ตายแล้วไปไหน?
สวัสดีครับ...วันนี้ผมจะมาเขียนบล็อกเกี่ยวกับเรื่องราวตายแล้วไปไหนนะครับ ตั้งแต่ใช้ชีวิตมาตลอดหลายปี ผมสงสัยมาเสมอว่า คนเราตายแล้วไปไหน? เวลาผมไปถามใครต่อใครก็ได้คำตอบที่ไม่แตกต่างกันคือ ไปตามกรรมทั้งดีและชั่ว
จนมีอยู่วันหนึ่งผมได้เปิดโอกาสให้ได้ตั้งโจทย์บล็อกตามโครงการ Blog Writing On Request ตามปกติก็ได้โจทย์นึงได้ให้เขียนเรื่อง ตายแล้วไปไหน? เรื่องนี้ผมเองก็คิดว่าน่าสนใจเริ่มถามจากคนรอบข้างและหาข้อมูลอินเตอร์เน็ต
คำถามที่ว่า ตายแล้วไปไหน? ในเรื่องนี้เท่าที่ผมได้ศึกษามาระยะหนึ่งจากการสืบค้นข้อมูลและสอบถามผู้คนรอบข้างนั้นคำตอบของเรื่องนี้จะมีอยู่ 2 ประการ
1 การตายแล้วดับสูญ ไม่มีโลกหน้า ในส่วนที่มีความเชื่อว่า คนเรามีชีวิตแค่ร่างกายและจิตใจเท่านั้น ไม่มีจิตวิญญาณ เมื่อร่างกายตายไปแล้วทุกอย่างคือจบสิ้นและร่างกายก็กลายเป็นผงธุลีเท่านั้น ไม่มีการคิดถึงโลกหน้า ไม่มีการคิดถึงบุญกรรมอะไรอีกต่อไป ไม่มีชีวิตหลังความตาย
2 มีชีวิตหลังความตาย มีโลกหน้า นั่นคือการเชื่อว่าคนเรา ประกอบไปด้วย ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เมื่อถึงคราวต้องตาย เราตายแค่ร่างกายเท่านั้น จิตวิญญาณของเรายังคงอยู่ และในเรื่องความเชื่อในเรื่องชีวิตหลังความตายแบ่งไปตามความเชื่อต่างๆได้ 2 ส่วน
ในส่วนแรก มีการเวียนว่ายตายเกิด เป็นความเชื่อที่ว่าการกระทำบนโลกนี้มีผลต่อชีวิตหลังความตาย ถ้าทำบาปกรรมไว้มากก็จะไปเกิดเป็นสัตว์ต่าง ๆ แต่ถ้าทำกรรมดีเยอะ ผลบุญก็จะทำให้ได้เกิดเป็นคนอีกครั้ง และจุดสูงสุดของความเชื่อนี้คือการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด หรือการพ้นทุกข์นั่นเอง แต่ทว่าเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิดก็มีข้อสงสัยบางประการ เช่น ใครเป็นผู้ตัดสินว่าคนไหนควรจะไปเกิดเป็นอะไร คนไหนควรจะพ้นทุกข์ พ้นจากกฎแห่งกรรม เพราะจุดสูงสุดของความเชื่อแบบนี้คือการดับสูญ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก คนที่บรรลุถึงจุดสูงสุดของความเชื่อแบบนี้จึงไม่สามารถตัดสินว่าใครควรกลับชาติไปเกิดเป็นอะไร
ในส่วนที่สอง เป็นเรื่องของความเชื่อเรื่อง สวรรค์-นรก เป็นความเชื่อที่ทุกการกระทำของเราในโลกนี้ มันจะส่งผลในโลกแห่งความตาย ถ้าทำแต่กรรมดี สร้างผลบุญไว้มาก เมื่อตายไป ก็จะได้ขึ้นสวรรค์ แต่ถ้าสร้างบาปสร้างกรรม เมื่อตายไป ก็จะตกนรกภูมิ แต่ทว่า แนวคิดเรื่องนรก-สวรรค์ก็ยังแบ่งเป็นแบบชั่วคราวและถาวร
ในแบบชั่วคราว เป็นความเชื่อที่ว่าการกระทำบนโลกนี้มีผลต่อชีวิตหลังความตาย ถ้าทำบาปกรรมไว้มากก็จะไปเกิดเป็นสัตว์ต่าง ๆ แต่ถ้าทำกรรมดีเยอะ ผลบุญก็จะทำให้ได้เกิดเป็นคนอีกครั้ง และจุดสูงสุดของความเชื่อนี้คือการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด หรือการพ้นทุกข์นั่นเอง อย่างไรก็ตามเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิดก็มีข้อสงสัยบางประการ เช่น ใครเป็นผู้ตัดสินว่าคนไหนควรจะไปเกิดเป็นอะไร คนไหนควรจะพ้นทุกข์ พ้นจากกฎแห่งกรรม เพราะจุดสูงสุดของความเชื่อแบบนี้คือการดับสูญ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก คนที่บรรลุถึงจุดสูงสุดของความเชื่อแบบนี้จึงไม่สามารถตัดสินว่าใครควรกลับชาติไปเกิดเป็นอะไร
ใบแบบถาวร ความเชื่อแบบนี้จะมีมาตรฐานในการดำรงชีวิตบนโลกนี้ ถ้าหากทำตามมาตรฐานได้ก็จะได้อยู่บนสวรรค์นิรันดร์ แต่หากความประพฤติเรายังคงบกพร่องไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เมื่อตายไปก็ต้องรับโทษในนรก
สรุปได้ว่าความเชื่อที่เรายึดถือกันมากที่สุดก็คือ เมื่อเราได้ตายไปแล้วยังคงมีอีกโลกหนึ่งที่คอยเราอยู่ ซึ่งมีนรก มีสวรรค์ ขึ้นอยู่บุญกรรมของแต่ละคนที่สร้างมา และก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละศาสนาด้วยครับ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านงานเขียนของผมครับ
งานเขียนนี้อยู่ภายใต้โครงการพิเศษของผมที่มีชื่อว่า Blog Writing On Request By Nior Heavens Five ซึ่งเป็นโครงการพิเศษที่เปิดโอกาสให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆและแฟนคลับทั้งหลายได้ตั้งโจทย์ว่าอยากให้ผมเขียนบล็อกเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งจะเปิดให้ส่งโจทย์ทาง Insargram Story และ Messenger Story
ผู้มีส่วนร่วมในงานเขียนครั้งนี้ ผู้ตั้งโจทย์ Pluto Heavens Five ผู้เขียน Nior Heavens Five/นักกีฬาอารมณ์ดี/Pakdee Pantee เรียบเรียง Nior Heavens Five ขอขอบคุณข้อมูลจาก Siam Chistian
Create Date : 01 สิงหาคม 2563 |
Last Update : 22 มิถุนายน 2565 0:57:17 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1102 Pageviews. |
|
|
คิดไปก่อนนะคะ..
ว่าจะให้เขียนเรื่องอะไร
แล้วจะมาบอก
Stay safe..
Happy weekend..ค่ะ