Group Blog
 
<<
กันยายน 2560
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
15 กันยายน 2560
 
All Blogs
 
เหตุที่ไปนิพพานไม่ได้

#เหตุที่ไปนิพพานไม่ได้
คือ พลังจิตไม่มี
จิตไม่มีกำลังใจมากนั่นเอง ..

เพราะจิตยิ่งปล่อยวางมากเท่าไหร่
จิตก็ยิ่งมีกำลังมากเท่านั้น

เพราะฉะนั้น เราต้องฝึกจิต ให้ไปนิพพานเป็นด้วย

ก่อนอื่น ต้องทำกำลังใจใหม่
(วางกำลังใจใหม่ก่อน)
คือ วางขันธ์5ทั้หมดก่อน

ถ้าวางไม่หมด จิตก็ไม่มีกำลังใจมากพอที่จะไปได้
เพราะจิตมันติดอยู่ที่กายหยาบ หรือพันธการต่างๆนั่น
ฉะนั้น เราต้องช่วยตนเอง
(กายหยาบต้องช่วยกายละเอียดคือจิต)

กายหยาบช่วยกายจิตอย่างไร
ตอบว่า แค่เจริญสติ
โดยเฉพาะสมาธิจิต
เพราะมโนมยิทธินั้น ต้องไปด้วยกำลังฌาน
มโนฯเต็มกำลัง ต้องไปด้วยฌาน4 อย่างเดียวเลย
ส่วนมโนฯครึ่งกำลัง ไปด้วยอุปจารสมาธิก็พอ

มโนฯจิตจะมีความแจ่มใสมาก
การมองเห็นอะไรก็จะชัดเจนไปด้วย
ส่วนครึ่งกำลัง มองเห็นเหมือนกัน
แต่จะมองเห็นแบบคนตาฟางหน่อย ภาพลางๆเป็นต้น
บอกรายละเอียดได้ไม่มากนัก
เพราะจิตมีความสว่างน้อยไป
ฉะนั้น การมองเห็นก็จะเป็นอย่างนี้ ตามที่กล่าวไปแล้วนั้น

ฉะนั้น จิตต้องฝึก
แต่ถ้าไม่ฝึกก็จะทุกข์อยู่แบบนั้น เรื่อยๆ
ฝึกจิตคือฝึกให้จิตมีพลัง
คือฝึกจิตให้มีกำลังใจนั่นเอง

แต่ถ้าจิตเรามีกำลังใจมากแล้ว
ย่อมจะก้าวข้ามอุปสรรค์หรือปัญหาได้ง่าย
หรือก้าวข้ามขันธ์5ไม่ยากเลย
เพราะจิตมีพลัง มีกำลังใจมาก

คนจิตตกก็เช่นกัน
เราก็ต้องยกจิตตนให้สูงขึ้นไปอีก
ด้วยมาบวชเนกขัมมะกันบ้าง เป็นต้น
มาบวชถือว่ามาฝึกจิตนั่นแหละ
คือฝึกจิตให้มีพลัง มีกำลังใจมากนั่นเอง

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคน ทุกดวงจิต มีพลังมาก
หรือมีกำลังใจมากๆนั่นเอง
เพราะจะได้ไปพระนิพพานง่าย
พ่อสอนลูกให้ไปนิพพานง่าย แต่ขอให้เอาจริง
โมทนาสาธุครับ
ภูทยานฌาน
...
ปฏิบัติธรรมกันก็เพื่อความหลุดพ้น
หมายถึงฝึกจิตให้มีพลัง.มีกำลังใจมากพอ ที่จะปล่อยวางทุกสิ่งได้ที่ภายใน(จิตใจ)

เหตุที่จิตติดสิ่งต่างๆนั้น คือจิตไม่อิสระ
จิตอิสระเพราะจิตไม่ได้ติดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
จิตพ้นสิ่งที่เรียกว่า "พันธการใดๆ"
...
พ่อสอนลูก สอนฌานสมาบัติให้ลูก ได้แก่ มโนมยิทธิ
ความจริงพ่อสอนให้ลูกไปพระนิพพาน(((เป็น)))
นอกจากไปนิพพานเป็นแล้ว
สิ่งสำคัญที่พ่อต้องการอีกอย่างนึงก้คือ..
"จิตตั้งมั่นต่อพระรัตนตรัย"
โดยเฉพาะรักพระนิพพานหรือรักพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
หากลูกตายขณะจิตรักพระแบบนี้ ลูกก็ไปเลย ไปนิพพานเลย
เพราะเจ้าตัวฝึกจิตไปพระนิพพานทุกวัน ทุกคืนอยู่แล้ว
พอรู้ตัวจะตายแน่ ก็จะรวบลัดกำลังใจหักเข้าพระนิพพานเลย
โดยตัดความทั้งหลายให้หมดลงเสียก่อน เช่น ความรัก ความคิดถึง ความห่วงใย
โดยเฉพาะความอาฆาต ความพยาบาท จิตแบบนี้ไม่ได้ไปพระนิพพานแน่
ที่แน่ๆไปนรกก่อนเลย เพราะจิตแบบนี้ จะไปไหนได้ ไปนรกอย่างเดียวเลย
แถมพลัดหลงหลงไปเกิดในแดนสัตว์เดรัจฉาน ทำไง.. ไม่มีใครเขาช่วยเราได้เลย
ฉะนั้น ตราบใดธาตุทั้ง4ยังไม่แตกดับ เราพอมีโอกาสเห็นธรรม.บรรลุธรรมได้
ฉะนั้น เวลาเหลือน้อยแล้ว ทุกคนอย่ามัวประมาท มัวแต่หลงในกายในใจ
หรือหลงนอกกาย นอกใจของตนอยู่เลย
เพราะทุกคนรู้หมดแล้วว่า เรากำลังอยู่กับสิ่งสมมุติทั้งหลาย
เรากำลังอยู่กับสิ่งไม่เที่ยงทั้งปวง
ฉะนั้น หากเราตายไปแล้ว เห็นมีแค่บุญกับบาปเท่านั้นเอง
ที่ยังติดตามเราไป ทุกหนทุกแห่ง
...
พ่อสอนลูกให้มีจิตตั้งมั่นต่อพระรัตนตรัยกันแล้ว
พ่อยังสอนให้ลูกทุกคน ให้นำเอามโนฯที่ตนได้กลับมาดูจิตตนเอง
มิใช่ให้ไปดูจิตผู้อื่น หรือเรื่องไร้สาระอื่นๆนั่น
เช่น ไปส่องจิตคนนู้นคนนี้ เป็นต้น
มองเห็นหมดเลย.ความเลวของผู้อื่นเขา
แต่ความเลวตนเอง กลับมองไม่เห็น แบบนี้มันก็แย่
มองเห็นความเลวของตนเองก่อนลุกรัก
ส่วนความเลวลูกคนอื่นๆนั้น เดี๋ยวพ่อมองเองดีกว่า
สรุปแล้ว พ่อสอนสมาบัติให้ไป เพื่อให้ลุกทรงในความดีให้จงได้
ทำจิตตนให้ผ่องใสเข้าไว้ เพราะขณะจิตนิ่งสงบอยู่นั้น เป็นจิตบุญกุศล
จิตไม่มีความโกรธเกลียดใคร ไม่อิจฉาริษยาใครๆเขา
จิตแบบนี้ เป็นจิตบาป อกุศลจิต ไม่ดีแน่ ถ้าลูกมีสติมาก ลูกจะมองเห็น
และออกให้ห่างไกล
ยกเว้น จิตที่อยู่กับพระตลอดเวลา จิตแบบนี้มักมองไม่เห็นบาป อกุศลใดๆ
จิตแบบนี้ไปพระนิพพานง่าย ไปไม่ยาก แค่ทำจิต สร้างกำลังใจอีกนิดเดียว
ก็ไปได้แล้ว
...

...
สาธุอนุโมทามิ นิพพานะปัจจะโยโหตุ
ขอบพระคุณที่มาจากเฟสบุค ครูภู Phu bodin 14กย2560
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1058142700989483&id=100003812895876
...

...

...


Create Date : 15 กันยายน 2560
Last Update : 15 กันยายน 2560 16:59:50 น. 0 comments
Counter : 586 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

doraeme
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add doraeme's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.