|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
หัวอกของแม่....วันคืนที่มองกลับไป
"ตั้งใจเรียนนะลูก พ่อลำบากมากนะแต่พ่อก็ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูก ๆ มีการศึกษาที่ดี" เสียงแม่บอกฉันไว้ในขณะที่มาส่งฉันที่กรุงเทพฯ
การจากบ้านมาไกล ๆ ในขณะที่เด็กอายุน้อยอย่างฉันมันช่างเป็นเรื่องทรมานใจมาก คืนก่อนนอนฉันจะนึกถึงภาพบ้านในชนบทและคิดถึงแม่ทุกครั้งและน้ำตามันก็จะไหลออกมาด้วยความคิดถึงบ้าน โรงเรียนแห่งใหม่มันช่างเปลี่ยนวิถีชีวิตของฉันจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากเด็กที่เรียนในโรงเรียนระดับหมู่บ้านไปสู่การเรียนในโรงเรียนเอกชนที่อยู่ในเมืองหลวง ดูเหมือนว่าสังคมของเพื่อนใหม่มันช่างแตกต่างจากสังคมเพื่อนตอนที่อยู่ในชนบทอย่างมาก ฉันไม่รู้หรอกว่าการเรียนที่นี่มันจะนำอะไรมาสู่ชีวิตบ้าง รู้แต่ว่ากลัวจะเรียนไม่ทันเพื่อนและดูเหมือนฉันจะขยันเรียนมากกว่าที่อยู่ต่างจังหวัด.....
การเรียนชั้นประถมสามกับการดูแลของพี่สาวคนโตที่ช่วยเหลือฉันทุก ๆ อย่างทำให้ฉันรู้สึกรักพี่สาวมาก
ความรักระหว่างพี่น้องเป็นความรักที่มีแต่ความห่วงใย แม่มักจะมาเยี่ยมฉันและพาฉันไปส่งที่โรงเรียน ฉันรู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่แม่มีให้ มันเป็นความรักที่แม่คนหนึ่งจะมีให้ลูกที่อาจจะบอกว่าอาจจะยังเด็กเกินไปที่จะต้องมาผจญภัยในโลกกว้าง.......
เวลาปิดเทอมฉันยังจำได้ดีถึงอาหารต่าง ๆ ที่แม่พยายามหาซื้อมาเพื่อพยายามทำให้ลูกชายดูอ้วนท้วนขึ้น ฉันมองเห็นถึงความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูกทุกคน
(เดี๋ยวมาต่อ)
มีอยู่ครั้งหนึ่งพี่สาวคนโตประสบอุบัติเหตุตรงบริเวณใบหน้า แม่ก็ไปหาครีมของโพลาสมัยนั้นซึ่งราคาค่อนข้างแพงมาทาให้จนแผลหาย แม่ดูจะเป็นห่วงชีวิตความเป็นอยู่ของลูก ๆ มากหลังจากอยู่กับญาติระยะหนึ่ง ด้วยความรู้สึกอึดอัดพวกเราทั้งหมดจึงบอกแม่และแม่ได้ตัดสินใจมาเช่าบ้านให้พวกเราพี่น้องอยู่รวมกัน สมัยนั้นจำได้ว่าเมื่อหมดช่วงรับซื้อข้าวเจ้ารถคันเก่งของพ่อก็จะหางานขนส่งมาที่กรุงเทพและแม่ก็จะติดมาด้วยทุกครั้งพร้อมกับของฝากเป็นอาหารต่าง ๆ ที่ยังจำได้คือเนื้อที่เป็นคล้ายเนื้อหมักแต่ออกสีดำ ๆดูแห้ง ๆ ชีวิตก็คงดำเนินมาเรื่อย ๆ พร้อม ๆกับการค้าที่เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ของพ่อ เวลากลับไปบ้านแม่จะต้องพาไปที่ดินที่ซื้อทิ้งไว้ห่างจากตัวตำบลออกไปราว 3 กม. และดูเหมือนแม่จะมีความสุขกับการได้ปลูกมะม่วงและที่ดินผืนเล็ก ๆประมาณ 2 ไร่ก็ได้ใช้ประโยชน์ในกิจการค้าข้าวโพดในเวลาต่อมา....
ประมาณปี 2519 หลังจากที่ชีวิตการเรียนของฉันเปลี่ยนไป พ่อดีใจกับฉันอยู่ได้ไม่นานแล้วก็มีข่าวร้ายที่สุดในชีวิตครอบครัวเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่คิดว่ามันจะมารวดเร็วขนาดนี้...
ขณะเดินข้ามถนนเพื่อจะไปซื้อขนมทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น2 นัด พ่อล้มลงและหลังจากตั้งสติได้แม่ก็รีบนำพ่อส่งที่รพ.ที่พิษณุโลกซึ่งเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดในตอนนั้น ด้วยความพยายามช่วยชีวิตจนสุดความสามารถของแพทย์ แต่เนื่องจากกระสุนถูกบริเวณสำคัญคือบริเวณตับและแผลเกิดการอักเสบ แม่ตัดสินใจนำพ่อมารักษาที่รพ.มิชชั่น แต่ก็ไร้ผล เวลาราว 2 สัปดาห์ของที่นี่ได้ทำให้ชีวิตหนึ่งต้องจากโลกนี้ไป.....ทิ้งภาระต่าง ๆ ไว้ให้กับผู้หญิงหม้ายคนหนึ่งที่ดูจะไม่มีความสุขนักกับการที่สามีถูกลอบทำร้าย แม่ตัดสินใจขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มีทั้งรถบรรทุกคู่ชีพ 2 คันและที่นาต่าง ๆ ที่มีอยู่ในช่วงนั้น รวบรวมเงินไปใช้หนี้ธนาคารแล้วก็หันเหชีวิตกลับคืนสู่เมืองหลวง ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของแม่ตอนก่อนแต่งงาน.......
กงหรือตาได้ช่วยเหลือแม่ทุกอย่างตั้งแต่ตัดสินใจเซ้งตึกที่อยู่เดิมให้แม่ทำการค้าต่อไป แม่ก็มาเริ่มชีวิตใหม่ด้วยการขายพวกเหล้า-น้ำต่าง ๆ ในขณะที่หน้าร้านก็ให้เขาเช่าขายพวกอาหารอีสาน.......
ชีวิตดำเนินมาเรื่อย ๆจนวันหนึ่งหลังจากเจอคนขับแท็กซี่และคนขับคนี้ได้แนะนำให้แม่ลองซื้อแท็กซี่มาปล่อยเช่าดู แม่ฟังแล้วก็อยากลองเลยตัดสินใจซื้อรถแท็กซี่เก่ามาสองคันมาปล่อยเช่า หลังจากทดลองระยะหนึ่งพอมองเห็นช่องทางแม่ก็ตัดสินใจซื้อรถใหม่เข้ามาอีกราว 8 คันและซื้อป้ายแท็กซี่ซึ่งสมัยนั้นมีราคาเป็นแสนและผ่อนรถกับบริษัทที่ทำธุรกิจรับซื้อขายแลกเปลี่ยนรถแท็กซี่ การทำธุรกิจนี้ก็ดำเนินมาเรื่อย ๆ และแน่นอนปัญหาก็มากตามสภาพการหมุนเงินที่คล่องมากเพราะรับเงินสดรายวัน หลายครั้งที่ต้องปวดหัวกับคนขับเวลารถเกิดอุบัติเหตุและบางทีก็เป็นหนี้สูญ.........หลังจากรัฐบาลอานันท์ตัดสินใจเปิดเสรีแท็กซี่ก็ทำให้อู่แท็กซี่เก่าจำนวนมากที่ตัดสินใจไม่ทันต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากเพราะในระยะหลังการปั่นราคาป้ายแท็กซี่มีมากพอ ๆ กับการปั่นราคาหุ้น จากราคาแสนเศษ ๆในปี 2527ถึงปี2532 ราคาป้าย 1 ท ขึ้นไปถึง 8 แสนบาท และก็โชคดีที่แม่ตัดสินใจขายรถออกไปแล้วก่อนหน้านั้นแม้จะได้ราคาไม่สูงนัก........
ชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตแต่งงานเมื่ออายุ 16 ปีและต้องไปอยู่ต่างถิ่น พร้อม ๆ กับชีวิตต้องมาพบเจออุปสรรคปัญหาต่าง ๆ หรือมรสุมของชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าในสภาพสังคมที่อาจะเรียกว่า"มือใครยาวสาวได้สาวเอา" เมื่อมองกลับไปเธอเองก็คงไม่คิดว่าชีวิตที่ผ่านมามันจะเป็นชีวิตที่โหดร้ายพอสมควรกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังคงต้องดิ้นรนต่อสู้เหมือนกับผู้หญิงอีกหลาย ๆ คนที่อยู่ในสภาพคล้าย ๆ กัน ผู้หญิงไทยที่ด้านหนึ่งต้องเป็นแม่บ้านแต่อีกด้านหนึ่งต้องแบกภาระต่าง ๆ เอาไว้เมื่อครอบครัวสูญเสียผู้นำครอบครัวไป ฉากหนึ่งของการสู้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งอาจจบลงไปแล้ว แต่วันนี้สังคมไทยยังคงสร้าง "หญิงเหล็ก" อีกนับร้อยนับพันตามสภาพสังคมที่ยังต้องต่อสู้ดิ้นรนมากขึ้น ผู้หญิ่งไทยที่ด้านหนึ่งถูกกดขี่ทางเพศแล้วก็ยังอาจจะถูกกดขี่จากสภาพทางเศรษฐกิจอีกด้วย แต่วันนี้สถานภาพของผู้หญิงในสังคมไทยอาจจะดีขึ้นเป็นลำดับ เราได้เห็นผู้หญิงเก่งในหลาย ๆ วงการขึ้นมาอยู่ในระดับนำและสุดท้ายก่อนจบที่จะไม่มีวันลืมคือบทบาทของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ทำหน้าที่ของแม่คนหนึ่งเพื่อให้ลูก ๆ ทุกคนได้ประสบความสำเร็จในชีวิต..........
Create Date : 25 กันยายน 2548 |
Last Update : 26 กันยายน 2548 23:07:50 น. |
|
29 comments
|
Counter : 506 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ลำพูริมน้ำ วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:12:25:02 น. |
|
|
|
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:13:05:13 น. |
|
|
|
โดย: ศาลาไทย (salathai ) วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:14:05:34 น. |
|
|
|
โดย: มัชฌิมา วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:14:06:25 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:14:08:38 น. |
|
|
|
โดย: asariss วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:15:55:33 น. |
|
|
|
โดย: คนสวย IP: 203.151.140.119 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:18:49:32 น. |
|
|
|
โดย: แก้มเล่า วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:20:41:57 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:20:48:17 น. |
|
|
|
โดย: Black Tulip วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:21:42:36 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:22:02:28 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:4:34:00 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:7:55:31 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:8:07:57 น. |
|
|
|
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:8:10:12 น. |
|
|
|
โดย: Black Tulip วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:8:56:37 น. |
|
|
|
โดย: แก้มเล่า วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:9:12:18 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:9:21:54 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:9:26:14 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:9:59:38 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:10:07:00 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:11:51:20 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:12:09:46 น. |
|
|
|
โดย: แก้มเล่า วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:12:42:20 น. |
|
|
|
โดย: p_jung IP: 221.128.90.191 วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:22:38:33 น. |
|
|
|
โดย: กุมภีน วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:22:43:34 น. |
|
|
|
โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:22:46:03 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:0:18:21 น. |
|
|
|
โดย: อังศนา วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:18:40:41 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เราเองก็เป็นคนบ้านนอก...บางทีพอมีโอกาสได้ก้าวเข้ามาอยู่เมืองใหญ่...มันก็สับสนว้าวุ่น...ไม่เหมือนที่บ้านนอกของเราเลย