นักฝันผู้ชอบเขียนเล่าเรื่อง
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 
โจทย์ประจำหลักกิโลที่ 142 : ปลายฝนต้นหนาว


ปลายฝนต้นหนาว.... ตะพาบหลักกิโลที่ 142


“เป๋นตางึดจั๋งโว้ย !” เสียงตะเบ็งลั่นบ้านเช่าทันทีที่ชายหนุ่มใบหน้าเหลี่ยมเป็นสันย่างเท้าผ่านประตู

“เป็นอีหยังอ้าย เซี้ยงดั๋งจั๋งซี่ ประเดี๋ยวบ้านถล่มไป๋จะเฮ็ดจั๋งได๋ไม่มีตังค์ซ่อมให้เพิ่นนะอ้าย” น้องสาวเดินออกมาจากครัวขนาดเท่าซุ้มไก่ ทักถามพี่ชายที่เนื้อตัวเปียกปอนเพราะสายฝนทำหน้าเสียวไส้ทุกครั้งที่พื้นกระดานไม้ดังเอี๊ยดอ๊าดยามคนพี่กระแทกส้น

“ข่อยเบื่อ เบื่อ เบื๊อ เบื่อ เบื่อที่ต้องท้นอยู่ที่นี่” เขาหย่อนตัวนั่งลงกับพื้นบ้านบอกน้องสาวด้วยอารมณ์โมโหที่คั่งค้างมาจากนอกบ้าน

“ก่อที่นี่ค่าเช่ามั้นถูกที่สุดแล่วนะ ทึ้งมั้นจะเก่า แต่ก็ท้นๆ ยู้ไป๋ก่อน”เธอนั่งคุกเข่าลงพูดแข่งเสียงฝนห่าใหญ่กระทบหลังคาสังกะสี

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรง มองใบหน้าน้องสาว เพราะเธอเพิ่งเข้ามาทำงานในเมืองหลวงได้ไม่นานน่ะสิก็ยังคงสนุกกับความเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นเต้น แววตาของผู้เป็นน้องจึงยังเป็นแววตาแห่งความหวังไม่ซีดหม่นเหมือนกับแววตาของพี่ชายที่เข้ามาขุดทองหวังจะได้พาครอบครัวลืมตาอ้าปาก แต่กลับพบว่าทองที่เขาฝันนั้นมันไม่มีจริงทำงานหนักไม่เหนื่อยเท่ากับหว่านข้าว ดำนา แต่งานที่เขาทำมันเหนื่อยจิตเหนื่อยใจเหนื่อยกับการถูกกดขี่ ข่มเหง

ก็เรียนมาน้อย ก็ต้องยอมไป ความคิดที่เขาใช้บ่มความอดทนมาตลอดเมื่อเริ่มรู้ว่าที่นี่ไม่มีสิ่งที่เขาต้องการเงินแลกกับการถูกเอารัดเอาเปรียบ เทียบกับเงินที่ได้ด้วยใจอิสระเสรีไม่ได้เลย

“ข่อยหมายทึ้งข่อยเบื่อกรุงเทพ เบื่อเพิ่นๆ ค้นกรุงทั้งหลาย ข่อยเบื่ออยากลาออกแล้วเมือบ้าน”

“อีกเดื๊อนเดี๋ยวก๋อได๋โบนัสแล้วนิอ้าย ท้นๆ ไป๋หนาวนี้จะได๋มี้เงินซื้อเสื้อซื้อผ้าไปฝากอีแม่ ข่อยก่อเพิ่งจะได้เว้ากับแม่ทางโระสับไป๋”

“เอ้อ แล้วผู้ได๋ซอยแม่เฮ็ดนาวะ ข่อยทำโอ๊เวอร์ไทม์ บ่อได้เมือบ้านไปซอยแม่”เขานึกขึ้นได้เมื่อน้องพูดถึงมารดา ทุกปีต้องกลับไปช่วยแม่ แต่งานที่บริษัทก็เยอะจนทำในเวลาไม่ทันเป็นเหตุให้เขาต้องทำงานล่วงเวลา

“แม่ว่าฮื้อพวกคนของซ้อลั้งเขาเฮ็ด ก็ต่องฮื้อค่าแฮงให้เพิ่นเขาโดย”

“พวกเพิ่นคงคิดค่าแฮงแพ้ง เป็นจั๋งสิแล้วมั้นจะคุ้มกั๋นจังได๋ถ้าข่อยงานไม่ล้นหลาย ค้งเมือบ้านไปเฮ็ดเอ๋ง แล้วนี่ก็เป็นจั๋งไดกัน ฝนต๊กแรงอีหลีน้ำมั้นจะท้วมน้าเข่าเอ๋า แล้วหลังคาแม่ฮื้อไผไปซ่อมแล้วบ่อ หนี่ก่อจะเข่าหน้าหนาวแล่วเดี๋ยวแม่เพิ่นน้อนตากน่ำค้างเป๋นไข้เอ๋า”

“ข่อยก็บ่อทั้นได่ถาม แม่เพิ่นเว่าแต๊ว่าจะรีบออกป่าไป๋เก็บเห็ดละโงก”

เขานั่งเงียบฟังน้องคุย นึกภาพของมารดาสวมเสื้อคลุมๆ ใส่หมวกเดินดุ่มๆกลางฝนปรอยเข้าป่า และเขาเองที่เดินตามหลังต้อยๆ ไม่ห่างเมื่อครั้นยังเด็กมันนานมากแล้วจริงๆ จนภาพในความทรงจำเป็นสีเทาเหมือนมีหมอกบัง เป็นหมอกของเขม่าเมืองที่ไม่ว่าฤดูจะเปลี่ยนไปกี่ฝนกี่หนาว ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีความเขียวของต้นกล้า ไม่มีความแห้งของดินแดง และไม่มีความชื้นและกลิ่นของไอหมอก

“ข่อยจะเมือบ้าน เอ็งก็ด่วย เมือบ้านไป๋โดยกั๋น บ่อต้องรอดอกอ้ายเงินโบนัสเจ้าของเพิ่นเขาไม่มีให้ เพิ่นเพิ่งมาบอกข่อยเมื่อแลงนี่”

“ไหงเป็นจั๋งสั้น” คนน้องถามด้วยความประหลาดใจ “เฮ็ดงานให้เพิ่นเพิ่นก็ต้องมี้โบ๋นัส อ้ายไป๋ทำอีหยังฮื้อเพิ่นบ่อมักขี้หน้า”

“โอ๊ะๆๆ หน้าข่อยมันหล่อคักๆ ล่ะมั้งน่ะ เพิ่นเลยบ่อมัก” เขาพูดติดตลก“นี่น่ะอีน้อง ไอ๋เงินโบ๋นัสนี่ เพิ่นเขาจะฮื้อไม่ฮื้อ เขาว่าหมันยู้ที่ผลปะกอบก๊านถ้าเพิ่นเขาว่าบ่อมีก๋ำไหร พวกข่อยก็บ๊อได้”

เสียงฝนซาลงพอให้ได้ยินเสียงของพี่ชายโดยที่เธอไม่ต้องเงี่ยหูฟังกระนั้นก็ไม่ได้มีส่วนช่วยให้เธอเข้าใจกฎเกณฑ์ที่พี่ชายว่า

“เมือก็เมือ” แต่พี่ชายว่าไงก็เห็นด้วยนอกจากแม่ก็มีแต่พี่นี่แหละที่เป็นครอบครัว “อ้ายเมือ ข่อยก็เมือ”

“เอ็งบ่อเสียใจแน่หนา ถ่าเอ๊งจะยู้ต่อ ข่อยก็บ่อว่าดอก”

“ข่อยอยากซดแก๋งเห็ดละโงก อยากเมือบ้านไปโซยแม่เก็บเห็ดโดย ผ้าห่มที่ซื้อไป๋ปีโน้นมั้นคงขาดแล้ว หนาวนี้แม่จะได๋มีพวกเฮากอดแท้นผ้าเนอะอ้ายเนอะ”

 ........................................................................................

โจทย์ครั้งนี้ คิดหลายตลบว่าจะเขียนแบบไหน เคยอยากลองเขียนเรื่องที่ใช้ภาษาท้องถิ่น ก็เลยทดลองกับงานตะพาบ เรื่องสองพี่น้องจากอีสาน เรื่องนี้ อาจใช้คำไม่ถูกบ้าง ก็ช่วยบอกด้วยนะคะ 






Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 22:44:03 น. 18 comments
Counter : 818 Pageviews.

 
อารมณ์เข้าเมืองทำงาน แต่เพื่อนๆ ตจว ที่ผมรู้จักก็แบบนี้นะ อยากกลับบ้านตัวเอง และมีโอกาสก็ต้องกลับบ้าน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2558 เวลา:23:24:32 น.  

 
เป็นตาย่านแถะ... ดูท่าทางน่ากลัวจัง
เป็นตาย่านแท้น้อ... น่ากลัวจังเลย
เว้าเป็นตางึดเนาะ... พูดในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก
.
เป็นตาแม้ว... เป็นนายกทักษิณ


โดย: samunchon bloggang (sunmachon ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:6:19:48 น.  

 




ไม่สันทัดเรื่อง ภาษา ..

แต่ เนื้อเรื่องสนุกมากค่ะ ..










โดย: foreverlovemom วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:11:37:36 น.  

 
น่ารักมากเลยค่ะ อ่านเพลินดี ปกติเท่าที่เคยมีเพื่อนเป็นคนอีสานเจอเขาเรียกพี่เรียกน้องว่า "เอื้อย" กับ "อ้าย" หรือ "อีหล้า" นะคะ อย่างอื่นไม่ทราบแล้วเหมือนกัน....(ความรู้เท่าหางอึ่งค่ะ ^^)


โดย: คมไผ่ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:12:19:58 น.  

 
แวะมาอ่านงานตะพาบค่ะ
มึนๆงงกับภาษาค่ะ
แปลบ่ ออก อ่านก็บ่ถูก
งงหลายๆ แหะๆ


โดย: ugly princess วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:14:20:30 น.  

 
ภาษาน่ารักดีครับ แม้จะอ่าน ออกมั่ง ไม่ออกมั่ง 555

เคยไปอยู่แถวนั้นนาน.... บางทีเขาพูดตั้งนาน ต้องใช้อมยิ้ม
แทน... กลัวตอบผิดครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:15:46:34 น.  

 
อ้อมกอด อุ่นกว่าผ้าห่มร้อยฝืนใช่ไหมคะ
อ่านภาษาถิ่นด้วยความสนุกสนาน
ผันวรรณยุกต์ได้สุดยอดค่ะ ข้าน้อยขอคารวะหนึ่งจอก555


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:16:45:00 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามอ่านงานตะพาบครับ งานเขียนที่มีการใช้ภาษาถิ่นลงไปด้วยส่วนใหญ่จะได้รับการยกย่องนะครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ... สำหรับคนที่ไม่รู้จักหรือคุ้นเคยกับภาษาถิ่นนั้น เมื่อได้มาอ่านมันจะมีความรู้สึกไม่ไหลลื่น ติด ๆ ขัด ๆ จนกลายเป็นอ่านได้ไม่คล่อง ดังนั้นถ้าจะเลือกใช้ภาษาถิ่นในงานเขียนควรจะต้องคำนึงด้วยว่า มันจะทำให้งานเขียนนั้นไม่เป็นที่กว้างขวาง หรือรู็จักกันในวงกว้างสักเท่าไหร่ครับ มันมีทั้งดีและเสียในตัวมันเองครับ

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ

อิอิ



โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:20:50:18 น.  

 
สวัสดีค่า ^^
มาอ่านตะพาบค่ะ
สนุกดีนะ ภาษาถิ่น ขนาดนุ่นไม่ใช่คนภาคอีสานแต่อ่านเข้าใจนะ
เพราะว่าเมื่อก่อนอยู่เชียงใหม่ รู้คำเมือง
ช่วยได้เลยนะคะ บางคำคล้ายๆกันด้วย

สังเกตในเรื่อง คำอีสานจะเป็นตัวจัตวาเยอะนะคะ
ทางเหนือจะเป็นตัวไม้ตรีเยอะ

“เป็นอีหยังอ้าย เซี้ยงดั๋งจั๋งซี่ ประเดี๋ยวบ้านถล่มไป๋จะเฮ็ดจั๋งได๋ไม่มีตังค์ซ่อมให้เพิ่นนะอ้าย”

"เป๋นหยังอ้าย เสียงดังขนาด กำเดียวบ้านล่มไปจะยะจะได บ่มีซะตังซ่อมหื้อเปิ้นนาอ้าย" นุ่นก็ดำน้ำภาษาเหนือ 55 พอได้นะคะคล้ายกันอยู่

ปลายฝนต้นหนาวของสองพี่น้องได้กลับบ้านดีจัง
กินแกงเห็ดของแม่ แซบเลยค่ะ




โดย: lovereason วันที่: 13 พฤศจิกายน 2558 เวลา:23:45:09 น.  

 
มาอ่านงานตะพาบแบบเสียงในฟิล์มค่า เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง อิอิ


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 14 พฤศจิกายน 2558 เวลา:8:23:18 น.  

 
อ่านยากแท้ 555555 ข่อยก็เดาๆ เอาบางคำ. แต่เห็นใจจังเรื่องการรอคอยโบนัส...เพราะมี้ก็รออยู่.. เจ้านายมีเงินศื้อเบนท์ ซื้อรถหลายคัน..แต่บอกว่าผลประกอบการไม้ดี. ให้โบนัสน้อย 555555 มี้มาบ่นอะไรเนี่ ยาวเลย


โดย: kae+aoe วันที่: 14 พฤศจิกายน 2558 เวลา:10:50:12 น.  

 
อิอิ มาอ่านเอาเพลินเหมือนกันค่ะ
ภาษาอีสาน อ่านแล้ว ฟังแล้วก็มีความน่ารักอยุ่ในตัวของเค้านะคะ
แถมบางคำขำเล็กๆ ด้วยหล่ะค่ะ อิอิ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 14 พฤศจิกายน 2558 เวลา:23:00:51 น.  

 
ต้องอ่านสองรอบเพราะไม่ึค่อยเข้าใจภาษาค่ะ แต่สุดท้ายก็เดาได้ว่าอะไรแปลว่าอะไร สนุกดีค่ะ

ปล. ที่เกดเขียนเรื่องสั้นเรื่อง "ทำแล้วชีวิตดีขึ้นไหม" คือได้ไอเดียจากการคุยกับเพื่อนที่เขาเสื่อมศรัทธาในการทำบุญค่ะ พอคุณชลบุรีฯเขียนว่ายังศรัทธาในพระธรรมเสมอ ก็ปิติไปด้วยค่ะ


โดย: Raizin Heart วันที่: 16 พฤศจิกายน 2558 เวลา:9:45:00 น.  

 




มา อ่านอีกรอบ ..

อด ใจไม่ไหว ค่ะ ..




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
Raizin Heart Book Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น











โดย: foreverlovemom วันที่: 17 พฤศจิกายน 2558 เวลา:11:40:05 น.  

 
มาอ่านผลงานตะพาบค่ะ
อ่านเข้าใจแต่บางคำก็ไม่รู้จัก
เอาภาษาถิ่นมาอ่านกันบ้างก็ดีนะคะ
จะได้เข้าใจกันมากขึ้น



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 18 พฤศจิกายน 2558 เวลา:13:32:42 น.  

 




สวัสดี ยาม เช้า ค่ะ ..












โดย: foreverlovemom วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:5:58:33 น.  

 
เข้าใจอารมณ์เบื่อกรุงฯ เหมือนกันค่ะ

ไม่ชอบกรุงฯ อย่าง เวลาเข้ากรุงแล้วรู้ถึงความแตกต่างชองตัวเองเลยค่ะ เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์จะยืนพื้นตลอดถ้าได้เข้ากรุง แต่เป้นี่มันมีทั้งขวดน้ำ ร่ม ทิชชู่ พาสเตอร์ปิดแผล แทบจะบอกค่ะว่า "ตุง" นี้เองที่ทำให้ตัวเองดูต่างจากคนกรุง เพราะคนกรุงจะไม่พกอะไรมากมายขนาดนั้น ....


ที่นี่แดนไกลก็เมืองหลวงค่ะ แต่ที่นี่คนส่วนมาก(ผู้หญิง)จะต้องมีถุงเล็กๆ ติดมาด้วย เพราะคนส่วนมากจะเอาข้าวไปทานที่ทำงานกันค่ะ หากินไม่อร่อยเท่าจานด่วนบ้านเราค่ะ บ้านเราสะดวกที่สุดแล้วววว

ปล. ต่อให้หนาวแค่ไหน ชีวิตคนทำงานต้องดำเนินต่อค่ะ คือไปทำงานทุกวันนั่นเอง


โดย: SeaSnow วันที่: 22 พฤศจิกายน 2558 เวลา:16:22:55 น.  

 
สวัสดีจ้า มีภาษาท้องถิ่นซะด้วย
ตัวอักษรที่บล็อกอินเตอร์มาก
ทำยังไงอ่ะคะ ชอบจัง


โดย: mastana วันที่: 23 พฤศจิกายน 2558 เวลา:21:17:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชลบุรีมามี่คลับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นนัก(หัด)เขียนนิยายพาร์ทไทม์ เป็นคุณแม่ทำงานที่ชอบฝันกลางวันแบบฟูลไทม์ด้วย

บล็อกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เข้ามาค้นหาสิ่งที่อยากรู้ได้ตามสบาย


ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ติดตามนิยายของ จขบ
สามารถอานได้ทั้งทางเวบ

Hongsamut : https://hongsamut.com/writerdetail.php?writerid=3992

และทางเว็บ Dek D ค่ะ
https://my.dek-d.com/redapplels/


เนื้อหา ภาพถ่าย ในบล็อกนี้
ได้รับความคุ้มครอง
ตามกฏหมายพ.ร.บ.
สิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้าม
นำไปใช้ คัดลอก ดัดแปลง
แก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดโดย
เด็ดขาดนะจ๊ะ

คนดี...


New Comments
Friends' blogs
[Add ชลบุรีมามี่คลับ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.