|
|||||
แปลเพลง - Six degrees of separation - The Script - ทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับ คุณเคยนับบ้างรึเปล่าครับว่าความปวดร้าวจากการอกหักของคุณมีกี่ระดับ? วันนี้ไม่ใช่เพลงประกอบภาพยนตร์ครับ วันก่อนผมเปิดเพลงฟังในรถ ก็ฟังไปเรื่อยๆหลายเพลงผ่านไปก็มีข้ามๆไปบ้าง แล้วก็มาถึงเพลงนึงครับที่จังหวะโดดเด่นใช้ได้ทีเดียว เลยมีความตั้งใจฟังพอที่จะจับคำพูดบางคำในบางประโยคได้ว่าเค้าพูดว่าอะไรบ้าง (ฟังยากจริงๆ^^') แล้วรู้สึกว่า โอ้... เพลงนี้เท่ห์มาก มีการจัดลำดับอะไรด้วย ก็เลยกดดูชื่อเพลงหน่อย แล้วก็ โอ้... อีกรอบ ชื่อเพลงนี้ไม่ธรรมดาครับ เป็นชื่อของทฤษฎีๆนึงครับที่มีชื่อเล่นที่บางท่านอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าเป็นทฤษฎีโลกใบเล็ก คนแต่งเพลงเค้าต้องเอาทฤษฎีนี้มาเปรียบอะไรซักอย่างกับเรื่องความรู้สึกแน่ๆเลย สนใจทันทีครับ แบบนี้ต้องขอแปลซักหน่อยแล้ว :) Six degrees of separation - Script Source: TheScriptVEVO Youtube Official Channel You've read the books, you've watched the shows What's the best way, no one knows You meditate, get hypnotized Anything to take it from your mind But it won't go You're doing all these things out of desperation You're going through six degrees of separation You hit the drinking, take a toke Watch the past go up in smoke Fake a smile, lie and say You're better now than ever and your life's okay But it's not, no You're doing all these things out of desperation You're going through six degrees of separation First, you think the worst is a broken heart What's gonna kill you is the second part And the third, is when your world splits down the middle And fourth, you're gonna think that you fixed yourself Fifth, you see them out with someone else And the sixth, is when you admit that you may have fucked up a little (Oh no there ain't no helping, it's every man for himself) (Oh no there ain't no helping, it's every man for himself) You tell your friends, yea strangers too Anyone who will throw an arm around you Tarot cards, gems and stones Believing all the shit's gonna heal your soul Well it's not, whoa You're only doing things out of desperation You're going through six degrees of separation First, you think the worst is a broken heart What's gonna kill you is the second part And the third, is when your world splits down the middle And fourth, you're gonna think that you fixed yourself Fifth, you see them out with someone else And the sixth, is when you admit that you may have fucked up a little Oh no there's no starting over Without finding closure You take them back no hesitation That's how you know you've reached the sixth degree of separation Oh no there's no starting over Without finding closure You take them back no hesitation That's how you know you've reached the sixth degree of separation First, you think the worst is a broken heart What's gonna kill you is the second part And the third, is when your world splits down the middle And fourth, you're gonna think that you fixed yourself Fifth, you see them out with someone else And the sixth, is when you admit that you may have fucked up a little (Oh no there ain't no helping, to remember one's self) You're going through six degrees of separation (Oh no there ain't no helping, to remember one's self) You're going through six degrees of separation ทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับ จะอ่านหนังสือ หรือจะดูรายการทีวี ยังไม่มีใครรู้วิธีที่ดีที่สุด จะทำสมาธิ หรือไปบำบัดด้วยการสะกดจิต อะไรก็ได้ที่จะช่วยให้เธอเลิกคิด แต่มันก็ไม่เป็นผลหรอก เธอก็แค่ทำสิ่งเหล่านี้ไปเพราะสิ้นหนทางเท่านั้น โอ้... มันไม่ใช่เลย แล้วเธอก็มุ่งเข้าสู่หนทางแห่งทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับ ไม่ว่าจะกินเหล้าเมายา นั่งพี้กัญชา มองดูอดีตที่ผ่านมาลอยคลุ้งไปกับควัน หรือแสร้งแกล้งยิ้ม แล้วโกหกตัวเอง ว่าเทียบชีวิตกับที่ผ่านมามันดียิ่งกว่าโอเค แต่มันก็ไม่ใช่นี่ ไม่ใช่เลย เธอก็แค่ทำสิ่งเหล่านี้ไปเพราะสิ้นหนทางเท่านั้น โอ้... มันไม่ใช่หรอก แล้วเธอก็มุ่งเข้าสู่หนทางแห่งทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับ ระดับแรกแค่หัวใจสลายเธอก็คิดว่ามันแย่ที่สุดแล้ว แต่ส่วนที่จะสามารถฆ่าเธอได้คือความคิดของเธอเอง นั่นยังระดับที่สอง และระดับที่สามจะเกิดเมื่อเธอตระหนักได้ว่าโลกของเธอมันพังทลายไปหมดแล้ว เธอจะคิดว่าทำใจได้ และคิดว่าตัวเองไม่เป็นไรแล้วคือระดับที่สี่ แต่เธอจะเข้าระดับที่ห้าเมื่อรู้ตัวว่าใจเธอยังอยู่กับเค้าอยู่ดี เธอยังไม่ได้หายดี และจะถึงระดับที่หกเมื่อเธอยอมรับได้แล้วว่าเธอเองก็ทำพลาดไปบ้าง (มันไม่มีวิธีช่วยเหลือหรอกนะ ทุกคนต้องช่วยตัวเองนะ) (มันไม่มีวิธีช่วยเหลือหรอกนะ เรื่องแบบนี้ตัวใครตัวมัน) แม้จะเล่าสู่เพื่อนๆเธอ หรือแม้แต่ใครต่อใครฟัง จะเป็นใครก็ได้ที่เข้ามาปลอบใจเธอ หรือไปหาหมอดู ไปดูเพชรพลอยอัญมณี เพราะคิดว่าของพวกนี้จะช่วยรักษาใจเธอ ซึ่งไม่หรอก... ไม่เลย เธอก็แค่ทำสิ่งเหล่านี้ไปเพราะสิ้นหนทางเท่านั้น โอ้... มันไม่ใช่หรอก แล้วเธอก็มุ่งเข้าสู่หนทางแห่งทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับ ระดับแรกแค่หัวใจสลายเธอก็คิดว่ามันแย่ที่สุดแล้ว แต่ส่วนที่จะสามารถฆ่าเธอได้คือความคิดของเธอเอง นั่นยังระดับที่สอง และระดับที่สามจะเกิดเมื่อเธอตระหนักได้ว่าโลกของเธอมันพังทลายไปหมดแล้ว เธอจะคิดว่าทำใจได้ และคิดว่าตัวเองไม่เป็นไรแล้วคือระดับที่สี่ แต่เธอจะเข้าระดับที่ห้าเมื่อรู้ตัวว่าใจเธอยังอยู่กับเค้าอยู่ดี เธอยังไม่ได้หายดี และจะถึงระดับที่หกเมื่อเธอยอมรับได้แล้วว่าเธอเองก็ทำพลาดไปบ้าง โอ... เธอไม่มีทางเริ่มต้นใหม่ได้หรอกหากไม่พยายามจบเรื่องเก่าให้ได้ก่อน ถ้าหากเธอรู้สึกว่ายังวนเวียนคิดถึงความปวดร้าวอยู่อย่างนั้น นั่นแหล่ะคือเครื่องหมายที่จะบ่งบอกว่าเธอเข้ามาสู่ทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับแล้ว โอ... เธอไม่มีทางเริ่มต้นใหม่ได้หรอกหากไม่พยายามจบเรื่องเก่าให้ได้ก่อน ถ้าหากเธอรู้สึกว่ายังวนเวียนคิดถึงความปวดร้าวอยู่อย่างนั้น นั่นแหล่ะคือเครื่องหมายที่จะบ่งบอกว่าเธอเข้ามาสู่ทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับแล้ว ระดับแรกแค่หัวใจสลายเธอก็คิดว่ามันแย่ที่สุดแล้ว แต่ส่วนที่จะสามารถฆ่าเธอได้คือความคิดของเธอเอง นั่นยังระดับที่สอง และระดับที่สามจะเกิดเมื่อเธอตระหนักได้ว่าโลกของเธอมันพังทลายไปหมดแล้ว เธอจะคิดว่าทำใจได้ และคิดว่าตัวเองไม่เป็นไรแล้วคือระดับที่สี่ แต่เธอจะเข้าระดับที่ห้าเมื่อรู้ตัวว่าใจเธอยังอยู่กับเค้าอยู่ดี เธอยังไม่ได้หายดี และจะถึงระดับที่หกเมื่อเธอยอมรับได้แล้วว่าเธอเองก็ทำพลาดไปบ้าง (มันไม่มีวิธีช่วยเหลือหรอกนะ เธอต้องจำเอาไว้เทียบเอง) ถึงทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับนี้ (มันไม่มีวิธีช่วยเหลือหรอกนะ เธอต้องจำเอาไว้เทียบเอง) ถึงทฤษฎีความปวดร้าวหกระดับ อรรถาธิบาย ชื่อเพลงของเพลงนี้เป็นการเล่นคำของการเอาชื่อทฤษฎี Six degrees of separation มาใช้ครับ เป็นทฤษฎีที่มีชื่อเรียกหลายชื่อมาก (ทฤษฎีหกช่วงคน ทฤษฎีความสัมพันธ์หกขั้น ฯลฯ) แต่ชื่อที่น่าจะทำให้คนรู้จักทฤษฎีนี้มากที่สุดน่าจะชื่อทฤษฎีโลกใบเล็กครับ เป็นทฤษฎีที่ว่าคนสองคนที่ไม่เคยรู้จักกันบนโลกนี้ห่างกันไม่เกินหกคนรู้จักครับ เพลงนี้ลักษณะเหมือนเป็นการบรรยายหรือพรีเซนส์ครับ มีบอกอาการ บอกลักษณะ ยกตัวอย่าง จุดสังเกต ข้อแนะนำ สมกับเป็นการบรรยายทฤษฎีทางวิชาการครับ ถึงว่ามันเท่ห์มาก :)
ทฤษฎีความสัมพันธ์โลกใบเล็กหกระดับองศานี้ (ผมตั้งเองประชดชื่อที่มันเยอะจัดน่ะครับ ^^') มีประวัติความเป็นมายาวนานมากแล้วครับตั้งแต่ก่อนยุคสงครามโลกซะอีก เริ่มจากนักเขียนคนนึกมโนขึ้นมาในนิยายของเค้าว่าคนไม่รู้จักกันสองคนอยู่ห่างกันไม่เกินขอบเขตของคนรู้จักกันห้าคนครับ แล้วหลายปีต่อมามีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยทำการทดลองด้วยการส่งจดหมายกระดาษ (สมัยนั้นยังโบราณอยู่) ซึ่งผลสรุปอยู่ที่ 6 คนครับ และผลสรุปนี้เป็นแชมป์อยู่หลายปีจนกระทั่งได้ชื่อนี้ว่า six degree of separation คำว่า separation ตรงนี้ในชื่อทฤษฎีนี้เลยไม่ได้แปลว่าแยกจากกันครับ แต่มันสื่อความรู้สึกประมาณว่าไม่เกี่ยวกันครับ คนที่จะเกี่ยวข้องกันที่สัมพันธ์กันกับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันหกคน ต่อมายุค email ก็มีคนพิสูจน์อีกครับ ซึ่งก็ได้ค่าเฉลี่ยประมาณใกล้เคียงกัน ขยับมาเป็น 5.กว่าๆ แต่พอถึงยุคนี้ครับ facebook ทำให้ตัวเลขนี้มันหดลงอีกแล้ว เหลือประมาณ 4.กว่าๆเท่านั้นเอง หากสนใจทฤษฎีนี้ก็ลองค้นกูเกิ้ลเพิ่มเติมได้ครับมีคนเขียนถึงพอสมควรทีเดียว ผมพยายามจะหา cover ที่ทำออกมาดีฟังนะครับ เพราะเพลงต้นฉบับทำออกมาดีทีเดียว น่าจะมี alternate version ดีๆให้ดูบ้าง แต่ปรากฏว่าไม่มีครับ (ไม่ผ่านเกณฑ์ความชอบขของผม ^^') เพลงนี้ออกมาก็หลายปีแล้ว ผมมันเชยซะขนาดนี้เพราะเพิ่งรู้จักเอง ยังไงก็ enjoy the music ครับ :)
เพลงเท่ดีค่ะ แต่ทฤษฎีนี้มันโหดร้ายจริงๆเลย T^T
ตอนนี้นิคกำลังหาวๆอยู่ค่ะ เลยอ่านไปคร่าวๆก่อนนะ ^^ เรื่องยากๆต้องขอมาย่อยใหม่ แต่พี่ต้นน่ะ ยุ่งๆเหนื่อยๆ ก็พักผ่อนด้วยนะคะ เดี๋ยวจะป่วยไปอีก ยิ้มๆ น๊าา.. :) โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 3 เมษายน 2558 เวลา:23:46:11 น.
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 4 เมษายน 2558 เวลา:13:56:35 น.
แหม่ มันไม่หักบ่อยจนเห็นระดับความต่างหรอกมั้ง ตัวเอง
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog Close To Heaven Food Blog ดู Blog Karz Music Blog ดู Blog ไว้มาคุยใหม่ เน็ตที่นี่ช้าาาาา โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 5 เมษายน 2558 เวลา:21:58:45 น.
สวัสดีค่ะ คุณต้น ^^
หกระดับน่าจะเยอะไปนะคะ ซักสามระดับน่าจะพอ ในชีวิตก็อกหักมาตลอดนะ ฮาาาาาาา ระดับหนึ่งคือคะแนนต่ำสุด สมัยสาว ๆ ก็น่าจะระดับนี้ถี่ ๆ ค่ะ เคยอกหักระดับกลางครั้งเดียว ฮี่ ๆ ========================== บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog Karz Music Blog ดู Blog โดย: ปรัซซี่ วันที่: 6 เมษายน 2558 เวลา:16:03:17 น.
ไม่แน่ใจว่ามีสถานที่ของพระนเรศวรในโคราชหรือเปล่าค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 เมษายน 2558 เวลา:10:40:50 น.
อ่านแล้วรู้สึกโดน คนแต่งเพลงเก่งจังแฮะ
วันนี้โหวตเต็มแล้ว พรุ่งนี้มาโหวตให้นะคะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 เมษายน 2558 เวลา:12:58:51 น.
มาส่งกำลังใจพร้อมกับกล่าวราตรีสวัสดิ์ด้วยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้ ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต กาปอมซ่า Literature Blog ดู Blog newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog haiku Fanclub Blog ดู Blog Karz Music Blog ดู Blog โดย: เนินน้ำ วันที่: 9 เมษายน 2558 เวลา:1:15:59 น.
ขอบคุณค่ะ ชอบเพลงนี้มากเลย
โดย: มะลิ IP: 101.108.104.98 วันที่: 20 มิถุนายน 2559 เวลา:0:16:12 น.
อธิบายดีมากเลยอะ
โดย: AHam IP: 49.49.240.54 วันที่: 7 กันยายน 2559 เวลา:19:35:36 น.
แปลได้ยอดเยี่ยมมากค่ะ ชอบบบ
โดย: PS. IP: 61.90.27.167 วันที่: 9 ธันวาคม 2559 เวลา:21:04:59 น.
แปลได้ยอดเยี่ยมมากค่ะ ชอบบบ
โดย: PS. IP: 183.89.91.192 วันที่: 9 ธันวาคม 2559 เวลา:21:13:23 น.
ภาษาการแปลของคุณดีมากเลยคะ
สวยงามเข้าใจง่าย รู้สึกชอบมากๆเลย =) โดย: w IP: 1.46.200.26 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:7:43:49 น.
แปลได้ยอดเยี่ยมมากค่ะ
โดย: Christie IP: 49.229.58.240 วันที่: 13 มีนาคม 2560 เวลา:8:30:27 น.
เดินคนล่ะทางเหอะ คุณเข้าใจถึงคำว่ารักในนิรันดิ์หรือไม่ แต่ล่ะครั่งกว่าจะผ่านมาได้ใจมันก็เหมือนโดนไฟไม้ ไม้จนกว่าใจของคุณจะไม่มีอารมใดๆทั้งนั้น
โดย: แล้วแต่จะแปลนะ IP: 223.204.240.23 วันที่: 22 กรกฎาคม 2561 เวลา:21:03:59 น.
|
Karz
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 126 คน [?] สงวนลิขสิทธิ์ Group Blog All Blog
|
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
มาฟังเพลงอีกแล้ว ทฤษฏีความอกหักหกระดับ
เก๋มากเลยค่ะ เพลงเพราะนะคะเพิ่งเคยได้ฟังครั้งแรกนี่แหละค่ะ
ได้ความรู้เรื่องการแปล และศัพท์ด้วยค่ะ
ละเอียดมากๆเลย
ชอบมาก ขอบคุณมากๆนะคะ