จงทำสิ่งที่คุณทำได้...ด้วยสิ่งที่คุณมี...ณ จุดที่คุณยืนอยู่ - ธีโอดอร์ รูสเวลท์
Uploaded with ImageShack.us
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
20 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
จากบล็อกสู่พ็อกเก็ตบุ๊ก


คลิกอ่าน : เรื่อง Blogger นักเขียนในโลกไร้พรมแดน







จากบล็อกสู่พ็อกเกตบุ๊ก เส้นทางกำเนิดวรรณกรรมยุคใหม่

จากหนังสมือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ โดย สุรีย์รัตน์ พิทักษ์




-----------------------------------------------------------------------







เนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทางโพสต์ทูเดย์ได้ตีพิมพ์เรื่อง

“จากบล็อกสู่พ็อกเกตบุ๊ก”

จุดประกายวรรณกรรมวันอาทิตย์ก็รายงานพิเศษขึ้นปกเรื่อง

"Blogger นักเขียนในโลกไร้พรมแดน"

แสดงว่าเรื่องบล็อกกำลังอยู่ในกระแสของการเขียนโดยไม่ต้องปั่น

ในฐานะผมเป็นคนเขียนบล็อกคนหนึ่งที่ถูกถามความคิดเห็นในเรื่องนี้

และในเรื่องนี้ก็มีความคิดเห็นของคนอื่นๆด้วย เลยอยากเอามาให้อ่านกัน

เมื่อวันก่อนลิงค์ไว้แต่ปรากฏว่าเข้าอ่านไม่ได้ จึงเอามาให้อ่านกันอีกครั้ง

เผื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจบ้าง ไม่มากก็น้อย

ผมขอยกเรื่องของคุณสุรีย์รัตน์ พิทักษ์

ในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์มาให้อ่านกัน โดยไม่ตัดทอนใดๆ

(หากใครอ่านแล้วก็คลิกผ่านหน้านี้ไปได้เลยครับ )






จากบล็อกสู่พ็อกเกตบุ๊ก ... เส้นทางกำเนิดวรรณกรรมยุคใหม่

โดย สุรีย์รัตน์ พิทักษ์



เว็บล็อก (weblog) หรือที่รู้จักกันในชื่อของ บล็อก (blog) ถือเป็นรูปแบบของเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ที่ตอนนี้ถือได้ว่าเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของใครหลายคน เพื่อเอาไว้บันทึกอารมณ์ ความรู้สึก เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการเขียนแสดงทัศนะต่อเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอ และเกิดขึ้นรอบๆ ตัวให้กับคนใกล้ชิด และคนทั่วไปได้เข้ามาอ่านกัน

จากพื้นที่บนไซเบอร์สเปซซึ่งใครๆ สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ทั้งแบบฟรีและต้องจ่ายสตางค์ ก่อร่างเป็นบล็อกส่วนตัว ที่เจ้าของบางคนก็ตั้งใจเพียงแค่อยากจะสร้างขึ้นมาเพื่อบันทึกเรื่องราว ความคิดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือไดอะรี รวมทั้งเอาไว้เป็นที่พบปะ ทักทายเพื่อนฝูงในกลุ่ม หรือเพียงแค่อยากจะหาที่ระบายความรู้สึกที่มีออกไปเท่านั้น

แต่จู่ๆ เรื่องราวที่เขียนอยู่ในบล็อกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันกลับได้รับความนิยมชมชอบจากผู้อ่านที่บอกต่อๆ กันไป จนสุดท้ายก็ได้รับการทาบทามจากสำนักพิมพ์ให้นำมาพิมพ์เป็นพ็อกเกตบุ๊ก จากบันทึกเรื่องราวส่วนตัวก็เลยกลายเป็นวรรณกรรม

บล็อก ส่งผ่านเรื่องราว ความคิด ทัศนะ


โดม วุฒิชัย นักเขียนดังเจ้าของบล็อก //porpayia.bloggang.com เล่าว่า เขาเริ่มต้นเล่นเว็บล็อกครั้งแรกจากการตามไปอ่านบล็อกที่ลูกสาวเขียนอยู่ จึงเกิดความคิดที่จะสร้างบล็อกของตัวเองขึ้นมาบ้าง โดยในตอนแรกคิดเพียงว่าจะใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับลูกสาวในช่วงที่เขาต้องไปทำงานต่างจังหวัดเท่านั้น โดยเขียนออกมาในรูปแบบของจดหมายจากพ่อที่เขียนไปถึงลูกเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงความรู้สึก ข้อคิด และคำสอนถึงเรื่องราวที่ไปพบเจอมาส่งผ่านตัวอักษรไปถึงลูกเท่านั้น

แต่ด้วยความที่เป็นบล็อกซึ่งคนอื่นสามารถเข้าไปอ่านได้ด้วยนั้น เวลาที่เขาเขียนเขาจึงเจตนาให้คนที่เข้ามาอ่านสามารถนำข้อคิด และคำสอนที่เขาบอกลูกไปประยุกต์ใช้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกเหนือไปจากการเขียนเรื่องราวส่งผ่านไปถึงลูกแล้ว บล็อกก็ยังเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เขาใช้แสดงทัศนะ และความรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ ที่พบเจอมาในแต่ละวัน

1 ปีผ่านไป จดหมายที่โดมเขียนถึงลูกก็ได้นำเรื่องราวที่เขาเขียนขึ้นมาไปนำเสนอกับทางสำนักพิมพ์เพื่อรวมเล่มจนได้เป็นหนังสือชื่อ “ห่างไกล ไม่ห่างกัน” ออกมา ซึ่งรูปแบบของหนังสือก็จะเป็นรูปแบบของจดหมายที่เขาเขียนถึงลูกในบล็อกนั่นเอง โดยมีการมาคัดสรร เรียบเรียง และตัดต่อจดหมายบางฉบับเสียใหม่ เพื่อให้น่าอ่านมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงรักษาความจริงตามเนื้อหาที่เคยเขียนในบล็อกอยู่

“ตอนนั้นที่เขียนลงในบล็อกก็ยังไม่ได้คิดถึงช่องทางการนำมาทำเป็นหนังสือ เพราะตอนนั้นเป็นความอยากเล่าเรื่องต่างๆ มากกว่า เราสนุกกับการคิดการเขียนของเรา สนุกกับการที่เราจะเล่าเรื่องที่เราคิด ซึ่งการที่เราเขียนบล็อกอย่างน้อยก็ทำให้เราอยากเขียนงาน กระตือรือร้นที่จะเขียน แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดว่าเขียนแทนการเขียนหนังสือเลยทีเดียว

แต่การเขียนบล็อกเป็นการเก็บบันทึก เก็บความคิดที่เราลงไปก่อน เพราะผมเชื่ออย่างที่ท่านพุทธทาสบอกว่า ความคิดดีๆ บางอย่างที่เรานึกออกหรือได้มา เราเขียนบันทึกไว้ก่อนเลยก็ได้ เพราะไม่อย่างนั้นบางทีมันก็ไม่หวนกลับมาอีก ซึ่งสิ่งที่ผมเขียนก็ยังไม่เป็นนิยาย หรือเรื่องสั้น แต่เป็นแค่ความเรียง บทความเท่านั้น และตอนที่เขียนก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้เป็นหนังสือด้วย เป็นแค่การแสดงทัศนะเท่านั้น และผมก็ไม่ได้เขียนบล็อกทุกวัน ถ้ามีเรื่องให้เขียนก็จะเขียน ซึ่งเขียนได้อาทิตย์ละชิ้นนี่ถือว่าเยอะแล้ว แต่เปิดเข้าไปดูทุกวันนะ เพราะผมถือว่าบล็อกเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง”



ในขณะที่ แทนไท ประเสริฐกุล เจ้าของบล็อก//www.storythai.com/user/yeebud/ ที่เนื้อหาส่วนหนึ่งจากบล็อกนี้กลายมาเป็นหนังสือชื่อว่า “โลกนี้มันช่างยีสต์” บอกถึงจุดเริ่มต้นของการเขียนบล็อกว่า เขาเริ่มสนใจในการเขียนไดอะรีออนไลน์มาก่อนอยู่แล้ว โดยเขียนเรื่องราวของตัวเองลงไปในนั้น แต่เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา เขาได้มีโอกาสเข้าไปเป็นอาจารย์สอนนักเรียนมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง และเห็นเด็กนักเรียนเขียนสร้างบล็อกขึ้นมาเพื่อพูดคุยกัน เขาจึงคิดที่จะทำบล็อกของตัวเองขึ้นมาบ้าง

“ตอนนั้นรู้สึกว่าถ้าเราทำบล็อกขึ้นมาก็คงจะตลกดี เพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่จะทำบล็อกน่ารักๆ แต่ถ้าเราจะทำมั่งคงกวนๆ ดี แทนที่จะคิกขุ เราก็ทำบ้าๆ บอๆ ไปเลย ซึ่งตอนแรกที่ทำบล็อกขึ้นมาก็เพราะว่าอยากจะคุยเล่นสนุกๆ กับนักเรียนมากกว่า เขียนให้นักเรียนคอมเมนต์ดูว่าจะขำไหม สนุกไหม ก็ใส่ความตลกบ้าบอลงไป เรื่องงี่เง่าในชีวิตประจำวันก็เล่าลงไป”

และเขาก็ไม่ได้ตั้งใจเลยว่างานเขียนของเขาจะต้องกลายมาเป็นพ็อกเกตบุ๊ก แต่เมื่อเขียนบล็อกผ่านไปได้สักประมาณครึ่งปี พอมีคนเข้ามาอ่านบล็อกของเขาแพร่หลายมากขึ้นก็ถึงมีสำนักพิมพ์ติดต่อมา

“ช่วงหลังๆ นี้ผมเริ่มรู้สึกว่าหน้าไดอะรีนี่มีอิสระเสรีในการเขียนมาก คือเริ่มจากการเขียนอะไรตลกๆ ให้คนอื่นอ่านก่อน แต่พอเรารู้สึกซีเรียส หรืออยากจะระบายความในใจอะไรสักอย่าง ก็สามารถเขียนลงไปได้ด้วย ซึ่งผมก็พยายามจะถ่ายทอดเรื่องราวให้น่าอ่าน ผูกโยงอะไรต่างๆ ให้เป็นเรื่องเป็นราว และก็พยายามถ่ายทอดออกมาให้ได้อารมณ์”

จากบล็อกสู่พ็อกเกตบุ๊ก


สำหรับ โดม แล้วเขามองว่า บล็อกก็เป็นเหมือนเครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือการทำงาน เป็นอุปกรณ์ในการทำงานที่ทำให้คนอยากเขียนหนังสือเท่านั้น แต่บล็อกไม่ใช่ความหวังของคนที่อยากจะมีพ็อกเกตบุ๊กแต่อย่างใด

“ผมมองว่าบล็อกอาจจะเป็นช่องทางให้คนอยากเขียนหนังสือมากกว่า เพราะการเขียนบล็อกจะมีการตอบรับเลย มีการสื่อสาร 2 ทาง แต่ถ้าเขียนหนังสือส่งไปสำนักพิมพ์ บก.ก็อาจจะไม่ตอบกลับมาเลย แต่เขียนบล็อกพอมีคนมาคุยมาอ่าน มันก็เป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ติดต่อกันได้ทั้งผู้อ่าน ผู้เขียน ทำให้คนอยากจะเขียนมากขึ้น แต่ก็อย่าหวังว่าจะมีคนมาเห็นง่ายๆ เพราะปัจจุบันมีบล็อกเกิดขึ้นมากมาย

แต่ถ้าเราคิดว่าทำงานดี ก็สามารถเอาไปเสนอได้ เพียงแต่อาศัยบล็อกในการทำงานก็แล้วกัน แต่อย่าเอาบล็อกเป็นความหวังว่าเป็นสถานที่ที่จะทำให้พบกับความสำเร็จ อยากให้เอาเป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ในการทำงาน ให้เกิดความกระตือรือร้นอยากจะทำงานเขียน เขียนแล้วให้คนอื่นได้มีโอกาสเข้ามาอ่านบ้าง และไปอ่านของคนอื่นบ้าง ส่วนถ้าเราคิดว่างานที่เขียนออกมามันดีพอจะเป็นพ็อกเกตบุ๊กได้ เรานั่นแหละที่จะเป็นคนจัดการมันไปนำเสนอสำนักพิมพ์ก็ได้โดยที่ไม่ต้องมีราชรถมาเกย”



ส่วนแทนไท บอกว่า จากเรื่องราวในบล็อกของเขาที่ได้ออกมาเป็นพ็อกเกตบุ๊กนั้นเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสำนักพิมพ์ถึงเลือกเขา เพราะตอนที่เขียนเขาก็ไม่ได้คิดว่าจะเขียนเพื่อให้ออกมาเป็นหนังสือ และก็ไม่ได้คิดว่าจะมีใครเข้ามาอ่านเยอะแยะขนาดนั้น แต่จากการวิเคราะห์ของเขาเองก็คิดว่า

“งานเขียนที่ทางสำนักพิมพ์สนใจน่าจะต้องมีน้ำเสียงที่โดนใจ ต้องเล่าอะไรที่ไปโดนใจคนอ่านสักอย่าง และด้วยความที่เป็นบล็อกก็จะดีที่ไม่มีการเซ็นเซอร์ใดๆ ทั้งสิ้น เขียนได้อย่างอิสระ และระยะทางที่กั้นระหว่างคนอ่านกับคนเขียนก็แค่วิ่งผ่านสายอินเทอร์เน็ตเท่านั้นเอง ไม่ต้องมี บก.ตรวจก่อน คนเขียนกดเอ็นเตอร์ปุ๊บก็ไปโผล่ที่หน้าจอแล้ว

เป็นความสด มีอิสระในการเขียนความคิดของเรามากกว่าสื่อกระแสหลัก ซึ่งคนที่เลือกใช้อิสระตรงนี้อย่างมีลีลา เข้มข้น โดดเด่นออกมาก็จะดึงดูดความสนใจได้เยอะ แต่ผมว่าบทความในบล็อกที่พิมพ์ออกมาเป็นหนังสือนี่ยังใหม่มากสำหรับเมืองไทย ที่ผมจะพูดอะไรได้มาก เพราะเพิ่งมีออกมาไม่กี่เล่มเอง”


นอกจากนั้น การที่มีคนเข้าไปอ่านบล็อกของเขามากขึ้น นอกจากจะทำให้เขาได้มีพ็อกเกตบุ๊กของตัวเองเป็นเล่มแรกแล้ว เขาก็ยังต้องพบเจอกับความยากลำบากในการเขียนด้วยเช่นกัน เพราะตั้งแต่หนังสือ “โลกนี้มันช่างยีสต์” ของเขาถูกตีพิมพ์ออกไปก็กลายเป็นความกดดัน

“แทนที่เราจะเขียนไปก่อนแล้วค่อยมาคิดทีหลังว่าดีนะที่มีคนมาอ่าน แต่ตอนนี้ต้องมานั่งคิดว่าเดี๋ยวจะมีคนมาอ่านนะ ต้องตั้งใจเขียนให้ดี และพอตั้งใจมากเกินก็เขียนไม่ออก บางทีก็ใช้เวลานานเกินไปในการเขียน จนกลายเป็นความเหนื่อย

บางทีก็รู้สึกว่าเราไม่ใช่ดาราสักหน่อย ทำไมต้องมานั่งเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คนอื่นอ่านด้วย บางทีก็รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าจะเขียนทำไม แต่บางทีก็มีอารมณ์หลากหลายกระตุ้นให้เราอยากเขียนเหมือนกัน ซึ่งการเขียนบล็อกให้ดีก็เหมือนกับไม่ว่าคุณจะเขียนอะไรให้ดี ก็ต้องเริ่มมีใจให้กับมัน ซึ่งมันไม่มีสูตรสำเร็จ แล้วแต่แนวทางของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร”


และในเร็ววันนี้แทนไท บอกว่า เขากำลังเตรียมจะทำบล็อกเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ออกมา เพื่อเป็นที่แลกเปลี่ยนความรู้ข่าวในแวดวงวิทยาศาสตร์ เพราะในเมืองไทยยังไม่มีตรงนี้ แต่ก็ยังจะเขียนบล็อกควบคู่กันไป แต่อาจจะไม่จริงจังเท่าเดิม


เขียนอย่างไรให้เป็นพ็อกเกตบุ๊ก


รังสรรค์ อักษร บรรณาธิการสำนักพิมพ์ยาหยี–ยาใจ บอกว่า ช่วงแรกที่เปิดสำนักพิมพ์ก็มีการเข้าไปอ่านในเว็บล็อกเพื่อดูงานเขียนที่น่าสนใจ และก็มีการติดต่อมาตีพิมพ์เป็นพ็อกเกตบุ๊กบ้าง แต่ตอนนี้งานเขียนส่วนใหญ่ก็จะมาจากการเปิดรับให้ผู้ที่สนใจจะเป็นนักเขียนส่งเรื่องเข้ามาให้ทางสำนักพิมพ์พิจารณาเท่านั้น

ปัจจัยที่ทางสำนักพิมพ์ให้ความสำคัญในการคัดเลือกงานเขียนจากเว็บล็อกมาพิมพ์รวมเล่มนั้น รวมถึงการพิจารณาภาษา สำนวน เรื่องราวว่ามีแววพอจะเป็นพ็อกเกตบุ๊กได้หรือไม่ เรื่องที่เลือกมาจากบล็อกส่วนใหญ่นั้นเมื่อจะมาทำเป็นหนังสือก็ต้องมีการพัฒนาเนื้อหาให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่คนโพสต์นั้นจะเขียนไปเท่าที่คิดได้ในตอนนั้น ซึ่งอาจจะยังไม่สมบูรณ์มากพอ

ในขณะที่ ศศกร วัฒนาสุทธิวงศ์ ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจสิ่งพิมพ์ สำนักพิมพ์แจ่มใส บอกว่า ทุกวันนี้มีคนส่งต้นฉบับเข้ามาให้พิจารณามากมายอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยได้เข้าไปหางานเขียนในบล็อกมากนัก แต่ถ้ามีโอกาสก็จะเข้าไปดูบ้างตามบล็อกดังๆ ที่รวบรวมงานเขียนเอาไว้หลากหลาย ต้นฉบับบางเรื่องที่ส่งเข้ามาให้ทางสำนักพิมพ์พิจารณานั้นบางครั้งก็มาจากบล็อกซึ่งเจ้าของบล็อกได้รวบรวมเอามาเสนอทางสำนักพิมพ์ด้วยเหมือนกัน

โดยในเว็บไซต์ของทางสำนักพิมพ์แจ่มใสก็ได้เปิดพื้นที่ให้คนที่สนใจงานเขียนเข้ามาโพสต์งานเขียนของตัวเองเอาไว้ ถ้าเรื่องไหนที่มีผู้สนใจเข้ามาอ่านมากๆ และผลงานเข้าตาก็อาจจะได้รับการพิจารณาให้ตีพิมพ์เป็นพ็อกเกตบุ๊กได้เช่นกัน การคัดเลือกเรื่องจากบล็อกมาตีพิมพ์เป็นพ็อกเกตบุ๊กนั้น ศศกร บอกว่า ต้องดูโทนเรื่อง พล็อตเรื่อง ที่จะต้องมีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนเรื่องในตลาดทั่วไป

“และที่สำคัญคนที่อยากจะเขียนพ็อกเกตบุ๊กก็ต้องหาแนวของตัวเองให้เจอ เพื่อที่งานเขียนจะได้ออกมาอย่างมีเสน่ห์ นอกจากนั้น ก็ต้องมีการฝึกฝนการเขียนบ่อยๆ เพราะบล็อกก็เสมือนเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการพัฒนาฝีมืองานเขียนได้ เพราะเมื่อเขียนออกไปแล้วคนเขียนก็จะได้รับฟีดแบ็กกลับมาในทันที เพื่อที่จะได้พัฒนางานเขียนให้ดีขึ้นได้ต่อไป”

และไม่ว่างานเขียนในบล็อกจะถูกแมวมองสนใจนำไปพัฒนาจนกลายเป็นพ็อกเกตบุ๊กอย่างใจใครบางคนหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่หนึ่งที่ได้จากบล็อกก็คือ การเป็นเครื่องมืออีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และช่วยให้เจ้าของบล็อกได้ฝึกฝนฝีมือในการเขียนได้ดียิ่งขึ้น


---------------------------------------------------




Create Date : 20 กันยายน 2550
Last Update : 20 กันยายน 2550 9:12:44 น. 52 comments
Counter : 1548 Pageviews.

 
สวัสดีครับทุกท่านผมอัพบล็อกใหม่เลยขอย้ายคอมเม้นท์ที่ยังไม่ได้ตอบมาไว้หน้านี้นะครับ
ว่างๆแล้วคุยกันนะครับ



สวัสดีค่ะ อาโดม

ช่วงนี้งานยุ่งค่ะ ไม่ได้ซุ่มทำอะไรเป็นพิเศษเลย ก็ลูกจ้างหรือมนุษย์เงินเดือนไงคะ ตอนนี้เลยทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน๊อต ไปหมดแล้วค่ะ

เพิ่งอัพบล็อกใหม่เมื่อวาน จากเพลงที่ร้องเหมือนเดิม ชื่อเพลง คนกลางคืน ของแอม เสาวลักษณ์ค่ะ เป็นเพลงที่ชอบอีกเพลงหนึ่ง พี่สาวบ้านนอกฯเข้าไปเยี่ยม เลยช่วยเอาเพลงต้นฉบับมาวางไว้ให้ อาโดมลองไปฟังดูสิคะ ว่าระหว่างนกร้องกับเจ้าของเพลง(แอม) ใครร้องไพเราะกว่ากัน อิอิ (นกก็โม้ไปเรื่อย บังอาจเอาเสียงไปเทียบกับแอมได้ไงเนอะ)

ฝากความระลึกถึงพี่ยานาด้วยค่ะ เห็นพี่ยานาลงชื่อใน Comment แล้ว คิดถึงนะคะ รวมไปถึงพี่ๆ ที่เคยคุย เคยทักทายในที่นี้ด้วยค่ะ พี่หนอนเมืองกรุง พี่ติ๋ม พี่ยาย พี่ตะเบบูญ่า พี่หนอนบ้านนอก พี่ยิปซีสีน้ำเงิน พี่ปลายแปรง พี่ฟิล์มกัส พี่บุญสิตา คุณแจม แม่น้องนิก ฯ เยอะจนเอ่ยถึงไม่หมดเลย

บุญรักษาอาโดม ครอบครัวของอาโดม และมวลมิตรชาวบล็อกทุกคนค่ะ





โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:19:44:25 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 54
สวัสดีครับพี่โดม
รู้ข่าวจากน้องที่ออฟฟิศตั้งแต่เมื่อวาน
ว่าพี่ได้รับหนังสือแล้ว :)
อ่านผ่านตาแล้วไม่ต้องออกอากาศก็ได้นะครับ
จี๊ดไปที่: boonchoak@yahoo.com ก็ได้ครับ
แบบขำๆ ก็พอ
ราตรีสวัสดิ์ครับ



โดย: ใบไม้ IP: 203.147.52.177 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:21:07:40 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 55
สวัสดีจ้ะ คุณโดมและทุกๆ คน

ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและญาติ ของผู้เสียชีวิต ใน อุบัติเหตุ เครื่องบิน ชนกำแพงดินขอบสนามบินเพราะว่าตอนเกิดอุบัติเหตุ เราอยู่ที่ภูเก็ตพอดี บ่ายหลังจากเกิดเหตุ 1วันเป็นวันที่ จะต้องกลับ แต่ก็ไม่สามารถกลับได้ เนื่องจากสนามบินปิด เลยต้องเลื่อนการเดินทาง จาก 17เป็น 18 เลยต้องอยู่ ภูเก็ต5วัน เป็นการเที่ยวที่นาน นะค่ะ สำหรับ คนอยู่ดอย ที่ไม่ค่อยจะไปไหนๆ นานๆ ไม่เหมือนคุณโดม

จะว่าไปแล้ว ภูเก็ต ไปกี่ครั้ง กี่ครั้ง ก็ ชอบ ทะเลสวย ที่ภูเก็ตต่างจากเชียงใหม่ ตรงที่ เวลาจะไปไหน จากโรงแรม จะต้องเดินทาง ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง แหล่งท่องเที่ยว แต่ละที่ ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย แต่เสียดายเที่ยวนี้ไม่ได้ ไป พีพี เพราะว่า ฝนตกและลมแรง ไม่มีใครกล้าพาพวกเราไปกันเลย ก็ยัง งง ตัวเองอยู่เลยว่า ไปเที่ยวหน้าฝน ทำไม แต่ก็ช่างมันหนะ ไหนๆ ก็ไปมาแล้ว ดีตรงที่ได้เห็น ต้นไม้ใบไม้ เขียวชอุ่มตลอดรายทาง ที่จริงเที่ยวหน้าฝนก็ดี นะค่ะ ไม่ร้อนด้วย ฝนก็ไม่ได้ตกตลอดเวลานี้นา จริงมะ



โดย: p tim IP: 124.157.201.120 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:21:18:09 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 56

อาโดมคะ

นกแก้ไขบล็อกใหม่ค่ะ อาโดมไปฟังเสียงนกได้แล้วนะคะ

คงต้องไป Stop เพลงแอม เสาวลักษณ์ร้อง ที่ Comment ของพี่สาวบ้านนอกฯก่อน แล้วค่อย Play เพลงที่นกร้องค่ะ

มาราตรีสวัสดิ์ก่อนไปนอนค่ะ



โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:22:08:33 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 57
สวัสดีค่ะพี่โดม..

มารายงานตัวว่ายังมีชีวิต..แหะ แหะ แบบว่าหายไปนานแรงงง..

เห็นภาพพี่กนกพงศ์ เลยนึกขึ้นได้ว่า วันก่อนแจมก็ไปนะ..ที่งานของพี่หนก ..น้องข้างบ้านเขารู้จักกันเป็นการส่วนตัว และชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อน กลัวจะกลับมาถึงดึก แล้วเขาเป็นเด็กขอนแก่นที่มาอยู่กระบี่ ยังไม่ค่อยรู้ถนน-หนทาง

อ้ายแจมก็ใช่จะรู้หรอก แต่เป็นห่วงน้อง กลัวหลง ก็เลยไปเป็นเพื่อน(ช่วยกันหลงน่ะซี)


สำหรับของพี่กนกพงศ์ แทบไม่ได้อ่านงานเขาเลยล่ะ รู้แต่ว่า นี่คือซีไรต์.. เพิ่งได้อ่านเอาตอนหลังที่พี่เขาเสียชีวิตไปแล้วนี่เอง
ชอบป่าน้ำค้าง..

มาอ่านบล็อกพี่โดมวันนี้..ออกจะทึ่ง เด็กสิบสองขวบ เขียนได้ 197 หน้าจากเวลาสองอาทิตย์..โอ้..จินตนาการบรรเจิดจริงๆ ค่ะ





โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.164.208 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:23:43:41 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 58
อุ้ย..ไม่ใช่

เมื่อกี้คอมเม้นท์ยังดุกดิกไม่ได้เลย.. คลิกตัวที่ทำตาโตอ่ะค่ะ

พอส่งข้อความไหงเป็นงั้นล่ะ

อะจื๋ย!!!

แก้ไขนะ..เมื่อกี้ทิ้งท้ายด้วยรูปนี้





โดย: สีน้ำฟ้า IP: 61.7.164.208 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:23:48:42 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 59
สวัสดีค่ะพี่โดม ติดตามอ่านเช่นเคยค่ะ
เพียงไม่ค่อยได้เขียนเท่านั้น

ด้วยระลึกถึงเสมอ




โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:4:25:07 น.




ห่างไกล ไม่ห่างกัน 60
สวัสดีครับพี่โดม

ผมรู้สึกแบบพี่เลยครับ
ครั้งแรกตอนที่เข้าไปดูรูปถ่ายจิ่วจ้ายโกว
ที่พันทิพ...

โอ้โห...ขอบคุณเขาเสียมากมาย
เพราะรูปสวยๆของเขานั่นแหละครับ
ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเดินทางไปที่นั่น

แต่รูปประกอบจากตอนที่พี่โดมเขียนเรื่องแม่น้ำสะแกกรัง
สวยหลายรูปครับ
โดยเฉพาะรูปที่ใช้เงาสีดำเป็น Forground

มติชนผมอาจหาอ่านได้ครับ
เพราะที่ร้านเช่าหนังสือซึ่งช้าประมาณ 2 อาทิตย์พอดี
เดี๋ยวผมจะลองหาอ่านดูครับ

ขอบคุณครับพี่


โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:7:56:21 น.





โดย: พ่อพเยีย วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:9:18:19 น.  

 
เดี๋ยวนี้บล็อกได้รับความนิยมมากเลยนะคะ ใครไม่มีก็เรียกว่าแอบเชยเลยทีเดียว นี่ก็แอบมีกะเขาเหมือนนกัน(ย้ำว่าแอบมี)พี่โดม สบายดีนะคะ เดือนหน้าจะมีงานหนังสือแล้ว ตอนนี้เลยรีบเตรียมปัจจัยไว้ก่อน


โดย: หมูกระทะ IP: 58.8.119.181 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:9:47:26 น.  

 
เป็นประโยชน์อย่างยิ่งด้วยสิ่งทั้งปวง

ทั้งที่พี่โดมเอามาเล่าต่อ
กับความเป็นบล็อก

ต่อนี้ไป คนที่ใช้งานคอมฯได้

จะกลายเป็นนักเขียนกันทุกคนแล้ว เย้//////


โดย: เงาศิลป์ IP: 203.146.63.183 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:11:05:44 น.  

 
เรื่องเล่าไร้สาระของเรา อย่าหวังได้เป็น Pocket book เล้ย


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:11:33:19 น.  

 
สวัสดีครับคุณโดม แวะมาทักทายคงไม่คุยอะไรมาก วันนี้ไม่ค่อยสบาย ต่อมทอลซิลอักเสบ ไข้ขึ้นตลอดเวลาเลย....
....หวังว่าคงสบายดีนะครับ....


โดย: โฟล์คเหน่อ วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:11:49:44 น.  

 
ทักทายยามเที่ยงค่ะ

หายไปนานมากกก แต่ยังคลานต้วมเตี้ยมอยู่เล้ย

สักวันจะกางปีก อิอิอิ





โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:12:19:50 น.  

 
สวัสดีค่ะอาโดม

ไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านเท่าไหร่ช่วงนี้ เนื่องจากกำลังถือศีลอด เวลาว่างไม่ค่อยจะมี(แหะๆ เสียเวลาไปกับการเตรียมกับข้าวกับปลาเสียมาก) คุณอาสบายดีนะค่ะ


ฝากถึงคุณเงาศิลป์-ถ้ามันง่ายอย่างคุณบอก ก็ดีสิค่ะ

ฝากบอกคุณโฟล์คเหน่อ-ทานน้ำอุ่นเยอะๆนะค่ะ ทอมซิลจะได้หายไวๆ ห้ามกินของมันๆ และน้ำแข็งด้วยค่ะ

ขอให้คุณอาและครอบครัวมีความสุขมากๆนะค่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:12:48:45 น.  

 
คุณครูประสิทธิ์ซื้อมาอ่านแล้วขอรับ จุดประกายฉบับนี้

ช่วงน้คุณครูต้องไปเป็นกรรมการตรวจเอกสารขอซี 7 ซี 8 ของเขตการศึกษา ต้องอ่านตำราประมาณ 10 กล่องใหญ่ยักษ์

แต่ดูท่าจะมีความสุขดี....
ไม่อยากบอกแกหรอกว่า...บางเล่มมีงานของลุงบูลย์ด้วยหรือเปล่าไม่รู้
(เอ....กระซิบนะเนี่ย เดี่ยวลุงบูลย์ได้ยิน)

ก็ดีแล้วค่ะ....จะได้ไม่นั่งเฉาเฝ้ารอ...รอ..รอ

เฮ้อ....สงสัยปีนี้ราหูพ้น พ่อพเยียก็ขึ้นลิฟท์ซะหยุดไม่อยู่
ไม่ใช่อะไรหรอก...เห็นเขากำลังบ้าราหูกัน อะไรไม่ดีก็ว่าราหูเข้าอายุ......
ท่าจะเข้าปลายแปรงทั้งรอบเช้า รอบบ่ายแฮะ....ไม่ได้ลบหลู่นะ....แต่อยากให้พี่ป้าน้าอา แกศรัทธาในความดีที่ตัวเองทำกะคนอื่นมากกว่าที่บางสิ่งบางอย่างไม่รู้ ไม่อาจสัมผัสกระทำกับชีวิตเรา....

แต่เราอยู่เราก็ต้องเออออห่อหมกไปด้วย...ที่แน่ๆปลาน้ำดอกไม้เอามาขูดเนื้อทำห่อหมก ใส่ใบยอเยอะๆ เด็ดสุดๆ.....

หิวข้าวน่ะ...ไปดีกว่า


โดย: ปลายแปรง วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:13:14:54 น.  

 
โลกมันช่างยีสต์ได้อ่านนานแล้ว

ห่างไกล ไม่ห่างกัน
กำลังอ่านค้างอยู่ค่ะ

อ่านเพลินดีนะคะ




โดย: ชจ IP: 202.29.77.2 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:13:20:58 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่โดม
มิตรรักนักเขียน (บล๊อก) ทุกท่าน
----------------------------------
ยามบ่ายกับกาแฟเย็นสักแก้ว อืม!

ปล. ยังไม่อ่าน ไม่เม้นท์นะค๊า


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:14:05:47 น.  

 
สวัสดีจ้ะหลานนก

เมื่อคืนอาโดมเข้าไปฟังเพลงในบล็อกของหนูไม่สำเร็จ ทั้งที่ทำตามที่บอกแล้ว

ว่างๆจะเข้าไปใหม่

สวัสดีครับใบไม้

ขอบคุณมากที่ส่งหนังสือมาให้อ่าน


เคยเห็นหนังสือเล่มที่แปลแล้วหละ แต่ไม่รู้มาก่อนว่าใบไม้เปลี่ยนชื่อแล้ว

พอได้รับก็รีบส่งหนังสือไปให้เลย ถ้าได้รับก็ส่งข่าวให้ทราบบ้างก็แล้วกันนะ

สวัสดีครับคุณ p tim



ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูญเสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย


ความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันย่อมนำความเศร้าโศกมาแก่ผู้ประสบ

ขอให้ขวัญคุณติ๋มกลับมาเร็วๆนะครับ


สวัสดีจ้ะสีน้ำฟ้า

ใช่นะสิ เด็กอายุ 12 ในปีนั้น ปีนี้ก็คง 13-14 แล้ว

ไม่รู้ว่าเรื่องนั้นสำนักพิมพ์ไหนจัดพิมพ์ไปแล้วหรือยัง ?

เป็นไงรู้สึกมีแรงขึ้นไหม เมื่อเห็นเด็กๆเขียนนิยายได้ตั้งเกือบสองร้อยหน้า ซ้ำยังพิมพ์ตัวขนาด 14

นับว่าเป็นเด็กไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

สวัสดีครับกะว่าก๋า

เรื่องสั้นเรื่องนั้นของประมวล มณีโรจน์คงจะหาอ่านยากแล้ว เพราะผ่านมานานแล้ว

สวัสดีครับคุณหมูกระทะ

ทิ้งรอยไว้ให้ตามไปบล็อกบ้างสิ

ตอนนี้ทำอะไรอยู่ทีไหน อารักษ์หยุดขายของแล้ว ตอนนี้กำลังทำเพลงและออกงานบ่อยขึ้น

อย่าลืมบอกบล็อกบ้างนะ


สวัสดีจ้ะเงาศิลป์


อ่านไม่ละเอียดหรือเปล่าจ้ะ มีตอนไหนที่ในเรื่องบอกไปทำนองว่า... ต่อนี้ไป คนที่ใช้งานคอมฯได้จะกลายเป็นนักเขียนกันทุกคนแล้ว เย้//////

สวัสดีครับมิสเตอร์ฮอง


ยินดีที่เข้ามาทักทาย มาบล็อกนี้ไม่เห็นเอารูปคุณมาฝากเลย ผมเห็นรูปเห็นหน้าตาคุณแล้วนะ ตามคอมเม้นท์ที่อื่นน่ะครับ


เดี๋ยวจะตามไปดูสิว่าเรื่องเล่าของคุณที่ว่าไร้สาระน่ะ ไร้สาระอย่างไร

สวัสดีครับคุณโฟล์คเหน่อ สงสัยจะร้องเพลงมากไปหน่อยหรือเปล่า ?

พักผ่อนมากๆ งดร้องเพลง แต่ยังเคาะคีย์บอร์ดได้อยู่นะ ไม่เป็นไร - ขอให้หายเร็วๆครับ

สวัสดีจะหนอนบ้านนอก

หายไปนานมากกก...ลืมหน้าหมดแล้วหละ

แต่ก็ยังถือว่าสม่ำเสมอ กว่าหนอนเมืองกรุงนะ คือช้าอย่างสม่ำเสมอน่ะ

เอาเถอะบล็อกของเรา เราจะช้าอย่างไรก็เรื่องของเราใช่ไหมล่ะ ?

แต่เพื่อนๆเขาคิดถึงน่ะสิ รู้ไหม ?


สวัสดีจ้ะหลานมัยดีนาห์

หนูยังเด็กอยู่ รับรองว่าถ้ารักการเขียนจริงไม่เปลี่ยนแปลง เขียนไปพัฒนาไป รับรองต้องได้พิมพ์เป็นเล่มแน่ ขอเพียงแต่อย่าหยุดไปกลางครันเสียก่อนเท่านั้นแหละ

เขียนมาก อ่านมาก จะไปไหนเสียล่ะ อ้อ !แล้วก็ต้องค่อยๆดีขึ้นๆด้วยนะจ๊ะ

เอาเอาใจช่วย อาแก่แล้วอาก็ยังไม่ยอมหยุดฝันหรอกน่า


สวัสดีจ้ะปลายแปรง

สั่งบอกคนตรวจงานหน่อยเถอะ ให้สังเกตแถวจังหวัดนั้นเป็นพิเศษ เจาะลงไปที่อำเภอด้วย ถ้าเรื่องไหนเขียนดีเกิน หรือคล้ายนักเขียนมืออาชีพแกล้งเขียนน่ะ สั่งว่าอย่าให้ผ่าน

จะได้มีไม่มีคนจ้าง จะได้มานั่งเขียนนิยายอย่างที่ตัวอยากเขียนเสียที...


อย่าเอ็ดไป


สวัสดึครับคุณชมจันทร์

ขอบคุณครับที่ส่งข่าวเรื่องหนังสือ

ขอให้มีความสุขในการอ่านนะครับ



สวัสดีจ้ะสาวบ้านนอก
หมูนี้คงเศร้าโศกอะไรใช่ไหม
ใครทำอะไรให้วานบอก

เพราะไม่ไยนเสียงหัวเราะ อะคึ่ๆมาหลายเพลาแล้ว


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:44:18 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงโดม

ของทุกอย่างมันมีทั้งประโยชน์และโทษจริงๆด้วย
บล็อกเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของเครื่องมือสือสาร
หากเรานำไปใช้ในทางสร้างสรรค์มันก็เกิดประโยชน์
แต่ถ้านำไปใช้ในทางที่ไม้สร้างสรรค์มันก็จะเกิดโทษ

หนูได้รู้จักกับสิ่งที่คล้ายๆบล็อกจากเพื่อนตอนกลางวันนี้
หน้าตาคล้ายๆบล็อกเลยคะ
แต่เขียนว่าไดอารี่ออนไลน์
เข้าไปดูหน้าตาแต่ยังไม่ได้ดูข้างใน
เพราะถ้าจะเข้าไปอ่านได้ต้องเป็นสมาชิกก่อน


โดย: เบญจวรรณ IP: 61.7.231.130 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:48:25 น.  

 


โดย: jajijaa วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:58:57 น.  

 
สวัสดีครับพี่โดม
หนังสือที่พี่ส่งให้ผมได้รับวันนี้แล้ว
เล่มหนึ่งที่ไม่ใช่ธรรมะผมมีแล้ว แต่ก็ดีครับที่ได้ลายเซ็นด้วย อีกเล่มผมก็จะบริจาคไปนะครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับพี่


โดย: ใบไม้ IP: 203.147.52.177 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:19:44:29 น.  

 
เพิ่งกลับมาเลยแวะมาสวัสดีค่ะ


โดย: filmgus วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:20:47:03 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ทักทายพี่โดมไว้ก่อนนอน(ค่อนรุ่ง)
แต่พี่โดมมองไม่เห็น..!(ตกใจนิดหน่อย)

เลิกงาน..กลับมาเยี่ยมอีกครั้งค่ะ

เรื่องโค้ดเพลงที่เห็นลงในบล็อก นกแสงตะวันทำเองค่ะ จากแผ่นเพลงที่มีอยู่ จากเพลงที่โหลดมาจากเพื่อนๆพี่ๆที่แชร์ผ่านอินเตอร์เนต รวมทั้งผู้ใจดีส่งมาให้ทางเมล์(เพลงเก่าๆที่ไม่มีขายตามร้านไกลเมืองหลวง)

เรียนรู้มานาน กว่าจะคล่อง(ขอขอบคุณป้ามด)

และตอนนี้ ตัดเพลงด้วยgold wave ได้ตามใจชอบแล้ว
จึงสามารถลงเพลงที่อยากฟังผ่านบล็อก

แต่ทั้งนี้ไม่มีเจตนาอื่นใด นอกจากไว้ฟังเพื่อความสุข
เพราะส่วนใหญ่ชอบซื้อแผ่นเพลงอยู่แล้วถ้าหาซื้อได้

พี่โดมอยากได้เพลงอะไรล่ะคะ
ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ถ้ามี






โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:21:05:57 น.  

 
สวัสดีค่ะพ่อพเยีย
ขอบคุณนะคะที่นำมาให้อ่าน พี่เราดังใหญ่แล้ว
เหล่านี้ถือเป็นอดิเรกลาภใช่ไหมคะ ได้ก็ดี ไม่มีก็ได้
เพราะสำหรับพ่อพเยีย...การได้ทำงานที่ตนรัก
นั่นเป็นความสุขแล้ว

ฝนตกทุกวันอากาศดี ใครๆก็คงเป็นสุข
แต่หนูสิเริ่มออกรบอีกแล้ว ปิดเทอมทีไรแบบนี้ทุกที

ตัวการ์ตูนใหม่นี่ตลกจัง หนูนั่งดูไปขำไป น่ารักดี
ชอบอันนี้น่ะ....


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.61.199 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:21:35:26 น.  

 
อาโดม...นาขอเก็บข้อความตอบเมนต์ของอาไปเก็บไว้นะค่ะ

วันใดท้อๆจะได้ไว้เตือนตัวเอง

ขอบคุณค่า


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:22:24:27 น.  

 
ฮู้ว ! พ่อเพยียคะ
เพิ่งได้ฟังดนตรีหน้านี้
ที่ทำงานไม่ได้เปิดเสียงไว้ตอนอ่านน่ะค่ะ

เสียงเปียโนเพราะมาก
ได้ฟังตอนดึก ๆ แบบนี้
ยิ่งประทับใจจัง

(((เข้ามาส่งอีเมล์เรื่องงานให้หัวหน้าก่อนเข้านอน)))



คืนนี้จะอ่านห่างไกลไม่ห่างกันต่อก่อนนอน

สู้ ๆ







โดย: ชจ IP: 203.146.63.182 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:22:45:24 น.  

 
สวัสดีจ๊ะคุณโดมและแฟนๆทุกท่าน

ขอแสดงความดีใจกับคุณโดมด้วยนะจ๊ะ กำลังดังเรื่องบล็อกแบบฉุดไม่อยู่ซะแล้ว
ป้าชุแวะเข้ามาอ่านประจำจ๊ะ
คิดถึงทุกๆคนนะจ๊ะ


โดย: ป้าชุ IP: 86.128.102.242 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:0:53:37 น.  

 




โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:5:00:53 น.  

 
สวัสดีจ้ะหลานเบญจ์

ที่ห้องสมุดสถาบันที่หนูเรียนอยู่มีหนังสือ "อัจฉริยะสร้างได้" ของวนิษา เรซ หรือหนูดี ไหม ?

อย่าได้ตกใจว่าจะต้องอ่านเรื่องนี้เพื่อเป็นอัจฉริยะนะ

ลุงโดมได้อ่านเนื้อหาในเล่มนี้แล้ว ต้องบอกว่าดีมาก เพราะหนังสือเล่มนี้จะทำให้เรารู้จักตัวเองว่า เรามีอัจฉิรยะภาพทางด้านไหนบ้าง แล้วจะได้พัฒนาตัวเองอย่างถูกทิศถูกทาง อย่างหนูยังเด็กยังมีเวลาที่จะได้ทำความรู้จักตัวเองและพัฒนาตัวเองให้เต็มความสามารถ

(ขนาดลุงโดมแก่ๆแล้วยังได้ประโยชน์เลย)

ถามหาจากอาจารย์ก่อน ถ้ายังไม่ได้ก็ไปดูที่ร้านหนังสือ ในพะเยาลุงเคยเห็นร้านหนังสือมีพ็อคเก็ตบุ๊คเยอะเหมือนกัน

สอบถามและขวนขวายทางพะเยาให้มากที่สุดก่อน แต่ถ้าไม่ได้จริงๆแล้วหนูค่อยบอกทางลุงมาก็แล้วกัน

ลุงอยากให้หนูได้อ่านหนังสือเล่มที่ว่านี้

ส่วนไดอะรี่ออนไลน์ก็คล้ายๆกับบล็อกนั่นแหละ แต่ไม่รู้ว่าบล็อกจะทำอะไรได้มากกว่าหรือเปล่า ? เมื่อก่อนนี้ลุงก็เริ่มต้นเขียนไดอะรี่ออนไลน์อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะมาเขียนบล็อก

สวัสดีครับใบไม้

ขอบคุณที่ส่งข่าวเรื่องได้รับหนังสือ

ตอนนี้ยังไม่ได้อ่านของใบไม้เลย เดี๋ยวจะเมล์ไปคุยด้วยก็แล้วกันนะครับ

สวัสดีครับฟิล์มกัส

มีรูปอะไรมาอวดบ้าง
ถ้าอัพบล็อกแล้วบอกบ้างนะ ชอบบล็อกหน้าปัจจุบันนี้ที่มีรูปเยอะแล้วมีเรื่องดีๆประกอบอีกต่างหาก


สวัสดีครับนกแสงตะวัน

ต้องขอโทษทีที่พลาดข้ามไป ตามปกติจะไม่ข้ามคอมเม้นท์ของใครหรอก (มีอะไรเท่าไรก็ตอบไปตามนั้น)

จึงแว้บไปส่งข่าวที่บ้านนกแสงตะวัน

เรื่องเพลงน่ะ เพลงอะไรก็ได้ที่นกแสงตะวันชอบ ตามปกติพ่อพเยียไม่ใช่นักฟังเพลงหรอกครับ ฟังเล็กๆน้อยๆ

ที่อยากได้เพลงบรรเลงอะไรก็ได้จะเป็นเพลงบรรเลงเครื่องเป่าจำพวกแซ็กโซโฟนหรือเปียโน หรืออะไรก็ได้

แต้ถ้าเพลงพี่หงาอยากได้เพลงหนึ่งจำชื่อไม่ค่อยได้ ไม่รู้ว่าผิดหรือเปล่า "แม้เราไม่ได้พบกัน" ไม่มั่นใจนะว่าจะถูกหรือเปล่า แต่จะมีท่อนหนึ่งที่ว่า "ผมยาวสยาย" ฯลฯ -

เพลง "คืนรัง" ก็ได้ เพลงอะไรก็ได้ที่เห็นว่าเพราะน่ะครับ

ตอนหลังๆนี่พอทำบล็อกแล้วมีเพลงด้วยก็รู้สึกชอบอยู่เหมือนกัน

เพลงสากลเก่าๆก็ได้ ส่งโค้ดเพลงมาได้ที่ dome_wutthichai@yahoo.com

ขอบคุณมากครับ


สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า


แหมเพิ่งได้ยินคำศัพท์ว่า "อดิเรกลาภ"นี่แหละ บัญญัติใหม่หรือเปล่า เหมาะจริงๆ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยนะจ๊ะ

ดังเดิงอะไรกัน ก็แค่เป็นผลเนื่องมาจากสิ่งที่ตัวเองทำ เป็นจังหวะ มีหลายอย่างมาประชุมกันพอดี

เช่น เรื่องบล็อกกำลังอยู่ในกระแสพอดี แล้วจังหวะที่พ่อพเยียมีพ็อกเก็ตบุ๊คที่มาจากบล็อกออกมาในช่วงเวลานี้พอดี

และบล็อกพ่อพเยียที่เขียนอยู่ในตอนนี้ยังไม่ร้าง เพราะมีบรรดาเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลานๆเข้ามาคอมเม้นท์คุยกันอย่างสม่ำเสมอ

ถึงแม้ไม่ถึงกับล้นหลามมากมาย แต่สำหรับพ่อพเยียแค่นี้ก็อุ่นหนาฝาคั่งแล้ว

ก็อยากบอกว่าแม้จะเริ่มต้นได้เขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเขียนอยากเล่าแล้ว แต่ทว่าโบนัสที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รับมาก่อน ก็คือคอมเม้นท์ของๆทุกๆคนที่เข้ามาคุยด้วยนี่แหละ

แม้บางคนจะส่งเพียงรอยยิ้ม แลบลิ้น ปลิ้นตามาอันเดียวก็สัมผัสถึงความจริงใจได้


สวัสดีจ้ะมัยดีนาห์

เถอะน่า...จะว่าไปแล้วอาโดมก็เพิ่งกลับมาเขียนหนังสือรอบสองนี่ยังไม่นานหรอก เรารักสิ่งไหนก็ทำสิ่งนั้นไป แต่ความรักอย่างเดียวก็คงไม่พอ เราต้องเข้าใจในสิ่งที่เรารักด้วย

ค่อยๆเรียนรู้ไป พัฒนาไป เราทำได้อยู่แล้ว..

เพราะนอกจากเราได้ทำสิ่งที่เรารักอย่างมีความสุขแล้ว

โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เรารักนั้นมีมากกว่าว่าต้องทนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ

อุปสรรคของนักเขียนก็คือ ตัวเองนั่นเอง...

อาโดมนึกถึงพูดของวิลเลี่ยม โฟล์คเน่อร์ นักเขียนชื่อดังในอดีต พูดไว้ประโยคหนึ่งว่า

"ไม่มีอะไรจะทำร้ายงานของนักเขียนคนใดได้ ถ้าหากเขาเป็นนักเขียนชั้นหนึ่ง แต่ถ้าเขาไม่ใช่ ก็ไม่มีอะไรจะไปช่วยงาน ที่เขาเขียนได้มากนัก"

สวัสดีครับคุณชมจันทร์

เช้านี้คุณคงตื่นนอนอย่างมีความสุขนะครับ

เพราะว่ากันว่า(ผมว่าเองแหละ)ถ้าเราเข้านอนอย่างมีความสุข
เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะมีความสุขเช่นเดียวกัน


สวัสดีครับป้าชุ

ได้ข่าวว่าหมู่นี้ไม่ค่อยว่างใช่ไหมล่ะครับ ?

ป้าชุมีประสบการณ์ชีวิตมากมาย
ถึงวันนี้คงรู้หมดแล้วว่าแต่ละวันจะดำเนินชีวิตอย่างไรจึงจะมีความสุข

เรื่องสัมภาษณ์เรื่องบล็อกน่ะไม่ได้ดังเดิงๆอะไรหรอก ก็อย่างที่ผมอธิบายให้คุณตะเบบูญ่าฟังนั่นแหละครับ

ที่เขาประกบกับแทนไทก็ประเภท เมื่อมีคนหนุ่มก็ต้องมีฝ่ายอาวุโสเป็นตัวแทนในเรื่องการเขียนบล็อก

ก็ดีเหมือนกันครับที่ถูกสัมภาษณ์ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เราได้บอกสิ่งที่เราคิดออกไปยังผู้อื่นบ้าง



สวัสดีครับป้าซ่าส์


ดีใจครับที่ยังไม่ลืมกัน แล้วจะแวะไปหาที่บล็อกนะครับ อัพใหม่แล้วหรือยัง ?


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:8:46:32 น.  

 
สวัสดีพ่อพเยีย

หนุ่มรูปหล่อที่อยู่ใกล้ ๆ พ่อพเยียคือ แทนไท ลูกชายพี่จี๊ด เหรอ

เข้ามาอ่านเรื่องราวของการเขียนบล็อก กันอย่างสนุกสนานและเป็นสาระยิ่ง

แต่ที่น่าสนใจยิ่งสำหรับเราก็คือ ค้นพบคนที่สนใจในสิ่งเดียวกันและเป็นคนที่มีความรู้มากมายกว่าเราหลายเท่า

อีกทั้งคนที่รู้และเชี่ยวชาญ เฉพาะสาขานั้น ๆ ที่พอแลกเปลี่ยนได้ด้วย

มันช่วยได้มากในการแสวงหาความรู้ แบบการแลกเปลี่ยน

แล้วพบกัน (พ่อพเยีย) อ่านเรื่องราวของ "สุชาติ สวัสดิ์ศรี
ในค คน หรือยัง มีเรื่องราวน่าสนใจ

โดยเฉพาะ คอลัมน์
สโมสร จุดเปลี่ยน อ่านแล้วก็พิจารณาว่า มีอะไรบ้างที่ควรจะเป็นจุดเปลี่ยน โดนเฉพาะ เพื่อสร้างกระแสให้สังคมดีขึ้น หรือหันมามองรอบ ๆ กายเราว่าอะไรบ้างที่เราควรจะเปลี่ยนเพื่อโลก

อย่างง่าย ๆ คอลัมน์นี้เขาพูดถึง ถุงพลาสติกซึ่งถือเป็นเรื่องส่วนตัวในการเลือกใช้หรือไม่ใช้แต่ส่งผลต่อโลกทีเดียว








โดย: แพรจารุ วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:11:27:17 น.  

 
............เอ...แต่เล่าทำไม เพื่ออะไร? สงสัยต้องพิจารณาตัวเองซะแล้ว คนที่ขยันเขียนบล็อกเพราะเขามีสมาชิกหรือแก๊ง แต่ลุงมันไม่น่าจะมี(สักกี่คน แล้วก๊คนที่ว่านี่ก็ไม่เคยมาด้วย)

ไปเขียนงานที่ได้เงินเจ๋งกว่า... เวลาแต่ละวันยิ่งมีน้อยอยู่ด้วย คิด ๆ ๆ มาเขียนบล็อกเพื่ออะไร (คำถามเดิม ๆ มาอีก)............
......... ........... ........


มีคนแก่แอบบ่นดังๆเพื่อเช็คเรทติ้งน่ะ
เอามาเล่าสู่กันฟัง

สงสัยเห็นเขามีแต่ซับน้ำตาอันดามันกระมัง
เลยอยากมีคนมาซับน้ำตาทะเลทรัพย์แถวๆปะทิว....

จริงๆแล้วตัวเองหัวเป็นเกลียว ตัวยิ่งเกลียวเข้าไปอีก
จะรับทรัพย์ไม่หวาดไม่ไหวตะหาก...แล้วทำเป็นบ่น


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:14:32:06 น.  

 
ดู ๆ แล้วหนูว่าพี่ก็ติด blog ใช่ย่อยนา
แฟนคลับเยอะเชียว

ก็เจ้าของ blog น่ารักนิ!

ไม่ว่าเป็นใคร..ถ้ามี ment มา
เยอะขนาดไหนก็..
ตอบรายตัวเลย..ดีจัง
จะพยายามทำให้ได้อย่างนี้มั่ง



โดย: malarn cha วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:20:09:02 น.  

 
มาขยายความคำว่า "อดิเรกลาภ" ค่ะ
แหม..คิดได้ไงว่าหนูบัญญัติขึ้นมาเอง
สติไม่ค่อยมาปัญญาไม่ค่อยมี..อย่างหน
ก็ได้แต่จดจำจากผู้อื่นมาล่ะค่ะ

คำนี้จำมาจากรายการ(วิทยุ)คุยได้คุยดีของอ.วีระ ธีรภัทร ค่ะ
ท่านเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเงินไว้หลายเล่ม
หลังๆท่านหันมาศึกษาและเขียนเรื่องประวัติศาสตร์เขมร
และมหากาพย์มหาภารตะ
หนูน่ะเป็นแฟนมหากาพย์มหาภารตะ
เลยมีทั้งซีดีเรื่องเล่าและหนังสือของท่านน่ะแหละ
ก็ค่อยๆแทะไปทีละนิดเพราะ ยาวมหาศาลเชียวค่ะ
แต่สนุกมากนะจ๊ะนายยยย..นิยายอินตะระเดียเนี่ย..



วันหนึ่งอ.วีระพูดว่า ท่านเขียนหนังสือหรือทำงานอะไรก็ตาม
เพียงได้ทำก็มีความสุขแล้ว ถือว่า "ได้" แล้ว
ส่วนอื่นๆที่ตามมาทีหลังไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ชื่อเสียง อะไรก็ตาม
ถือเป็น "อดิเรกลาภ" ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
หนูเองก็ไม่ทราบค่ะว่า อ.วีระบัญญัติขึ้นมาเองหรือเปล่า
ก็เท่านี้แหละค่ะ
บ๊าย บาย...


โดย: ตะเบบูญ่า IP: 58.8.64.215 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:20:32:45 น.  

 
สวัสดีจ้ะยายแพร จารุ

ใช่แล้วหละ ! ถูกต้องนะคร๊าบ !

สำหรับหนังสือ "โลกนี้มันช่างยีสต์" เราซื้อให้ลูกสาวตั้งแต่ตอนพิมพ์วางแผงใหม่ๆแล้วหละ

พูดถึงโลกร้อน อยากให้ยายลองคลิกไปอ่านที่คุณปะการังเขียนเรื่องนี้ที่บล็อกชบาฉายสิ !
อยากรู้ว่าเขาเขียนว่าอย่างไรก็ไปอ่านเองก็แล้วกันนะ (ไม่ได้โฆษณานะเนี่ยะ)


สวัสดีจ้ะปลายแปรง

เชื่อไหมวันนี้ไปหาเป้สะพายหลังเพื่อใส่โน้ตบุ๊ค ร่ำๆว่าจะไปตะกั่วป่าอยู่แล้ว แล้วจะเลยไปหาพ่อพี่นุของปลายแปรงด้วยและไปหานุด้วย

เตรียมหนังสือที่สัญญาไว้แล้ว แต่คิดไปคิดมาอยู่บ้านดีกว่า เพราะช่วงปลายเดือนต้นเดือนมีงานของเพื่อนหลายงาน

จำแวง ชไมได้ไหมที่พ่อพเยียเคยนำมาเขียนบล็อกไว้ว่าจะแสดงงาน เดี๋ยวใกล้ๆว่าจะมาบอกเพื่อนๆบล็อกอีกครั้ง เผื่อใครจะสนใจบ้าง แต่เป็นงานนู้ดนะ

วันที่ 6 ตุลานี้แน่นอน

ส่วนคนที่ปลายแปรงยกข้อความมานั้น ปล่อยเค้าไปเถอะ เค้าก็ตัดพ้อโลกไปอย่างนั้นเองแหละ

คนมีความสามารถมากก็ต้องเหนื่อยกับชีวิตมากเป็นธรรมดา
(ประชดนะเนี่ยะ)

โชคดีที่พ่อพเยียทำอะไรไม่ค่อยเป็น เลยไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไร



สวัสดีครับMalarn cha

ไม่ปฏิเสธหรอกจ้ะว่าติดบล็อกพอประมาณ

แต่เมื่อถึงเวลาไม่มีอินเตอร์เน็ตก็อยู่ได้ ไม่ทุรนทุรายจ้ะ

ช่วงนี้อยู่บ้านหลายเดือน
ก็เลยมีเวลามานั่งอยู่หน้าจอพอสมควร

ผมเคยเขียนบอกว่า...ความสุขในการทำบล็อกมีอยู่สามอย่าง

หนึ่ง - มีความสุขขณะที่เขียนเรื่องลงบล็อก

สอง - อ่านคอมเม้นท์ดีๆที่มีคนเขียนเข้ามาพูดคุย (การอ่านความคิดผู้อื่นก็สนุกไปอีกอย่าง)

สาม - มีอะไรที่จะตอบคอมเม้นท์นั้นๆ (สนุกที่จะได้คิดหรือพูดคุยกับสิ่งที่เขาหรือเธอพูดทิ้งไว้ ถ้ามีเรื่องที่จะต้องคิด)

สรุปว่าผมชอบพูดคุยหรือสนทนากันเป็นตัวหนังสือนั่นแหละครับ จะโดยรู้จักตัวจริงหรือไม่รู้จักตัวจริงก็ได้

แต่นานๆไปตัวจริงของแต่ละคนจะค่อยๆปรากฏว่า ใครเป็นอย่างไร...ในที่สุดเวลาก็ชอบเป็นเครื่องพิสูจน์ให้คนอยู่เรื่อยเลยเนาะ


สวัสดีจ้ะตะเบบูญ่า

ขอบคุณมากที่อุตส่าห์มาอธิบายคำว่า "อดิเรกลาภ"

เพราะพ่อพเยียก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเหมือนกัน เอ...มันจะคล้ายงานอดิเรกหรือเปล่านะ ?


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.23.101 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:22:44:27 น.  

 
งานเยอะมากมายค่ะ ช่วงนี้อะไรต่อมิอะไรโถมเข้าใส่มากเป็นเรื่องของงานที่ต้องจัดการให้เสร็จแค่นั้นค่ะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ลาไปนอนชะเอิงเอย
ก่อนนะคะ ง่วงมากมายค่ะ


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:5:57:59 น.  

 
พี่โดมๆมาอ่านหลายวันแล้ว
แต่ไม่สะดวกพิมพ์จ้ะ
วันนี้ มาลาไปตัดไหมนะ
เป็นซีสต์ที่ฝ่ามือ เท่ชะมัด
เดี๋ยวไปแล้วล่ะค่ะ


โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:9:15:28 น.  

 
ใส่รูปพี่โดม ตอนไปเกาะตาครุฑ
ทำเป็นสไลด์ แต่มันไม่ขึ้น หรือโหลดช้าก็ไม่รู้ ขอโทษที ขอโทษค่ะ ขอโทษ

กลายเป็นช้าไปเลย

พี่โดมเอาออกก้ได้นะคะ


โดย: ศิลป์ IP: 202.91.18.194 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:18:16:45 น.  

 
พี่โดม มาตามตรอกออกทางประตูแล้วค่ะ

มาบอกว่า มีรูปพี่โดมขึ้นหน้าหนึ่ง
ที่บล็อกศิลป์


โดย: shadow-of-art วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:18:34:04 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ยินดีค่ะเรื่องเพลง
เพลงนั้นชื่อ แม้เราจะไม่พบกัน ค่ะพี่โดม เป็นเพลงที่ทำให้นกแสงตะวันพยายามไว้ผมยาวค่ะเพียงเพราะน้าเค้าบอกว่า...
"ผมยาวนุ่มเนียนสยาย ฉันรักเธอ" คิก

รอสักครู่นะคะ.. ไม่นาน ไม่นาน
คืนรัง นั้นจัดอยู่ในหมวดเพลงเชยของคาราวาน 55



โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:20:53:59 น.  

 
มาทักทายก่อนไปนอนค่ะ
จะรักษาความช้าอย่างสม่ำเสมอไว้ค่ะ ๕๕+


โดย: หนอนบ้านนอก วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:23:49:16 น.  

 
สวัสดีจ้าพ่อพเยีย

ไปดูภาพเป็นข่าวหน้าหนึ่งที่คุณเงาศิลป์เอามาฝากเรียบร้อยแล้ว

โน...คอมเม้นท์

หนูแป้งมาเชิญยิ้มที่บล็อกหนอนฯ เรียบร้อยแล้วค่ะ แวะไปดูได้ตั้งแต่บัดนี้...


โดย: หนอนเมืองกรุงฯ วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:1:50:04 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณโดม

ไม่ได้มา..ไม่ได้หมายความว่า
ไม่คิดถึงกันนะคะ พักนี้..พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกค่ะ ผมก็หงอกเอาๆ(เดาเอา) ด้วยว่า..ต้องเตือนตัวเองให้ตื่นไปส่งลูกไปเรียน ไปรับลูกกลับบ้านคนละเวลา หนำซ้ำยังต้องจำว่า วันไหนนิกเลิกเร็ว

ยังปรับตัวไม่ได้เลยค่ะคุณโดม
ตั้งแต่ลูกเปิดเรียนมาเนี่ย บางวันกินข้าวเช้าเสร็จ ต้องรีบเดินไปรับอลีนา รีบเดินทั้งๆที่จุก บางวันก็ลืมไปรับลูกเฉยเลย สองเฒ่าเราต้องรีบขับรถบึ่งไปให้ทันเวลา
กลัวลูกงอน

ลูกชายก็ยังปรับตัวกับการเรียนใหม่ยังไม่ได้ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา..มึนไปหมด และตอนนี้เริ่มจะเข้าที่เข้าทางบ้างแล้วค่ะ

++++++++++
ฝากสวัสดีคุณนกนะคะ


โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.70 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:5:43:32 น.  

 
เหมือนแม่น้องนิกเลย
คุณโดมขา
ไม่ได้เข้ามาส่งเสียง ไม่ได้หมายความว่าไม่อ่าน
ไปซื้อหนังสือพิมพ์มาแล้วด้วย
จะบอกว่างานแวง
ข้าพเจ้าคงไม่ได้ไป
เพราะตอนนั้นอยู่เมืองปายเป็นแน่แท้
มีงานตกแต่งรีสอร์ทของเพื่อนที่ต้องรับผิดชอบ ตะเปิดปลายตุลานี่แล้ว ยังไม่เสร็จเลย


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:8:55:46 น.  

 
ฝากถึง สัญจร

รีสอร์ทที่ว่า ชื่ออะไรค่ะ 25-26นัดเพื่อน ๆ (ผู้สาว) ไปปั่นจักรยานกันค่ะ

เผื่อจะได้ไปด้อม ๆ มอง ๆ หากที่สวยและไม่แพงเกินไป จะใช้บริการได้

ไม่ได้เข้าไปบ้าน ชบาฉาย นานแล้วจ๊ะ ที่นั่น "ปะการัง" เขามีเรื่องน่าสนใจเสมอแหละ บางทีก็อยากหยุดอ่านเรื่องน่าสนใจบ้างเหมือนกัน



โดย: แพรจารุ วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:9:59:06 น.  

 
สวัสดีครับลูกโดม

พ่อแวะมาบอกลูกครับ
ว่าโพชฌงค์ตอนสุดท้าย
ออนไลน์แล้วครับ

หากวันใดว่าง
แวะอ่านได้นะครับ

หากแวะมาทางนี้
บ้านพ่อยินดีต้อนรับเสมอครับ


โดย: พ่อ (be-oct4 ) วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:9:59:39 น.  

 
ได้อ่านสักทีหลังจากที่คราวที่แล้วเปิดลิงค์ไม่ได้



โดย: filmgus วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:16:47:36 น.  

 
s;yfu8trjvrgpup

ว้า !! แกะรหัสเอาเองนะคะ อิอิ



โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:21:06:07 น.  

 
คุณพ่อพเยียคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเน็ต แต่จะแวะเข้ามาตามข่าวสารนะคะ ส่วนบล็อกคงเขียนบ้างค่ะ หน้าตาคนเขียนเป็นอย่างไร สักวันต้องเฉลยแน่(มั้ง)... ใจจริงอยากให้คนอ่านจิตนาการไปแบบนี้จะดีกว่า .........สบายดีกาน่าค่ะ


โดย: shin chan (alei ) วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:1:18:05 น.  

 
พ่อพเยียขา ป้าซ่าส์อยากจะบ้าตาย
รบกวนพ่อพเยียลบห่างไกล41
หน่อยนะคะป้าซ่าส์ทำลิงค์ผิดค่ะ
แหะๆขอโทษค่ะ


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:5:21:45 น.  

 
อันนี้ถูกค่ะ

พ่อพเยียขา ขอปันพื้นที่แบ่งน้ำใจ สักนิดนะคะ

ขออนุญาติค่ะ

โฆษณาค่ะ

น้องหมา

หาบ้านค่ะ


กดนิ้ดส์ พลีสส ค่ะ


โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:5:23:47 น.  

 

สวัสดีเช้าวันจันทร์ค่ะ อาโดม

เช่นเดียวกับอาปอนและแม่น้องนิก

ไม่ได้เข้ามา Comment ไม่ได้หมายความว่าไม่อ่าน แหะ แหะ

อ่านทั้งเรื่องจากบล็อกสู่พ๊อกเก็ตบุ๊ค ทั้งเรื่อง blogger นักเขียนในโลกไร้พรมแดน แถมได้ไปดูภาพเป็นข่าวหน้าหนึ่งที่บล็อกคุณเงาศิลป์ด้วย

เรียกว่า มาบล็อกนี้บล็อกเดียว คุ้มค่า คุ้มเวลา เลยนะคะ อาโดม



โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:7:34:45 น.  

 
สวัสดีคะพี่โดม

แฟนคลับมากมาย
จนแทรกตัวเข้ามาแทบจะไม่ถูก เหอๆ

นี่จุ๊นะพี่ (อัครมุนี วรรณประไพ) จำกันได้ป่าว
นานแล้วเนอะ.........

ทักทายกันแค่นี้ก่อนนะคะ
ไว้แวะมาใหม่


ปล. 'ใบไม้' ก็เป็นแฟนคลับพี่โดมด้วยเหรอ .. คิดถึงนะ


โดย: จุ๊ IP: 58.8.84.178 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:7:41:14 น.  

 


เอารูปน้ำท่วมคลองปลายวามากระตุ้นต่อมคิดถึงค่ะ....

น้ำท่วมตลาดเก่ารอบนี้ไม่ได้ไปถ่ายรูปเก็บไว้ติดงานศพน้องพอดี...พอว่างจะเข้าไปถ่าน อ้าวน้ำลดเสียแล้ว




โดย: ปลายแปรง วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:9:05:03 น.  

 
เฮ้อ...มือไวจริงเรา

ยังไม่จบความเลยรีบซ๊ะ....
ดีนะ..ยังไม่ได้บอกพ่อมหาประสิทธิ์ว่าจะมีคนมาเที่ยวตะกั่วป่า ด้วยความคิดถึงโกปี้เลิศโอชาอย่างแรง.....
ไม่งั้นได้ชะแง้รอกันอีก....

ปลายแปรงก็กะว่าสิ้นเดือนนี้จะขึ้นไปแล้วค่ะ....อาเจ๊แกจะไปออสเตรเลียหลายวันเลยไปอยู่เป็นเพื่อนยายเม้าก่อน เดี๋ยวไม่มีใครพาไปจ่ายตลาด...หงุดหงิดอีก

ก็จะค่อยๆขับรถขึ้นไป เพราะต้องเอาวาคอมกะเครื่องคอมไปด้วย พี่นุมีงานค้างอยู่งานของหมอฟันยังไม่เรียบร้อยดี....ก็ยกไปแต่เคส ไปแอบจอเจ๊แก แล้วก็ไล่ให้แกไปใช่โน๊ตบุ๊คแทนน่ะ....

อาจจะเป็นวันที่ 30 หรือวันที่ 1 กระมัง...จัดการทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน เพราะต้องซื้อปุ๋ย ซื้อยาไว้ในแม่ก่อน เดี๋ยวฝนแล้งมอญจะเปิดหน้ายางหารถไปซื้อปุ๋ยไม่ได้อีก.....กลัวป้าพิศบ่นตามหลังน่ะ

ก็เราเอาแน่ไม่ได้นี่ว่าจะอยู่กี่วัน อาจอยู่เป็นปีก็ไม่รู้

ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองนิ่งมากเกินไปจนไม่กระตือรือล้น เลยอยากไปข้างนอกเร็วขึ้นด้วย....
มันนิ่งจนเฉื่อยชา ก็ต้องออกเดินทางกับชีวิต....หาอะไรใหม่ๆเติมลงไปบ้าง เก็บดอกไม้ข้างทางมาปักแจกันใจ....ของเก่ามันสีซีดแล้ว เหี่ยวใจมั่งล่ะ

สนใจไหมล่า...แต่ดูท่าตะกั่วป่าจะส่งเสียงร้องก้องอยู่ในใจแรงกว่าซะละมั้ง......


โดย: ปลายแปรง วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:9:13:09 น.  

 
จากบล็อกสู่พ็อกเก็ตบุ๊ก
จากพ็อกเก็ตบุกสู่บล็อค
สับเปลี่ยนกันไปค่ะ


โดย: คนเลวที่แสนดี วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:10:09:05 น.  

 
พ่อเพยียคะ

แม่เกาลัดเป็นสาวเชียงคานค่ะ
คุณยายของเกาลัดที่นครสวรรค์เป็นน้องสาวของยาย
เป็นน้าของแม่เกาลัดค่ะ
ย้ายมาเป็นคุณครูอยู่โรงเรียนมัธยมแถวหนองเบน
(ตอนนี้นึกชื่อโรงเรียนไม่ออก)
ย้ายสำมะโนครัวมาเป็นชาวบ้านจัดสรรแถวหน้าแม็คโคร

ไปนครสวรรค์คราวนี้
ยังนึกอยู่ว่าพ่อเพยียอยู่ตรงไหนของหนองเบน
ตลาดนัดวันเสาร์หน้าค่าย ฯ น้าก็ชวนไปเดิน แต่ก็ไม่ได้ไปค่ะ


ไปคราวนี้ ได้ไปดูเขาทาสีเรือแข่งลำยาวๆ ด้วย




โดย: ชมจันทร์ วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:13:19:28 น.  

 
สวัสดีครับโดม
พ่อขอบคุณเป็นอย่างมากครับ
ที่อุตส่าห์ลงเรื่องที่เขียนให้หนูพเยียอ่าน
ถ้าโดมไม่ลงทั้งหมด ก็คงเสียดายแย่เลยครับ เพราะการได้อ่านจดหมายจากพ่อถึงลูกสาว
ถือเป็นความสุขอย่างมากของพ่อครับลูก

สมัยเอบีเด็กๆ
จะมาว่ากล่าวเตือนกันก็ลำบาก
พ่อเองก็ต้องอาศัยตัวอักษรเนสื่อเช่นกันลูก

อีกทั้งได้อ่านเรื่องที่ลูกเขียนถึงคุณย่า

ก็ทำให้พ่อได้ระลึกถึงคุณแม่ของพ่อเช่นกัน ไม่ลืมที่จะหลับตาและนึกถึงต้น "เถาวัลย์เปรียง" ที่มีอยู่ที่บ้านของคุณปู่คุณย่า ที่บ้านแพน อยุธยาครับ

ต้นไม้ชนิดนี้ มีเส่นห์ดึงดูดอย่างบอกไม่ถูกนะลูก ทั้งกลิ่นและสีของดอก การเติบโตของต้น โดยเฉพาะถ้าตออยู่ริมน้ำที่ชื้นแฉะ จะทำให้ต้นงามมากทีเดียว

มีความสุขมากครับที่ได้อ่าน

ดีใจมากนะครับที่มีลูกโดมเป็นเพื่อนพ่อ เพราะที่บ้านมักมีแต่เด็กๆครับ หายเหงาไปได้เป็นปลิดทิ้งเลยครับลูก

ด้วยรัก


โดย: พ่อบู (be-oct4 ) วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:14:39:03 น.  

 
แหม๊ จะมีมั้ยคะ...

บล็อคหนู จะมีคนมาทาบทาม(ไปทิ้ง)

อิอิ

อย่างงี้ต้องฝึก ๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: mojigirl วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:19:29:18 น.  

 
555+
เหลียวมาดูบล็อกตัวเองแล้วอ๊ายอาย


โดย: 9A วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:23:24:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ่อพเยีย
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]







ด้วยความยินดี...
หากมีผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่าย,บทความ
หรือข้อเขียนต่างๆ
ใน Blog นี้ไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด
สามารถทำได้เลยทันที
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

เว้นเสียแต่ว่า…
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย
กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย

อ่านเรื่องของ "ปะการัง" ที่นี่



โหลดเพลง คลิปวีดีโอ นิยาย การ์ตูน


www.buzzidea.tv
Friends' blogs
[Add พ่อพเยีย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.