ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ลั่นไม่เคยลืมเมืองไทย เผยลูกภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยเช่นกัน
ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ เหินฟ้ากลับบ้านเกิดมอบทุนเด็กไทยที่อยากเป็นครูในอนาคต เผยสิ่งแรกที่ทำหลังเท้าเหยียบเมืองไทย พาลูกไปลงนามถวายพระพรในหลวง ภูมิใจลูกชื่นชมและรักเมืองไทย ด้านชีวิตส่วนตัวแสนจะมีความสุข ได้สามีสนับสนุนทุกเรื่องที่ทำ แถมลูกยังน่ารัก เลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ
ห่างหายจากเมืองไทย และไม่ได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดทุกปี แต่ทุกครั้งที่ ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซม่อน อดีตนางงามจักรวาลปี 2531 เดินทางมา ก็ยังคงทำหน้าที่สมคอนเซ็ปต์นางงามรักเด็กเสมอ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ได้มีโอกาสก่อตั้งมูลนิธิ Angels Wings Foundation International และได้จัดตั้งโครงการให้ทุนการศึกษาเพื่อผลิตครูในบ้านเกิด โดยใช้เงินส่วนตัวของตนเอง ซึ่งปีนี้อดีตนางงามจักรวาลผู้ใจดีได้มอบทุนการศึกษา ให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวนทั้งสิ้น 5 ทุน
ที่ปุ๋ยมอบทุนการศึกษาสำหรับครูนั้น เพราะอยากจะสร้างโครงการที่จะช่วยประเทศไทยได้ในอนาคต ถ้าเราสนับสนุนคุณครูก็จะสามารถช่วยเด็กต่อไปได้ เหมือนปุ๋ยได้สร้างโอกาสให้กับเด็กในอนาคตด้วยเช่นกัน ที่เลือกเฉพาะภูเก็ตเพราะท่านนายกฯสนับสนุนเรื่องของการศึกษา ท่านเองก็ช่วยปุ๋ยในการคัดเลือกว่าเด็กคนไหนเหมาะสำหรับโครงการนี้ เพราะที่สำคัญที่สุดเด็กจะต้องเรียนเก่ง และมีใจที่จะกลับไปช่วยบ้านเกิดของเขา แล้วเขาต้องเป็นเด็กที่ด้อยโอกาส เขาไม่มีโอกาสที่จะไปเรียนด้วยทุนตัวเอง ซึ่งเราสามารถที่จะไปช่วยตรงนั้นเขาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ
หลังจากที่เขาเล่าเรียนเสร็จแล้ว เขาจะกลับไปหาท่านนายกฯภูเก็ต แล้วท่านก็จะช่วยหางานให้เขาทำด้วย ทุกอย่างจะมีครบวงจรหมด ท่านช่วยปุ๋ยตั้งแต่ต้นจนถึงขั้นสุดท้าย แต่ในการคัดเลือกเรามีการสัมภาษณ์เขาว่า อยากจะเป็นครูทำไม แล้วถ้าในใจเขาเป็นจริงเราก็หวังว่าเขาจะทำต่อไปเรื่อยๆไม่ใช่ว่าเราจะไปกะเกณฑ์ในอายุของการที่จะต้องกลับมาใช้ทุนที่ปุ๋ยให้ ในเรื่องของการระดมทุมนั้นตอนนี้เป็นทุนส่วนตัวของปุ๋ยอย่างเดียวเลย ทุนนึงก็ตกประมาณล้านกว่าบาทต่อคน ไม่ว่าจะเป็นทุนการศึกษา ที่พัก ค่าครองชีพต่างๆ เป็นเวลา 5 ปี แต่อาจจะมีมากกว่าล้าน เพราะแต่ละสถานที่เรียนก็มีค่าใช้จ่ายที่ไม่เหมือนกัน และปุ๋ยมั่นใจว่าเขาคงจะไม่ทำให้ปุ๋ยผิดหวัง
หลายๆ คนถามปุ๋ยทำแบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอ ทำไมตอนนี้ปุ๋ยเป็นแม่แล้ว ไม่ต้องออกมาเหนื่อยก็ได้ แต่ความเหนื่อยนี้มันเป็นความเหนื่อยที่ปุ๋ย และครอบครัวของปุ๋ยมีความสุข และลูกๆ เองก็เข้าใจ ตัวปุ๋ยเองก็อยากจะเป็นตัวอย่างให้กับลูกๆ ให้เขามีความรับผิดชอบ และภูมิใจที่เรามีส่วนได้ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ใช่ว่าเราจะอยู่สบายเอาไว้ คิดถึงแต่ตัวเอง เราต้องรู้ว่าทุกๆ คนมีหน้าที่ที่จะช่วยกัน ไม่ใช่ว่าเห็นแก่ตัวหรือคิดถึงแก่ตัวเอง หรือเอาแต่ใจตัวเอง เราต้องรู้การให้ไม่ใช่จะเอาแต่ได้อย่างเดียว และลูกๆ เองก็เข้าใจ เวลาที่เขามีโอกาสที่จะได้ออกไปทำงานการกุศลเขาก็จะชอบ
เผยสิ่งแรกที่กลับมาเหยียบเมืองไทย คือการพาลูกมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บอกลูกชาย (ฌอน ไซม่อน) ชื่นชอบและภูมิใจในประเทศไทยมาก
เมื่อวันก่อนปุ๋ยได้ไปลงนามถวายพระพรท่าน ซึ่งปุ๋ยเองก็ได้พาลูกของปุ๋ยไปด้วย ลูกชายปุ๋ยตอนนี้อายุ 6 ขวบก็ประทับใจมาก เพราะลูกไม่เคยเห็นเลยว่าประเพณีไทย คนไทยมีความจงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร ตรงนี้ลูกไม่เคยเห็นก็เพิ่งจะได้ไปเห็นวันนั้น เขาก็ประหลาดใจและภูมิใจที่เขาเป็นคนไทย เขาบอกว่าคนไทยเป็นอย่างนี้เหรอ เขาก็เพิ่งจะรู้ ขากลับมาบ้านเขายังถามใหญ่เลยอีกว่า ในหลวงได้เป็นในหลวงได้ยังไง ก่อนท่านเป็นในหลวงหน้าที่ของในหลวงเป็นยังไง แล้วในหลวงได้ไปพบกับพระราชินีได้ยังไง ถามทุกๆ อย่าง(หัวเราะ)
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ที่อเมริกาลูกเองก็ทราบว่า เมืองไทยมีพระราชินีและในหลวง แต่เขาเพิ่งจะมาเห็นครั้งแรกว่า ประเพณีที่เราเคารพท่านเป็นยังไง เขาเห็นแล้วก็ประทับใจมาก และภูมิใจที่เขาได้เป็นคนไทย เขาก็บอกว่าคนไทยเป็นอย่างนี้นี่เอง เขาเพิ่งจะรู้ แล้วลูกๆ ปุ๋ยเองก็รักเมืองไทยมาก ก็จะถามเขาว่ารู้สึกยังไงกับเมืองไทย เขาก็บอกว่ามันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก
ตัวปุ๋ยเองมีความรู้สึกปลื้มใจ ที่ลูกๆ บ่นถึงเมืองไทยอยู่เรื่อยๆ เขาก็จะกลับไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟังว่า เมืองไทยเป็นดินแดนที่มีแต่ความสุข ปุ๋ยก็ถามว่าลูกชอบเมืองไทยตรงไหน เขาก็บอกว่าแม่เกิดที่นี่ และทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่รักอยู่ที่นี่ เขาก็ชอบแม่น้ำ ชอบว่าเมืองไทยมีประวัติศาสตร์อะไรแปลกๆ เยอะ เขาบอกว่าเมืองไทยไม่เหมือนประเทศไหน เขาเองรู้สึกชอบประเพณีของเมืองไทยหลายอย่าง
เล่าชีวิตส่วนตัวแม้จะมีภารกิจมากมาย แต่ตนเลือกที่จะแบ่งเวลาดูแลลูกด้วยตนเอง บอกโชคดีที่มีครอบครัวอบอุ่น เข้าใจ สามีมหาเศรษฐี เฮิร์บ ไซม่อน สนับสนุนในทุกเรื่องที่อยากทำ และลูกก็เป็นเด็กดีไม่ดื้อ
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ยากแต่เราเองก็ต้องพยายามแบ่งเวลา ยังไงซะสำคัญเลยลูกต้องมาก่อน ตอนนี้ลูกเองก็โรงเรียนปิดเทอม เราเองก็มีเวลานิดหน่อยที่จะพาเขากลับมาเยี่ยมบ้านที่ประเทศไทย ปุ๋ยเองโชคดีที่มีสามีสนับสนุนในทุกๆ เรื่อง ตัวเขาทราบไหมว่าคุณแม่เป็นถึงนางงามจักรวาล เขาเพิ่งจะมารู้ปีนี้เอง เพราะเพื่อนเขาบอก เพื่อนเขาถามว่ารู้ไหมว่าแม่ของยูเป็นใคร เขาก็บอกว่าแม่ก็คือแม่
เขาเองไม่รู้หรอกเพราะปุ๋ยอยู่บ้านไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ เวลาออกไปงานเขาจะรู้ว่า พ่อแม่ออกไปงานบ่อยก็เลยถือเป็นธรรมดา เขาเองก็เพิ่งจะมาเข้าใจเมื่อปีนี้ว่า แม่มีหน้าที่นอกจากเป็นแม่ของเขา พอเขาทราบก็ชอบไปไหนก็อยากไปด้วย แต่บางทีเขาก็รู้ว่าไปแล้วก็จะลำบาก ก็จะขอร้องให้เขาอยู่บ้าน
หน้าที่แม่ ภรรยา นางงามหน้าที่ไหนลำบากใจที่สุด แน่นอนต้องเป็นภรรยา (หัวเราะ) เขาเป็นเหมือนบิ๊กเบบี้ มีสามีคนนึงก็เหมือนมีลูก 10 คน ปุ๋ยกับแม่ปุ๋ยสนิทกันเสมอ ท่านเองก็ได้ช่วยปุ๋ยเลี้ยงหลาน สามีเองก็น่ารัก เขาก็สนับสนุนปุ๋ยและลูกทุกอย่าง และในทุกๆ สิ่งที่ปุ๋ยอยากจะทำ เขาเห็นด้วยและสนับสนุนมาโดยตลอด การเลี้ยงลูกเองปุ๋ยก็มีความสุขมาก แม้จะเป็นเรื่องที่หนักแต่ปุ๋ยก็ไม่เคยทำโทษลูกเลย ปุ๋ยเองก็ภูมิใจในตัวเขา เพราะเขาไม่ดื้อและรักพ่อแม่มาก พูดอะไรเขาก็จะฟัง ปุ๋ยถือว่าตัวเองโชคดีที่มีครอบครัวอบอุ่นขนาดนี้
ตัวปุ๋ยเองก็คิดถึงเมืองไทยอยู่เสมอตลอด ปุ๋ยก็จะหาโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้าน ปุ๋ยก็เล่าให้สามีฟังว่า ถ้าปุ๋ยกลับมาเมืองไทยจะเที่ยวอย่างเดียว จะรู้สึกว่าไม่เหมาะสม ทุกครั้งที่ปุ๋ยมาก็จะให้สามีทราบว่า ปุ๋ยมีโครงการนี้ที่อยากจะทำ เขาเองก็เข้าใจและสนับสนุน เขาก็โอเคบอกให้ปุ๋ยไปทำหน้าที่ให้เต็มที่ เขาจะดูแลลูกให้ เพราะเขาอยากสนับสนุนในสิ่งที่ปุ๋ยอยากจะทำอะไรที่ความหมายสำหรับประเทศ เพราะตอนปุ๋ยเป็นนางงามจักรวาลก็มีหน้าที่ ที่จะสร้างชื่อเสียงให้คนไทยและเมืองไทย
ที่มา
manager
| Create Date : 23 สิงหาคม 2553 |
| Last Update : 23 สิงหาคม 2553 14:20:56 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1613 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
