Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
9 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
นางงามยุคใหม่ "ดังคืนเดียว"

ปิดฉากกันไปหมดแล้วกับการประกวดสาวงามใน 3 เวทีใหญ่ของประเทศไทย นั่นคือ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส มิสไทยแลนด์เวิลด์ และ นางสาวไทย ซึ่งแต่ละเวทีสาวงามที่ครองมงกุฎก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันไปตามคอนเซ็ปต์ของกองประกวด และมี 2 สาวงามที่เป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดในเวทีระดับโลก 1 สาวกลับมาแล้ว แต่อีก 1 สาว คือมิสไทยแลนด์เวิลด์ กำลังทำหน้าที่อยู่ในขณะนี้



หลายคนสงสัยว่าสาวงามที่ครองมงกุฎนับจากอดีตถึงตอนนี้ไปทำอะไรกันบ้าง ใช้เวทีการประกวดและมงกุฎที่ได้รับกับชีวิตของตนอย่างไร และเหตุผลใดที่ทำให้เธอเหล่านั้นหายหน้าหายตาไปจากสังคม ซึ่งมีหลายคนที่เดินเข้าสู่ถนนบันเทิง เปิดร้านอาหาร สถานเสริมความงามโดยใช้มงกุฎที่ได้รับเป็นตัวการันตี แต่หลายคนก็หายไปเลยหลังครองตำแหน่ง

ประเสริฐ เจิมจุติธรรม ผู้คร่ำหวอดในเวทีประกวดสาวงามมากว่า 20 ปี เล่าให้ฟังว่า การที่นางงามแต่ละเวทีจะอยู่หรือห่างหายไปจากสังคมที่สำคัญที่สุดคือการผลักดันจากต้นสังกัดที่จัดการประกวดนั่นเอง ซึ่งรู้กันอยู่แล้วว่ามิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สเป็นของช่อง 7 มิสไทยแลนด์เวิลด์เป็นของบีอีซี-เทโร นั่นก็คือช่อง 3 ส่วนนางสาวไทยคือไอทีวี และเหตุผลตามมาคือความสามารถของนางงามคนนั้นว่าเหมาะสมกับวงการบันเทิงหรือไม่ ยิ่งในปัจจุบันมีทางเลือกสำหรับการมาเป็นดาราอยู่มากมาย โดยเฉพาะเวทีเรียลิตี้ต่างๆ ใครก็ได้ที่ไม่ต้องสวยแต่มีความสามารถ อยู่ร่วมกับคนอื่นเป็นกลุ่มได้ เท่านี้ก็เป็นดาราได้แล้ว

"ซึ่งถ้าจะให้พูดถึงนางงามที่เป็นอมตะ และจะให้คนไทยเอ่ยชื่อทันทีคงหนีไม่พ้น อาภัสรา หงสกุล ที่ยังเห็นเธอบ่อยๆ ในเวทีนางงาม หรือตามงานต่างๆ ที่เธอจะไปปรากฏตัวอยู่เสมอ และที่สำคัญเธอสวยเป็นอมตะ มีภาพความเป็นนางงามติดตัวอยู่ตลอดเวลา หรืออย่าง "ปุ๋ย" ภรณ์ทิพย์ ที่ยังเป็นนางงามในใจคนไทยเสมอ แม้จะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วก็ตาม"

พอถามถึงนางงามที่ครองมงกุฎแล้วหายหน้าหายตาไปจากสังคม กูรูด้านนางงามตอบทันทีว่า มีอยู่หลายคนที่หายไปเลยยกตัวอย่างไกลนิดนึงคือ วารุณี แสงศิรินาวิน นางสาวไทยปี 2512 และกนกอร บุญมา 2515 เมื่อได้ตำแหน่งนางสาวไทยก็หายหน้าไปเลย ด้วยทั้ง 2 คนไม่ชอบการทำงานในวงการบันเทิง หรืออย่างรุ่นใหม่ที่หายไปเลย "อ้วน" วรินทร์, "เหน่ง" กุลธิดา, "เจี๊ยบ" เยาวลักษณ์ จากเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส "ฝ้าย" สิรินทร์ยา สัตยาศัย จากเวทีนางสาวไทย และ "กั้ง" ทิชา เหลืองไพโรจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2001 และนับจากนั้นสาวงามที่ครองมงกุฎมิสไทยแลนด์เวิลด์ต่างหายหน้าไปจากสังคมเกือบทุกคน

พร้อมกล่าวต่อว่า อย่างที่บอกและเห็นกันอยู่ว่าการประกวดนางงามในสมัยนี้คนที่เข้าประกวดต้องมีความฝันที่อยากจะเป็นนางงามมาตั้งแต่เด็ก อย่างล่าสุด "ชาม" อรวรินธ์ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2006 "เชอรี่" เมลิสา มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2006 และ "น้ำตาล" พรรณนภา รองอันดับ 2 นางสาวไทย ปี 2549 ต่างมีความฝันอยากเป็นนางงามจึงเข้าประกวดนางงามและได้ดั่งฝัน ตรงกันข้ามคนที่มีความฝันอยากเข้าวงการบันเทิงโดยผ่านเวทีนางงามนั้นมีน้อยมาก เพราะตอนนี้มีช่องทางต่างๆ ให้เดินเข้าวงการบันเทิงมากมาย ซึ่งคนที่เข้ามาบางคนหน้าไม่สวยไม่เด่นอะไรซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนเป็นได้เพียงคนรับใช้ แต่ตอนนี้เป็นถึงตัวนำหรือเป็นนางเอกของเรื่องทีเดียว และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้นางงามเมื่อได้รับมงกุฎแล้วหายหน้าหายตาไป

"การเข้ามาเป็นนางงามในยุคนี้ต้องมีเป้าหมาย ซึ่งในที่นี้คือความฝันที่จะเป็นนางงามอย่างแท้จริง ไม่ใช่เข้ามาเพื่อเป็นดารา เป็นศิลปิน เพราะทุกวันนี้การประกวดนางงามคนที่ได้รับรางวัลจะดังเพียงชั่วคืนเท่านั้น เหมือนดาวหางที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่ใช่ดาวประกายพฤกษ์อย่างในอดีตที่สวยและดังจนกระทั่งวันนี้ และที่สำคัญสื่อมวลชนเองก็ให้ความสำคัญกับการเวทีการประกวดนางงามน้อยลงมาก เพราะว่ามันเป็นเรื่องเก่า ไม่ใช่ข่าวใหม่ ไม่ใช่ประเด็นร้อน ไม่ใช่ข่าวกระแส โลกของข่าวสารยุคนี้มันเร็วมันไวเรื่องใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจึงน่าสนใจกว่า คนสวยในเวทีนางงามจึงหายหน้าหายตาไปจากสังคมนั่นเอง" ผู้เชี่ยวชาญตอบอย่างมั่นใจ

และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นางงามในเวทีต่างๆ ห่างหายหน้าไป การประกวดนางงามไม่คึกคักอย่างในอดีตที่ผ่านมา นั่นก็คือการประกวดนางงามในยุคนี้คนที่เข้าประกวดโดยเฉพาะคนที่จะได้ครองมงกุฎสาวงามนั้นต้องมีความสวย มีบุคลิกภาพที่ดี และที่สำคัญต้องมีชาติตระกูลที่ดี สาวๆ ที่มีคุณสมบัติเหล่านี้เมื่อได้ตำแหน่งแล้วก็จะไม่ค่อยสนใจเรื่องการเข้าวงการบันเทิง เพราะด้วยชาติตระกูลนั้นมีชื่อเสียงอยู่แล้ว การศึกษาดีก็สามารถทำงานได้ตามใจรัก การเข้าประกวดนางงามถือเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้นเอง ซึ่งตรงกันข้ามกับเวทีการประกวดขาอ่อนในอดีต ที่ผู้เข้าประกวดเพียงมีความสวยเด่นเท่านั้นก็สามารถครองมงกุฎได้อย่างง่ายดายจึงทำให้นางงามในอดีตมีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตามผู้คร่ำหวอดในวงการนางงามยังปิดท้ายอย่างน่าตกใจด้วยว่า เวทีประกวดนางงามของประเทศไทยนับวันแต่จะลดน้อยหายไป และบางเวทีที่จัดประกวดขึ้นอาจไม่ได้รับการตอบรับจากสื่อมวลชนเลยก็เป็นได้



Create Date : 09 กันยายน 2549
Last Update : 9 กันยายน 2549 23:38:20 น. 1 comments
Counter : 1506 Pageviews.

 


โดย: วารุณี แสงศิรินาวิน IP: 203.147.4.193 วันที่: 9 ตุลาคม 2549 เวลา:13:05:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.