|
ชามลายนู้ดเหนือจริง
ราวปี พ.ศ. 2523 ผมเข้ามามืองหลวงพร้อมๆกับการเริ่มต้นบนถนนหนังสือด้วยการทำงานประจำอยูในกองบรรณาธิการนิตยสาร หนุ่มสาว ซึ่งมีคุณปกรณ์ พงศ์วราภา เป็นบรรณาธิการและเจ้าของ
งานที่ทำเปิดโอกาสให้ผมได้พบเพื่อนฝูงคนหนุ่มสาวซึ่งทำงานศิลปะกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีชื่อกลุ่มกังหัน มีสมาชิกอยู่ 5 คน คือ จิระศักดิ์ พัฒน์พงศ์, สมบูรณ์ พวงดอกไม้, ไพศาล ธีรพงศ์วิษณุพร, เอกพันธ์ กาญจนาภิวงศ์ และประสิทธิ์ ชนิตราภิรักษ์ พวกเขาทั้ง 5 คนเรียนศิลปะจบมาจากโรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์
รูปแบบศิลปะที่ชัดเจนมากที่สุดของกลุ่มกังหัน ได้รับอิทธิพลมาจากงานศิลปะแนวเหนือจริง (serrealism) ของยุโรป แต่พวกเขาแต่ละคนได้นำมาใช้ในบริบทที่แตกต่างออกไป ด้วยฝีมือทางจิตรกรรมที่โดดเด่น เนื้อหาที่นำเสนอและวิพากษ์สังคมอย่างขึงขังและดุดัน ทำให้งานของกลุ่มกังหันมีชื่อเสียงและมีภาพที่ชัดเจนในฐานะศิลปะเพื่อชีวิต ในช่วง พ.ศ.ถัดมา ผมได้มีโอกาสคลุกคลีและไปชมงานศิลปะตามที่ต่างๆกับเพื่อนกลุ่มนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งแต่ก่อนงานแสดงศิลปะไม่ได้มีมากมายเหมือนทุกวันนี้ ต่อมาเมื่อพวกเราต่างเติบโตขึ้น เพื่อนในกลุ่มก็เริ่มมีวิถีชีวิตตามความฝันของตัวเอง สมบูรณ์ พวงดอกไม้ ไปเป็นอาจารย์สอนที่โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์อยู่พักหนึ่งก่อนที่จะเป็นศิลปินเดี่ยวยึดการเขียนรูปเป็นอาชีพมาจนถึงทุกวันนี้ เอกพันธ์ กาญจนาภิวงศ์ ด่วนลาโลกไปตั้งแต่ยังหนุ่มด้วยโรคหัวใจวาย ประสิทธิ์ ชนิตราภิรักษ์ ปัจจุบันทำงานแกะแม่พิมพ์รูปในธนบัตรอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ไพศาล ธีรพงศ์วิษณุพร เคยเป็นช่างภาพนู้ดอยู่พักหนึ่ง ต่อมาจับมาเขียนวิจารณ์งานศิลปะประจำอยู่ที่นิตยสาร สีสัน จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานนับสิบๆปีแล้ว สำหรับ จิระศักดิ์ พัฒนพงศ์ หรือ "ไอ้ป๋อ" ของเพื่อนๆนั้น ตั้งแต่เรียนจบเขาเคยทำงานที่บริษัทออกแบบสติ๊กเก้อร์อยู่เพียงหนึ่งเดือน จากนั้นก็ไม่เคยประกอบอาชีพอื่นอีกเลยนอกจากการเขียนรูป
เขาเขียนรูปแล้วจัดงานแสดงภาพเขียนขายเลี้ยงตัวยังชีพเรื่อยมา คนที่จะเขียนรูปจัดแสดงงานแล้วขายผลงานเพื่อยังชีพอยู่ได้นั้นย่อมนับว่าไม่ธรรมดา และฝีมือของไอ้ป๋อก็นับว่าไม่ธรรมดาขนาดเคยคว้ารางวัลที่ 3 ของศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 27 มาแล้ว
ถึงแม้จะไม่โด่งดับคับฟ้าแต่ก็พูดได้เต็มปากว่าเขาเป็นศิลปินเขียนรูปที่มีแนวทางชัดเจนเป็นของตัวเองคนหนึ่ง และแนวที่เขาเลือกคือแนวเหนือจริง ในตอนแรกจะเห็นลักษณะงานของเขาได้รับอิทธิพลมาจาก ซัลวาดอร์ ดาลี จิตรกรเอกชาวสเปนอย่างชัดเจนมาก ซึ่งต่อมางานที่มีเนื้อหาเพื่อชีวิตอย่างเข้มข้นดุดันก็ค่อยๆคลี่คลายมาเป็นตัวของเขาเองอย่างโดดเด่น
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาอพยพไปอยู่ที่เกาะภูเก็ต และท้ายที่สุดเขาก็ไปตายที่เกาะภูเก็ตเมืองที่เขาหลงรัก เพราะเกิดอุบัติเหตุในคืนวันหนึ่งของเดือนพฤศจิกายน 2544
เขาเคยเล่าให้ฟังว่า ประเทือง เอมเจริญ กับถวัลย์ ดัชนี คือศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจของเขาในช่วงแรก ในรูปเขียนของเขามักมีรูปปลา เขาบอกว่าปลาเป็นสัญลักษณ์แทนความหมายเรื่องเพศ เพราะมันมีเมือกลื่น
เขามีความเชื่อต่อการทำงานศิลปะว่าการฝึกฝนสำคัญกว่าพรสวรรค์
ทุกครั้งเวลาที่ผมไปภูเก็ตผมจะไปนอนที่บ้านเช่าของเขาซึ่งอยู่แถวๆหาดไนหาน เป็นบ้านชั้นเดียว มีต้นไม้ร่มรื่น ไม่มีรั้ว เวลาออกไปไหนไม่ต้องใส่กุญแจและของก็ไม่หาย บรรยากาศเงียบสงบเหมาะที่จะนั่งเขียนรูปและเขียนหนังสือเป็นอย่างยิ่ง
ครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะอำลาจากโลกไป เราพบกันที่กรุงเทพฯ เพราะเขาขึ้นมาแสดงภาพเขียนที่ บางกอกแกลลอรี่ ของหงษ์จร เสน่ห์งามเจริญ หลังงานเลิกเราไปดื่มกันต่อที่ร้านข้าวต้มแถวๆซอยเสนาฯ เขาพาหญิงคนรักคนล่าสุดที่หวังจะแต่งงานเป็นคู่ชีวิตมาให้รู้จักกับเพื่อนฝูง
ผมตั้งใจว่าจะไปภูเก็ตครั้งต่อไปเพื่อร่วมงานแต่งงานของเขา แต่กลับกลายเป็นว่าผมต้องไปภูเก็ตเพื่อร่วมงานเผาศพของเขา หลังจากนั้นเพื่อนๆจึงนำผลงานศิลปะของเขามาจัดนิทรรศการให้เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนกรุงเทพฯ นับว่าเป็นครั้งแรกสำหรับผมที่ได้ไปชมงานนิทรรศการภาพเขียนของเพื่อนซึ่งตายไปแล้ว
เมื่อหลายปีก่อนนี้ผมยังชอบดื่มเบียร์อยู่ คืนหนึ่งเราดื่มกันอย่างเมามายสนุกสนาน พอตื่นขึ้นมาผมมีอาการเมาค้างเล็กน้อย จึงอยากกินบะหมี่สำเร็จรูป เมื่อน้ำร้อนเดือดเรียบร้อยแล้ว ก็ควานหาถ้วยชามในครัว ผมเจอชามชามกระเบื้องสีดำเขียนลายเส้นนู้ดผู้หญิงด้วยสีอะครีลิค มีลายเซ็นกำกับไว้ว่า จิระศักดิ์ พัฒน์พงศ์ ผมจึงขอมาเพื่อเป็นที่ระลึก
ตอนบ่ายๆเรานอนคุยกันเล่นใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ ผมได้กลิ่นหอมแปลกๆจากดอกของมัน ผมบอกว่าผมอยากจะเขียนเรื่องสั้นอีโรติคสักเรื่องที่ใช้ฉากบ้านหลังนี้ เขายังช่วยตั้งชื่อเรื่องให้ว่า หอมกลิ่นกาหยี (ชาวภูเก็ตเรียกมะม่วงหิมพานต์ว่ากาหยี) จนบัดนี้เวลาล่วงเลยมาหลายปีแล้ว แต่เรื่องสั้นเรื่องนี้ก็ยังมีเพียงแค่ชื่อเท่านั้น
ผมเก็บชามใบนี้ไว้ในตู้เก็บของ นานๆจะหยิบขึ้นมาดูสักครั้ง มันทำให้ผมนึกถึงวัยหนุ่มที่เราดื่มกินเที่ยวเตร่ด้วยกัน ผมคิดว่าไอ้ป๋อมีความกล้าหาญก่อนคนอื่นๆในกลุ่มเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่กล้าเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรักมาตั้งแต่เริ่มหนุ่ม บัดนี้เขาจากไปในวัยสี่สิบเศษ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ได้ทำสิ่งที่รักมาทั้งชีวิต
ผมเองนั้นแม้จะเริ่มเขียนหนังสือมานาน แต่ระหว่างทางของชีวิตก็แวะเวียนไปทำอย่างอื่นมาไม่น้อย เพิ่งมาเลือกที่จะทำสิ่งที่รักอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้
แล้วผมก็ได้พบว่าถ้าเราได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักวันละเล็กละน้อย เราก็จะค่อยๆได้ทำมันมากขึ้น และไม่ว่าชีวิตจะเป็นเช่นไร แต่เราก็มีความสุขได้ เพราะเรามีสิทธิ์ได้เลือกทำในสิ่งที่เรารัก
แล้วคุณล่ะได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักบ้างหรือยังครับ ?
------------------
Create Date : 19 มกราคม 2549 |
|
11 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2549 19:06:23 น. |
Counter : 1019 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: filmgus 19 มกราคม 2549 22:54:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่เจี้ยวค่ะ IP: 71.241.93.223 19 มกราคม 2549 22:55:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: filmgus 19 มกราคม 2549 23:23:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: วีดวาด (วีดวาด ) 20 มกราคม 2549 8:29:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อพเยีย IP: 58.10.233.204 20 มกราคม 2549 14:44:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: AY IP: 61.19.192.99 24 มกราคม 2549 12:59:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพื่อน IP: 124.157.165.146 1 พฤษภาคม 2550 0:20:52 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
ด้วยความยินดี... หากมีผู้ใดละเมิด โดยนำภาพถ่าย,บทความ หรือข้อเขียนต่างๆ ใน Blog นี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด สามารถทำได้เลยทันที โดยไม่ต้องขออนุญาต เป็นลายลักษณ์อักษร
เว้นเสียแต่ว่า
ถ้านำไปพิมพ์จำหน่าย กรุณาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วย
|
|
|
|
|
|
|
สมัยหนึ่งอยากเล่นกีร์ต้าร์แล้วร้องเพลงตามร้านอาหาร ก็ได้ทำ
เคยอยากขึ้นไปพูดหน้ารถ แบบไกด์.....ก็ได้ทำมาแล้ว
เคยอยากทำงานเป็นหัวหน้าที่มีเลขาและมีลูกน้องหลายสิบก็ได้เป็น
ถึงแม้บางอย่างที่ได้เป็น และได้ทำ จะลำบากจนบางครั้งน้ำตาไหล
แต่เมื่อมานึกย้อนไป.....ก็คือเราได้ทำในสิ่งที่อยากทำน่ะค่ะ