แปลเพลง - Starving - Hailee Steinfeld, Gray ft. Zedd - โหยหา

ความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกดีไปทั้งวันคืออะไรครับ?

 

สิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้ว่ายังมีคนเข้ามาอ่านบล๊อกนี้คือจำนวนเค้าเตอร์ที่นับว่าเปิดอ่านกี่ครั้งครับ ถึงแม้รู้ว่ามีคนอ่านน้อยมากๆ หรือสิ่งที่ทำอยู่มันไม่มีคุณค่ากับผู้อ่านแต่ก็ยังจะทำต่อไป หากต้องการสนับสนุนผลงาน ขอเชิญติดตามได้ที่ Blockdit นะครับ คยกันหน่อย ทักทายกันบ้างก็ดีครับ  
https://www.blockdit.com/superficiallynot
จะค่อยๆทยอยนำผลงานเดิมขึ้นไปและลงผลงานใหม่สลับกันไปครับ





พอถูกขอให้แปลเพลงนี้ผมมีความลังเลว่าจะแปลเป็นเวอร์ชั่นหน่อมแน้มดีรึว่าควรแปลเป็นเวอร์ชั่นแซ่บให้คุณรู้ถึงความหมายในความรู้สึกของวัยรุ่นที่เพิ่งจะได้รู้จักกับรสรักครั้งแรกอย่างที่มันสื่อจริงๆในเพลงดี? ลองทายสิครับว่าคนที่ขอให้ผมแปลที่รู้ทักษะการแปลของผมเค้าจะคาดหวังคำแปลแบบไหน? แล้วลองทายสิครับว่าผมซึ่งเป็นคนที่เรียบร้อยมากๆจะเลือกแบบไหน? ผมก็เคยเป็นวัยรุ่นนะเออ :D เตรียมตัวเลยครับ เด็กๆหลบไปก่อนนะลูก เพลงนี้ 18+ จ้า D 555



Starving - Hailee Steinfeld, Grey ft. Zedd
Source:
Hailee Steinfeld Official Youtube Channel

Starving

You know just what to say
Shit, that scares me, I should just walk away
But I can't move my feet
The more that I know you, the more I want to
Something inside me's changed
I was so much younger yesterday, oh

I didn't know that I was starving till I tasted you
Don't need no butterflies when you give me the whole damn zoo
By the way, by the way, you do things to my body
I didn't know that I was starving till I tasted you
By the way, by the way, you do thins to my body
I didn't know that I was starving till I tasted you

You know just how to make my heart beat faster
Emotional earthquake, bring on disaster
You hit me head-on, got me weak in my knees
Yeah, something inside me's changed
I was so much younger yesterday, ye-eah
So much younger yesterday, oh, yeah

I didn't know that I was starving till I tasted you
Don't need no butterflies when you give me the whole damn zoo
By the way, by the way, you do things to my body
I didn't know that I was starving till I tasted you
By the way, by the way, you do things to my body
I didn't know that I was starving till I tasted you

You, yeah, till I tasted you
(I didn't know that I-I didn't know that I-till I tasted you)
By the way, by the way, you do things to my body
I didn't know that I was starving till I tasted you, ooh, ooh, ooh, ooh

Na-na-na-na
Na-na-na-na
The more that I know you, the more i want to
Something inside me's changed
I was so much younger yesterday

โหยหา

เธอรู้ดีว่าต้องพูดกับชั้นยังไง
โอ้นั่นน่ากลัวนะ ชั้นควรเดินหนีไป
แต่เท้ามันไม่ขยับนี่
ยิ่งได้รู้จักเธอชั้นกลับยิ่งถลำลงไป
ตัวชั้นคงเปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อวานชั้นยังเป็นเด็กอยู่เลย โธ่

ไม่เคยรู้เลยชั้นโหยเพียงไหนจนได้ลิ้มลองรสเธอ
ท่าผีเสื้อน่ะธรรมดาไปเลยเมื่อเธอยกมาให้ชั้นทั้งสวนสัตว์
เดี๋ยวนะ เดี๋ยวก่อนนะ เธอทำอะไรกับตัวชั้นเนี่ย
ไม่เคยรู้เลยชั้นโหยเพียงไหนจนได้ลิ้มลองรสเธอ
แต่ก็นะ แต่ก็นะ เธอทำกับร่างกายของชั้น
ไม่เคยรู้เลยว่าชั้นติดใจเพราะได้ลิ้มลองรสเธอ

เธอรู้ดีว่าจะทำให้ชั้นตื่นเต้นได้ยังไง
อารมณ์ปะทุราวแผ่นดินไหว แต่กลัวที่ไหนล่ะจัดมา
เล่นตีแสกหน้าทำชั้นเข่าอ่อนไปเลย
ใช่ บางสิ่งภายในตัวชั้นคงเปลี่ยนไป
เมื่อวานชั้นยังเป็นเด็กอยู่เลย ใช่
ยังเป็นเด็กใสๆไม่ประสาอยู่เลย โธ่

ไม่เคยรู้เลยชั้นโหยเพียงไหนจนได้ลิ้มลองรสเธอ
ท่าผีเสื้อน่ะธรรมดาไปเลยเมื่อเธอยกมาให้ชั้นทั้งสวนสัตว์
เดี๋ยวนะ เดี๋ยวก่อนนะ เธอทำอะไรกับตัวชั้นเนี่ย
ไม่เคยรู้เลยชั้นโหยเพียงไหนจนได้ลิ้มลองรสเธอ
แต่ก็นะ แต่ก็นะ เธอทำกับร่างกายของชั้น
ไม่เคยรู้เลยว่าชั้นติดใจเพราะได้ลิ้มลองรสเธอ

เธอ ใช่ จนได้ลิ้มลองรสเธอ
(ชั้นไม่รู้เลย ชั้นไม่รู้เลย จนได้ลิ้มลองรสเธอ)
แต่ก็นะ แต่ก็นะ เธอทำกับร่างกายของชั้น
ไม่เคยรู้เลยว่าชั้นติดใจเพราะได้ลิ้มสองรสเธอ โอ้...

นะนะนะนะ
นะนะนะนะ
ยิ่งได้รู้จักเธอชั้นยิ่งถลำลึกลงไป
บางสิ่งใจตัวชั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อวานชั้นยังเป็นเด็กอยู่เลย

 

อรรถาธิบาย

อย่างที่เกริ่นไว้ครับว่านี่ไม่ใช่เวอร์ชั่นหน่อมแน้ม ผมต้องซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ในการถ่ายทอดความหมายตามความรู้สึกแต่ผมก็ไม่ใช่คนหยาบคายเช่นกันดังนั้นจะไม่มีภาษาเถื่อนออกมา ดังนี้แล้ว ขอความกรุณาอย่าด่ากันเลยนะครับ :D

เพลงนี้เป็นเพลงที่ทะลึ่งมากมายครับเนื่องจากมีคำว่า tasted you คำว่า starving คำว่า butterflies คำว่า zoo คำว่า emotional earthquake คำว่า weak in my knees ซึ่งจริงๆแล้วคำเหล่านี้มันเป็นคำธรรมดาๆไม่ได้เป็นคำทะลึ่งเลย แต่พอเอามาใช้ในทางทะลึ่งแล้วมัน...เอ่อ... แปลไปยิ้มไปครับ ผู้หญิงที่คิดจะส่งเพลงนี้ให้ผู้ชายเชิญคิดใหม่อีกรอบนะครับ :D อารมณ์เพลงคือ เธอรู้สึกกระเจิดกระเจิงไปจากการที่ได้มีอะไรกับเขาซึ่งทำให้ติดใจและอยากจะทำอีกมากๆ (ถึงขั้น starving อ่ะ คิดดู๊) แล้วก็มานั่งรำพึงรำพันว่า โธ่... วันนี้ชั้นเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อวานชั้นยังเป็นเด็กอยู่เลย

You know just what to say, shit that scares me - "เธอรู้ดีว่าต้องพูดอะไร เฮ้ย นั่นทำให้ชั้นกลัวนะ" ตรงนี้แสดงถึงความกลัวการถูกควบคุมครับ (manipulation) เพราะเค้ารู้ว่าต้องพูดยังไงกับเราและมันอาจจะชักจูงเราไปในทางที่เค้าต้องการได้ ซึ่งมันออกฤทธิ์จริงๆซะด้วยจากท่อนต่อมาเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอควรทำคือต้องเดินหนีไป (I should just walk away) แต่ดันก้าวขาไม่ออกซะนี่ (but I can't move my feet)

The more that I know you, the more I want to - ยิ่งชั้นได้รู้จักเธอชั้นก็ยิ่งอยากรู้จักเธอมากขึ้นไปอีก - มันคือการถลำลึกนั่นเองครับซึ่งถ้าชั้นยังเป็นคนเดิมตามปกติชั้นคงไม่เป็นอย่างนี้หรอก ที่เป็นแบบนี้ได้ก็เพราะชั้นคงต้องเปลี่ยนไปแล้วแน่ๆเลย (something inside me is changed) พอนึกมาถึงตรงนี้ก็เอ๊ะ (by the way) เอะใจครับ เธอทำอะไรกับชั้นรึเปล่า? เธอทำแน่ๆเลย (จริงๆแล้วก็หมายถึงฟีเจอริ่งกันนั่นแหล่ะครับ) (you do things to my body) เธอทำ...กับร่างกายชั้น ข้างในชั้นเลยเปลี่ยนไป เมื่อวานชั้นยังเป็นเด็กอยู่เลย so much younger คืออายุอ่อนมากๆ ก็คือเป็นเด็กนั่นแหล่ะครับ

I didn't know ชั้นไม่รู้เลย that ว่า I was starving ชั้นกำลังอดตาย till I tasted you จนกระทั่งชั้นได้ลิ้มรสเธอ starve/starving นี้เป็นกิริยาต้องการกรรมครับ Oxford Advanced Learner Dictionaries อธิบายว่าคือการเจ็บปวดหรือตายจากการที่มีอาหารไม่พอกิน (to suffer or die because you do not have enough food to eat) ก็คืออดตายนั่นแหล่ะครับ ดังนั้นคำว่า starving อธิบายระดับของความรุนแรงได้ด้วยตัวของมันเองครับ คือรุนแรงมากๆจนถึงตายได้ จำเป็นมากๆ ต้องการมากๆ "อยาก" มากๆนั่นแหล่ะครับ ซึ่งเธอบอกว่า เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจริงๆแล้วเธออยู่ในภาวะอดอยากถึงขนาดอดตายนะเนี่ย จนได้มากินเขานั่นแหล่ะถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วเธออยากขนาดนี้ ง่ายๆก็คือติดใจนั่นแหล่ะครับ

คราวนี้ก็ butterflies สินะ แสลงอย่าง butterflies in one's stomach นั้นเด็กไปเลยครับ แค่ปั่นป่วนในท้องน่ะธรรมดาไปแล้วครับ เค้าลิ้มรสรักกันไปเรียบร้อยแล้วดังนั้นไม่แค่มารู้สึกวูบวาบมวนท้องหน่อมแน้มหรอกครับ butterflies ในทางแซ่บนั้นหมายถึงท่าทำรักแบบหนึ่งครับ (กูเกิ้ลรู้จักครับ ^^') เนื้อเพลงท่อนนี้หมายถึงความเร่าร้อนในการทำรักของฝ่ายชายว่าท่าผีเสื้อน่ะธรรมดาไปเลย (จริงเหรอ?) เมื่อนายเล่นยกมาทั้งสวนสัตว์ โอ้.. นี่มันเทพมาก (ชื่อท่าที่เกี่ยวกับสัตว์นั้นมีมากมายอาทิ Eagle, Rabbit, Toad, Frog, Butterfly, Spider, Snail, Hound, Crouching Tiger, Dolphin และอื่นๆอีกเพียบ ผมรู้เยอะก็เพราะค้นมาน่ะครับ :D 555)

By the way เป็นคำตัดบทครับ ตัดบทในทำนองว่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ ไม่ว่ากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่แต่ถ้าเราอยากเปลี่ยนเรื่องเราจะพูดว่า by the way ก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องต่อไป ดังนั้นคำแปลตรงตัวของมันอาจทำให้เรารู้สึกแปลกๆก็ได้ครับ (แปลไทยว่า อนึ่ง หรือ อีกประการหนึ่ง) ดังนั้นผมเลยแปลแบบนั้น

You know just how to make my heart beat faster ก็ทำนองเดียวกันกับตอนเริ่มต้นครับ เธอรู้ดีว่าจะทำให้ชั้นใจเต้นแรงเต้นเร็วได้ยังไง ภาวะนี้ของหัวใจเราเกิดขึ้นเมื่อเราเหนื่อยและตื่นเต้นครับ ดังนั้น emotional earthquake จึงไม่แค่ทำให้ใจสั่นหวั่นไหวเหมือนที่เด็กๆเป็นกันครับ แต่นี่มันคืออารมณ์ที่ปะทุรุนแรงราวกับเป็นแผ่นดินไหวทางอารมณ์ที่มันเรียกความเหนื่อยเรียกเหงื่อครับ แต่แม่หญิงท่านนี้ นางกลับบอกว่า bring on disaster โอ้แม่เจ้า เอาหายนะนั้นมาเลยสิ หายนะ (disaster) ก็คือ earthquake แผ่นดินไหวตะกี๊น่ะ เอามาเลยสิอย่ารอช้า นางกลัวที่ไหนล่ะครับ จัดมาเลย (bring on)

Head-on แปลว่ามุ่งหน้า hit me head-on ผมเลยแปลว่าตีแสกหน้าไปเลยครับ เล่นกันตรงๆจะๆ บอกให้เธอจัดมากลัวที่ไหน เธอก็จัดมาเล่นซะเข่าอ่อนไปเลย (got me weak in my knees)

นอกนั้นก็วนแล้วครับ

 

เปลี่ยนบรรยากาศกันไปจากเพลงอื่นๆที่ผมเคยแปลนะครับ :D จริงๆแล้วความรู้สึกแบบในเพลงนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นความรู้สึกพิเศษอย่างนึงที่สร้างพลังและกำลังใจให้เราผ่านวันหนึ่งวันไปได้อย่างมีความหมายนะครับ แต่อย่างที่จั่วคำถามไว้ข้างบนครับ หากวันหนึ่งวันของเรามันเป็นไปในทางบั่นทอนทั้งพลังงานและกำลังใจ ถ้าความรู้สึกบางอย่างของเราจะช่วยให้เราสามารถผ่านวันนี้ไปได้ ความรู้สึกนั้นของเราคือความรู้สึกอะไรแบบไหนครับ? ไม่ได้สนับสนุนให้เอาความรู้สึกแบบในเพลงนี้มาเป็นตัวช่วยนะครับ มันเป็นเพียงแค่ตัวอย่างนึงเท่านั้นเอง ส่วนของคุณจะเป็นแบบไหนนั้น คุณเลือกได้ครับ

Happy thinking krub :)

 
<< เพลงที่แล้ว : Mid Air - Paul Buchanan   Starving - Hailee Steinfeld : เพลงถัดไป >>
 



Create Date : 22 พฤษภาคม 2562
Last Update : 29 มกราคม 2563 15:48:34 น.
Counter : 2608 Pageviews.

0 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณtuk-tuk@korat, คุณที่เห็นและเป็นมา

ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Karz
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 126 คน [?]





สงวนลิขสิทธิ์
พฤษภาคม 2562

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog