Group Blog
 
<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 มกราคม 2557
 
All Blogs
 
‘บุ๋ม’ เตรียมขึ้นแท่นเจ้าแม่สื่อบันเทิง



กำลังจะผันตัวเองมาเป็นเจ้าแม่สื่อบันเทิงแล้ว สำหรับ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่ล่าสุดได้มานั่งแท่นบรรณาธิการบริหารจับปากกาเปิดตัวนิตยสาร Z STAR ที่นำเสนอแต่เรื่องราวดีๆ ของดาราในแวดวงบันเทิง และแวดวงลูกทุ่ง ซึ่งเรียกได้ว่าเปิดตัวได้สวยทีเดียว เสียงตอบรับจากแฟนๆ ดีมาก ทำเอาเจ้าตัวรู้สึกปลื้มใจ ลัคกี้อินเกมไปแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่ลัคกี้อินเลิฟ เพราะล่าสุดหนุ่ม ติ๊งโน้ต-ฐิติพงศ์ วโรกร ออกมาเปิดใจกับรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ว่าอยากจะคืนดีกับบุ๋ม พร้อมกับยอมรับว่าตัวเองนั้นหึงเกินเหตุ จนทำให้ต้องเลิกกัน ส่วนทางด้านพี่บุ๋มก็ยังได้แนะฝ่ายชายอีกด้วยว่า อยากให้โตกว่านี้ เพราะยังมีโอกาสดีๆ อีกเยอะ



เปิดตัวหนังสือ?
"เปิดตัวนิตยสารค่ะ ชื่อนิตยสาร Z STAR กับ Z STAR ลูกทุ่ง ทำไมถึงมี 2 ชื่อ คือเราขาย 2 เล่มคู่กันเลยค่ะ ตามแผงเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เราขาย 2 เล่มคู่กันเพราะเราเชื่อว่าตลาดลูกทุ่งเองก็เป็นตลาดใหญ่ของประเทศไทยค่ะ แล้วก็ 80% ของคนไทยก็ดูลูกทุ่งอยู่นะคะ แล้วก็เชื่อว่าตอนนี้ลูกทุ่งเองก็บูมมากด้วย นักร้องลูกทุ่งเองแต่ละคนสวยๆ หล่อๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ เราก็เลยอยากให้มีภาพสวยๆ งามๆ เกิดขึ้นบ้าง แล้วในส่วนของนิตยสารบุ๋มเชื่อว่าเดี๋ยวนี้การทำการตลาดเองคงไม่ใช่สื่อเดียว แต่นี่ก็คือจุดเริ่มต้นอีกจุดหนึ่งที่จะมา บ่งบอกว่านี่เป็นอีกสื่อหนึ่งที่จะทำ แล้วก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะใช้สื่อในทางที่ถูก ก็จะเป็นภาพดาราสวยๆ งามๆ เป็นภาพที่แฟนคลับสามารถเอากลับไปเชยชม ซึ่งอย่างตัวพี่เองก็มีช็อตเดินเข้างานที่สวยๆ บ้าง แต่กลับกลายเป็นว่าเห็นแต่นมของพี่ ไม่เห็นหน้าพี่เลย ซึ่งพี่ก็อยากได้ภาพสวยๆ บ้าง ผลปรากฏว่าฟีดแบ็กดีมาก เนื่องจากว่าเราวางแผนมา 2 เดือนแล้วค่ะ เดือนแรกวางแผงไป เดือนที่ 2 เซเว่นสั่งเพิ่มเท่าตัว ซึ่งพี่แฮปปี้"



เป็นไงมาไงถึงได้มาทำนิตยสารได้?
"เป็นสื่อที่พี่มองมานานแล้วค่ะ ถ้าให้พี่ไปทำทีวีคงไม่ไหว แต่ถ้าเกิดเป็นในส่วนของนิตยสารเราเองก็เป็นนักเขียนอยู่แล้ว และอยู่ในวงการบันเทิงแล้วเรารู้จักคนเยอะอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่านิตยสารน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เวลาเราเข้าร้านเสริมสวยก็น่าจะสื่อถึงสาวๆ ได้ง่ายนะคะ แล้วก็เป็นอีกสื่อหนึ่งที่พี่อยากจะเป็นสื่อกลางให้น้องๆ ศิลปินดารา มีช่องทางในการบ่งบอกตัวเองว่าเค้าโด่งดังอย่างไร เค้ามีชีวิตส่วนตัวอย่างไร โดยที่ไม่ต้องไปเจาะอะไรให้มันเจ็บมากนัก ไม่ใช่นิตยสารแก้ข่าวค่ะ แต่เป็นนิตยสารเพื่อส่งเสริมบุคลิกและลักษณะศิลปินต่างๆ เหล่านั้นค่ะ"

ในฐานะที่เป็นบรรณาธิการบริหารเป็นยังไงบ้างกับหน้าที่นี้?
“สนุกดีค่ะ ก็คือเรามีสิทธิ์เลือกที่จะเอาอะไรเป็นอะไรบ้าง อยากจะเลือกว่าจะเอาศิลปินคนไหนลงปกบ้างค่ะ ออกแนวดาราคิดบวก เป็นนางงามคิดบวกแบบดิชั้น ก็ต้องแนวๆ นี้นิดหนึ่ง อยากให้แฟนคลับได้เก็บสะสมบ้าง”



ลงทุนเยอะไหม?
“ไม่เยอะค่ะ สำหรับการทำนิตยสารบอกตามตรงเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องเยอะมาก แต่ได้ทุนคืนช้าหน่อย แต่เรามองในกิจกรรมต่อยอดมากกว่า เราไม่ใช่แค่นิตยสารแต่เป็นในลักษณะกิจกรรม อย่างเช่น คอนเสิร์ตที่เราจะไปเจอพี่น้องทั่วประเทศค่ะ ตอนนี้ลูกค้ารอที่จะไปกันแล้ว”

มั่นใจกับธุรกิจแค่ไหน?
“มั่นใจว่าเป็นกาารต่อยอดและเริ่มต้นที่ดีไม่ต้องลงทุนหนักมาก คู่แข่งค่อนข้างเยอะแต่เราเชื่อว่าจะต้องแตกต่าง ดูอย่างเลย์เอาต์ได้เลยค่ะว่าเราจะเหมือนหัวนอกมากเลย”

ทำเป็นทีวีไหม?
“ตอนนี้มีติดต่อมาบ้างค่ะ ซึ่งพี่คงไม่หยุดอยู่แค่นี้ มันส์มากเวลาทำงาน”

จะหันมาจับธุรกิจด้านสื่อบันเทิงเยอะขึ้น?
“ใช่ค่ะ เนื่องจากว่าเราเองอยู่ตรงนี้ เรารู้งาน รู้จักผู้คนเราเองก็รู้จักใครหลายคน ก็คิดว่าอยากจะทำตัวให้เป็นประโยชน์กับสื่อตรงนี้ด้วย เพียงแต่ว่าไม่ทำตัวเป็นคู่แข่งค่ะ ทำตัวส่งเสริมกันและกัน ทุกคนจะรู้นิสัยพี่ดี”



ลงทุนเท่าไร?
“เป็นหลักล้านค่ะ”

คาดหวังอะไรจากนิตยสารเล่มนี้?
“คาดหวังจากการต่อยอดมากกว่า คาดหวังว่าจะเป็นอีกนิตยสารเล่มหนึ่งที่จะเป็นพลังสำคัญ สร้างมุมมองดีๆ ในสังคมได้อีกมุมหนึ่งนะคะ ว่าจริงๆ แล้วดาราก็มีมุมสีเทาสีขาว แต่เราจะนำเสนอมุมสีขาวที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนได้ และในเล่มนี้จะไม่มีข่าวพี่สักข่าว นอกจากหน้าบรรณาธิการบริหาร จะไม่มีเรื่องของเราข้างใน ยกเว้นละครที่ตัวเองเล่น ไม่งั้นมันจะดูไม่ยุติธรรม”

ล่าสุดติ๊งโน้ตออกมาพูดในรายการสตาร์แม็กซ์?
“ตกใจเหมือนกันวันนั้นจะขับรถไปทำงานที่นั่นกลับกลายเป็นว่าติ๊งโน้ตมาช่วงเช้า เพราะเขาไม่บอกแต่ไม่เจอกัน”

ได้ฟังเขาพูดเป็นไงบ้าง?
“ไม่ได้ฟังทั้งหมดค่ะฟังเป็นช่วงๆ คือถ้าจะขอคืนดีโทรมาเองก็ได้มั้ง ทำไมต้องบอกสื่อ”

เราได้คุยกับเค้าหรือยัง?
“ก็ไม่เห็นพูดอะไรมาก หลังจากผ่านงานวันเกิดก็ไม่เห็นชวน วันเกิดเขาก็ไม่ได้ชวน”

เค้าบอกว่าอยากง้อเราแต่ไม่กล้าเจอหน้า?
“แหม ทีตอนจีบทำไมกล้าล่ะ ถ้าอยากได้เราจริงก็ต้องกล้าสิคะ ไม่ใช่ว่ามาบอกกับสื่อแต่ตัวจริงไม่โทรมาเลย ขนาดหลังรายการยังไม่เห็นโทรมาหาเราเลย วันเกิดเค้าพี่โทรไปเค้ายังถามว่ามีอะไร แต่เราไม่เคืองนะ น้อยใจมากกว่า คือถ้าเกิดจะง้อขอคืนดีกันไม่ต้องผ่านสื่อก็ได้ เบอร์โทรของฉันเค้าก็มีทั้งเบอร์ใหม่และเบอร์เก่า”

เขาจะขอความเห็นใจจากสื่อให้ช่วยหรือเปล่า?
“แล้วสื่อเป็นแฟนเธอเหรอ (ยิ้ม) คือพี่ก็ไม่ได้ปิดนะ ถ้าพี่ปิดนี่คนอื่นก็คงปิดกว่าพี่แหละ เพียงแต่พี่คิดว่าเขาไม่กล้าจริงๆ เหรอ เขาบอกกลับสื่อแต่เขาไม่โทรมาหาเราเลย”



แล้วถ้าเกิดเค้าโทรมาหาล่ะ?
“ถ้าโทรมาก็มีจะข้อแม้ที่พี่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่า เค้าต้องปรับปรุงตัวให้เห็นก่อนว่าเค้าสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แต่ตอนนี้เค้าอาจจะรู้สึกว่าเค้ายังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองละมั้ง เลยยังไม่กล้าที่จะลุยหน้าเต็มตัว พี่แค่อยากให้เค้าเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจากแต่ก่อน อยากให้เค้าทำเลยได้ไหม อย่าเอาแต่พูดหรืออย่าเอาแต่ถาม”

แปลว่าเราพร้อมเปิดโอกาสให้เค้าอีกครั้ง?
“พี่ยังไม่มีใครเข้ามาใหม่เลยพวกหนูก็เห็น ตอนนี้พี่ทำงานหนักมากกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ แต่ถ้าพี่ปิดโอกาสของเค้าไปเลย เดี๋ยวจะหาว่าพี่ใจร้ายกับติ๊งโน้ต ตอนนี้ในอินสตาแกรมพี่กระหน่ำมากว่าพี่ใจร้ายกับเค้า ไม่ยอมให้เค้าขอคืนดี พี่ก็ขอบคุณนะ เพียงแต่อยากให้ไปบอกทางโน้นบ้างว่า เค้าต้องทำยังไงเพราะถ้ามาบอกพี่ พี่ก็อยู่ของพี่เฉยๆ คือบุ๋มก็รอเค้าอยู่ แต่เค้ายังไม่เดินเข้ามาหาบุ๋ม ซึ่งครั้งนี้จะให้บุ๋มเดินเข้าไปหาเค้าอีก มันก็คงไม่ใช่”



เค้าบอกถ้าง้อเราแล้วเดี๋ยวเค้าไปแข่งรถก็กลัวว่าระยะทางจะทำให้ห่างกัน?
“แล้วก่อนหน้านี้เค้าไม่แข่งเหรอ”

แปลว่าเราก็แอบนอยด์เหมือนกัน?
“ก็ให้เค้าเริ่มทำอะไรหน่อยสิ นี่คือตั้งแต่เริ่มห่างกัน เค้าก็ไม่เคยเข้ามาหาเราก่อนเลย อย่างน้อยๆ โทรศัพท์มาหาเราหน่อยก็ได้มั้ง”

แล้วถ้าเกิดเค้ามาหาเราในงานนี้ เราจะคืนดีเลยหรือเปล่า?
“ก็คงยังก่อนล่ะมั้ง อย่างวันนี้ก็บอกเค้านะว่าจะมีอะไรบ้าง แต่เค้าก็บอกว่าต้องทำนั่นนี่เราก็โอเคไม่ได้ว่าอะไร ถ้าคุณว่างคุณก็ขับรถมา”

แล้วเรื่องหุ้นแข่งรถ ตกลงเราถอนหุ้นหรือเปล่า เพราะเค้าบอกเรายังไม่ได้ถอนหุ้นออก?
“ยังค่ะ สรุป ณ ตอนนี้ยังไม่ถอนหุ้น แต่บุ๋มกับคุณพ่อของติ๊งโน้ตจะถอนชื่อออกมาเท่านั้นค่ะ ให้เขาเป็นคนดูแลเต็มตัว เนี่ย! เรียกว่าเราไม่ให้โอกาสเขาเหรอ เงินฉันทิ้งไว้ให้ตรงนั้นเลยนะ ก็ลองให้เค้าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวบริหารทีมและดูแลให้เต็มที่ แล้วเราจะดูว่าเค้าทำได้ไหม พี่ซื้อใจเค้าอย่างนี้เลย”



หลังจากนี้ถ้าเค้าไม่มาง้อ แล้วมีหนุ่มมาจีบซึ่งเป็นผู้ใหญ่อย่างที่เราบอก เราจะโอเคไหม?
“พูดยากค่ะ ณ ตอนนี้มีคนเข้ามาคุยบ้าง แต่คุยแล้วก็หายเพราะพี่ทำงาน เอาจริงๆ พี่พูดตามตรงเลยว่าพี่รักเค้ามากนะ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่ยอมเค้าขนาดนี้หรอก และอีกอย่างคือเราไม่ได้ทะเลาะกันขนาดแตกหักกันไปเลย อย่างมีคนที่ 3 อะไรแบบนี้ เพียงแต่พี่ยังมองไม่เห็นอนาคตที่จะเดินไปกับเค้าแค่นั้นเอง พี่ไม่ใช่สาวๆ ที่จะทนกัดก้อนเกลือกินกับเค้าได้ขนาดนั้น อย่างน้อยๆ ให้เค้าดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้แม่เดินตามก็เท่านั้นเอง”

ก่อนหน้านี้เห็นบอกว่าเปลี่ยนเบอร์เพราะอยากได้สามีรวย ติ๊งโน้ตถึงขั้นนั้นหรือเปล่า?
“ยังค่ะ ติ๊งโน้ตมาตอนเบอร์เก่านะ (หัวเราะ) แต่รวยถึงไหนอันนี้ไม่รู้ เพราะยังไม่เห็นมีมาเลย (หัวเราะ) แต่ถ้ารวยแต่ไม่สปอร์ตก็ไม่เอาหรอกค่ะ อย่างน้อยๆ ก็ขอคนที่ดูแลเราได้แต่ไม่ใช่ดูแลเราเรื่องเงิน อยากให้ดูแลเราด้วยหัวใจเพราะเงินพี่มีค่ะ (ยิ้ม)”.

โดย: ไทยรัฐออนไลน์


Create Date : 31 มกราคม 2557
Last Update : 31 มกราคม 2557 11:13:26 น. 0 comments
Counter : 1543 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.