Group Blog
 
 
กันยายน 2559
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
28 กันยายน 2559
 
All Blogs
 

จิจเกาะพระ29สค2559 ใครๆก็ทำได้



จิตเกาะพระ29สค2559 ใครๆก็ทำได้

ขอบพระคุณที่มาเฟสบุคPhuBodin 29สค2559 สาธุค่ะ
#ใครๆก็ทำได้
หมายถึง การเจริญสติภาวนา
ทำกรรมฐานหรือทำภาวนา
ใครๆก็เจริญได้ คำว่า "สติ" 
อันนั้นไม่ยากหรอก เพราะทุกคนทำได้กันหมด
แต่ทำให้ได้อย่างต่อเนื่องนี่สิ "ยาก"
พระในจิตท่านฝากบอกลูกหลานมาตั้งนานแล้ว
ผู้เขียนเคยบอกไปตั้งนานแล้ว ใครจะฟังหรือจะเชื่อหรือไม่
ผู้เขียน ไม่สนใจ เพราะถือว่า หมดหน้าที่ของตนแล้ว
ผู้เขียน มีหน้าที่บอกทางให้ผู้อื่นเดินตาม ทำตาม
แต่ถ้าบอกไปแล้ว เขาไม่เดินตาม ไม่ทำตาม ก็ตามพระทัยเถิด
เพราะพระธรรมคำสอนฯ หรือธรรมในจิตนั้น ไม่มีคำว่า เสื่อม
ธรรมะไม่เหมือนอาหาร ที่มีเอกซ์ปายเดท "วันหมดอายุ"
รู้แล้วรู้เลย เข้าใจแล้วเข้าใจเลย วางแล้ววางเลย
เหมือนวิปัสสนาญาณ คือ ไม่กลับมาวิปัสสนาเรื่องเดิมๆอีก
เหมือนเรารู้ว่า อึ คืออะไรแล้ว เราจะอยากไปรู้อีกมั๊ยว่า อึอะไร
อึ หญิงหรือชาย เหมือนเด็กจำความได้ ว่าคนนี้คือพ่อแม่เขา
หรือเด็กน้อยรู้ว่าไฟนั้นร้อน ต่อไปก็ไม่กล้าจับไฟอีก เป็นต้น
สรุปแล้ว ธรรมไม่มีคำว่า เสื่อม ถ้าเกิดกับจิตผู้ใดแล้ว
เห็นมีแต่จิตเสื่อม ที่ไม่ยอมลงมือปฎิบัติด้วยตนเอง

จำพระในจิตท่านเคยบอกนานแล้ว
ท่านบอกว่า อย่าไปพูดธรรมะอะไรที่มันสูงเกินไป 
หรืออย่าไปพูดที่คนอื่นทำไม่ได้ หรือยังไปไม่ถึง
เพราะจิตเขายังไปไม่ถึงสภาวะนั้น พูดไปก้ไร้ค่า
เพราะตราบใด จิตยังไปไม่ถึงสภาวะนั้น
ท่านให้พูดแค่ ศีล สมาธิ ปัญญา
ส่วนอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ขืนพูดไปก็ไร้ค่า
เอาแค่สติธรรมดา ทำให้เกิดขึ้นมากๆก่อนเห่อ
ทำสติธรรมดาให้เป็นสติสัมปชัญญะก่อนเห่อ
เพราะเมื่อก่อนจำได้ว่า ขณะส่งจิตถามพระว่า
ลูกอยากรู้คำว่า ปัญญาญาณ
ลูกอยากรู้ ลูกอยากได้ ท่านตอบมาว่าไง รู้มั๊ย..
ท่านตอบว่า จะอยากรู้ไปทำมั๊ย ทำสติให้เกิดอัตโนมัติก่อน
ถ้าทำสติเกิดต่อเนื่องแล้ว สมาธิจิตก็จะตั้งมั่น
ส่วนปัญญาก็จะเกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ 
ปัญญา เกิดมากน้อยก็ขึ้นอยู่ที่สมาธิจิตลูก นั่นแหละ
ขยันทรงกันเข้าสิ.. (ท่านติง)
แต่ถ้าสติปัญญาทุกวันนี้ ยังไม่เอาไหน
แล้วลูกจะรู้ไปทำมั๊ย ปัญญาญาณ
ถึงบอกไป ลูกจะเข้าใจมั๊ย 
แต่ถ้าพ่อบอกไปแล้ว ปัญญาญาณนั้นจะเป็นของลูกมั๊ย
ก็ไม่เป็น เห็นมั๊ย ดังนั้น ถ้าวันใดลูกได้แล้ว
เข้าถึงแล้ว คำว่า ปัญญาญาณ พ่อไม่ต้องบอก ลูกก็เข้าใจเอง
ดังนั้น ให้พากันทำสติมากๆก่อน อย่างอื่นค่อยมาว่ากัน

อะไรก็ตามที่ทำบ่อย ทำอย่างต่อเนื่องแล้ว
มันก็จะเกิดความเคยชิน คือ เก่งไปเอง ชำนาญเอง
กายว่าฝึกยากแล้ว จิตยิ่งกว่านั้น ไม่ฝึกก็ไม่ได้ 
เพราะคำว่า ทุกข์ ยังมีอยู่ในจิตใจของลูกๆนั่น
ใครไม่ฝึกก็ช่างเขา ปล่อยให้ทุกข์ให้เข็ด
แต่ถ้าเข็ดหลาบจริง เดี๋ยวเขาก็จะมาฝึกจิตแบบลูกนี่แหละ
เมื่อวาระหรือโอกาสผู้นั้น มาถึงซะก่อนนะ
นั่นหมายถึงกรรมที่ไม่ดีนั้น ลดลงหรือเบาบางลงหรือยัง
แต่ถ้ายังก็ทุกข์ใจกันต่อไปอีกสักระยะนึง เรียกว่า ระยะ
หรือช่วงหรือห้วงระยะเวลาชดใช้กรรมกันอยู่
ถึงเคยบอกกันไปแล้วว่า ยามทุกข์ให้ผล
หรือจิตตนกำลังเสวยกรรมไม่ดี คือ กำลังทุกข์ใจ
เราอย่าบ่น พระบอกว่า ให้อยู่เฉยๆ ทนไปนิดนึง
เดี๋ยวทุกข์ต่างๆนั้นก็จะค่อยๆลดลง เบาบางลงไปเอง
แต่ถ้าเรายิ่งบ่น แสดงว่า จิตไม่ยอมกรรมที่ตนเคยทำมา
พระบอกว่า แล้วอีกเมื่อไหร่ ลูกจะชดใช้กรรมเขาสักทีหละ
เพราะมัวแต่บ่นกันแบบนี้ พระท่านสอนวิธีแกะกรรมให้ "จำไว้ๆ"
ขณะที่ลูกทำใจ หรือขืนใจ(ก็ได้) ยอมรับมันอยู่นั้น
แสดงว่า ใจเรากำลังยอมรับกฎธรรมดา กฎแห่งกรรม
เดี๋ยวก็หมดแล้ว อดทนอีกนิดเถิดลูกรัก
เพราะไม่มีใครใหญ่เกินกรรมเลยสักคนลูกเอ๊ย
ทนๆไปก่อน อย่าบ่น และอย่าไปโทษผู้อื่นเขาด้วย
เพราะว่าเรานั่นแหละ ที่ทำร่วมกันมามิใช่หรือ..
อย่าไปร้อง อย่าไปฆ่าตัวตาย เพราะกายตายแต่จิตไม่ตาย
มีแต่จิตดวงนี้ ไปรับกรรมต่อนแดน นรกภูมิ ยิ่งหนักไปใหญ่ 
พ่ออยากให้ลูกแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ คือจิตตนนะลูก
!@#$%^&*()_+<>?"{}||????
...
กราบอนุโมทนาสาธุธรรมค่ะสาธุ ๆ
อ่านธรรมด้วยความเคารพ
ต้องเข้าใจและปฏิบัติเข้าใจ
ในธรรมคำสอนของสมเด็จ
พระพทธเจ้าสักวันค่ะสาธุ
สาธุครับ ขอให้ได้ดั่งใจปรารถนาทุกประการเทอญ สาธุๆๆ
ทำไปด้วย คอยหมั่นอธิษฐานจิตถึงพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ของตนไปด้วย เพราะจิตจะได้เข้าถึงในคุณพระรัตนตรัยด้วย เราจะได้มีกำลังใจในการปฎิบัติธรรม เยอะๆ และจะได้ก้าวข้ามขันธ์๕ตนไวๆ สาธุ
เราจะมาอาศัยหรือพึ่งพาสติปัญญาตนเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมันไม่เพียงพอนะ เราต้องพึ่งพระรัตนตรัยให้มากๆ เราก็จะได้มีกำลังใจมากเหมือนกับท่านทั้งหลายที่พากันหลุดพ้น พากันไปพระนิพพานกันหมดแล้วนั้น สาธุๆๆ
...
สาธุโมทนาด้วยค่ะ. เร่งรีบปฎิบัติอยู่ ให้จิตเคยชินอยู่กับสติค่ะ
สาธุครับ คุณจิต ทำไปๆน๊า เด่วคงจะมีเข้าสักวัน มรรคผลพระนิพพาน เกิดขึ้นกับจิตคุณเอง ทำไปด้วย พร้อมอธิษฐานจิตหาพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์ทุกๆท่านด้วย ให้ท่านช่วยยกจิตตนให้สูงยิ่งๆขึ้นไปอีกกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ดังนั้น จิตต้องเกาะพระ ต้องพึ่งคุณพระรัตนตรัย อธิษฐานถึงท่านบ่อย แล้วจิตเราจะมีกำลังใจมากขึ้นเอง สาธุ
...
ช่วงนี้อารมณ์ขี้เกียจมากขึ้น หรือว่าจิตติดอยู่ในคำภาวนาไม่รู้ครับอยากอยู่เฉยๆมันอิ่มยังไงไม่รู้ครับพี่ภู ช่วยแนะนำทีครับ
สาธุ ขาดกำลังใจ เลยไปต่อไม่ได้ เอางี้ๆ อธิษฐานจิตถึงพระพุทธเจ้าหรือครูบาอาจารย์ของตนเองก่อน ก่อนทำให้เธอทำจิตนิ่งๆก่อน ค่อยอธิษฐาน เพราะถ้าจิตไม่นิ่งพอ คำอธิษฐานจิตก็ไม่มีผล หมายถึง ส่งไม่ถึงท่านข้างบน เหมือนเราตะโกนไปแล้ว ไม่มีใครได้ยิน เพราะเสียเราไปไม่ถึงผู้คน สาธุ
ส่วนจะพูดว่าอย่างไร ตอนนี้ยังไม่ต้องกังวลใจอะไร ขอให้จิตเธอนิ่งเป็นก่อน นิ่งชั่วคราวก็ยังดี แล้วถึงตอนนั้น จิตจะพูดของเขาเองนะ ลองดูก่อน
เติมกำลังใจตนหน่อย เหมือนรถน้ำมันใกล้หมด ไปต่อไม่ได้
โมทนา สาธุค่ะ
ลองเอามรณานุสติเข้ามาเตือนจิตของเราสักหน่อยสิค่ะ บางทีจิตก็ต้องการกระทุ้งกันบ้าง มัวแต่นิ่งเฉย ลมหายใจไม่เข้า ไม่ออกแล้วจะไม่ยุ่งเลยหรือค่ะเนี่ย เมื่อก่อนอุ๋ยก็เจอค่ะ จิตติดนิ่งนานเลยแหล่ะ จนมาเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองได้เห็นความตายกำลังจะเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาตนเอง จิตถึงดีดออกมาขยับเดินต่อ อย่าให้ติดนานเดี๋ยวเราจะเสียโอกาสเข้าถึงมรรคผลของเราค่ะ สาธุ
...
สาธุค่ะ ได้ทั้งนั้น พระท่านก็แนะไว้แล้ว ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ทำได้หมด ขอเพียงแต่ขณะที่เราทำภาวนาให้จิตเรานึกถึงพระท่านจริงๆ ส่งกระแสเราให้ถึงพระองค์ท่าน กายมันจะอยู่ในลักษณะไหนก็ช่าง แต่ให้จิตเราอยู่กับพระ นอบน้อมต่อพระของเราค่ะ ถ้าเราพอจัดหาเวลาได้ ก็ควรที่จะพาให้กายเราได้กระทำความดีเพื่อความเป็นอุดมมงคลแก่กายหยาบของเราด้วยการพาเขามานั่งสวดมนต์ภาวนาต่อหน้าหิ้งพระบ้าง จะได้ปฏิบัติบูชาทั้งกาย ทั้งใจค่ะ สาธุขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
...
เงินขาดมือบ่อยเพราะไม่มีสติ
กำกับประมาณนั้นไม๊เจ้าคะ
สาธุ
555 ประมาณนั้น สาธุ
ถ้าเราสังเกตดีๆนะ จะรู้เองว่า ทำไม เงินถึงขาดมือ ต่อให้เราหาเยอะเก่ง หาเงินมาได้เยอะๆ ก้ไม่มีเหลือ เพราะจิตวิ่งตามกิเลสตน กิเลสโลก แต่ถ้าเรามีเงินน้อย ถ้ามีสติมาก หรือมีความโลภน้อย เงินก้ไม่ขาดมือนะ
ทุกวันนี้ ทุกคนไม่รู้หรอกว่า กำลังโดนกิเลสมันลากลงคลองแร๊ะ หมดตัวก่อนนู้นแหละ ถึงจะรู้ตัว แต่อย่าให้ถึงกับล้มละลายนะ คนรวยกับคนจน ไม่เหมือนกัน คนจนกลายเป็นคนรวยได้ แต่คนรวยกลายเป็นคนจน แถมแบ๊งค์ฟ้องล้มละลาย เป็นไง เห็นตามหน้าสื่อนสพ.มั๊ย ฆ่ายกครัว ป๊าด เพราะไร ทำใจยอมรับไม่ได้ นี่คือผลของคนที่ไม่เคยฝึกจิตมาเลย เงินช่วยอะไรเราไม่ได้เลย ช่วยแต่ สมนำหน้า ตายซะยิ่งดีอย่างนั้นหรือ คนเราเกิดมาเพื่อเป็นทาสกิเลส ทาสความโลภเท่านั้นหรือ
55เดี๋ยวนี้สบายละค่ะ,กินน้อย,จ่ายน้อยไม่ขยันซื้อเหมือนเมื่อก่อน
ดีมากเลย ดูพี่ภูนี่ มัวแต่นั่งพร่ธรรมะ หมดวันเยย วันทั้งวัน ฉันแค่ก๋วยเตี๋ยวถ้วยเดียวเองนะ ดีนะถ้าจิตเป็นพระ เป็นสมาธิ เพราะไม่หิว ไม่เมื่อย เวทนาหายหมด แต่พอออกสมาธิ หรือพระออกไปเท่านั้นแหละ โหย มากันหมดเลย ทั้งหิว เมื่อยล้า ง่วง โหย อารมณ์มนุษย์นี่นะ ไม่อยากมี อยากตายหมดเรื่องหมดราว
สาธุ พอเธอปฎิบัติมาได้ถึงตอนนี้แล้ว เห็นมั๊ย เธอจิตตนเองมันขำอยู่ภายในนั้นมั๊ย ถามจิตตนเองดูสิว่า ขำอะไรหนัหนา ฮ่าๆ ขำกลิ้ง เพราะจิตมันไปรู้ความจริงของทุกสิ่ง เพราะเราเข้าถึงธรรมชาติแห่งจิตตน เท่ากับเข้าถึงธรรมชาติทุกสิ่งนั้นเอง สาธุ
สรุปแล้ว ถ้าหากเราเข้าใจ เข้าถึงธรรมชาติจิตตนเอง แล้วเราก็จะเข้าใจเข้าถึงผู้อื่นหรือสิ่งอื่นๆตามไปด้วย
สาธุ งั้นก็ง่ายสำหรับเธอแร๊ะ เพราะอย่างน้อยที่สุด ใจเราก็ไม่เป็นทุกข์แล้ว มีแต่ทุกข์กายแล้วคราวนี้ ถ้าเธอทุกข์กายทำไง หมายถึง เวทนากาย สมาธิหรือฌานไง๊ ช่วยเธอได้ ถ้าทำได้เวทนาจะลดไปครึ่งเลย ลดมากหรือน้อยก็อยู่ที่สภาวะจิต หรือสมาธิจิต ยิ่งสมาธิลึก ฌานลึกก็ยิ่งลดเวทนาทางกายมากเท่านั้น แต่ถ้าฌาน๔ขึ้นไป ดับเวทนาได้เต็มร้อย กรณีที่ทำได้นะ ขอให้ทำได้ๆ สาธุ
...
ที่คนชอบพูดว่าจิตเกาะพระคืออย่างไรเจ้าคะ
...
จิตเกาะพระ
นะ อย่าพิมพ์ผิดเป็น จิตเกาพระ เพราะพระไม่คัน... อ่อสาธุๆ จิตเกาะพระ ไม่เห็นต้องแปลเลย เพราะความหมายก็ตรงตัวอยู่แล้ว เด่วจะสาธยายให้ฟังโดยย่อ.. จิตเกาะพระ ก็คือ แนวทางการปฎิบัติธรรมอย่างนึง แค่เรียกให้สั้น ติดปากง่าย ชื่อนี้ ผมได้มาตอนจิตถอนสมาธิแล้ว จิตก็จำชื่อนี้ตลอดเลย จิตเกาะพระ ก็คือ พุทธานุสสติกรรมฐาน+กสิณ ... ทำง่ายที่สุด แค่เราส่งจิตหาพระ คือภาพพระ รูปพระอะไรก้ได้ เลือกมาหนึ่งภาพหนึ่งรูป เพื่อนำมาปฎิบัติ ใหม่ๆให้ตาเนื้อดู ถ้าคิดว่าจำได้แล้ว เราก็เลิกดู เราแค่นึกถึงภาพพระบ่อยๆ นึกจนกว่าจิตเขาจะจดจำภาพพระนั้นได้ ถ้าเราส่งจิตหาพระ คือนึกถึงพระทีนึงย่อเท่ากับเราสร้างสติครั้งนึงนั่นเอง จิตเกาะพระนี้ ไม่ต้องมีคำบริกรรมใด แค่นึกถึงพระอย่างเดียว เหมือนเราคิดถึงแฟนนั่นแหละ เหมือนกันเลย ใหม่ๆต้องขยันกำหนด หรือคอยนึกนำจิตไปก่อน แต่ถ้าจิตเกาะพระอัตโนมัติ ต่อไป เราไม่ต้องไปกำหนดให้เสียเวลา เพราะจิตเขานึกถึงพระเอง จิตจะไปหาพระเอง และภาพพระนั้น ถ้าจิตเกาะพระติด ภาพพระอาจจะเปลี่ยนไปทีละนิดๆ หมายถึงสี จากสีทองกลายเป็นสีขาวขุ่น พอจิตยิ่งละเอียด ภาพพระก็จะกลายเป็นแก้ว หรือสีประกาพรึก หรือฉัพพรรณรังสี อันนี้จิตยิ่งละเอียดมากทีเดียว นั่นหมายถึง สติปัญญาของตนเองไปด้วย รวมถึงการปล่อยวางไปด้วย ...
...
สาธุๆ จิตเกาะพระนี้ ทำง่าย สะดวก โดยเฉพาะคนที่บอกว่า ไม่มีเวลา .. เพราะมีอาจารย์ม.ธรรมศาสตร์ท่านนึง ท่านอยากทำกรรมฐาน ท่านไม่มีเวลาไปวัด ก็เคยมาเรียนกับครูที่นี่.. มาเรียนกับครูแนท ตอนเรียนใหม่ๆ ท่านไม่เคยเปิดโฉมตนเองเลย ว่าท่านเป็นใคร แต่ที่นี่ บอกหรือไม่บอก ก้ไม่ได้ไปสนใจอะไรตรงนั้น เพราะเรามิใช่ปลัดอำเภอจะไปอยากทราบประวัติผู้อื่นทำไม แต่ครูขอแค่รายงานจิต สภาวะจิตแต่ละวันเท่านั้นเอง ปรากฎว่าท่านคือ ดร. เป็นอาจารย์สอนนักศึกษา ป.โท และป.เอก ผลสุดท้าย ท่านมั่นใจ ท่านทำไเ้จึงเปิดเผยตัวตนของตนเองว่าท่านคือใคร ทำงานที่ไหน และก้ได้พบเจอกันตัวเป็นๆ ที่พูดเนี๊ยมีตัวตนจริงๆ นะ ไม่ได้โม้ ขอจบโม้แต่เพียงเท่านี้ก่อน ..วิชา จิตเกาะพระดี แต่ตัวผู้รับสื่อคือผู้เขียนยังไม่ดีพอ ไม่ใช่พระอรหันต์ ทำไปเพราะอารมณ์ใจพระทั้งสิ้น ส่วนกำลังใจตนหรือ เอาตนยังไม่รอดเลย สาธุ
...




 

Create Date : 28 กันยายน 2559
0 comments
Last Update : 28 กันยายน 2559 8:44:31 น.
Counter : 507 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


doraeme
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add doraeme's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.