ช่วงนี้ปูทะเลไข่จะตู้มมาก ซึ่งทุกปีเรากับน้องชายจะจดจ่อรอคอยเพื่อไปสอยปูไข่กินให้สะใจแบบไม่เกรงใจไขมันอุดตัน พอได้ปูมาก็เอามาทำสารพัดเมนู ที่เน้นๆ กินแบบไม่เสียของก็ต้องเอามานึ่งจิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บๆ แค่นี้ก็ฟินเฟร่อไปหลายวันแต่....พอเห็นปูไข่ก็อดนึกถึงแกงคั่วไม่ได้ โดยเฉพาะแกงคั่วหน่อไม้ดองของโปรดตอนหลังไม่ค่อยได้ทำแกงหน่อไม้ดอง เพราะแม่บ่นว่ากินแล้วปวดเมื่อยบ้าง เหม็นบ้าง ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นแกงโปรดของแม่เลยน๊า เดี๋ยวนี้บ่นยังกะคนท้อง แพ้โน่น เหม็นนี่ก็ต้องเข้าใจแหละค่ะเรื่องปกติ พออายุมากขึ้น ก็จะเบื่อโน่นนี่และมีข้อติข้ออ้างไปเรื่อยอย่าแอบนินทาเลย เพราะที่เราเคยแอบบ่นแม่ ตอนนี้เราก็เริ่มเป็นไปหลายอย่างแล้ว อุอุ ปูทะเลเรามีเจ้าประจำอยู่ที่ริมทางรถไฟตลาดหุบร่มที่แม่กลองค่ะราคาอาจสูงกว่าบางเจ้า แต่ไม่เคยผิดหวังสักรอบ วันนัันได้ปูมา 3 ไซส์ มีแบบ 2 ตัวโลเอามานึ่งทานกับน้ำจิ้มแซ่บๆ แบบตัวเดียวกินคนเดียวแทบจะจุกแอ๊กๆ เพราะมีแต่ไข่เน้นๆ ได้ขนาดประมาณ 3-4 ตัวโลมาด้วย ราคาย่อมลงมาหน่อย อ่ะนะ จะซื้อแต่ขนาด 2 ตัวโลมาทั้งหมดก็เกรงใจกระเป๋า เลยซื้อทั้งสองขนาดเอามากินถัวๆ แล้วกัน ใหญ่บ้างเล็กบ้างและได้ไซส์เล็กประมาณ 6 ตัวโลมา 20 กว่าตัว เอามาดองน้ำปลาเอาไว้ทำส้มตำกับทำน้ำราดแซ่บๆ จี๊ดๆ โอ๊ย...พูดแล้วเปรี้ยวปาก ใครที่ชอบปูไข่แบบเราแนะนำรีบไปสอยมาเลยนะค๊า รับรองไม่ผิดหวัง ไข่ปูปูดอัดแน่นแทบจะทะลักออกนอกกระดอง และยังแทรกซึมไปทุกอณูเนื้อตัดเล็บ เลาะกระดอง ผ่าครึ่ง ค่อยๆ ล้างน๊า เดี๋ยวไข่จะไหลหนีไปหมด และสะเด็ดน้ำพักไว้...หม้อนี้เราใช้ปูไซส์ 3 ตัวโล ใช้ไป 2 ตัวบุบก้ามปูให้แตกซะหน่อยก็ดีค่ะ น้ำแกงจะได้เข้า เวลาทานก็ง่ายด้วยหน่อไม้ดองปริมาณตามชอบ เราชอบหน่อไม้แยะๆ ใช้ประมาณ 700 กรัมค่ะหน่อไม้ดองที่เปรี้ยวจะกลิ่นแรงม๊าก ตอนทำแม่บ่นว่าเหม็นหน่อไม้แต่พอทำเสร็จแม่ก็ทานด้วย ทีอย่างนี้บ่นอย่างเดียวว่าอร่อย หน่อไม้ดองกลิ่นไม่แรงก็จะไม่เปรี้ยว แต่ถ้ากินแกงหน่อไม้ดองไม่เปรี้ยวก็ทำแกงหน่อไม้ไม่ดองแล้วกัน เลือกหน่อไม้ที่ไม่ขาวจัวะมั่นใจไม่ใส่สารฟอกขาว รสก็เปรี้ยวกำลังดีไม่ดองจนเหม็นโอ่ล้าง 2-3 น้ำแล้วบีบให้แห้ง นำไปต้มไฟกลางๆ จนหน่อไม้นิ่มและพักไว้....ถ้าเป็นหน่อไม้ดองที่เหม็นโอ่ต้องล้างหลายน้ำหน่อยนะคะ หรือจะใช้เกลือหรือน้ำมะขามเปียกขยำช่วยก็ได้เครื่องแกงคั่วต่างกับเครื่องแกงแดงหรือแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีลูกผักชี ยี่หร่าถ้าจะตำเครื่องแกงเองก็ตามนี้ แต่ให้หนักผิวมะกรูดเข้าไว้ข่า ตะไคร้ กระเทียมไทย ผิวมะกรูด หอมแดง พริกแห้ง กะปิเราไม่ขยันตำเลยใช้น้ำพริกแกงแดงหรือแกงเผ็ดประมาณ 110 กรัม เพิ่มกะปิลงไปอีกประมาณ 1 ช้อนชา ใช้กะทิถุงประมาณ 600 กรัมค่ะ ละลายน้ำพริกแกง กะปิ กับกะทิคนให้ละลายเข้ากันเค้าว่าแกงคั่วจะไม่แตกมันเหมือนแกงเผ็ด แต่เราชอบแบบนั้นนะสีสวยดี ^^เติมน้ำทีละน้อยให้มีน้ำแกงพอประมาณ เอาปูลงผัดให้ทั่วใส่ปูที่ผัดเครื่องแกงลงไปในหม้อหน้อไม้ดอง เติมกะทิลงไปอีกส่วนและน้ำสะอาดปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊ป น้ำปลาเราปรุงรสเปรี้ยวนำหวานน้อยกลมกล่อมและตามด้วยเค็ม ใส่กะทิที่เหลือ ฉีกใบมะกรูดลงไป พอเดือดปิดเตา....หลายคนคงสงสัยว่าหน่อไม้ก็เปรี้ยวอยู่แล้วแต่ทำไมยังต้องใส่น้ำมะขามเปียกอีกเมื่อก่อนเราก็สงสัยเหมือนกันค่ะ แต่พอใส่น้ำมะขามเปียกแล้วทำให้รสเปรี้ยวกลมกล่อมขึ้นจริงๆแกงพอให้ปูสุก อย่าตั้งไฟนานนะคะ เนื้อปูจะแข็งไม่อร่อยเราชอบแบบน้ำข้นขลุกขลิกค่ะ และมันปูไข่ปูที่ทะลักออกมาจากตัวทำให้น้ำแกงทั้งมันทั้งข้นเข้าไปอีก แต่ถ้าชอบน้ำแกงใสหน่อยก็เติมน้ำเพิ่มตามต้องการแกงนี้ทำเสร็จแล้วอร่อยนะค๊า แต่ครัวงี้เละเชียว แถมยังมีทั้งคราบ ทั้งมัน ทั้งกลิ่นติดหม้อ ติดจานชามอีกเพียบทั้ง คาวปู มันกะทิ กลิ่นหน่อไม้ดอง แล้วยังคราบจากน้ำมะขามเปียกที่คั้นเองจนเละอีกแต่ครั้งนี้เราไม่กลัวค่ะ เพราะบริษัท อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ จำกัดส่ง gift set ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานซันไลต์ เนเจอร์ ขวดสีขาวมาให้ทดลองใช้พอดีซันไลต์ เนเจอร์ ขวดสีขาว! กับส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งเกลือ ชาขาว และมะนาว ใช้แค่นิดเดียว ช่วยขจัดกลิ่นอาหารและสิ่งตกค้างบนจานชามได้อย่างปลอดภัย และยังช่วยขจัดคราบมันได้อย่างง่ายดายและหมดจด แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยให้จานชามและภาชนะทุกชิ้นปลอดกลิ่นและสิ่งตกค้าง ขนาดแม่บ่นๆ ว่าเหม็นกลิ่นหน่อไม้ดอง ยังกล้าท้าพิสูจน์ว่าไม่มีกลิ่นหลงเหลืออยู่....แม้จะกลิ่นแรงแค่ไหน "ซันไลต์ เนเจอร์" เอาอยู่จริงของดีแบบนี้รู้แล้วก็ต้องบอกต่อจ้า ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ ซันไลต์ เนเจอร์ ได้ทาง https://www.facebook.com/SunlightTH