รวมมิตร(รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้) รถป้ายแดง และข้อคิดของแม่ (แอบมีสาระตอนท้ายๆ)
คำเตือนก่อนอ่าน ...บล็อกวันนี้ ยาวมากกกกกกกกก...ไม่พูดพล่ามแล้วนะจ๊ะ ลูกรัก เริ่มเลยนินทาพี่ป่าน...พักหลังๆ พี่ป่านไม่ค่อยกินผักเลย จะมีที่ยอมกินก็มะเขือเทศกะบร็อคโคลี่แค่นั้นจริงๆ นอกนั้นไม่กินซักอย่าง ขนาดต้นหอมผักชีหลงเข้าปากชิ้นนิดเดียว พี่ก็ยังพยายามจะบ้วนเฉพาะผักออกมา ทำไงดีน้อ??? แม่ก็ได้แต่กรอกหูด้วยนิทาน "หนูนิดไม่กินผัก" สาธุ...กินผักมั่งเหอะลูก อวบระยะสุดท้ายแล้วอ่ะเนี่ยมาซัก 2 สองวันนี้เริ่มดีขึ้นนิดนึง กินผัดผักบุ้งไปเยอะมาก (หลังจากไม่ยอมกินมาพักใหญ่) แล้วก็แครอท ข้าวโพด ถั่วลันเตา ...หวังว่าคงจะดีขึ้นๆๆๆ และดีไปตลอดน๊า สาธุ..กลัวลูกอ้วน แหะๆส่วนผลไม้ก็แล้วแต่อารมณ์จริงๆ บางอารมณ์อยากไดเอ็ท ก็กินฝรั่งซะเกือบหมดลูก หรือไม่ก็อยากกินส้มซะสองลูก ...บทจะกินก็เปลืองจริงๆลูกจ๋าพออารมณ์อยากอ้วน ถามว่ากินส้มมั้ย...ไม่เอา กินองุ่นมั้ย...ไม่เอา กินมะม่วงมั้ย...ไม่เอา กินมังคุดมั้ย...ไม่เอาปู่ไปตลาดนัดวันเสาร์ทีไร หอบผลไม้กลับมาเยอะมาก พวกผู้ใหญ่ก็ตะลุยกินกันทั้งอาทิตย์ แต่ไม่เห็นมีใครจะผอมเลย ฮิๆ ปู่บอกซื้อมาเผื่อให้หลานเลือกกิน ตอนปลายอาทิตย์ ผลไม้ใกล้จะหมด พี่ก็อยากกินนู่น อยากกินนี่ อยากไอ้ที่มันไม่มีอ่ะนะ แต่พอปู่ซื้อมาซะเต็มพิกัด ถามอะไรก็ไม่กิน ฮ่วย!!!ช่วงนี้ถึงหน้ามังคุดของโปรดของแม่ซะด้วย ซร่วบๆ แม่เคยถามพี่ป่านหลายหนละ กินมังคุดมั้ยจ๊ะๆๆๆๆ พี่ป่านก็ลีลาเดิม เข้ามาชะโงกดูเหมือนสนใจมากๆ แล้วก็บอกว่า "ไม่เอา" แล้ววิ่งหนีไปซะงั้นแต่อยู่มาวันนึง พี่ป่านเห็นแม่กำลังหม่ำมังคุดอยู่ พี่ป่านก็เข้ามาชะโงกเหมือนเคย คราวนี้มีก้มลงดมกลิ่นด้วย (สงสัยโตขึ้นอยากสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติรึเปล่าไม่รู้ ...เป็นสุนัขตำรวจอ่ะนะ) ดมเสร็จพี่ป่านก็บอกว่า "กินมังคู้ดดดด" แม่ต้องฟังให้จบประโยคก่อน เพราะถ้าพี่ป่านไม่กินอะไร พี่ป่านจะต่อท้ายด้วยคำว่า...ไม่เอาคราวนี้เห็นพี่ป่านรีเควสขอกินมังคุด เลยต้องถามเพื่อความแน่ใจ ไม่อยากโดนเด็กหลอกอ่ะ แม่ : กินมังคุดจริงป่าวค๊าพี่ป่าน : กินมังคุดจริงค่าแม่ : งั้นแม่ปอกก่อน รอแป๊บน๊า รอได้ป่าวคะพี่ป่าน : รอได้ค่า (แล้วก็ยืนรออย่างกระสับกระส่าย)พี่ป่าน : (รอแป๊บเดียว ทนไม่ไหว อยากกินมากๆ) คุณแม่ ปอกมังคุดๆๆๆแม่ : รู้แล้วน่า รอแป๊บๆ (พอปอกเสร็จ เอาให้ชิมชิ้นนึงก่อน กลัวมีถุย)พี่ป่าน : (ทำท่าไม่แน่ใจก่อนกิน พอลิ้มรสเท่านั้นแหละ) คุณแม่ เอามังคุดอีกแม่ : (ตั้งหน้าตั้งตาปอกมังคุดใส่ชามให้ พร้อมทำหน้าแอบเศร้า เพราะมีเด็กมาแย่งกิน) พี่ป่าน : (กินไปซักหลายชิ้น) คุณแม่ เอามังคุดเยอะๆ...ฮ่าๆๆ เอาเปลือกแทนได้ป่าวลูก เปลือกเยอะจริงๆ กินเนื้อได้นิดเดียว แต่เปลือกกองเท่าภูเขาเลยจ้าหลังจากวันนั้น พี่ป่านก็ไปชะโงกแถวถาดใส่มังคุดทุกวัน แต่พอปอกให้ก็กินมั่ง ไม่กินมั่ง เรียกว่าเห่อเฉพาะวันแรกว่างั้นเหอะ...นี่แค่เรื่องกินมังคุด ยังยาวซะขนาดนี้ แม่นี่เขียนเรื่องไร้สาระได้เยอะมากเลยนะเนี่ย หุหุ
พอแม่ย้อนกลับไปดูรูปเก่าๆ โดยเฉพาะรูปด้านบนนี้ ทำให้แม่ต้องมานั่งถามตัวเองว่าแม่ทำร้ายความรู้สึกลูกสาวของแม่รึเปล่า ถ้าใช่...แม่ต้องขอโทษหนูด้วยนะจ๊ะ ทั้งที่ตอนนั้นแม่ภูมิใจในตัวพี่ป่านมากเลย ที่ไม่ร้องดีดดิ้นอยากได้ของเล่นกลับบ้าน (ถ้าพี่ป่านลงไปร้องไห้ร้องห่มอยากเอาของเล่นกลับบ้าน แม่คงกลุ้มใจไปอีกแบบ)ป๊ายังบอกว่าลูกถือของเล่นมา 5 ชิ้น อย่างน้อยก็น่าจะซื้อให้ลูกซัก 1 ชิ้น (เลือกอันที่ราคาถูกที่สุดก็ได้) อย่าตัดสินด้วยความรู้สึกของผู้ใหญ่ว่าของเล่นที่ลูกเลือกไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องซื้อ คนเป็นพ่อแม่จะทำอะไรต้องนึกถึงความต้องการของลูกบ้าง (ถึงแม้จะเป็นแค่การเลือกของเล่นให้ลูกก็ตาม) เพราะการที่ลูกถือของเล่นมา แสดงว่าเป็นสิ่งที่ลูกสนใจ ไม่ใช่ยัดเยียดแต่สิ่งที่เราคิดว่าน่าจะดี น่าจะใช่ให้กับลูก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตัดสินใจที่จะซื้อหรือไม่ซื้อให้ลูก ป๊ากะแม่ก็ต้องมีเหตุผลที่ดีด้วยถ้าลูกถามแม่เลยนึกถึงทุกครั้งที่แม่ซื้อของให้ลูก แม่จะมีความสุขกับการเลือกซื้อของ อันนั้นก็ดี อันนี้ก็น่ารัก เลือกๆๆๆๆแล้วก็เลือกชิ้นที่น่ารักที่สุด เพราะคิดว่าน่าจะถูกใจลูกมากที่สุด (ก็มันน่ารักคิกขุปานนั้น ไม่ถูกใจได้งัย) เวลาซื้อทีไร(แม่)สุขใจทุกที ยิ่งถ้าซื้อมาแล้วอันไหนที่ลูกชอบ แม่จะมีความสุขไปด้วย (ดีไม่ดี สุขยิ่งกว่าลูกอีก) ดูอย่างรถจักรยานที่อาม่าอุตส่าห์เอาขึ้นรถแท็กซี่มาให้ที่บ้านดิ่ เพราะกิเลสของแม่แท้ๆ หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมให้ป๊าซื้อในโลตัส เพียงแค่แม่อยากให้พี่ป่านขี่จักรยานลายคิตตี้น่ารักๆ (เพื่อสนองนี้ดแม่เท่านั้นเอง) ...แต่จักรยานคิตตี้ก็น่ารักจริงๆเนอะ แหะๆ ขอแอบคิกขุอีกซักหนละกันน่าพอมาย้อนดูตัวเอง จริงๆมันคือการซื้อสนองความต้องการของแม่เองตะหาก ทั้งที่ถ้าแม่ซื้อของอย่างอื่นให้ลูกโดยที่ไม่ต้องน่ารักคิกขุมีลายการ์ตูนชื่อดัง ลูกก็อาจจะชอบเหมือนกันก็ได้ ใครจะไปรู้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ป๊ากะแม่เคยคุยกันไว้ว่าเราจะเลี้ยงลูกให้มีอิสระในการคิดและตัดสินใจ จะรับฟังความเห็นและความต้องการของลูกเสมอ แต่ดูสิแม่เลี้ยงหนูมาแค่ 2 ปีเศษ แม่ก็เริ่มเป็นเผด็จการแม้แต่เรื่องเล็กๆอย่างเรื่องของเล่นซะแล้วจากคำพูดทั้งหมดของป๊าในตอนนั้นทำให้แม่คิดได้ความหวังดีของแม่ (ที่คิดว่าในโลกนี้ไม่มีใครหวังดีกับลูกของแม่ได้เท่าแม่คนนี้อีกแล้ว) บางทีก็อาจจะเป็นการทำร้ายลูกทางอ้อมโดยที่แม่ไม่รู้ตัวได้เหมือนกัน คงคล้ายๆกับหัวข้อ แม่จะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก? จากบล็อกของป้านัด [NostalgiA]บางคนอาจมองว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย แต่สำหรับแม่พอมีป๊ามาเตือนสติ ทำให้คิดได้ว่าอย่ามองข้ามจุดเล็กๆ เพราะมันอาจกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ในอนาคตได้แม่อยากให้ลูก 2 คนรู้ไว้ว่านอกจากแม่แล้ว ยังมีป๊าที่รักหนูมากๆและหวังดีกับหนูเสมอนะจ๊ะแม่ขอโทษและรักหนูมากๆจ้ะ
YingLek : ใช่จ้า เด็กๆโตขึ้นเยอะมากเลย นี่ก็ไปโรงเรียนกันหลายคนแล้วอ่ะ ลูกเจี๊ยบก็โตแล้วนะเนี่ย[NostalgiA] : อยากอัพอยูเฟร้ย นี่ save as draft มาตั้งหลายหนแล้วอ่ะ กว่าจะได้ publish ...เห็นพี่บอกชอบยาวๆ น้องเลยจัดให้ (แต่น้องจะตายเอานะเนี่ย)between us : ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเป็นประจำค่ะ แถมบอกว่าบล็อกยาว แต่ไม่น่าเบื่อ เปิ้ลเลยมีกำลังใจอีกโขเลยค่ะ พักนี้ทิ้งช่วงยาวหน่อย ขี้เกียจด้วยค่ะ บางทีเอาลูกเข้านอนแล้วเผลอหลับพร้อมลูก แหะๆ ...ส่วนเรื่องมีตติ้ง แม่ๆไม่เบื่อค่ะ เพราะได้ไปเม้าท์กัน ส่วนพ่อๆนี่อาจจะแอบเบื่อ ฮิๆ แต่เด็กวัยนี้ เค้าไม่ค่อยเล่นด้วยกันอ่ะค่ะ หยิบของเล่นที่สนใจแล้วก็ต่างคนต่างเล่นมล : เอาเลย นัดได้เลย วันไหนอยากกินอะไรนัดมา แต่มลต้องรักษาสุขภาพด้วยนะ แข็งแรงๆ จะได้มีน้องอ่ะจ้าหมูเหมียว : คุณหนึ่งคะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเป็นประจำค่ะ เปิ้ลไม่ค่อยได้เข้าบล็อกเท่าไหร่ แต่เปิดทีไรก็พยายามตามไปเยี่ยมให้ครบๆ (อาจจะมีหลงลืมบ้าง แหะๆ) ...สงสัยคำตอบของคุณหนึ่ง อาจจะเป็นว่า "แม่หลับก่อนสองลิง" รึเปล่าคะ เพราะบางทีเปิ้ลก็มีแนวนั้นเหมือนกัน
ตอนนี้ก็อ่านหนังสือ เมื่อลูกท้าทายคุณ ก็ได้ข้อคิดอะไรอีกเยอะเลย แต่ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ปรับ ๆ ไปใช้เท่าที่พอทำได้
สุดท้าย จักรยานหวานแหววมาก ๆ เลยจ้า ของลูกเจี๊ยบว่าจะซื้อตอนสามขวบรอให้ขายาวยันพื้นได้หน่อย ค่อยซื้อจ้า