Born to Be - ปอย ตรีชฎา
หากเอ่ยถึงกิตติศัพท์ความงามว่าเธอผู้นี้ สวยเสียจนผู้หญิงแท้ๆ ยังต้องอาย เชื่อว่าหลายคนต้องร้องอ๋อ... ซึ่งเธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ปอย ตรีชฎา มาลยาภรณ์ เจ้าของตำแหน่ง มิสทิฟฟานี 2004 และ มิสอินเตอร์เนชันแนล ควีนปีเดียวกันนั่นเอง เวทีประกวดจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงเช่นทุกวันนี้ แต่ก่อนหน้านี้เธอเป็นอย่างไร มีมุมมองและวิธีคิดในแบบของตนเป็นแบบไหน เธอพร้อมที่จะมาเปิดเผยให้กับคุณผู้อ่านแล้วค่ะ
ความชัดเจนในตัวตน ปอยเริ่มรู้ตัวว่าเราไม่เหมือนคนอื่นคือรู้สึกว่าเราไม่ใช่ผู้ชายตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนอนุบาล แต่ที่รู้สึกตัวชัดเจนจริงๆ คือประมาณตอนอยู่ ม.2 ในขณะที่ยังไม่ชัดเจนช่วงนั้นปอยก็ไม่ได้เกิดความสับสนอะไร แต่รู้สึกว่าเราต้องทำเพื่อพ่อแม่ เพราะตอนนั้นครอบครัวก็ค่อนข้างที่จะรับไม่ได้ จะว่าไปแล้วคงไม่มีครอบครัวไหนที่อยากจะเลี้ยงลูกผู้ชายเพื่อให้เป็นผู้หญิง แต่ที่บ้านปอยก็รู้มาจากคุณครูและเพื่อนที่โรงเรียนบ้างว่าปอยตุ้งติ้งและเขาก็รู้ว่าปอยไม่ได้แกล้ง ซึ่งปอยไม่เคยบอกที่บ้านเลยว่าเราเป็นยังไงแต่เขาเห็นจากการกระทำของเราแล้วค่อยๆ ซึมซับไปทีละนิด ซึ่งมันเป็นไปเองตามธรรมชาติโดยที่ปอยก็ไม่รู้ตัว พ่อแม่ปอยก็ไม่รู้ตัว กว่าจะตั้งสติได้ปอยก็เป็นผู้หญิงไปแล้ว
เมื่อไม่อาจเปลี่ยนแปลง... ตอนเด็กๆ ปอยจัดว่าเป็นเด็กที่เรียนดีคนหนึ่งไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็สอบได้เลขตัวเดียวมาตลอด พอเริ่มชัดเจนในตัวเองแล้วปอยจึงคิดว่าต้องพยายามเรียนให้เก่งที่สุดเพื่อทดแทนในสิ่งที่เราไม่สามารถเป็นได้ ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นไปตามที่พ่อแม่คาดหวังได้ ตอนนั้นปอยเลยตั้งใจเรียนจนสอบได้ที่ 1 มาตลอดเพื่อให้พ่อแม่เห็นว่าถึงปอยจะเป็นแบบนี้ปอยก็ยังเรียนดี ไม่ได้ประพฤติตัวเสียหาย จนพ่อกับแม่ปลื้มใจกับผลการเรียนของปอยและลืมที่จะพูดเรื่องนี้ไป ซึ่งในระหว่างที่เขาชื่นชมกับผลการเรียน ปอยก็เริ่มดูแลตัวเอง เริ่มบำรุงผิวจนผิวปอยดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปอยคิดว่าตอนนั้นถ้าเราเรียนไม่ดีพ่อแม่คงว่าเราได้ว่าไม่น่าเป็นแบบนี้เลยเพราะเป็นแล้วเรียนไม่ดี เสียการเรียน
การยอมรับกับธรรมชาติที่แตกต่าง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่โรงเรียนจัดประกวดนางนพมาศแล้วแต่ละห้องจะส่งตัวแทนซึ่งเป็นผู้หญิงเข้าประกวดแล้วปอยได้เป็นตัวแทนห้องเข้าประกวดด้วย โดยที่นักเรียนชั้นอื่นๆ ไม่มีใครรู้และไม่เชื่อว่าปอยเป็นผู้ชาย จะมีแต่คุณครูและเพื่อนที่เรียนชั้นเดียวกันเท่านั้นที่รู้ ทำให้ตอนนั้นปอยภูมิใจมาก แต่แล้วคุณแม่ก็ทราบเรื่องนี้และมีโอกาสได้เห็นรูปของปอย คุณแม่เลยเตือนว่าปอยยังเด็ก ไม่อยากให้แสดงออกมากเกินไปนัก คือตอนนั้นที่บ้านก็พอจะทราบแล้วว่าเราเป็นยังไง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อาจจะมีตักเตือนบ้างถ้าเห็นว่าเราทำอะไรไม่เหมาะสม
ความสุขที่ยิ่งใหญ่ กำลังใจจากคนใกล้ตัว พอปอยเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ก็มีคนชักชวนให้เข้าประกวดมิสทิฟฟานี 2004 ซึ่งพอได้ตำแหน่งปอยก็เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดมิสอินเตอร์เนชันแนลควีน 2004 ซึ่งเป็นเวทีที่มีสาวประเภทสองจากทั่วโลกเข้าร่วมประกวด และเวทีนี้ปอยก็ได้ตำแหน่งมาเช่นกันทำให้ปอยดีใจและภูมิใจ โดยเฉพาะในวันประกวดทุกคนที่เรารักมาเชียร์ มาให้กำลังใจกันหมดเลยทั้งคุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้อง คือทุกคนมาเพื่อเรา ทำให้ปอยดีใจ ยิ่งพอรู้ว่าได้ยิ่งดีใจมากขึ้นกว่าเดิม และทุกคนที่มาให้กำลังใจเราก็ดีใจกับเราด้วยโดยเฉพาะคุณแม่ เพราะท่านทราบว่าปอยคาดหวังและตั้งใจจริง ซึ่งปอยเองก็มีความสุขที่ได้ทำให้คนที่เรารักมีความสุข
ความรู้ คุณค่าที่แซงหน้าความงาม หลังจากที่ได้ตำแหน่งทำให้มีคนรู้จักเรามากขึ้น งานแสดงและงานในวงการบันเทิงเริ่มติดต่อเข้ามาตลอดจนแทบไม่มีเวลา แต่ปอยก็ยังไม่ทิ้งการเรียน แม้ว่าอาจจะทำให้เรียนช้ากว่าคนอื่นๆ ไปบ้าง แต่ปอยคิดว่าความรู้เป็นสิ่งสำคัญ ปอยจึงเลือกเรียนนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เพราะปัจจุบันกฎหมายมีบทบาทในสังคมอย่างมาก ถ้าเรารู้กฎหมายเราก็จะไม่เสียเปรียบใคร ช่วยให้เราฉลาดและทันคน นอกจากนี้ยังสามารถนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเสียภาษี การทำนิติกรรมหรือการทำสัญญาต่างๆ นอกจากนี้ปอยยังอยากออกจากกรอบที่คนบางกลุ่มพยายามตีกรอบว่าคนที่เป็นสาวประเภทสองควรจะเรียนได้แค่ไม่กี่คณะเท่านั้น
แม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็สามารถสร้างคุณค่าให้ตัวคุณเองได้ อย่างเช่นเธอคนนี้ ปอย ตรีชฎา มาลยาภรณ์
ที่มา นิตยสาร HealthToday vol. 10 no. 110 May 2010 magazinedee.com
Create Date : 07 กรกฎาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 18:46:04 น. |
Counter : 2156 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|