บันทึกการเดินทางอิสาน 54>。◕‿◕。<คี่หูลั้ลลา ๒ เฮฮาที่เขื่อนลำตะคองและวิวสองข้างทาง...^♥^
ในทริปนี้ มีคี่หู นาห์ พี่สุ พี่ซิบที่บ้าถ่ายรูป บ้าเก็บภาพ พี่โบกับสามีและลูก คุณแม่พี่โบ สามคนนี้ไม่ค่อยพูดชอบนอนมากกว่า และน้าๆผู้ชายทั้งสามที่เดาไม่ออกว่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ นอกจากจะคุยกันเรื่องในอดีตของน้าๆเมื่อยังหนุ่มๆ
เมื่อเข้าเขตเขื่อนลำตะคอง น้าคนหนึ่งก็เอ่ยออกมาว่าวิวสวย พี่สุก็เลยว่ามากี่ทีไม่เคยจะได้แวะ แวะชมวิว เข้าห้องน้ำกันหน่อยดีกว่านะ พี่เล็กเอ่ยเช่นนั้นเราหรือจะกล้าขัดคำสั่งคนขับรถ พอรถจอดเราก็ลงไปที่หลักกิโลอันใหญ่ยักษ์ทันที ผลัดกันถ่ายรูปด้วยความต้องการบันทึกภาพว่า เราเคยมาเยือนแล้ว
ถัดจากหลักกิโลยักษ์เราก็ไปยังจุดชมวิว เขื่อนลำตะคอง พี่สุพี่ซิบบ่นว่าขาสั่น กลัวความสูงเมื่อมองไปยังสายน้ำสุดลูกหูลูกตา เราก็เลยถ่ายรูปกันเพียงแค่คนละแอคสองแอค ซึ่งก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพธรรมชาติสวยๆมาด้วย เมื่อคิดว่า พอเถอะ เราก็กลับมายังรถตู้เพื่อเดินทางต่อ
แวะปั้มกินกาแฟ วิวสวยมาก ก็อดใจไม่ไหวอีกตามเคย
เข้าเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้นเท่าไหร่(มันยาวไปขอใช้คำว่า อิสานแทน) ก็เจอภาพทุ่งนากว้างใหญ่และชาวนากำลังเกี่ยวข้าว บ้างก็ไถพรวนเตรียมดินเพื่อปลูกพืชผักอย่างอื่นหลังเกี่ยวข้าว มองเพลินจนอดใจไม่ไหวที่จะเก็บภาพเอาไว้ คราวนี้เราไม่ได้แวะที่ไหนระหว่างทาง เรามุ่งตรงไปยังอำเภอเมืองสรวง จังหวัดร้อยเอ็ด แต่ก่อนถึงร้อยเอ็ดเราเจอด่านตรวจของตำรวจ มาจากไหน สงขลา แรงงานต่างด้าวรึเปล่า เอาไปโรงพักทั้งคันรถ นายตำรวจคนดังกล่าวใส่ข้อหาให้หน้าตาเฉย แค่เห็นทะเบียนรถของเราไฮโซมีภาษาปะกิต ผมจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่ร้อยเอ็ด พี่เล็กคนขับรถส่งใบขับขี่และหลักฐานที่ตำรวจเรียกดูให้ขณะบอก แล้วด่านก็เปิดให้เราเดินทางต่อไป ถึงบอกว่ารถเราใช้ผ่านแดนมาเลย์เค้าก็ไม่รู้เรื่อง พี่เล็กว่า แหม หาว่าเราเป็นต่างด้าวจะเอาไปทั้งคนรถ เดี๋ยวก็กินจนมันเลี้ยงไม่ไหวหรอก น้าคนหนึ่งซึ่งร่ำรวยพอใช้บ่นขึ้น ฉันกับพี่ซิบมองหน้ากันหัวเราะกันเบาๆ หน้าเรามันต่างด้าวขนาดนั้นเชียวรึนี่ 555
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงอำเภอเมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ในเวลาเกือบๆสี่โมงเย็น หลังจากที่ทักทายฝากเนื้อฝากตัวกับคุณแม่หนูเล็ก คุณแม่ของพี่ตัวโตสามีพี่โบเรียบร้อยแล้ว คี่หูก็พากันขนกระเป๋าเสื้อผ้าไปยังมุมเดิมที่เคยมาหลับนอนเมื่อสองปีก่อนอย่างรู้งาน ประหนึ่งว่าคุ้นเคยประมาณนั้น ทุ่มกว่าๆคุณแม่หนูเล็กก็เรียกให้ลงมาทานข้าว หุงข้าวไว้นิดเดียวไม่รู้จะทานกันพอไหม คุณแม่หนูเล็กว่างั้น แต่พอเราเปิดดูหม้อหุงข้าวเบอร์สามสิบก็มองหน้ากัน โดยมีคำๆหนึ่งในใจเหมือนกันว่า เต็มหม้ออย่างนี้ไม่น้อยแล้ว สงสัยวันกลับก็กินกันไม่หมด คุณแม่หนูเล็กบอกว่าปกติกินข้าวเหนียวกันเลยหุงข้าวสวยไม่ค่อยจะถูก เราก็เข้าใจ เพราะใช้ชีวิตต่างวิถีชีวิตกัน แต่เราก็อยู่ด้วยกันได้ด้วยสันติไมตรีและอิ่มอร่อยได้ทุกมื้อ^-^
Create Date : 23 ธันวาคม 2554 |
|
27 comments |
Last Update : 23 ธันวาคม 2554 11:48:24 น. |
Counter : 1833 Pageviews. |
|
|
|
เลยบอกว่าคงซนน่าดู 5555555555