พิ้งกี้ โชว์แหวนหมั้นกระแทกใจ ธัญญ่า
ทันทีที่พิ้งกี้ยิ้มหน้าระรื่นโชว์แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายในงาน เวสป้าเลิฟเวอร์ ที่คัลเลอร์ เฟรม สตูดิโอ พร้อมกับการแถลงข่าวไม่ลาวงการ แต่ลดแรงกดดันของสังคมด้วยการพักงานชั่วคราวเพื่อไปหาความรู้เพิ่มเติมในต่างประเทศ งานนี้เดาได้เลยว่า รักสามเส้าของ ธัญญ่า - เป๊ก - พิ้งกี้ คงจะไม่จบง่าย เพราะชายเจ้าของแหวน หาใช่ใครอื่น ที่แท้เป็น เป๊ก สัณชัย เองตระกูล คนเดิมเจ้าเก่านั่นเอง
เป๊กดันพิ้งกี้ผ่านวู้ดดี้
รายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย ภาคพิเศษ พิ้งกี้ & วู้ดดี้ที่อินเดีย ถูกกำหนดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทันทีที่คลิปเสียงแพร่ระบาดในโลกอินเmอร์เน็ตอย่างหนัก เขาตัดสินใจบินด่วนไปที่เมืองไฮเดอราบัด ประเทศอินเดียทันที ก่อนที่พิ้งกี้จะมีโปรแกรมเดินทางกลับเมืองไทยเพียงไม่กี่วัน เพื่อมาร่วมงาน เวสป้าเลิฟเวอร์ ที่รับปากไว้ ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่อินเดียครั้งล่าสุด คิวแทรกกะทันหันนี้ว่ากันว่า เป็นความพยายามของ เป๊ก สัณชัย เองตระกูล ที่ต้องการ ฟอกขาว ให้กับพิ้งกี้
เป๊ก สัณชัย เองตระกูลมีสัมพันธ์อันดีกับรายการนี้ เมื่อครั้งที่โฟนอินสดเปิดใจกับรายการ เช้าดู วู้ดดี้ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2553 ตอนนั้นสถานการณ์ของครอบครัว 3 คนอลเวงนี้อยู่ในช่วงข่าวลือว่า ธัญญ่าหอบลูกไปอเมริกา การโฟนอินในวันนั้นเป๊กยอมรับว่า ข่าวที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อหลายคน โดยยืนยันว่า จะแก้ปัญหาครอบครัวทั้งหมดด้วยตัวเอง
รายการ วู้ดดี้ เกิดมาคุย ภาคพิเศษนี้มีเป้าหมายในการเปิดภาพลักษณ์ใหม่ให้กับ พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ในฐานะนางเอกคนไทยที่โกอินเตอร์ไปเป็นหนึ่งในนักแสดงของภาพยนตร์เรื่อง Markของประเทศอินเดีย เป็นภาพยนตร์ในภาษาทมิฬ (อินเดียใต้) เรื่องแรกของพิ้งกี้ที่มีการลงทุนในการสร้างกว่า 60 ล้านบาท และการทำงานของวู้ดดี้ภาคพิเศษนี้ เริ่มจากการปูเรื่องราวในแบบสารคดีท่องเที่ยวในเมืองไฮเดอราบัดโดยมีพิ้งกี้เป็นไกด์ ออกอากาศเทปแรกอิงกระแสเรียกน้ำย่อยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคมและจะต่อตอนที่ 2 ด้วยเรื่องราวรายละเอียดของชีวิตพิ้งกี้ ในวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคมที่จะถึงนี้
คำถามตอนหนึ่งจากการพูดคุยเปิดใจในรายการ
วู้ดดี้ : เวลาที่มีพาดหัวข่าว ภรรยาน้อย ใช้คำแรงๆ ร้องไห้มั้ย ?
พิ้งกี้ : ร้องนะ มันคือความกดดัน แย่งสามีชาวบ้าน ภรรยาน้อย เป็นอะไรที่เราแคร์นะ
วู้ดดี้ : แล้วอ่านข่าวทำไม
พิ้งกี้ : ก็อยากรู้ แต่ยิ่งอ่านยิ่งไม่จบนะ มีเยอะไปหมด
บนสถานการณ์ต่างๆนับแต่ฤดูร้อน เดือนเมษายนที่ผ่านมาถึงช่วงเวลาที่ฤดูกาลกำลังย่างเข้าปลายฝนต้นหนาวอย่างวันนี้ มากกว่า 3 เดือนที่นักแสดงสาวถูกทุกเรื่องราวของข่าวฉาวดิสเครดิตอย่างแรง เพราะความสัมพันธ์ของพิ้งกี้กับเป๊กถูกโยงให้เกี่ยวข้องกับรางวัลพิศวาสบาดใจในเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ ตลอดจนข้าวของต่างๆ โดยมีเป๊กเป็นฝ่ายทุ่มเทให้กับพิ้งกี้ !?
ณ วันที่ เป๊กตัดสินใจเข้าแจ้งความ ณ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และจากปากของสรินยา ไชยเดช แม่ของนางเอกสาวได้ระบุว่า เป๊กโทร.มาถามด้วยความห่วงใย !! จึงเชื่อว่า เรื่องทั้งหมดทั้งคู่น่าจะได้คุยกันเพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์และลดกระแสกับเรื่องดังกล่าว
ฝ่ายชายมีโครงการที่จะไปพบกับธัญญาเรศกับลูกที่เมืองนอกเพื่อปรับความเข้าใจอีกครั้ง (เป็นครั้งที่ 4-5-6 กระมัง !!) ขณะที่พิ้งกี้ หลังกลับจากอินเดียก็รุดเข้าจัดการกับเรื่องของตนเองโดยเปิดใจกับ ปิ่น ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์ บอสใหญ่ของบริษัท ทีวีซีน และไทยทีวีสีช่อง 3 พิ้งกี้ขอถอนตัวออกจากการเป็นนางเอกในละครเรื่อง เงาพราย ละครเรื่องแรกที่พิ้งกี้ร่วมงานกับช่อง 3 หลังจากที่ถูกเฉดออกจากช่อง 7 สี ณ วันนั้น พิ้งกี้วางจุดยืนให้กับตัวเองด้วยการไปเรียนต่อด้านการแสดงเพิ่,เติมที่อินเดีย gพื่อที่จะลดแรงเสียดทานของสังคมที่เกิดขึ้นกับเธออย่างรุนแรง ณ วันนั้น ท่ามกลางสถานการณ์ที่พิ้งกี้ถูกกดดันอย่างหนักจากสังคม มีการปล่อยข่าวว่า พิ้งกี้จะประกาศลาวงการถาวร ในงาน เวสป้าเลิฟเวอร์ เชื่อว่ากรณีนี้น่าจะเป็นการเล่นข่าวเพื่อเรียกความสนใจจากสื่อมวลชนของพีอาร์โพลีพลัส ซึ่งดูแลงานดังกล่าว
ผลกระทบที่เกิดจาก คลิปเสียงพลีชีพ - ตายยกครัว ชุดนี้ ทำให้พิ้งกี้ต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาเรื่องเมียน้อยอย่างเต็มๆ และคลิปเสียงตัวสำคัญที่เป็นถ้อยสนทนาระหว่างธัญญาเรศ - สัณชัย เองตระกูลนั้น น่าจะเกิดขึ้นหลังสุดในช่วงที่ธัญญ่าหอบลูกไปเมืองนอกไม่นาน !! และคลิปนั้นก็ยังระบุความสัมพันธ์ระหว่างเป๊กกับพิ้งกี้อยู่ ดังนั้น
ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องหรืออดีตที่เป๊กเล่าอ้างจึงเป็นแค่ลมปากเท่านั้นเอง
พี่เขาหมั้น กี้ แล้ว
ไฟรัก - ไฟแค้นที่พ่วงตามติดกันมาหลายเดือนระหว่างเมียน้อยอย่าง พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช กับเมียหลวง อย่าง ธัญญาเรศ เองตระกูล คงไม่ได้มอดลงง่ายๆเพียงcค่คนหนึ่งบินไปเคลียร์ และอีกคนบินไปเรียนต่อ เพราะงานอีเวนต์สุดท้ายที่พิ้งกี้ทิ้งทวนไว้ เหมือนจะบอกให้ติดตามซีรีส์ในตอนต่อไป
ลีลาที่พิ้งกี้โยกคลึงเสียดสีอยู่บนอานรถเวสป้าแบบไม่สะดุดด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ไร้ทุกข์ ไม่มีกังวลอีกทั้งไม่สะทกสะท้าน หวั่นเกรงหน้าอินทร์ หน้าพรหม เหยียดยิ้ม โชว์แหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย ผ่านด้วยแววตาแห่งความเชื่อมั่นด้วยบิ๊กอายส์คู่นั้นประหนึ่งจะบ่งบอกถึง ผู้ชนะ กับคู่กรณีในแดนไกล
แหวนเพชรวงนี้ บ้างก็ว่า พิ้งกี้รับหมั้นนักธุรกิจนอกวงการแล้ว แต่ความจริง ไม่ใช่
แหวนปริศนาเพชรน้ำงามวงนี้ พิ้งกี้เริ่มสวมมาตั้งแต่เล่นเปิดกล้องละครเรื่อง เงาพราย โดยพิ้งกี้จะสวมใส่ตลอดเวลาที่ถ่ายทำละครเรื่องนี้ น้ำงามจากเพชรที่ส่องระยับเป็นประกายนี้ เป็นที่สะดุดสายตาของคนในกองถ่ายเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยามที่พิ้งกี้เหยียดนิ้วมองที่วงแหวนและเผลออมยิ้มอยู่บ่อยๆ จนบรรดาช่างหน้า - ช่างผม ที่สงสัยอยากรู้ถึงกับถามนางเอกสาว เธอพูดทีเล่น ทีจริงด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะเบาๆว่า
พี่เขาหมั้นกี้ไว้แล้ว
พี่คนที่พิ้งกี้หมายถึงเป็นใคร !!?
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ปรากฏว่า พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช คบกับใคร นอกจากเป็นข่าวอยู่กับ เป๊ก สัณชัย เองตระกูลสามีของธัญญาเรศเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้น เพชร - เอกอัญมณีของแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายวงนี้ น่าจะบ่งบอกบางเรื่องราวในหัวใจของ เป๊ก สัณชัย.นการตีตราจอง พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ส่วนเมียแต่งในครอบครัวตามกฎหมายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด นับจากนี้ เพราะเรื่องสามคนอลเวงเรื่องนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
แม้ว่า สรินยา ไชยเดช แม่ของนางเอกสาวจะให้สัมภาษณ์ว่า แหวนวงนี้แม่เป็นคนให้พิ้งกี้สวมติดนิ้วไว้ เนื่องจากนิ้วมือของนางเอกสาวไม่มีเครื่องประดับ พร้อมกับบ่นทำนองว่า วันนี้ทุกเรื่องราวรอบตัวของลูกสาวถูกตามเช็กหมด ไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ซึ่งสร้างความอึดอัดใจและลำบากให้คุณแม่กับพิ้งกี้เป็นอย่างมาก
..............
ที่มา ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์