Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 พฤษภาคม 2558
 
All Blogs
 
สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กะเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.

 สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กระเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.
วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่พูดถึงสาวประเภทสองที่สวยระดับ HD จนหญิงไทยต้องชิดซ้าย “เฟรม-วรณัน นลัทวรสกุล” ซึ่งเป็นที่รู้จักมาจากกระแสการเข้าเกณฑ์ทหารที่จังหวัดลำปาง ด้วยการเรียกความสนใจและดึงดูดสายตาจากชายหนุ่มนับร้อยให้หลงเสน่ห์ไปกับเธอได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากกระแสโซเชียลที่กระหน่ำไลค์-กระหน่ำแชร์ภาพ “มิสเกณฑ์ทหาร” กันอย่างสนั่นหวั่นไหว ทำให้เธอคนนี้กลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน

หากมองจากภายนอก เธอคือนักศึกษาสาววัยใส ใบหน้าสวยงาม ดวงตากลมโตประกายให้เห็นถึงความสดใส เฟรม-วรณัน นลัทวรสกุล นักศึกษาปี 2 จากคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ซึ่งวันนี้ทีมงาน Life on Campus จะพามาเปิดใจสาวสวยที่ใครๆ ต่างจับตามอง และพูดคุยถึงเรื่องการใช้ชีวิตในวัยเรียน และมุมมองความคิดของเธอต่อเรื่องเพศที่สาม..

เบื้องหน้า-เบื้องหลัง-อัดรายการ สไตล์สาวนิเทศฯ

 สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กระเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.
“ตั้งใจจะมานิเทศศาสตร์เลยค่ะ เฟรมคิดไว้ว่าจะมาเรียนที่กรุงเทพฯ แต่ยังไม่รู้จะมาเรียนที่ไหน พอมีเพื่อนมาจากต่างจังหวัดเหมือนกันเขาแนะนำมามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณทิต เฟรมเข้ามาเดินๆ ดูภายในมหาวิทยาลัยเลยรู้สึกชอบในความร่มรื่นและบรรยากาศที่นี่น่าเรียนด้วยค่ะ เฟรมก็เลยสมัครที่นี่เลย”

เสียงบอกเล่าถึงความตั้งใจที่จะเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ของสาววัยใส เฟรม-วรณัน นลัทวรสกุล ซึ่งเธอขยายความต่อว่าสิ่งที่ทำให้เลือกเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตนั้นเกิดจากความประทับใจในบรรยากาศโดยรวมของมหาวิทยาลัย และความชื่นชอบการถ่ายภาพตั้งแต่เด็ก

“เฟรมชอบถ่ายภาพค่ะ อยากลองเรียนถ่ายภาพ หรือการใช้สื่อ เบื้องหน้า-เบื้องหลัง ตอนเด็กๆ เราเห็นในหนังในละครก็มีความคิดว่าอยากลองทำบ้าง เฟรมเลยมองคณะที่เกี่ยวกับด้านนี้โดยตรง”

ถึงแม้ว่าในวัยเด็กเธอจะไม่รู้จักคณะนิเทศศาสตร์มากนักว่าคณะนี้เรียนเกี่ยวกับอะไร แต่เมื่อโตมาเธอเริ่มศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ และด้วยความเป็นคนชอบการทำกิจกรรม การเรียนในศาสตร์นี้จึงเหมาะกับเธอที่สุดแล้ว

“ตอนเด็กก็ยังไม่รู้จักหรอกค่ะว่านิเทศศาสตร์คืออะไร แต่พอโตมาก็เริ่มศึกษาว่าเรียนนิเทศฯ คือเรียนยังไง ก็เลยอ่านแต่ของนิเทศศาสตร์มาค่ะ และด้วยตัวเฟรมเองเป็นคนชอบทำกิจกรรม ชอบปฏิบัติมากกว่าที่จะไปเรียนเกี่ยวกับสายบริหาร-บัญชีแบบนั้น เลยคิดว่าทางนี้น่าจะเหมาะกับเราที่สุดแล้ว”

 สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กระเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.
เธอเล่าต่อไปว่าสาขาที่เรียนในคณะนิเทศศาสตร์ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความถนัดและความสนใจ โดยจะมีการสอนปรับพื้นฐานให้ก่อนเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อให้นักศึกษาได้ค้นหาตัวเองว่าชอบในสาขาที่เลือกเรียนแล้วจริงหรือไม่

“คณะนี้มีสาขาพีอาร์ ประชาสัมพันธ์ โฆษณา ภาพยนตร์ วารสาร และก็มีที่เฟรมเรียนอยู่คือสาขาวิทยุโทรทัศน์ค่ะ คือตอนเข้ามาที่นี่เขาจะให้เลือกก่อนว่าจะเรียนอะไรแล้วจะมีให้เรียนซัมเมอร์ก่อน2เดือนค่ะ เป็นการเรียนปรับพื้นฐาน ส่วนถ้าใครลองเรียนในช่วง2เดือนนี้แล้วรู้สึกว่าไม่ชอบหรือยังไม่ใช่ เราก็สามารถเปลี่ยนสาขาได้ค่ะ”

ทางทีมงาน Life on Campus จึงถามถึงเหตุผลที่สาวเฟรมเลือกเรียนในสาขาวิทยุโทรทัศน์ เธอเล่าให้ฟังว่าแรกเริ่มนั้นเธอลังเลระหว่างสาขาภาพยนตร์กับสาขาวิทยุโทรทัศน์ แต่ด้วยความอยากศึกษาการทำเบื้องหลังและรายการโทรทัศน์ เธอจึงตัดสินใจเลือกเรียนสาขาวิทยุโทรทัศน์เพราะคิดว่าสาขานี้น่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า

“ส่วนเหตุผลที่เฟรมเลือกเรียนสาขานี้คือ ตอนแรกเฟรมดูๆ ไว้สองสาขาค่ะระหว่างสาขาภาพยนตร์กับสาขาวิทยุโทรทัศน์ แต่สาขานี้ที่เลือกเรียนเพราะอยากทำเบื้องหลังค่ะ อยากศึกษาการทำเบื้องหลัง การทำดีเจหรือรายการโทรทัศน์ จึงคิดว่าสาขานี้น่าจะเหมาะกับเรามากกว่า”

 สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กระเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.
แน่นอนว่าการเรียนการสอนของคณะนิเทศศาสตร์ส่วนใหญ่เน้นทักษะด้านการปฏิบัติ รวมถึงให้นักศึกษาลงมือปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสตูดิโอ การลงพื้นที่ทำข่าว หรือการทำภาพยนตร์และอื่นๆ ทว่าการเรียนในรั้วมหา'ลัยอาจมีความแตกต่างกับโลกภายนอกอยู่บ้าง สาวเฟรมยังบอกอีกว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการเรียนสาขานี้คือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและการมีความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร

“ไม่ต่างกันมากนะคะ เพราะที่เฟรมเรียนเขาสอนให้เราปฏิบัติจริงๆ เลย เข้าสตูดีโอจริง ส่วนวิชาข่าวก็เป็นนักข่าวจริงๆ ต้องออกไปหาข่าวด้วยตัวเอง และถ้าเป็นวิชาเกี่ยวกับการทำเอ็มวีเราก็ทำเหมือนที่เขาทำจริงๆ”
“ความยากของมันเฟรมว่าอยู่ที่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าค่ะ และการครีเอทีฟยังไงให้มันสร้างสรรค์ ไม่เหมือนใครและก็ไม่ไปซ้ำกับใครค่ะ มันเลยเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งเหมือนกัน”

สานต่อความฝัน..โบยบินสู่ใจกลางเมือง!

ในช่วงรอยต่อของชีวิตจากการเรียนสายอาชีพสู่การเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เธอต้องเดินทางจากภาคเหนือจังหวัดลำปาง เข้าสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครเพื่อสานต่อความฝันและความตั้งใจอยากเรียนในคณะนิเทศศาสตร์ การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก อีกทั้งการปรับตัวในสังคมมหา'ลัยจึงเป็นสิ่งที่เธอต้องเผชิญในช่วงแรกของการเรียน

“การปรับตัวยากพอสมควรค่ะ เพราะเราต้องมาเจอเพื่อนใหม่ๆ เราไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง มันก็ต้องปรับตัวศึกษากัน และต้องปรับตัวในเรื่องการใช้ชีวิตที่นี่เพราะเฟรมมาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียวด้วย แรกๆ ยากนะคะ มาแรกๆ เฟรมคิดถึงบ้าน การเดินทางก็ค่อนข้างลำบากเพราะเรามาใหม่ๆ ก็ยังไม่คุ้นทาง ไม่รู้เส้นทางอะไรเลย”

 สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กระเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.
เธอยังเล่าต่อด้วยน้ำเสียงสดใสถึงสิ่งที่ชอบในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพราะเป็นสังคมที่ไม่ค่อยมีการแข่งขัน รวมถึงเพื่อนๆ ในคณะและมหา'ลัยมีความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ความประทับใจตรงนี้จึงทำให้เธอมีความรักและผูกพันกับสถานที่แห่งนี้

“สังคมมหา'ลัยดีมากค่ะ มันไม่มีการแข่งขันกันมาก อย่างมีงานอะไรเราช่วยเหลือกันได้ สังคมเพื่อนที่นี่รักกันค่ะช่วยเหลือกันตลอด และอีกอย่างคือเฟรมเรียนสายอาชีพมามันเลยเหมือนจะโตกว่าสังคมมัธยมด้วยค่ะ มันเลยค่อนข้างมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตมากกว่าคนที่เรียนมัธยม เฟรมก็นำตรงนั้นมาปรับใช้และปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ที่นี้ได้ด้วยดีค่ะ”

ตำแหน่งดาวเทียม Miss Charity Star!!

“เฟรมเป็นคนขี้อายมากๆ พอรุ่นพี่ให้เรามาทำตรงนี้มันก็เลยมีการปรับตัว มีการกล้าแสดงออกมากขึ้น” เธอเปรยให้ฟังถึงบุคลิกภาพค่อนข้างเขินอายและไม่มีความกล้าแสดงออก ซึ่งหลังจากมีการทำกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยทั้งงานรับน้อง ประกวดดาวเดือน และการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ จึงทำให้เธอมีความกล้าแสดงออกมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เธอมีส่วนช่วยทางมหาวิทยาลัยในโอกาสงานต่างๆ ด้วย

“กิจกรรมตอนปี 1 ก็มีรับน้อง มีปฐมนิเทศ มีประกวดดาวเดือนค่ะ อย่างกิจกรรมในมหา'ลัยคือตอนแรกเลยเฟรมเป็นคนขี้อายมากๆ พอรุ่นให้เรามาทำตรงนี้มันก็เลยมีการปรับตัว มีการกล้าแสดงออกมากขึ้น ทำให้เราได้เข้าร่วมกิจกรรมกับคนอื่นๆ ทำให้เราได้ช่วยเหลือทางคณะอย่างเขามีกิจกรรมอะไรให้ไปช่วยเราก็ไปช่วยเหลือตรงนั้น”

เธอเล่าต่ออีกว่าการทำกิจกรรมนั้นไม่เพียงแต่ได้รับประสบการณ์ดีๆ แต่ยังทำให้เธอได้รู้จักเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น และได้ศึกษานิสัยของเพื่อนๆ แต่ละคนด้วย ถือได้ว่ากิจกรรมล้วนมีส่วนสำคัญที่ทำให้คนจากต่างที่ต่างถิ่นหันหน้าปรับจูนนิสัยเข้าหากันและกันเลยก็ว่าได้

 สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กระเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.
“ในความคิดเฟรม เฟรมว่ากิจกรรมให้ประสบการณ์กับเราค่ะ ไม่เพียงแต่ได้ประสบการณ์เท่านั้น มันยังทำให้เราได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น ทำให้เรารู้จักปรับตัว ทำให้รู้จักคนหลากหลายขึ้นและได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ด้วย”

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจกันอย่างท่วมท้นนั้นคือ กิจกรรมการประกวดดาว-เดือน-ดาวเทียม ซึ่งแน่นอนว่าสาวเฟรมไม่พลาดโอกาสคว้าตำแหน่ง Miss Charity Star 2013 มาครอง พร้อมกันนี้เธอยังเล่าให้ทีมงานฟังถึงประสบการณ์การประกวดในครั้งนั้นที่ยังคงความประทับใจอยู่

“เฟรมได้ตำแหน่ง Miss Charity Star 2013 ของคณะนิเทศศาสตร์ค่ะ คือมันจะมีการประกวดดาว-เดือน-ดาวเทียม เราก็เหมือนเป็นดาวอีกแบบหนึ่ง ก็ได้ทั้งตอนปีหนึ่งคือได้ของสาขาค่ะ และปีสองก็เข้าประกวดของคณะนิเทศศาสตร์เฟรมก็ได้ของคณะค่ะ”

“ประกวดเหมือนดาวเดือนทั่วไปเลยค่ะ มีการตอบคำถามที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย คำถามรอบตัว และนอกจากกิจกรรมการประกวดตรงนี้ เฟรมยังร่วมกิจกรรมงานกีฬาของมหาวิทยาลัยด้วย ส่วนงานประชาสัมพันธ์ของทางมหาวิทยาลัยเฟรมก็เป็นตัวแทนคณะไปช่วยออกบูธค่ะ”

โลกไร้พรมแดน..จุดยืนของเพศที่สาม!?

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน สังคมไทยยังไม่มีการยอมรับกลุ่มคนเพศที่สามเท่าใดนัก การแสดงออกและพื้นที่ยืนของคนเหล่านี้ยังถูกจำกัดด้วยกรอบความคิดเดิมๆ สาวเฟรมขยายความต่อด้วยน้ำเสียงมั่นใจถึงความเปลี่ยนแปลงเรื่องมุมมองและทัศนคติของคนปัจจุบันต่อกลุ่มเพศที่สาม ว่ามีการยอมรับและเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้มากขึ้นจากสมัยก่อนมาก

“ปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปมากนะคะจากเมื่อก่อนที่เฟรมยังเป็นเด็ก สมัยนี้คนเปิดใจกว้างขึ้นและเฟรมก็ภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย คือเมืองไทยยังมีสาวประเภทสองสวยๆ เยอะ และไม่มีการเหยียดเพศกัน น้อยมากที่จะมีเหยียดเพศกัน เฟรมก็รู้สึกดีที่เขามีการเปิดใจและยอมรับกลุ่มคนเพศที่สามมากขึ้น”

 สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กระเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.
นอกจากนี้เธอยังเผยให้ฟังอีกว่าไม่เพียงแต่การเปิดใจยอมรับกลุ่มเพศที่สามมากขึ้นเท่านั้น การเข้ามามีบทบาทในเรื่องของการงานอาชีพ การแสดงความสามารถและศักยภาพของกลุ่มเพศที่สามซึ่งมีให้เห็นมากทั้งในด้านวงการบันเทิง และสายงานต่างๆ ล้วนเป็นเครื่องการันตีได้ว่าสังคมปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสามารถที่แท้จริงมากกว่าจะแค่เรื่องเพศ

“ในเรื่องของการทำงาน อาชีพต่างๆ จะเห็นว่าเพศที่สามเยอะมากค่ะ มันถือเป็นการให้การยอมรับอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะการที่เพศที่สามเข้าไปมีบทบาทตรงนั้น ไม่ว่าในงานการแสดง งานบันเทิง งานเบื้องหน้า-เบื้องหลัง มันทำให้คนยอมรับเราที่ความสามารถจริงๆ มากกว่าจะมองแค่เพศ”

“ครอบครัวเฟรมเขาไม่ได้สนับสนุนแต่ก็ไม่ได้แอนตี้อะไรเราค่ะ” เธอเปรยให้ฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตาสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจบางอย่าง ด้วยความที่เธอเติบโตมาในครอบครัวที่มีมุมมองค่อนข้างเปิดกว้างต่อเรื่องเพศ อีกทั้งทางครอบครัวยังสอนเสมอว่าหากอยากเป็นสิ่งใดให้เป็น แต่ต้องอยู่บนหลักแห่งความดี และประพฤติตัวให้ดีนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

“ครอบครัวเฟรมเขาไม่ได้สนับสนุนแต่ก็ไม่ได้แอนตี้อะไรเราค่ะ เขาจะสอนเสมอว่าถ้าจะเป็นก็ขอให้เป็นคนดี ขอให้ทำแต่เรื่องดีๆ เป็นประโยชน์ต่อสังคม เขาจะขอว่าถ้าอยากเป็นผู้หญิงก็ขอให้ประพฤติตัวให้เหมือนผู้หญิง เพราะผู้ใหญ่สมัยก่อนเขาจะมีความคิดต่อสาวประเภทสองในด้านลบ เขาไม่อยากให้เราทำตัวแบบนั้น เขาก็อยากให้เราเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย วางตัวดีๆ มากกว่า”

 สวยไม่เกรงใจ “เฟรม-วรณัน” กระเทยสุดแซ่บดีกรี Miss Charity Star มธบ.
“หลังจากที่เฟรมเข้ามหา'ลัย เฟรมก็ส่งตัวเองเรียนนะคะ คือไม่ได้รบกวนเงินที่บ้านแล้ว” เธอเผยให้ฟังด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ท่าทางมั่นใจ เธอเล่าต่อไปว่าตั้งแต่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เธอได้ทำงานถ่ายแบบเสื้อผ้าสร้างรายได้ให้ตัวเองมาตลอด รวมถึงส่งตัวเองเรียนโดยที่ไม่รบกวนเงินจากที่บ้านตั้งแต่นั้นมา

“หลังจากที่เฟรมเข้ามหา'ลัย เฟรมก็ส่งตัวเองเรียนนะคะ คือไม่ได้รบกวนเงินที่บ้านแล้ว เฟรมก็รู้จักกับพี่คนหนึ่งเขาก็ให้เราไปช่วยงานด้านถ่ายแบบเสื้อผ้า เฟรมก็เข้ามาทำตรงนี้มันเลยกลายเป็นรายได้เราอีกส่วนหนึ่ง ทำให้เราส่งตัวเองเรียนได้ ส่วนรายได้ที่เฟรมได้จากการต่อเดือนก็ประมาณสองถึงสามหมื่นค่ะ”

อย่างไรก็ตาม เธอยังฝากข้อคิดดีๆ ไว้สำหรับใครหลายคนที่ทางครอบครัวไม่ให้การสนับสนุนหรือไม่ยอมรับในเรื่องของเพศที่สาม ว่าสำหรับใครที่ยังอยู่ในวัยเรียนก็จงตั้งใจเรียนให้พ่อแม่ภูมิใจ และถึงแม้ว่าจะเป็นเพศอะไรก็ตามหากมีความสามารถและเป็นคนดีของสังคม สักวันครอบครัวต้องเปิดใจยอมรับอย่างแน่นอน

“ขอให้ทำดีให้เขาเห็นเยอะๆ ว่าเราเป็นคนดี เราทำดีได้ เราทำให้เขาภูมิใจได้และสามารถเลี้ยงเขาได้ในวันข้างหน้า สำหรับน้องๆ ที่ยังเรียนอยู่ก็อยากให้น้องตั้งใจเรียนให้พ่อแม่เห็นว่าเราเรียนได้เราเก่ง ถึงเราจะเป็นอะไรก็ตามถ้าเราเก่ง เราเป็นคนดีให้เขาเห็น เขาก็จะเปิดใจยอมรับเราได้เอง”

เรื่อง : พิมพรรณ มีชัยศรี
ภาพ : ศิวกร เสนสอน



Create Date : 16 พฤษภาคม 2558
Last Update : 16 พฤษภาคม 2558 0:05:50 น. 0 comments
Counter : 4932 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.