หนึ่งรูปหลากอารมณ์ - ตอน คุยกับท้องฟ้า

มีคนถามฉัน มองฟ้า ฉันมองเห็นอะไรบ้าง เมฆขาว เมฆดำ ฟ้าสีฟ้าจัด ฟ้าสีฟ้าจางๆ ฟ้าสีฟ้าหม่นๆ นก ไฟ ใบไม้ร่วง ใบไม้ที่ยังไม่ร่วง ตึก บางส่วนของหลังคา พระอาทิตย์ ช่องโหว่ของเมฆ ช่องโหว่ของใบไม้ การเดินทางของลม ดอกไม้กำลังร่วง ความว่าง น้ำตาตัวเอง ความไม่มีคน ผ้าที่ตากไว้ กิ่งไม้ เมฆสวยๆ เมฆรูปหอคอย พระจันทร์เสี้ยว กิ่งไม้ ใบไม้เล็กๆ ช่องว่างระหว่างตึก เครื่องบินไอพ่น จิ๊กซอว์ขอบเมฆกับขอบต้นไม้ เมฆวิ่ง อารมณ์ตัวเอง เขาบอกฉันต่อ ให้ฉันเลือกสิ่งที่ฉันเห็นมาสักอย่างหนึ่ง แล้วคุยกับสิ่งที่ฉันเลือกนั้นแล้วคอยดูว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น ฉันพยายามอยู่หลายวัน ผลที่ได้ไม่ต่างกันเท่าไหร่ หลายครั้งที่ฉันเงยหน้ามองฟ้า แล้วเริ่มตั้งคำถาม ..แต่จะถามอะไรล่ะ ฉันจะถามอะไรกับ สิ่งนั้น แล้วมันก็จบลงที่การพยายามตั้งคำถาม แล้วสุดท้ายก็ถามตัวเอง .. นี่เรากำลังทำอะไรอยู่เนี่ย แปลกดีที่การคุยกับ สิ่งนั้น กลายเป็นเรื่องยากได้ขนาดนี้ บางครั้งมันก็จบลงด้วยการไพล่ไปคิดถึงเรื่องอื่น กลายเป็นการคุยกับตัวเอง แทนที่จะได้คุยกับ สิ่งนั้น หรือไม่ก็สร้างบทสนทนาขึ้นมาเอง ราวกับกำลังแต่งนิยายอยู่ก็มี มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ฉันเอ่ยทักทาย สิ่งนั้น แล้วมันก็ยอมคุยกับฉันจนได้ .. สิ่งนั้น บอกฉันว่าเวลาเดิน ควรจะมองทาง ไม่ใช่เอาแต่มองท้องฟ้า ..
อืม.. มองทาง ไม่ใช่มองฟ้า
.. เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกว่า สิ่งนั้น หรือฉันเองกันแน่ ที่พูดประโยคนี้ เมื่อยามสายของวันนี้ ฉันเงยหน้ามองฟ้าอีกครั้ง แดดแรง ฉันจึงหยิบแว่นกันแดดมาสวม ก้อนเมฆรูปร่างประหลาด สีฟ้า ขาว เทา ผสมผสานดูสวยแปลก เมื่อผนวกเข้ากับสีชาของแว่นกันแดดแล้ว ยิ่งแปลกเข้าไปอีก ขาฉันเดินไปเรื่อย จากใต้แสงจ้า เข้าสู่เงาของเมฆก้อนนั้น เงาของเมฆสวยก้อนใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ ใต้เงาเมฆความร้อนของแสงแดดคลายลง ฉันเลื่อนแว่นกันแดดไปคาดไว้บนหัว แล้วเงยหน้าขึ้นฉันอยากมองเมฆด้วยสายตาเปล่าเปลือย เพราะฉันอยากมองเมฆ อยากรู้สึกถึง สิ่งนั้น แบบเต็มๆ ฉันไม่กลัวแสบตา ใช่, ถ้าอยากรู้สึกถึง สิ่งนั้น อย่างเต็มๆ จะมัวกล้าๆ กลัวๆ อยู่ได้อย่างไรเล่า ก็เหมือนกับเวลาที่เรามีความรักต่อ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือ คนใดคนหนึ่ง ความกล้าหาญจะประเดประดังเข้ามา ชีวิตจะแก่นกล้าบ้าบิ่นที่สุด เราจะกล้าทุ่มทุกสิ่งทุกอย่างอย่างไร้ซึ่งความกลัวใดๆ กล้าจะทำในสิ่งที่ไม่เคย กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยสิ้นเชิงกล้าที่จะเสี่ยงรับความผิดหวังหากมันจะต้องเกิดขึ้น เราเปลือยเปล่า เพื่อจะได้ รู้สึกรู้สา กับความรักนั้นให้เต็มเหนี่ยว เราบอบบาง และง่ายต่อการถูกทำร้าย เหมือนดวงตาที่ไร้สิ่งปกป้อง แล้วเมฆก็เคลื่อนผ่านไป แสงจ้าสาดเข้าดวงตาเต็มๆ เมฆก้อนนั้นเปลี่ยนรูปร่างไปแล้ว ไม่เหลือรูปร่างเดิมอีกต่อไป จริงสินะ เงาเมฆที่พื้น แทบจะไม่เคยสะท้อนรูปทรงของมันบนท้องฟ้าเลย อาจจะเพราะเอาเข้าจริงแล้วมันไม่มีจริง และคงจะเพราะแท้จริงแล้วมันว่างเปล่า บางสิ่งบางอย่างดูสวยงามเพียงเมื่อมองไกลๆ และร่มเงาบนพื้นดินก็คงอยู่แค่ชั่วครู่ยามเท่านั้น และเมื่อมันหายไป ดวงตาของเราก็แสบ บางครั้งน้ำตาอาจรื้นขึ้นมา และบางครามันก็รินไหล และเมื่อเวลาของบางสิ่งบางอย่างหมดลง ก็มีอยู่สองทางให้เลือก หนึ่งคือ เฝ้าดูเมฆนั้นเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ เดินตาม วิ่งตาม เงาเมฆนั้นไป ซื้อเวลาทำใจ จนถึงวันที่เมฆก้อนนั้นกลายเป็นฝน และมีเพียงเรายืนเปียกปอนอยู่ตรงนั้น
หรือเราจะเลือกแค่เพียงหันไปมองอีกชั่วครู่ หยิบแว่นกันแดดมาสวม แล้วหันกลับมองตรงไปยังถนนเบื้องหน้า
จริงสินะ สิ่งนั้น บอกให้ฉันมองทาง ไม่ใช่มองท้องฟ้า
Create Date : 13 มีนาคม 2555 |
|
8 comments |
Last Update : 13 มีนาคม 2555 22:50:05 น. |
Counter : 2459 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: naigod 15 เมษายน 2555 11:51:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอกภพ ธุรกิจ IP: 58.8.190.16 24 เมษายน 2555 17:41:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 2 มิถุนายน 2555 5:26:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 มิถุนายน 2555 4:44:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 17 สิงหาคม 2555 6:10:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]

|
Here... I'm on the rooftop
Between... pavement and stars.
Here's... hardly no day nor hardly no night
There're things... half in shadow and half way in light
It's where... I gather my thoughts and grow my dreams
which... are scattered all around
In my words, my songs, my dance.
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สิ่งนั้น
อาจเป็น
ตัวเรา