โจทย์ประจำหลักกิโลที่ 142 : ปลายฝนต้นหนาว
ปลายฝนต้นหนาว.... ตะพาบหลักกิโลที่ 142
เป๋นตางึดจั๋งโว้ย ! เสียงตะเบ็งลั่นบ้านเช่าทันทีที่ชายหนุ่มใบหน้าเหลี่ยมเป็นสันย่างเท้าผ่านประตู เป็นอีหยังอ้าย เซี้ยงดั๋งจั๋งซี่ ประเดี๋ยวบ้านถล่มไป๋จะเฮ็ดจั๋งได๋ไม่มีตังค์ซ่อมให้เพิ่นนะอ้าย น้องสาวเดินออกมาจากครัวขนาดเท่าซุ้มไก่ ทักถามพี่ชายที่เนื้อตัวเปียกปอนเพราะสายฝนทำหน้าเสียวไส้ทุกครั้งที่พื้นกระดานไม้ดังเอี๊ยดอ๊าดยามคนพี่กระแทกส้น ข่อยเบื่อ เบื่อ เบื๊อ เบื่อ เบื่อที่ต้องท้นอยู่ที่นี่ เขาหย่อนตัวนั่งลงกับพื้นบ้านบอกน้องสาวด้วยอารมณ์โมโหที่คั่งค้างมาจากนอกบ้าน ก่อที่นี่ค่าเช่ามั้นถูกที่สุดแล่วนะ ทึ้งมั้นจะเก่า แต่ก็ท้นๆ ยู้ไป๋ก่อนเธอนั่งคุกเข่าลงพูดแข่งเสียงฝนห่าใหญ่กระทบหลังคาสังกะสี ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรง มองใบหน้าน้องสาว เพราะเธอเพิ่งเข้ามาทำงานในเมืองหลวงได้ไม่นานน่ะสิก็ยังคงสนุกกับความเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นเต้น แววตาของผู้เป็นน้องจึงยังเป็นแววตาแห่งความหวังไม่ซีดหม่นเหมือนกับแววตาของพี่ชายที่เข้ามาขุดทองหวังจะได้พาครอบครัวลืมตาอ้าปาก แต่กลับพบว่าทองที่เขาฝันนั้นมันไม่มีจริงทำงานหนักไม่เหนื่อยเท่ากับหว่านข้าว ดำนา แต่งานที่เขาทำมันเหนื่อยจิตเหนื่อยใจเหนื่อยกับการถูกกดขี่ ข่มเหง ก็เรียนมาน้อย ก็ต้องยอมไป ความคิดที่เขาใช้บ่มความอดทนมาตลอดเมื่อเริ่มรู้ว่าที่นี่ไม่มีสิ่งที่เขาต้องการเงินแลกกับการถูกเอารัดเอาเปรียบ เทียบกับเงินที่ได้ด้วยใจอิสระเสรีไม่ได้เลย ข่อยหมายทึ้งข่อยเบื่อกรุงเทพ เบื่อเพิ่นๆ ค้นกรุงทั้งหลาย ข่อยเบื่ออยากลาออกแล้วเมือบ้าน อีกเดื๊อนเดี๋ยวก๋อได๋โบนัสแล้วนิอ้าย ท้นๆ ไป๋หนาวนี้จะได๋มี้เงินซื้อเสื้อซื้อผ้าไปฝากอีแม่ ข่อยก่อเพิ่งจะได้เว้ากับแม่ทางโระสับไป๋ เอ้อ แล้วผู้ได๋ซอยแม่เฮ็ดนาวะ ข่อยทำโอ๊เวอร์ไทม์ บ่อได้เมือบ้านไปซอยแม่เขานึกขึ้นได้เมื่อน้องพูดถึงมารดา ทุกปีต้องกลับไปช่วยแม่ แต่งานที่บริษัทก็เยอะจนทำในเวลาไม่ทันเป็นเหตุให้เขาต้องทำงานล่วงเวลา แม่ว่าฮื้อพวกคนของซ้อลั้งเขาเฮ็ด ก็ต่องฮื้อค่าแฮงให้เพิ่นเขาโดย พวกเพิ่นคงคิดค่าแฮงแพ้ง เป็นจั๋งสิแล้วมั้นจะคุ้มกั๋นจังได๋ถ้าข่อยงานไม่ล้นหลาย ค้งเมือบ้านไปเฮ็ดเอ๋ง แล้วนี่ก็เป็นจั๋งไดกัน ฝนต๊กแรงอีหลีน้ำมั้นจะท้วมน้าเข่าเอ๋า แล้วหลังคาแม่ฮื้อไผไปซ่อมแล้วบ่อ หนี่ก่อจะเข่าหน้าหนาวแล่วเดี๋ยวแม่เพิ่นน้อนตากน่ำค้างเป๋นไข้เอ๋า ข่อยก็บ่อทั้นได่ถาม แม่เพิ่นเว่าแต๊ว่าจะรีบออกป่าไป๋เก็บเห็ดละโงก เขานั่งเงียบฟังน้องคุย นึกภาพของมารดาสวมเสื้อคลุมๆ ใส่หมวกเดินดุ่มๆกลางฝนปรอยเข้าป่า และเขาเองที่เดินตามหลังต้อยๆ ไม่ห่างเมื่อครั้นยังเด็กมันนานมากแล้วจริงๆ จนภาพในความทรงจำเป็นสีเทาเหมือนมีหมอกบัง เป็นหมอกของเขม่าเมืองที่ไม่ว่าฤดูจะเปลี่ยนไปกี่ฝนกี่หนาว ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีความเขียวของต้นกล้า ไม่มีความแห้งของดินแดง และไม่มีความชื้นและกลิ่นของไอหมอก ข่อยจะเมือบ้าน เอ็งก็ด่วย เมือบ้านไป๋โดยกั๋น บ่อต้องรอดอกอ้ายเงินโบนัสเจ้าของเพิ่นเขาไม่มีให้ เพิ่นเพิ่งมาบอกข่อยเมื่อแลงนี่ ไหงเป็นจั๋งสั้น คนน้องถามด้วยความประหลาดใจ เฮ็ดงานให้เพิ่นเพิ่นก็ต้องมี้โบ๋นัส อ้ายไป๋ทำอีหยังฮื้อเพิ่นบ่อมักขี้หน้า โอ๊ะๆๆ หน้าข่อยมันหล่อคักๆ ล่ะมั้งน่ะ เพิ่นเลยบ่อมัก เขาพูดติดตลกนี่น่ะอีน้อง ไอ๋เงินโบ๋นัสนี่ เพิ่นเขาจะฮื้อไม่ฮื้อ เขาว่าหมันยู้ที่ผลปะกอบก๊านถ้าเพิ่นเขาว่าบ่อมีก๋ำไหร พวกข่อยก็บ๊อได้ เสียงฝนซาลงพอให้ได้ยินเสียงของพี่ชายโดยที่เธอไม่ต้องเงี่ยหูฟังกระนั้นก็ไม่ได้มีส่วนช่วยให้เธอเข้าใจกฎเกณฑ์ที่พี่ชายว่า เมือก็เมือ แต่พี่ชายว่าไงก็เห็นด้วยนอกจากแม่ก็มีแต่พี่นี่แหละที่เป็นครอบครัว อ้ายเมือ ข่อยก็เมือ เอ็งบ่อเสียใจแน่หนา ถ่าเอ๊งจะยู้ต่อ ข่อยก็บ่อว่าดอก ข่อยอยากซดแก๋งเห็ดละโงก อยากเมือบ้านไปโซยแม่เก็บเห็ดโดย ผ้าห่มที่ซื้อไป๋ปีโน้นมั้นคงขาดแล้ว หนาวนี้แม่จะได๋มีพวกเฮากอดแท้นผ้าเนอะอ้ายเนอะ ........................................................................................ โจทย์ครั้งนี้ คิดหลายตลบว่าจะเขียนแบบไหน เคยอยากลองเขียนเรื่องที่ใช้ภาษาท้องถิ่น ก็เลยทดลองกับงานตะพาบ เรื่องสองพี่น้องจากอีสาน เรื่องนี้ อาจใช้คำไม่ถูกบ้าง ก็ช่วยบอกด้วยนะคะ
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 22:44:03 น. |
|
18 comments
|
Counter : 818 Pageviews. |
|
|