1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30
ณ ปลายฟ้า...คือเธอ (Love@Horizon) 6... "ช่อคราม"
บทที่ 6
... การเข้ามาใกล้ อาจทำให้เห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า จะได้เห็นในทุกสิ่งที่เป็นเรื่องจริงเสมอไป
ธันวาเริ่มรู้สึกชีวิตของเขาเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น ความคิดที่กลัวจะมีเรื่องวุ่น ๆ กับการอยู่ร่วมกับหญิงสาวต่างแดนไม่ได้เป็นอย่างที่เขาวิตกสักเท่าไร อย่างน้อยวันอาทิตย์นี้ก็ต่างจากวันเสาร์มากมาย มากมายจริง ๆ จนเขาเกือบลืมไปด้วยซ้ำว่ามีเธอคนนั้นอยู่ในบ้านนี้
อย่างน้อยเขาสามารถตื่นสายได้ตามปกติ ที่ออกจะแปลกสักหน่อยคือการมีกาแฟหอมกรุ่นในบ้าน นานมากแล้วที่ไม่ได้ใช้หม้อต้มกาแฟ กาแฟสำหรับเขาหากอยู่บ้านก็เป็นเพียงน้ำร้อน ๆ จากไมโครเวฟและกาแฟสำเร็จรูป แถมด้วยอาหารเช้าไข่ดาว แพนเค้ก และเมเปิ้ลไซรัปที่ตั้งคอยอยู่บนโต๊ะ ไม่รู้มันจะนานแค่ไหนแล้ว แต่อุ่นใหม่อีกครั้ง ก็กลายเป็นอาหารมื้อแรกได้อย่างโอชะ แม้ว่ามันจะเป็นบ่ายแก่แล้วก็ตาม อย่างน้อยมันก็เป็นเรื่องแปลก ๆ ที่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแต่อย่างใด ระหว่างและหลังจากเสร็จอาหารมื้อนั้น เขาไม่ได้ยินเสียงเธอด้วยซ้ำ อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ เธออาจจะอยู่ในห้องหรือที่ใดที่หนึ่งในบ้านหลังนี้ มิฉะนั้นเธอคงไม่ตั้งกาแฟไว้เช่นนี้ หวังว่าเธอคงไม่ได้ออกไปไหนตามลำพัง แต่เธอก็ไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกของการมาเมืองไทยก็ตาม แล้วความสงสัยของเขาก็หมดไปเมื่อเข้ามาในห้องทำงาน ชายหนุ่มมองผ่านกระจกออกไประเบียงด้านหลัง ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนกำลังนอนอ่านหนังสือบนเก้าอี้นอนอย่างมีความสุข... แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่าย สายลมเดือนตุลาคมพัดผ่านมาบางเบา ไม้ใหญ่จากบ้านหลังข้าง ๆ ให้ร่มเงาครึ้ม ธันวาอยู่ที่นี่มากว่าปี เขาไม่เคยใช้ระเบียงหลังบ้านในวันหยุดหรือวันไหน ๆ เลยก็ตาม ดูเธอจะมีมุมสบาย ๆ ที่เขานึกไม่ถึงด้วยซ้ำ ธันวาลอบมองหญิงสาวสลับการอ่านหนังสือตรงหน้า ภาพที่เห็นชวนขบขันอยู่ไม่น้อย เธอผุดลุกผุดนั่ง เหมือนกระวนกระวายใจเดินไปเดินมาสลับกับทอดตัวลงนอน หลายครั้งที่เธอเดินกดโทรศัพท์ในมือ ทั้ง ๆ ที่ยังใส่หูฟังอันใหญ่ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงอย่างเธอจะติดโทรศัพท์ อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอโทรหาใคร อาจเป็นเพื่อนหรือครอบครัวของเธอที่ทางโน้นก็เป็นได้ และมันก็เป็นภาพอยู่แบบนี้เกือบชั่วโมง แม้จะดูเพลินไม่น่าเบื่อ แต่มันก็ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งเกินไป อยากออกไปเที่ยวไหนมั้ย? ธันวาค่อย ๆ เปิดประตูจากห้องทำงานส่งเสียงออกไปนอกระเบียง เงียบไม่มีคำตอบ เธอคงเพลิดเพลินกับเสียงเพลงจนไม่ได้ยินเสียงเขา ธันวาเดินเข้าไปใกล้ ๆ หญิงสาวก่อนถามคำถามเดิมซ้ำอีกครั้ง จนเธอต้องดึงหูฟังออก ว่าอะไรนะคะ? หญิงสาวปิดเครื่องเล่นซีดี ก่อนขยับตัวมาเป็นท่านั่ง อยากออกไปทานข้าวข้างนอกมั้ย? เภตราส่ายหน้าอารมณ์ของเธอหดหู่เกินกว่าจะทำอย่างอื่น คุณฟังเพลงของแม็กเนทด้วยหรือนี่? ธันวาหาคำถามเสหยิบซีดีบนโต๊ะข้างเตียง อัลบั้มโปรดของเขาเสียด้วย... เสียงเพลง Lay Lady Lay เหมือนแว่วมาแต่ไกล... * Stay lady stay, stay with your man awhile. Until the break of day, let me see you make 'em smile
ก็ของคุณหมดแหละ ฟังข้างนอกสบายกว่าฟังในบ้าน...ขอโทษนะคะที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน ธันวาหัวเราะเก้อ ๆ เมื่อมองเห็นเครื่องเล่นซีดีวอล์กแมนกับหูฟังใกล้ ๆ แก้เก้อมองแผ่นซีดีแต่ละแผ่นที่เธอเลือกมาฟัง ตามสบายครับ บอกแล้วไง คุณใช้ของทุกอย่างในบ้านได้หมด...ขอบคุณมากสำหรับอาหารเช้า วันหยุดไม่ได้ทานอะไรอย่างนี้มานาน ชายหนุ่มยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ได้ใส่ใจ เขาเห็นรอยหม่น ๆ บนใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอางนั้น นี่เธอนอนบ้างหรือเปล่านะ หรือว่าเหตุการณ์ที่บ้านเมื่อวานจะทำให้เธอขวัญผวาจนไม่อยากเจอคนไทยคนไหนอีก เมื่อวานนี้ผมต้องขอโทษกับเรื่องที่บ้านอีกหน ไม่คิดว่าเพื่อนนายเมษจะมาป่วน ต้องกลับกันกะทันหันแบบนั้น ธันวาทรุดตัวลงนั่งบนเท้าแขนเก้าอี้ตัวข้าง ๆ แฟนของน้องชายคุณหรือคะ? โอ้หนออะไรทำให้เภตราถามไปแบบนั้น คงเป็นเพราะสิ่งที่กวนใจมาทั้งคืนจนถึงเดี๋ยวนี้ ภาพของผู้หญิงสองคนยังติดอยู่ในความรู้สึก เมษามีเพื่อนเยอะแยะมากมาย แต่เพื่อนที่เข้าออกบ้านของเขา คุ้นเคยกับครอบครัวเขาได้ขนาดนั้น คงไม่น่าจะใช่เพื่อนธรรมดา... ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เพื่อนคนพิเศษต้น ๆ มั้ง นายเมษเขามีเพื่อนสาวหลายคน พิเศษมั่งไม่พิเศษมั่ง จำไม่หวาดไม่ไหว แต่รายนั้น...คนที่ไม่มีใครแนะนำ ดูเหมือนจะชื่อวรรณิศาถ้าจำไม่ผิด เขาค่อนข้างประกาศตัว...อย่างมุ่งมั่นกับนายเมษ เภตรารู้สึกเหมือนข้อมูลใหม่ที่ได้รับทำให้เธอรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ชอบกล เขาไม่ค่อยกินเส้นกับยายกันย์ เคยทะเลาะกันใหญ่โตหลายครั้ง ธันวาเงียบ เริ่มรู้สึกเหมือนไม่ใช่เรื่องที่น่าจะมาขยายต่อให้เธอฟัง เขาแค่ไม่อยากให้เธอรู้สึกแย่ไปกับเหตุการณ์เท่านั้น ธรรมดาของผู้ชายนี่คะ มีเพื่อนสาวเยอะก็เป็นเรื่องธรรมดา ธันวาเลิกคิ้ว ไม่ค่อยแน่ใจว่าเธอหมายถึงตัวน้องชายเขา หรือยังคิดว่าเขาผิดปกติอยู่เหมือนเดิม!! เภตราถอนหายใจเบา ๆ พยายามฝืนพูดออกไป ขณะที่รู้สึกแน่น ๆ จุกอยู่ในหน้าอก ภาพผู้หญิงสองคนวิ่งผ่านเข้ามาในสมองอีกครั้ง เธอเม้มริมฝีปาก นี่พรหมลิขิตเล่นตลกอะไรกับเธอหรือเปล่า ยังไม่ทันเจอเมษา เธอกลับเจอเพื่อนผู้หญิงของเขาถึงสองคน ผู้หญิงสองคนที่แตกต่างกันมากมาย... คนหนึ่งที่เรียบร้อย ไว้ตัว ดูงามสง่ากับนางพญา... กับอีกคนหนึ่งที่ดูสดใส ทันสมัย ปราดเปรียว ราวกับก้าวออกมาจาก แค็ตตาล็อกแฟชั่น... อย่าไปใส่ใจเลยครับ ไม่งั้นได้ปวดหัวสติแตกแบบยายกันย์ ไว้คุณเจอนายเมษแล้วจะรู้ หึหึ... รายนี้มีแต่เรื่องผู้หญิงมาวุ่นวายประจำ ธันวาพูดด้วยอารมณ์ขำ ๆ แต่เภตราไม่ขำด้วย กลับรู้สึกเหมือนเขาเหวี่ยงข้อมูลใหม่มากระแทกหน้าอย่างจัง ตอกย้ำความความคิดที่ฟุ้งซ่าน แล้วโลกทั้งใบก็เริ่มหมุนขว้างขึ้นมาทันควัน ความรู้สึกตื่นเต้นที่ผ่านมาเริ่มเลือนหาย ความรู้สึกแน่น อึดอัด ทุรนทุรายเข้ามาแทน อยากจะถามคำถามอะไรต่ออีกมากมาย แต่ผู้ชายคนนี้จะคิดอย่างไร เธอเดาสถานการณ์ต่อไปไม่ถูก หากธันวารู้ว่าเธอกับเมษานั้นรู้จักกันมาแล้วแถมยังเป็นเพื่อนหญิงอีกคน และน้องชายของเขาที่ทำให้เธอต้องบินข้ามโลกลัดฟ้ามาเช่นนี้ เภตราคิดไม่ตก ในสมองของเธอสับสน อารมณ์มากมายพลุกพล่านอยู่ภายใน ข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับรู้เข้ามา ทั้ง ๆ ที่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง และได้ยินเมื่อครู่ วิ่งชนตีกันจนเหมือนจะทะลักออกมาข้างนอก จนอยากจะถามเรื่องต่าง ๆ ให้มันรู้ชัดเจน นี่มันอะไรกันนี่...แต่คนที่ตอบคำถามได้ดีที่สุดน่าจะเป็นเมษา ไม่ใช่ผู้ชายคนตรงหน้า... เพื่อนสาวหลายคน... นี่เมษากำลังเล่นตลกกับความรู้สึกของเธอหรืออย่างไร... ชั่วแว่บธันวาสังเกตเห็นความผิดปกติของหญิงสาวตรงหน้า รอยริ้วหม่นซึมปรากฏในสีหน้าและดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น เภตรา...คุณโอเคหรือเปล่า? นอนบ้างหรือเปล่านี่? หรือยังเจ็ทแล็กอยู่อีก? ธันวารัวคำถามด้วยความห่วงใย สงสัยคุณอยู่กลางแดดมากไป ที่นี่เมืองไทยนะครับ... ไอแดดตอนบ่าย ๆ แบบนี้ ไม่สบายได้ง่าย ๆ นา ผมว่าคุณเข้าข้างในดีกว่ามั้ง ไม่ทันที่เภตราจะตอบอะไร โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขัดขึ้น เบอร์แปลก ๆ อยู่บนหน้าจอ แต่ทันทีที่ได้ยินเสียงคนในสาย เธอรีบลุกเดินไปยังมุมระเบียงอีกด้าน ราวกลับกลัวว่าเสียงจากโทรศัพท์จะหลุดรอดออกมาด้านนอก ที่รักของผม...สบายดีมั้ย?... เบอร์คุณขึ้นหลายหนเลย เมจเสจเพียบอีกต่างหาก โทษทีนะที่ไม่ได้ติดต่อไป...ทายสิผมอยู่ที่ไหน? เสียงใส ๆ ทักทายมาจนเภตราอยากสลายตัวกลายเป็นลมไปอยู่ใกล้ ๆ เดาไม่ถูกล่ะค่ะ...อยู่ไหนหรือคะ? แต่ที่แน่ ๆ ติดต่อคุณไม่ได้เลย เภตรากัดริมฝีปาก ใจระรัวอยากบอกเขามากกว่านี้ด้วยซ้ำ ตอนนี้อยู่นิวยอร์กกับคุณลุง ท่านชวนมาติดต่องาน...อากาศที่นี่เย็นจัง คิดถึงคุณมากเลยรู้มั้ย...เภตรา คิดถึงผมบ้างมั้ย? เสียงหัวใจเต้นระรัวจนกลบความคิด เธออยากถาม แต่จะบอกเมษาตั้งแต่ตอนนี้จะดีหรือไม่ จริงแล้วเธอตั้งใจบินมาเพื่อจะรู้จักเขาอีกด้านนี่นา... ไม่มีโอกาสเข้าเน็ต ส่งเมลเลย มือถือสัญญาณก็แปลก ๆ ใช้ไม่ได้อีกต่างหาก นี่ต้องแอบหนีคุณลุงมาโทรสาธารณะ ไว้อาทิตย์หน้าผมกลับเมืองไทยแล้วจะโทรหาคุณอีกทีนะ เภตราแทบจะไม่ได้พูดอะไรออกไป แค่ได้ยินเสียงเธออยากได้ยินเสียงเขาอยู่อย่างนี้มากกว่าที่จะพูดอะไรออกไป ... อาทิตย์หน้าหรือ ก็ไหนพี่สาวเขาว่าอีกสองอาทิตย์นี่นา...แต่ช่างเถอะ อย่างน้อยเธอก็จะได้เจอเมษาเร็วขึ้น... กี่โมงแล้วคะ?...แล้วทำไมใช้เครื่องสาธารณะล่ะ? เภตราเดาเวลาและพยายามนับเวลาที่แตกต่าง จนอดประหลาดใจไม่ได้ เช้าแล้วครับ น่าจะเกือบหกโมง...ที่ใช้เครื่องสาธารณะมันให้ความทรงจำดี ว่าผมยืนหนาวโทรหาคนที่ผมรักแบบนี้ ดีกว่าโทรสบาย ๆ ในตึก เภตรานึกสภาพของคนที่ยืนท่ามกลางลมเย็นในตอนเช้า มันทำให้ความรู้สึกหม่นซึมค่อย ๆ จางลง หัวใจเหมือนพองฟูคับอก หน้าแดงขึ้นทันที คุณลุงออกมาแล้ว...ต้องไปล่ะ มีโปรแกรมหลายที่เลยวันนี้... คิดถึงและรักคุณมากเลยนะเภตรา น้ำเสียงส่งท้ายหวานเจี๊ยบจนหญิงสาวต้องเผลอถอนใจออกมา นี่หากเธอไม่พบผู้หญิงสองคน กับข้อมูลน่ากังวลใจ เธอคงมีความสุขมากกว่านี้
เมษาเหมือนมาถูกเวลา ราวกับว่าเขาได้ยินความคิดของเธอก่อนหน้านี้ คำว่ารักยังถูกย้ำกลับมาอีกก่อนวางหู เภตรามองโทรศัพท์เนิ่นนาน ความรู้สึกหม่นไม่สบายใจหายไปปลิดทิ้ง มีแต่ความชุ่มฉ่ำอยู่ในใจ เอาเถอะเมษาจะมีเพื่อนสาวมากมายกี่คนก็ตาม เธอก็ยังมั่นใจในความรักที่เขาส่งผ่านมา เภตราถอนใจอย่างแรง ราวกลับจะผลักข้อมูลเมื่อครู่ไปเก็บไว้ท้าย ๆ สมอง ก่อนเดินยิ้มหวานหน้าบานกลับมาหาธันวา จนเขาอดประหลาดใจกับท่าที่ที่เปลี่ยนไปของเธอไม่ได้ ราวกับว่าเพิ่งชาร์จไฟมาเต็มอย่างนั้นแหละ ท่าทางแฟนจะโทรมา ธันวาแอบหัวเราะเบา ๆ ได้แต่พึมพำคาดเดาอยู่ในใจ ไปหาข้าวเย็นทานกันเลยดีมั้ยคะ?...ขออาหารไทยอร่อย ๆ นะคะ ...โปรดติดตามตอนต่อไป...* เพลง Lay Lady Lay ประพันธ์โดย Bob Dylan เมื่อปี 1969 มีนักร้องนำมาร้องใหม่หลายคน แต่ version ที่กล่าวถึงนี้เป็นของ Magnet feat. Gemma Hayes ปี 2003 อัลบั้ม On Your Side ***จะให้ฟัง Lay Lady Lay ซ้ำอีกรอบ เดี่ยวก็จะเป็นการใจร้าย บล็อกพรายทรายต้องมีเพลงเพราะ ๆ อยู่แล้วนี่นา ไหน ๆ L L L ก็เป็นเพลงคู่ เลยเลือกเพลงที่เข้ากับเหตุการณ์บทนี้ เสียงออดอ้อนสุดหัวใจนี้เป็นของ Linda Ronstadt ร้องคู่กับ Aaron Neville เพลง Dont Know Much ประพันธ์โดย Barry Mann, Cynthia Weil and Tom Snow จริง ๆ เพลงนี้ คุณป้า Bette Midler กับ ลุง Bill Medley เคยร้องคู๋กัน ไว้ก่อนตั้งแต่ปี 1980 แต่ก็ยังไม่เป็นที่ซึ้งตรึงใจแฟน ๆ จนกระทั่งเมื่อปี 1989 Linda Ronstadt กับ Aaron Neville นำมาร้องคู่กันใหม่ในอัลบั้ม Cry Like a Rainstorm, Howl Like the Wind. และในที่สุดคู่นี้ก็ได้รับรางวัลแกรมมี่ Best Pop Performance by a Duo or Group with Vocal ในปี 1990 แต่ก็ต้องพลาดรางวัลเพลงยอดเยี่ยมแห่งปีไปอย่างน่าเสียดาย...
Create Date : 15 มิถุนายน 2551
26 comments
Last Update : 16 มิถุนายน 2551 4:15:04 น.
Counter : 379 Pageviews.
โดย: พรายทราย 15 มิถุนายน 2551 19:35:44 น.
โดย: พรายทราย 15 มิถุนายน 2551 19:40:53 น.
โดย: พรายทราย 15 มิถุนายน 2551 19:55:44 น.
โดย: พรายทราย 16 มิถุนายน 2551 19:19:16 น.
โดย: เม-ดา 17 มิถุนายน 2551 16:53:51 น.
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 17 มิถุนายน 2551 20:20:46 น.
โดย: ใยบัว.. หวานซะ IP: 203.132.67.136 17 มิถุนายน 2551 21:07:10 น.
โดย: พรายทราย 17 มิถุนายน 2551 21:51:38 น.
โดย: พรายทราย 17 มิถุนายน 2551 22:01:18 น.
โดย: พรายทราย 17 มิถุนายน 2551 22:03:56 น.
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 21 มิถุนายน 2551 16:35:55 น.
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 21 มิถุนายน 2551 19:46:54 น.
โดย: พรายทราย 21 มิถุนายน 2551 20:15:21 น.
โดย: พรายทราย 21 มิถุนายน 2551 20:17:05 น.
โดย: พรายทราย 21 มิถุนายน 2551 20:21:06 น.
โดย: พรายทราย 21 มิถุนายน 2551 20:24:04 น.
โดย: พรายทราย 21 มิถุนายน 2551 22:45:36 น.
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 22 มิถุนายน 2551 12:12:44 น.
โดย: พรายทราย 22 มิถุนายน 2551 19:09:17 น.
โดย: รักดี (ploy666 ) 3 พฤศจิกายน 2551 17:42:12 น.
โดย: พรายทราย 5 พฤศจิกายน 2551 19:22:28 น.
โดย: PiCorn (Camille) IP: 71.81.178.101 20 มิถุนายน 2553 5:42:04 น.
โดย: พรายทราย 20 มิถุนายน 2553 7:01:11 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
** ภาพสวยๆ เล็กตรงนี้ Tuscan Terrace ผลงานของ Sung Kim เคยมั้ยนั่งอยู่ในสวนสวย พร้อมกับจิบกาแฟนั่งมองเกลียวคลื่นซึมซับเข้าหาทราย มันเป็นมุมพักผ่อนที่แสนจะเป็นสุขของเรา... ขอยืมภาพวาดสวยๆ มาใช้ประดับบ้านเฉพาะกิจก่อน เก็บไว้นานแล้ว ของใครบ้างหนอ... **สำหรับคนชอบลอก แอบโกปี้ และตัดปะ** คิดเอง เขียนเองเถอะค่ะ ... ความสนุกของการเป็นนักเขียนเรื่องสั้น นิยาย มันอยู่ตรงนี้ แม้มันจะเหนื่อย ล้า เปลี้ย หมดพลัง แค่ไหนเราก็ยังพอใจ ที่ได้สนุกสนาน ได้ร่วมโลดลิ่ว.. ได้รัก ได้เกลียด ได้กินข้าว ได้เต้นระบำ ได้ตบตี ได้เจ็บช้ำ ไม่สบาย ร้องไห้ หัวเราะ ได้ร่วมไปในทุกๆ อารมณ์ กับตัวละคร ที่พวกชอบลอกนี่จะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ว่าอารมณ์อย่างนั้นมันเป็นอย่างไร... **และคุณก็ไม่มีวันเป็นคนเขียน เป็นนักเขียนได้เลย ****************************** Friends' Blogs นิตยสารออนไลน์รายสัปดาห์ อ่านสนุก
แหง แหง มีประกาศอะไรอีกหรือเปล่านี่
กร่อย กร่อย ...
วันดีคืนดี เดี๋ยวคงมีเสียง
blog ก็แปลก ๆ เช่นเคย
ลงเนื้อเพลงไว้สะเลยแล้วกันนะคะ...
****************************
Look at this face
I know the years are showing
Look at this life
I still don't know where it's going
I don't know much
But I know I love you
And that may be all I need to know
Look at these eyes
They've never seen what mattered
Look at these dreams
So beaten and so battered
I don't know much
But I know I love you
That may be all I need to know
So many questions still left unanswered
So much I've never broken through
And when I feel you near me
Sometimes I see so clearly
The only truth I've ever known is me and you
Look at this man
So blessed with inspiration
Look at this soul
Still searching for salvation
I don't know much
But I know I love you
And that may be all I need to know
I don't know much
But I know I love you
That may be all I need to know
I don't know much
But I know I love you
That may be all there is to know