ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
ธันวาคม 2566
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 ธันวาคม 2566
 
 

หัวใจของฉัน U are... - บทที่ 10 มนุษย์แม่

๑๐

มนุษย์แม่

 

หลังทานข้าวหมดไปได้ไม่ถึงครึ่งจาน อัญรินทร์วางช้อนส้อม ไม่มีความรู้สึกอยากอาหาร พอลุกขึ้นยืน ก็ไม่ลืมที่จะพูดคุยกับมารดา

“สุขสันต์วันเกิดค่ะแม่ มีความสุขมากๆ นะคะ”

วันเกิดฉันรึ!

รยาอึ้งไป จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันนี้เป็นวันเกิดตัวเอง คนเป็นแม่ทำหน้าไปไม่เป็น นั่งมองอัญรินทร์ออกไปจากห้องอาหาร โดยมีอัญติกาลุกตามไปด้วย

“คุณพูดกับยัยรินแรงเกินไป” อาณัติบ่นภรรยา คิดอ่อนใจกับรยาที่พูดจารุนแรงกับลูกสาวคนเล็กเสมอ “ยัยรินไม่ใช่เด็กๆ แล้ว บางเรื่องปล่อยๆ ไปบ้างก็ได้นะคุณ”

ภรรยานิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้แบบทุกครั้ง

 

“ริน” อัญติกาเรียกน้องสาว “รอพี่ก่อน”

เจ้าของชื่อชะงักเท้า หันมามองพี่สาว

“พี่อุ้มมีอะไรคะ?”

“พี่ขอโทษ พี่ไม่น่าชวนรินมาเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” น้องสาวส่ายหน้าไม่คิดขุ่นเคืองพี่สาว เธอรู้ตัวดีว่าตนไม่เป็นที่พึงปรารถนาของมารดา เห็นหน้าทีไรก็ไม่พ้นต่อว่า แม้หญิงสาวไม่ชอบแต่ตัดไม่ขาด

...ใครใช้ให้เธอเกิดเป็นลูกสาวของรยาล่ะ

พี่น้องอายุห่างกันสองปีนิดๆ มีใบหน้าสวยคมค่อนข้างคล้ายกัน สูงต่ำกว่ากันเล็กน้อย คนพี่เป็นรองประธานบริษัท มีบุคลิกอ่อนหวานนุ่มนวล ขณะที่คนน้องเป็นหมอจิตเวช กระฉับกระเฉงร่าเริง มีชีวิตชีวา

“อย่าหลอกพี่ พี่รู้จักเราดีนะ” อัญติกาบีบมือน้องสาวไว้ เหมือนให้กำลังใจ

เก่งไปแล้ว สมเป็นพี่สาวฉัน

คนน้องถอนใจเบาๆ ก่อนพูดความจริงออกมา

“จริงอยู่ที่รินรู้สึกไม่ดีบ้าง แต่เดี๋ยวก็หาย พี่อุ้มไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ”

“พูดซะพี่รู้สึกผิดเลยนะ”

“พวกเราน่าจะชินกับเรื่องนี้ได้แล้วนะคะ” หมอสาวพูดเสียงเรียบ หลังเป็นฝ่ายโดนกระทำมาหลายปี พอทำงานจึงหาคอนโดอยู่ จึงกลับบ้านน้อยมาก ไม่อยากจิตตกโดยไม่จำเป็น

...กับคนบางประเภทต้องถอยห่าง เพื่อสุขภาพจิตของตัวเอง

“เดี๋ยวนี้ปากร้ายนะเรา” คนพี่ค้อนหมั่นไส้ เหมือนอีกฝ่ายพูดราวกับมารดาเป็นตัวร้าย

อัญรินทร์ยิ้มอ่อน

“รินไม่ได้พูดอะไรไม่ดีสักหน่อย...แค่พูดความจริงเฉยๆ”

มันก็จริงหรอก

อัญติกาถอนใจไม่รู้จะแก้แทนมารดาได้อย่างไร จึงเปลี่ยนเรื่องคุยที่น่าฟังมากกว่า

“ว่าแต่เราเถอะ โสดมาตั้งนาน เจอคนถูกใจหรือยัง?”

แม้จะเจอกันไม่บ่อย แต่ก็เขียนไลน์คุยกันสม่ำเสมอ บางทีก็นัดกินข้าวนอกบ้าน นับเป็นพี่น้องที่รักใคร่กันดี

“ก็มีคุยๆ อยู่ค่ะ” หมอสาวไม่กล้าบอกว่า สนิทกันมากจนต้องคุยบนเตียง คุยข้ามคืนกันเลยทีเดียว

“เป็นใครเหรอ?”

“รุ่นพี่ที่ทำงานเดียวกันค่ะ”

“หมอ?”

“ไม่ใช่ค่ะ ไว้ให้ชัวร์ก่อนรินค่อยรายงานนะคะ”

“อย่าลืมอัพเดทให้พี่รู้ด้วยล่ะ”

“รับทราบค่ะ”

“ว่าแต่พี่อุ้มล่ะ จะแจกการ์ดเมื่อไหร่” น้องสาวย้อนถามบ้าง

อัญติกามีคนรักเป็นลูกชายเพื่อนของมารดา คบหากันมาหลายปี เขาหน้าตาดี เอาอกเอาใจเก่ง ฐานะใกล้เคียงกัน

...แต่บอกไม่ถูกว่าตนชอบหรือไม่ชอบเขากันแน่?

“คงไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก”

“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

“ก็แค่ลางสังหรณ์น่ะ” คนพี่พึมพำ

กลิ่นไม่ค่อยดีเลย...

อัญรินทร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ลางสังหรณ์เริ่มทำงาน

“มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะคะ

“อืม”

“รินกลับก่อนนะคะ”

“ขับรถดีๆ ล่ะ ถึงแล้วก็เขียนมาบอกด้วย” คนพี่บอกอย่างห่วงใย

“โอเคค่ะ” อัญรินทร์รับคำ

หมอสาวไม่ทันจะขยับตัว เสียงหวีดร้องก็ดังขึ้นจากห้องอาหาร

“คุณผู้หญิง! คุณผู้หญิงคะ!”

“เกิดอะไรขึ้น?” คนพี่ทำหน้าสับสน

“ไปดูกันเถอะ” คนน้องชวน รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี

สองพี่น้องรีบก้าวยาวๆ กลับเข้าไปห้องอาหาร

 

“แม่เป็นอะไรคะพ่อ!” อัญติกาถามบิดาอย่างตกใจ

ขณะที่อัญรินทร์กำหมัดข้างตัว ยืนมองนิ่ง ภาพแบบนี้เป็นสิ่งที่เธอเห็นจนชินตาในฐานะหมอ แต่กระนั้นก็เหมือนมีอะไรบีบรัดหัวใจที่เห็นมารดาอยู่ในสภาพนี้

อย่าเป็นอะไรนะคะแม่!

“ริน โทรเรียกรถฉุกเฉินเร็ว” อาณัติที่กำลังปั๊มหัวใจของรยาหันมาสั่งลูกสาวคนเล็ก

“ค่ะ” หมอสาวหยิบมือถือกดเบอร์ที่ทำงานของตน พร้อมแจ้งขอความช่วยเหลืออย่างชัดถ้อยชัดคำสมกับเป็นหมอตัวจริง ไม่กี่อึดใจก็กดวางสาย

“รถฉุกเฉินจะมาถึงภายในสิบนาทีค่ะ”

“อืม” อาณัติพยักหน้ารับรู้ เขายังคงปั๊มหัวใจของภรรยาต่อเนื่องสลับกับ CPR จนเหงื่อท่วม แต่ไม่คิดยอมหยุด ชีวิตของสตรีผู้นี้อยู่ในเงื้อมมือของเขา

“ฟื้นสิรยา อย่ายอมแพ้ง่ายๆ นะ”

ไม่นานรยาก็กลับมาหายใจด้วยตนเอง

ทุกคนในบ้านที่ยืนลุ้นใจระทึกพลันโล่งอก ไม่กี่นาทีต่อมา รถฉุกเฉินมาถึง นำตัวคนป่วยไปโรงพยาบาลทันที

 

“ตกลงแม่เป็นอะไรคะพ่อ?” อัญรินทร์ถามบิดา ขณะอยู่หน้าห้องฉุกเฉินกันสามคนพ่อลูก

“ผลตรวจล่าสุดไม่ค่อยดีเรื่องความดันกับหัวใจ พ่อบอกให้แม่ไปตรวจให้ละเอียด แต่แม่บอกว่าไม่ว่าง”

หมอใหญ่ถอนใจกับความดื้อรั้นของรยา ที่เห็นงานสำคัญยิ่งกว่าสุขภาพ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ หากพูดว่ารยารักงานยิ่งกว่ารักครอบครัวก็คงไม่ผิดนัก

เป็นประธานจะหยุดงานสักกี่วันก็ได้ แต่บอกไม่ว่างตรวจสุขภาพ ...เยี่ยม!

อัญรินทร์คิดประชดในใจ รู้ดีว่าบิดาคงทำอะไรไม่ได้มากนัก หลังมารดาดื้อรั้นหัวแข็ง เป็นสตรีที่รับมือยากยิ่งในปฐพี

“หวังว่าจะไม่เป็นอะไรมาก”

คนเป็นพ่อได้แต่พยักหน้า ด้วยสีหน้าไม่ดีนัก การสนทนาหยุดไปเกือบนาที เขาจึงพูดขึ้น

“ลูกโกรธแม่เขาหรือเปล่า?”

ถ้าบอกไม่โกรธ ก็คงโกหก

หมอสาวเม้มริมฝีปาก สบตาบิดา

“ก็มีบ้างค่ะ แต่รินก็เข้าใจแม่นะคะ” หญิงสาวฝืนยิ้ม “หลายเรื่องที่รินไม่ทำตามที่แม่ต้องการ ไม่ว่าจะเรื่องคนรัก เรื่องเรียน หรือเรื่องงาน รินดื้อที่จะเป็นหมอให้ได้ ไม่ชอบแบบที่แม่อยากให้เป็นสักอย่าง”

พอย้อนคิดถึงความหลัง อัญรินทร์ทำตัวไม่น่ารักกับรยาไว้เยอะเหมือนกัน

แม่ลูกหัวดื้อพอกันจริงๆ

อาณัติส่ายหัว

“จริงๆ แม่เค้าไม่ได้เกลียดลูกหรอกนะ”

“รินทราบค่ะพ่อ”

การเป็นหมอจิตเวช ทำให้เข้าใจความนึกคิดของผู้คนมากขึ้น และผู้ที่ทำให้เธอเรียนสาขานี้...เป็นความดีความชอบของคุณรยาโดยแท้

“ร่าเริงกันหน่อยค่ะ แม่ของเราเข้มแข็งมาก แม่ต้องไม่เป็นอะไร” อัญติกาที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นบ้าง

สองคนที่เหลือพยักหน้าเห็นด้วย

...ค่ำคืนนี้ เป็นคืนที่ยาวนานสำหรับครอบครัวนี้

OoXoO

อาการของคุณรยาจะเป็นอย่างไร? ความรักของหมอรินกับพี่ยูจะแฮปปี้หรือไม่? และบทสรุปอื่นๆ อ่านฉบับเต็มได้ที่ MEB นะคะ




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2566
0 comments
Last Update : 13 ธันวาคม 2566 14:22:37 น.
Counter : 828 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com