ชะคราม หรือในบางพื้นที่อาจจะเรียกว่า ชักคราม หรือ ส่าคราม เป็นไม้ล้มลุก และเป็นวัชพืชที่เจริญเติบโตได้ง่ายในบริเวณที่ดินเค็ม ใบของชะครามจะดูดเอาความเค็มของเกลือจากดินมาเก็บไว้ จึงทำให้ใบมีรสเค็ม ซึ่งเมื่อใบชะครามแก่ขึ้นเรื่อยๆ ความเค็มก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย ฉะนั้น เวลาจะเลือกชะครามมาปรุงอาหารให้เลือกใช้ใบอ่อน นำมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วต้มคั้นน้ำทิ้งไป 2-3 ครั้งเพื่อให้ลดความเค็มลง จากนั้นก็นำไปทำอาหารจานเด็ดได้เลย ซึ่งก็ทำได้หลากหลายเมนู อย่างเช่น ยำชะคราม ใส่ลงไปในแกงเผ็ดกับปูหรือกุ้ง ทำเป็นผักลวกจิ้มราดกะทิกินคู่กับน้ำพริก นำไปใส่ไข่เจียวแทนชะอม หรือเอาใบชะครามไปชุบแป้งทอดก็อร่อยเหมือนกัน นอกจากจะเป็นส่วนประกอบในอาหารหลายจานแล้ว ชะครามก็ยังมีสารอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็ง ที่เริ่มมีผู้สนใจทำวิจัยสาระสำคัญในชะครามเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในภายภาคหน้า ในส่วนรากของชะคราม ให้กินเป็นยาบำรุงกระดูก แก้พิษฝีภายใน ดับพิษในกระดูก แก้น้ำเหลืองเสีย ผื่นคัน แก้โรคผิวหนังและเส้นเอ็นพิการ ลำต้นและใบของชะครามก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเราเช่นกันเพราะตัวชะครามดูดเกลือจากดินมาเก็บไว้ ทำให้มีธาตุไอโอดีนสะสมอยู่ ซึ่งสามารถป้องกันโรคคอพอกได้ และยังมีสรรพคุณใช้รักษารากผม แก้ผมร่วงได้ด้วย....ขอบคุณข้อมูลใบชะครามจากเวป manager.comถ้าไปทานอาหารทางสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ร้านอาหารแทบจะทุกร้านจะต้องมีเมนูใบชะครามไม่ว่าจะเอามาแกง มายำ มาลวกราดกะทิทานกับน้ำพริก และแกงยอดฮิตคือแกงปูไข่ใบชะคราม รสชาติความเค็มและมันของใบชะครามเข้ากับปูไข่ เครื่องแกงและกะทิได้อย่างกลมกล่อม ทำแกงนี้ต้องเป็นปูไข่จะหวาน มัน อร่อยมากล้างทำความสะอาดปูตัวใหญ่ก็ตัดแบ่ง 4 ส่วน ถ้าปูตัวเล็กตัดครึ่งก็พอค่ะใบชะครามสดเก็บไว้ข้ามวันใบจะเริ่มเน่า พอได้มาให้ต้มคั้นน้ำทิ้งหลายๆ น้ำและแบ่งเก็บเข้าช่องฟรีสไว้ได้นานแกงปูไข่ใบชะครามตามร้านอาหารบางร้านเป็นแกงคั่วบางร้านเป็นแกงเผ็ดน้ำพริกแกงคั่วกับแกงเผ็ดจะค่อนข้างใกล้เคียงกัน ส่วนผสมหลักมีพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ รากผักชี หอมแดง กระเทียม ผิวมะกรูด เกลือ กะปิต่างกันที่แกงเผ็ดจะเพิ่มยี่หร่าคั่ว ลูกผักชีคั่ว พริกไทยเข้ามาแกงคั่วจะหอมมะกรูด ส่วนแกงเผ็ดจะหอมเครื่องเทศแต่ถ้าไม่มีน้ำพริกแกงคั่วก็กล้อมแกล้มใช้น้ำพริกแกงเผ็ดได้การปรุงแกงคั่วจะเพิ่มน้ำมะขามเปียกลงไปให้มีรสอมเปรี้ยวตัดหวานเล็กน้อยพอกลมกล่อม วันนี้เราปรุงเป็นแกงคั่วค่ะ.....* ปูไข่น้ำหนักประมาณ ุ5-600 กรัม* เครื่องแกง 100 กรัม เพิ่มกะปิอีก 1 หัวแม่มือ * ผัดไฟอ่อนๆ กับน้ำมันเล็กน้อยหรือผัดกับหัวกะทิก็ได้ให้แตกมันน้ำแกงสีจะได้สวย* ระหว่างผัดให้เติมน้ำทีละน้อยเลี้ยงเครื่องแกงไม่ให้ติดกระทะ* เอาปูลงไปผัดให้เข้ากับเครื่องแกงจนสุกก่อนและเอาขึ้นมาพักไว้ที่เอาปูเอาขึ้นมาพักไว้เพราะถ้าเราต้มไปกับใบชะครามเนื้อปูจะหดหมดแต่ถ้าถามว่าถ้ากลัวเนื้อปูหดทำไมไม่ใส่ทีหลัง ก็จะบอกว่าใส่ทีหลังเครื่องแกงก็จะไม่เข้าในเนื้อปู ^^* ใส่กะทิและใส่ใบชะครามที่ต้มคั้นน้ำออกแล้วลงไปต้มจนเดือด* ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาลปี๊ป ถ้าจะปรุงรสเค็มระวังว่าใบชะครามและกะปิจะมีรสเค็มอยู่แล้ว * ใส่ปูกลับลงไป ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป รอน้ำแกงเดือดทั่ว ยกลงจากเตาตักข้าวสวยร้อนๆ มาทานด้วยกัน แต่แกงนี้ขอบอกว่าข้าวสวยจานเดียวไม่พอ ให้ยกมาเป็นหม้อเลยค่ะ ไม่มีปูไข่ก็ใช้ปูไม่ไข่ได้ค่ะ ถ้าไม่มีปูก็เป็นปลาเป็นกุ้งแต่ก็ไม่หวานมันเหมือนปูไข่้ถ้ามีปูไข่แต่ไม่มีใบชะคราม ก็ใช้ใส่ใบชะพลูหรือหน่อไม้ดองหรอยได้เหมือนกันจ้า