในกะลาเชียวนะ

เพราะโลกนี้ยังกว้างทางยังไกล เอ..ไปโน่นแน่ะ

อย่ามาพูดเป็นลาง...นะว่าจะมีสำนักพิมพ์เอาไปรวมเล่ม ถ้าเป็นจริงจะพายิปซีสีน้ำเงินไปเลี้ยงที่ร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับท่าน้ำนนท์สักมื้อใหญ่


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:13:03:53 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ขอทักทายสั้น ๆ ก่อนนะคะ


โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:18:06:30 น.  

 
จำบรรยากาศการนอนอ่าน "สะพานขาด" ได้ดีครับ

อ่านจบ ผมออกไปหาหนังสือทุกเล่มของพี่กนกพงศ์มาอ่าน

อ่านแบบเป็นบ้าเป็นหลัง
ตะลึงในเรื่องราวและฝีมือการเขียน

ตามอ่านสัมภาษณ์ใน writer ต่อด้วยความสะใจ
ทั้งชีวิตและมุมมองในเรื่องซีไรท์

น่าแปลกครับ...
หลังพี่เค้าเสียชีวิต
งานทุกเล่มที่พิมพ์ออกมา
ผมไม่ได้อ่านเลยแม้แต่เล่มเดียว

งานบันทึกจากหุบเขาโปรยไพร
ยังวางอยู่บนชั้นมาหลายปีแล้วครับ
ยังไม่มีความคิดที่จะหยิบมาอ่านเลย



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:18:13:59 น.  

 
ก่อนจะพักผ่อน
ก็ต้องขอตามมาที่นี่อีกครั้งครับ
แม้จะไม่มีเรื่องใหม่ให้อ่าน
แต่การได้อ่านคอมเม้นท์จากเพื่อนๆ

และการตอบของลูก
ก็ทำให้แอบยิ้มได้คนเดียว
นะลูกนะ

หมอยังแนะนำว่าไม่ควรพิมพ์ครับลูก
เพราะเป็นห่วงเรื่องวุ้นในแกวตา
อีกทั้งเรื่องสะบัก

แต่ถ้านั่งพิมพ์สัก ห้า ถึง สิบนาที

ยังเป็นที่ยอมรับได้ของหมอครับลูก

ขอบคุณที่ลูกถามไถ่ถึงนะครับ



โดย: พ่อ (be-oct4 ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:9:47:21 น.  

 
หวัดดีค่ะพ่อเพยีย

มาส่งความคิดถึงค่ะ


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:9:53:57 น.  

 

.....

.....
เป็นเกียรติอย่างสูงที่มี
comment จากพี่โดมอยู่ท้ายเรื่องค่ะ
มาแอ่วเจียงใหม่..
ก็อย่าลืมบอกนะคะ


โดย: malarn cha วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:14:06:20 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม สะแกกรัง
เพิ่งอ่านขวัญเรือนจบครับ
ภาพประกอบสวยมากครับพี่



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:16:17:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่โดม

ตอนนี้บล็อกพี่โดม คึกคักแขกไปแขกมาเยอะมากมายหลายคน

พี่โดมซื้อเสียงหรือเปล่าเนี่ย...

ถ้าเขามีการประกวดแข่งขันกัน
ยานา ขอเอาใจช่วยให้ปีนี้เป็นของพี่โดมด้วยคนนะคะ

จอก็ยังไม่มาเลยค่ะ เซ็งมากเลย
สงสัยมันถ้าจะไม่อยากไปอยู่กับคนอื่น เล่นเป็นปีเป็นชาติไม่เคยเสีย พอจะขายแค่นั้นแหละ เสียเลย..เฮ้อ บ่นให้ฟังซะเลย..


โดย: ยานา IP: 61.7.171.178 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:16:40:53 น.  

 
สบายดีนะครับพี่โดม...
ลงมากทม.ที่สวนเงินมีมา ครับ...
มาให้หมอธิเบตตรวจอาการ...
แวะออฟฟิศก่อนเดินทางกลับเจียงใหม่ครับ


โดย: pu_chiangdao วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:16:53:40 น.  

 
สวัสดีค่ะ พ่อพเยีย
วันนี้มาทักทาย ให้ยาวกว่าเมื่อวานอีกหน่อย
และอ่าน ๆ อย่างเดียวก่อนค่ะ








โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:18:22:32 น.  

 
สวัสดีจ้ะหนอนบ้านนอก

หายหน้าหายตาไปนาน หนอนกลายเป็นผีเสื้อไปหมดแล้วมั้ง ?


สวัสดีครับกะว่าก๋า


เรื่องราวชีวิตและการงานของกนกพงศ์เป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังหลายต่อหลายคน

ในกลุ่มนาครเขาก็เป็นน้องเล็กที่มาแรงกว่าคนอื่นๆ

ถ้าจะให้สนุกต้องอ่านเรื่องที่ประมวล มณีโรจน์เขียนเรื่องสั้นในมติชนสุดสัปดาห์ เรื่อง "คนข้างโลง" หรือเรื่องอะไรประมาณนี้ เป็นเรื่องสนทนาถึงผู้ตายจากเพื่อนฝูงหลายคนในบรรยากาศงานศพของกนกพงศ์

รอยต่อระหว่างเรื่องแต่งกับเรื่องจริงนั้น จะมีผู้เขียนเท่านั้นที่รู้ แต่เรื่องนี้ไม่ว่าจะรู้จักกับกนกพงศ์หรือไม่ก็อ่านสนุกในฐานะเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง

เพราะฝีมือเขียนเรื่องสั้นของประมวล มณีโรจน์นั้นระดับกนกพงศ์ เรียก "พี่" นั่นแหละครับ

แต่ผมไม่รู้ว่าจะแนะนำให้ไปอ่านได้ที่ไหน มติชนสุดสัปดาห์ลงสองตอนจบนานแล้ว ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ฮือฮากันในหมู่เพื่อนฝูงพอสมควร

ถ้าผมใช้นามปากกาว่า โดม สะแกกรัง ป่านฉะนี้ยังไม่รู้เหมือนกันนะว่าเรื่องที่ผมเขียนนั้นจะออกแนวไหน ?

แต่ก่อนมีชื่อนี้ผุดขึ้นมาในใจอยู่เหมือนกัน แต่เพียงแต่ไม่ได้ตัดสินใจใช้อย่างจริงจัง เพราะผมรักแม่น้ำชื่อสะแกกรังน่ะครับ


สวัสดีครับคุณ Ma(larn) cha


โถ...ไม่ต้องถึงกับเป็นเกียรติอะไรหรอกครับ เวลาผมเข้าไปอ่านของใคร ถ้าบังเอิญมีเรื่องที่เราอยากคุยอยากเขียนก็คอมเนท์เป็นเรื่องธรรมดา

คุณช่างอ่อนไหวมีรายละเอียดในอารมณ์...

ก็เห็นในเรื่องคุณหย่อนโทรศัพท์มือถือลงตู้ปลา ผมก็นึกเสียดายน่ะสิครับ


สวัสดีจ้ะยานา

รอเพลงของยานามาประดับบล็อกอยู่นะ

ไม่ได้เร่งนะแค่บอกเฉยๆเท่านั้น

มีเพลงอะไรบ้างนะ ลองบอกมาหน่อยซิ


สวัสดีภู เชียงดาว

ขอให้สุขภาพแข็งแรง
แลกกับให้หล่อน้อยลงหน่อยก็แล้วกันนะ



โดย: พ่อพเยีย วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:19:02:59 น.  

 
กราบสวัสดีครับคุณพ่อบูที่เคารพอย่างสูง

ขอโทษข้ามความเห็นของคุณพ่อบูไปเสียได้

แค่แวะมาคลิกส่งตัวหนังสือสองสามตัวผมก็ชื่นใจแล้วครับ
คุณพ่อบูไม่ต้องพิมพ์มากหรอก

แต่ผมก็ไม่ค่อยกล้าห้ามคุณพ่อบูหรอก

เพราะผมเชื่อว่าคุณพ่อบูจะต้องรู้ตัวเองดีที่สุด ไช่ไหมครับ ?




สวัสดีครับคุณคนเลวที่แสนดี

ผมได้รับความคิดถึงที่คุณส่งมาแล้วนะครับ - ถึงมือโดยปลอดภัย ถึงหัวใจโดยไม่ตกหล่น




โดย: พ่อพเยีย วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:19:10:49 น.  

 


สวัสดีค่ะ อาโดม

ช่วงนี้งานยุ่งค่ะ ไม่ได้ซุ่มทำอะไรเป็นพิเศษเลย ก็ลูกจ้างหรือมนุษย์เงินเดือนไงคะ ตอนนี้เลยทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน๊อต ไปหมดแล้วค่ะ

เพิ่งอัพบล็อกใหม่เมื่อวาน จากเพลงที่ร้องเหมือนเดิม ชื่อเพลง คนกลางคืน ของแอม เสาวลักษณ์ค่ะ เป็นเพลงที่ชอบอีกเพลงหนึ่ง พี่สาวบ้านนอกฯเข้าไปเยี่ยม เลยช่วยเอาเพลงต้นฉบับมาวางไว้ให้ อาโดมลองไปฟังดูสิคะ ว่าระหว่างนกร้องกับเจ้าของเพลง(แอม) ใครร้องไพเราะกว่ากัน อิอิ (นกก็โม้ไปเรื่อย บังอาจเอาเสียงไปเทียบกับแอมได้ไงเนอะ)

ฝากความระลึกถึงพี่ยานาด้วยค่ะ เห็นพี่ยานาลงชื่อใน Comment แล้ว คิดถึงนะคะ รวมไปถึงพี่ๆ ที่เคยคุย เคยทักทายในที่นี้ด้วยค่ะ พี่หนอนเมืองกรุง พี่ติ๋ม พี่ยาย พี่ตะเบบูญ่า พี่หนอนบ้านนอก พี่ยิปซีสีน้ำเงิน พี่ปลายแปรง พี่ฟิล์มกัส พี่บุญสิตา คุณแจม แม่น้องนิก ฯ เยอะจนเอ่ยถึงไม่หมดเลย

บุญรักษาอาโดม ครอบครัวของอาโดม และมวลมิตรชาวบล็อกทุกคนค่ะ



โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:19:44:25 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม
รู้ข่าวจากน้องที่ออฟฟิศตั้งแต่เมื่อวาน
ว่าพี่ได้รับหนังสือแล้ว :)
อ่านผ่านตาแล้วไม่ต้องออกอากาศก็ได้นะครับ
จี๊ดไปที่: boonchoak@yahoo.com ก็ได้ครับ
แบบขำๆ ก็พอ
ราตรีสวัสดิ์ครับ


โดย: ใบไม้ IP: 203.147.52.177 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:21:07:40 น.  

 
สวัสดีจ้ะ คุณโดมและทุกๆ คน

ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและญาติ ของผู้เสียชีวิต ใน อุบัติเหตุ เครื่องบิน ชนกำแพงดินขอบสนามบินเพราะว่าตอนเกิดอุบัติเหตุ เราอยู่ที่ภูเก็ตพอดี บ่ายหลังจากเกิดเหตุ 1วันเป็นวันที่ จะต้องกลับ แต่ก็ไม่สามารถกลับได้ เนื่องจากสนามบินปิด เลยต้องเลื่อนการเดินทาง จาก 17เป็น 18 เลยต้องอยู่ ภูเก็ต5วัน เป็นการเที่ยวที่นาน นะค่ะ สำหรับ คนอยู่ดอย ที่ไม่ค่อยจะไปไหนๆ นานๆ ไม่เหมือนคุณโดม

จะว่าไปแล้ว ภูเก็ต ไปกี่ครั้ง กี่ครั้ง ก็ ชอบ ทะเลสวย ที่ภูเก็ตต่างจากเชียงใหม่ ตรงที่ เวลาจะไปไหน จากโรงแรม จะต้องเดินทาง ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง แหล่งท่องเที่ยว แต่ละที่ ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย แต่เสียดายเที่ยวนี้ไม่ได้ ไป พีพี เพราะว่า ฝนตกและลมแรง ไม่มีใครกล้าพาพวกเราไปกันเลย ก็ยัง งง ตัวเองอยู่เลยว่า ไปเที่ยวหน้าฝน ทำไม แต่ก็ช่างมันหนะ ไหนๆ ก็ไปมาแล้ว ดีตรงที่ได้เห็น ต้นไม้ใบไม้ เขียวชอุ่มตลอดรายทาง ที่จริงเที่ยวหน้าฝนก็ดี นะค่ะ ไม่ร้อนด้วย ฝนก็ไม่ได้ตกตลอดเวลานี้นา จริงมะ


โดย: p tim IP: 124.157.201.120 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:21:18:09 น.  

 

อาโดมคะ

นกแก้ไขบล็อกใหม่ค่ะ อาโดมไปฟังเสียงนกได้แล้วนะคะ

คงต้องไป Stop เพลงแอม เสาวลักษณ์ร้อง ที่ Comment ของพี่สาวบ้านนอกฯก่อน แล้วค่อย Play เพลงที่นกร้องค่ะ

มาราตรีสวัสดิ์ก่อนไปนอนค่ะ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:22:08:33 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม..

มารายงานตัวว่ายังมีชีวิต..แหะ แหะ แบบว่าหายไปนานแรงงง..

เห็นภาพพี่กนกพงศ์ เลยนึกขึ้นได้ว่า วันก่อนแจมก็ไปนะ..ที่งานของพี่หนก ..น้องข้างบ้านเขารู้จักกันเป็นการส่วนตัว และชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อน กลัวจะกลับมาถึงดึก แล้วเขาเป็นเด็กขอนแก่นที่มาอยู่กระบี่ ยังไม่ค่อยรู้ถนน-หนทาง

อ้ายแจมก็ใช่จะรู้หรอก แต่เป็นห่วงน้อง กลัวหลง ก็เลยไปเป็นเพื่อน(ช่วยกันหลงน่ะซี)


สำหรับของพี่กนกพงศ์ แทบไม่ได้อ่านงานเขาเลยล่ะ รู้แต่ว่า นี่คือซีไรต์.. เพิ่งได้อ่านเอาตอนหลังที่พี่เขาเสียชีวิตไปแล้วนี่เอง
ชอบป่าน้ำค้าง..

มาอ่านบล็อกพี่โดมวันนี้..ออกจะทึ่ง เด็กสิบสองขวบ เขียนได้ 197 หน้าจากเวลาสองอาทิตย์..โอ้..จินตนาการบรรเจิดจริงๆ ค่ะ



โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.164.208 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:23:43:41 น.  

 
อุ้ย..ไม่ใช่

เมื่อกี้คอมเม้นท์ยังดุกดิกไม่ได้เลย.. คลิกตัวที่ทำตาโตอ่ะค่ะ

พอส่งข้อความไหงเป็นงั้นล่ะ

อะจื๋ย!!!

แก้ไขนะ..เมื่อกี้ทิ้งท้ายด้วยรูปนี้



โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.164.208 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:23:48:42 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม ติดตามอ่านเช่นเคยค่ะ
เพียงไม่ค่อยได้เขียนเท่านั้น

ด้วยระลึกถึงเสมอ


โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:4:25:07 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม

ผมรู้สึกแบบพี่เลยครับ
ครั้งแรกตอนที่เข้าไปดูรูปถ่ายจิ่วจ้ายโกว
ที่พันทิพ...

โอ้โห...ขอบคุณเขาเสียมากมาย
เพราะรูปสวยๆของเขานั่นแหละครับ
ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเดินทางไปที่นั่น

แต่รูปประกอบจากตอนที่พี่โดมเขียนเรื่องแม่น้ำสะแกกรัง
สวยหลายรูปครับ
โดยเฉพาะรูปที่ใช้เงาสีดำเป็น Forground

มติชนผมอาจหาอ่านได้ครับ
เพราะที่ร้านเช่าหนังสือซึ่งช้าประมาณ 2 อาทิตย์พอดี
เดี๋ยวผมจะลองหาอ่านดูครับ

ขอบคุณครับพี่



โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:7:56:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.