ครอบครัวนักท่องเที่ยว: ตอน ตะลุย สมุย แล้วข้ามทะเลไปตรัง
กระแสโปรโมชั่นดีๆ 0 บาทกับแอร์เอเชีย ยอมรับถึงความ "แรง" ใช่ไหมคะ...มีทั้งแรงแบบโชคดี และแรงแบบโชคไม่เข้าข้าง...แต่ว่าไป...โปรแบบนี้ สำหรับครอบครัวเราเนี่ย ดีมากมายค่ะ...ทำให้ได้พาครอบครัวเที่ยวมาเป็นปีที่ 3 แล้ว....อิๆๆๆๆ การท่องเที่ยวของ "ครอบครัวนักท่องเที่ยว" คราวนี้...ใช้ตะแกรงช้อนโปร 0 บาทจากปลายปีที่แล้ว (ถ้าจำไม่ผิด เดือนพฤศจิกายน 2552)...จองกันข้ามปี...มาบินเอาเดือนพฤษภาคม 2553 ....เหมือนจะนานนะ แต่ก็ไม่นานค่ะ แว๊ปเดียวก็ได้เดินทางแว้ว.... คำจากท่านแม่ว่า...."ลูกจองแบบนี้ แล้วจะไปไหน".... คำว่าจองแบบนี้ หมายถึง.... - เดินทางจากกรุงเทพ - นครศรีธรรมราช 07.00-08.15 น. วันที่ 11/5/53 - เดินทางจากหาดใหญ่ - กรุงเทพ 12.30 - 14.00 น. วันที่ 14/5/53 "นั่นดิ" จะไปไหนดี.....มองดูความเป็นไปได้ก่อน.... หลักการบ้านเรา คือ "ไม่เคยทำอะไร จะให้ไปทำ".... คราวที่แล้ว ไม่เคยไปพายคะยัก ก็ให้ไป...คราวนี้ล่ะ....ไม่เคยดำน้ำ และไม่เคยนั่งเรือเฟอรี่....จัดให้...เอาแบบข้ามน้ำข้ามฝั่งทะเลเลยแล้วกัน เหอๆๆๆๆ มาติดตามเรื่องราว "ครอบครัวนักท่องเที่ยว" ตอน "ตะลุย สมุย แล้วข้ามทะเลไปตรัง" กับครอบครัวเราได้เลยค่ะ.....
เริ่มต้นการเดินทาง....หลังจากลงไฟล์เช้าสุดที่นครศรีธรรมราช...กับโปรลั้นลา 0 บาทได้ใจ....สารถีอย่างเราก็มารับด้วยรถคันเก่ง...ประจำการภาคใต้...พร้อมด้วยข้าวเหนียวไก่ทอดและหอมเจียวแบบคนใต้...หรอยแรง.... จุดมุ่งหมายวันนี้....ไปเกาะสมุย...แบบ No Plan ไม่มีอะไรเลย นอกจากคำว่า "สมุยเท่านั้น" ....เอาเข้าไป....เฮ้อ ระหว่างทาง...ก็ให้รับประทานอาหารเช้า (ข้าวเหนียวไก่) บนรถ...มุ่งหน้าตรงไปท่าเรือเฟอรี่ ท่าดอนสัก....เข้าไปต่อคิวรับบัตรโดยสาร.... สำหรับคนไหนที่ยังไม่เคยมาสมุย....เค้ามี 2 บริษัทที่บริการที่ท่าเรือดอนสักนะคะ... บริษัทแรก....ซีทราน เฟอรี่....อันนี้ใหม่หน่อย //www.seatranferry.com/ บริษัทที่สอง....ราชาเฟอรี่...อันนี้อยู่มาก่อน เวลาเดินทางก็พอกัน.... ปรากฎว่า บริษัทแรกเต็ม (ขนาดวันธรรมดานะเนี่ย) กว่าจะได้ลง 12.00 น. เลยเสี่ยงดวงไปบริษัทที่สอง....อ้าว...ได้ตอน 11.00 น.....ขณะนี้เวลา 10.00 น. พอดี...มีเวลา.... จ่ายค่าโดยสารกันก่อน - สำหรับรถเก๋งเล็กๆอย่างเรา + คนขับ = 470 บาท/เที่ยว - ผู้โดยสาร = 150 บาท/คน/เที่ยว ขับรถไปต่อคิว...เอ...ไม่เห็นมีคิว...มีแต่เรือรออยู่ 1 ลำ ไม่เต็มอีก...แล้วก็เห็นมือพนักงานกวักเรียก เอ๊ะ...เรียกเราป่าว....ยังไม่ไปดีกว่าเผื่อเรียกคันหลัง...แต่เอ เรียกนานจัง ....ไหนลองไปใกล้ๆสิ...อ้าวเรียกเราจริงด้วย...พอไปถึง เค้าก็บอกว่า "เรียกตั้งนาน รอให้คนอื่นเค้าลงให้เต็ม ไปช้าหรือไงน้อง".... "อ้าวพี่...ลงได้เลยเหรอ คิวเรา 11.00 น.นะ...." "ลงได้แหละ ก็มันไม่เต็มนี่นา จะไปป่าว หรือรอให้เพื่อนไปก่อนให้หมด 555" "ลงสิพี่...ไปก็ไป....." เลยได้ลงเป็นคันสุดท้าย วินาทีสุดท้าย ก่อนเรือออก...เหอ.... เอ้า...เอาภาพบนเรือที่สองตายายเค้าลั้นลามาฝากค่ะ....
ขึ้นเรือได้....ท่านก็นั่งกินลมชมวิว...คว้ากล้องออกมาเพลินกันการถ่ายภาพ...แถมปีนไปดาดฟ้า ถ่ายภาพกันสนุกสนาน...ก่อนเหนื่อยเกิน (ตามวัย) ลงมาหากาแฟกะขนมในเรือกิน......ในเรือมีของกินจำหน่ายนะคะ ราคาก็คงแพงกว่าบนฝั่งน่ะแหละ แต่ก็ไม่โหดจนเกินไป...ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง เพลินๆ ชิลๆ อ้าว..ถึงแล้ว.... รีบลงไปประจำการ พขร.ทันที...ขึ้นฝั่งได้ กระบวนการวนรอบเกาะ ก็เริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้....
การเดินทางรอบเกาะเนี่ยสะดวกดีนะคะ....มีถนนสามารถวนรอบเกาะได้เลย...ครอบครัวเราไม่เน้น "เที่ยวเจาะเฉพาะที่นานๆ" เลยขับไปเรื่อยๆดีกว่า....ขับไป ชมบ้านเมืองไป...เหมือนอยู่เมืองฝรั่งเข้าไปทุกที...อยู่ไหน ป้ายก็เป็นภาษาอังกฤษ....มีพี่ฝาหรั่งเยอะแยะ....ขี่แมงกะไซด์มากมาย...เหอๆๆๆๆ ดีๆๆๆ การท่องเที่ยวจะได้สะพัด... ที่แรกที่ไปแวะ คือ วัดพระใหญ่....สวยมากๆค่ะ (ถึงแม้วันนั้นจะร้อนมากมายก็ตาม)....พระองค์โตมากๆ ทำบุญ ไหว้พระ ทำสังฆทาน....แล้วขึ้นไปชมพระด้านบน.....วิวจากด้านบนมองเห็นท้องทะเลสวยๆของเกาะสมุยได้ดีมากมายค่ะ.... สิ่งที่น่ารัก...เจอฝาหรั่งให้เกียรติสถานที่...ถอดรองเท้าย่ำพื้นร้อนๆ (แต่เราไม่ถอด เพราะหลวงพี่บอกว่าไม่ต้องหรอกโยม...เดี๋ยวเท้าพอง) เห็นแล้วอยากบอกเค้าว่า "หลวงพี่ไม่ว่า ไม่เป็นไร"....แต่เจอเค้าขาลงบันได...บอกไปเดี๋ยวช้ำใจ อิๆๆๆๆ
ถัดไปอีกหน่อย...ก็ได้เห็นภาพจากเพื่อนๆ BP นี่แหละค่ะ ทำให้รู้ว่า ออกไปนิดนึงจากบริเวณวัด ที่เค้าขายของที่ระลึกเยอะๆเนี่ย มีรูปปั้น "เรื่องราวพระอภัยมณี" อยู่ด้วย...ต้องไปซะหน่อย..... คุณตานึกสนุก..."ลูกๆๆๆ เดี๋ยวถ่ายภาพพ่อตอนโดนนางยักษ์จับไว้หน่อยนะ".... เอาเข้าไป....แถมคุณยายก็ไม่แพ้กัน...."เดี๋ยวแม่ไปฉุดออกมานะพ่อ"....เป็นเอามากทั้งสองคน..... เลยได้ชาดกใหม่มา....เน้นฮาแบบนี้แหละค่ะ....เฮ้อ....
ร้อนมากมายนะวันนี้ อะไรจะร้อนได้ขนาดนี้เมืองไทย....ไปสงบสติต่อที่วัดดีกว่าค่ะ...วัดอะไรน้า จำชื่อไม่ได้...รู้แต่ว่า ขับจากวัดพระใหญ่ เลี้ยวซ้าย (เพราะเราจะวนรอบเกาะ) ก็มาเจอพอดี....ผ่านวัดไปแล้วแหละค่ะ...เห็นสิ่งก่อสร้างอลังการ เลยเลี้ยวรถกลับมาใหม่....ประตูหน้าวัดกำลังทำใหม่พอดี...เห็นยากนิดนึง...แต่เข้าไปสวยมากๆเลย.... แบ่งเป็น 3 ส่วนค่ะ....พระจีน 2 รูปขนาบโบศก์กลางน้ำ....สวยแท้ๆๆๆๆ ดูโซนแรกก่อนนะคะ...พระสังกระจาย (เขียนถูกไหมหว่า)....องค์โตมากมาย...สวยๆๆๆ
มุมนี้มีนกพิราบเยอะมาก...เห็นคนทางไหน...ฝูงไปทางนั้น....คิดว่ามีของกินตลอด...เหอๆๆๆ เสียใจด้วยนะ... ส่วนที่สอง...เป็นโบศก์กลางน้ำค่ะ...สวยและเย็นมากมาย...สองตายายถึงกลับขออยู่สักพัก...ทนร้อนไม่ไหว อิๆๆๆๆๆ ภายในสวยมากค่ะ
ส่วนที่สาม...อยู่นานไม่ได้ มันร้อนมากแล้วค่ะ เลยแว๊ปถ่ายภาพเฉยๆ เป็นโซนเจ้าแม่กวนอิมค่ะ...องค์ใหญ่ มีหลายกร....สวยมากค่ะ... จากนั้นก็ต้องทำบุญกระเบื้อง, ให้อาหารปลา และให้อาหารคนตามลำดับ.... อาหารปลาที่นี่เป็นตู้หยอดเหรียญนะคะ มีถุงพลาสติกให้ใส่หลังอาหารลงมาขัน...แถมด้วยพระสวดอวยพรอีกต่างหาก....สุดยอด อิๆๆๆ
จากตรงวัด...เราก็มุ่งหน้าไปหาเจดีย์แหลมสอ... แต่ว่า ....เอ่อ...หลง..... เจดีย์แหลมสออยู่ตรงไหนอ่ะ...แผนที่ที่ได้มาจากท่าเรือก็ดี้ดี....เป็นภาษาอังกฤษทั้งฉบับ...แผนที่ที่ได้จาก BP ก็ดังอยู่หลังรถ หาไม่เจอ...เฮ้อ....สุดท้ายไปทางหาดเฉวง (ซึ่งลงไปชมความงามไม่ได้ เพราะไม่ได้พักที่นี่ ไม่มีที่ให้จอดรถได้เลยสักนิด หรือเพราะเราไม่รู้แหล่งจอดรถก็ไม่ทราบ....) แล้ววนรถไปมา....เลยได้เจอกับเจดีย์นี้แทนค่ะ.... ตอนแรก นึกว่าเจดีย์แหลมสอ...ดีใจมากมาย..รีบขึ้นไปทันที...อ้าว...เอ๊ะ...ไม่เหมือนในรูป....แต่สวยเหมือนกันค่ะ...ด้านหลังเป็นสนามบินสมุยและเห็นหาดเฉวง....ไม่ได้ลง เห็นหาดก็ยังดี เหอๆๆๆๆ... แต่สองตายายสิ...เริ่มบ่น..."ประเทศไทย อะไรมันร้อนได้ขนาดนี้"....เลยต้องรีบพาลงก่อน เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งเอา....
จากนั้น...ตามแผนที (อุส่าห์) วางไว้....ก็ต้องไปจุดชมวิวลาดเกาะ...แต่เอ...ไหนหว่า...อยู่ตรงไหนนะ... คุณลูกสาว...."พ่อ ดูแผนที่ดิ จุดชมวิวมันอยู่ตรงไหนอ่ะ".... คุณตา....."ดูอะไรล่ะ มีแต่ภาษาอังกฤษ แม่ๆๆๆ ขอแว่นหน่อย" คุณยาย...."จะดูทำไมกันล่ะ...ก็อยู่ด้านหน้านั่นไม่ใช่เหรอไง".... อ้าว....เอ๊ะ....เอ่อ......จริงด้วย...มันมีแค่นี้เอง...นึกว่าใหญ่โต....เอ้อ...ไหนๆมาถึง ก็ต้องลง.... วิวตรงนี้สวยดีนะคะ...แต่ว่าตอนเราไปเหมือนจะมีฝนมาอีกไม่นาน...(มาสักที ร้อนจะตายอยู่แล้ว) ภาพเลยออกจะมืดไปสักนิด...แต่แนะนำว่าควรมาชมวิวค่ะ...สวยๆๆๆๆ
ถึงตรงนี้...สองตายายเริ่มหมดแรงข้าวเหนียวไก่เมื่อเช้า...แต่ด้วยสปิริตนักท่องเที่ยว....ไปอีกสักแห่งจะเป็นไร.... เราขับรถวนกลับไปที่หาดเฉวง ซึ่งเป็นทาง One Way อีกครั้ง หมายมั่นว่าจะลงให้ได้....แต่ที่ไหนได้....ขับไป ขับมา...ออกจากหาดเฉวง...ถอดใจ... มุ่งหน้าต่อดีกว่า...หินตา หินยายนี่แหละ....ที่ถัดไป.... ทางเข้าก็ไม่ใหญ่...เอ่อ...จะว่าเล็กมากก็ได้นะ....เข้าไปก็นึกสงสัยว่า..ถ้ามีรถสวนออกมาจะทำไง...แต่ก็ไปจนได้แหละค่ะ... จอดรถบริเวณที่จอดรถข้างร้านค้า...เสียกะตังค์ 20 บาทขาดตัว....สองข้างทางเดินมีแต่ "กะละแมเกาะสมุย" ชิมซะหลายร้าน อร่อยดีค่ะ... มาถึงบริเวณ หินตา หินยาย.... คุณตาเห็นถึงกับหัวเราะก๊าก...."มันใหญ่อย่างนี้น่ะเอง"....อิๆๆๆ ใครมาก็ฮาทั้งหมดน่ะแหละ.... ส่วนคุณยายไม่ยอมแพ้...หาหินยายมั่ง....อ้าว...เอ๊ะ....ทำไมมันลาดลงไปอย่างนั้นล่ะ..."ลูกๆๆๆ เดินลงได้เหรอ แล้วแต่จะว่ายน้ำหรือเปล่าเนี่ย"....นั่นดิ....ลาดจริงด้วย....แต่เดินได้ค่ะ แนะนำว่าให้กฎแรงโน้มถ่วงให้เป็นประโยชน์ อิๆๆๆ ไม่ใช่แต่คุณตาและคุณยายที่เห็นแล้วฮานะคะ....นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำหน้างง เวลาเค้าเดินเข้ามา แต่พอเห็นสัญลักษณ์ที่สากลซะขนาดนี้....ก็ขำก๊ากแจะเป็นเหมือนคุณตากับคุณยายทันที.... ....ใครๆมาก็ต้องถ่ายภาพทะเล้น.... ....ใครๆมาก็ต้องอมยิ้มกลับไป.... ดีนะเนี่ย Amazing Thailand
เริ่มเห็นอาการ "ตาลาย" ของทั้งสองคนแล้ว...รีบออกจากหินตาหินยายดีกว่า...จุดมุ่งหมายข้างหน้าคือ "ร้านเสบียงเล" ซึ่งน้องสาวที่น่ารัก เป็นคนสมุยเลยแนะนำว่า "ต้องกินให้ได้นะพี่"...โอเช ไม่พลาด... ร้านอยู่ไม่ไกลจากหินตาหินยายค่ะ อยู่ติดถนนเลย....ห่างไม่เกิน 200 เมตร (ถ้าออกมาจากหินตาหินยายก็เลี้ยวซ้าย เลยสะพานเล็กมานิดนึง ถึงเลยค่ะ โค้งพอดี ระวังรถหลังด้วยนะคะ) เราจอดรถได้ ยังไม่ทันดี...สองตายายเดินลิ่วๆๆๆ เข้าไปในร้าน....พอนั่งได้...หาผ้าเย็นกันใหญ่....อิๆๆๆๆ ก็ร้อนได้ใจนี่นา... อาหารน่ากินไปหมด (หรือหิวมากก็ไม่รู้) เราเลือกทาน "ปลากระพงทอดน้ำปลา" "ต้มยำทะเล" และ "แกงหอยหลุบ" เคยได้ยินป่าว.....เพิ่งเคยได้ยินก็ที่นี่แหละ (อยู่กับทะเลมานานนะเนี่ย ยังไม่เคยได้ยินเลย) เป็นอาหารพื้นเมืองของที่นี่ค่ะ ทำจากดอกไม้ทะเล คล้ายๆแกงหอยขม อร่อยดี...ขนาดบอกว่าเผ็ดน้อย...แต่ก็ทำเอาสองตายายลิ้นห้อยกันไปข้างนึง.... ระหว่างหม่ำกันเต็มที่...ก็เห็นแมวเหมียวตัวนี้ เดินมาส่งสายตาน่าสงสาร...อดใจไม่ไหว...เลยต้องคนคำนึง แมวคำนึง...จนเค้าอิ่มแล้วจากไป.... ราคาค่าเสียหายทั้งหมดที่เห็น 640 บาท....ถือว่าไม่แพงในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตขนาดนี้นะคะ......
อิ่มแล้ว งูเหลือมเริ่มทำงาน...ไปไหนไม่รอด..."หาที่พักดีกว่าลูก".... สโลว์แกนบ้านเรา "เที่ยวเมืองไทยแบบสบายกระเป๋า" ไม่เน้นพักแพง...แต่ว่า....แล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะ ที่พักไม่แพง แต่ดี....หายากบนสมุยนะเนี่ย.... ระหว่างขับรถไป ก็ฟลุค เจอที่พักสร้างใหม่ได้สัก 1 ปี ของสหกรณ์การเกษตรเกาะสมุย....เป็นอาคาร 3 ชั้น ใกล้สี่แยกที่จะไปท่าเรือซีทราน....มองเห็นแป๊บนึง ตัดสินใจเลี้ยวเข้าไป.....ขอชมห้อง...โอเค พักได้ ราคาน่าคบมากบนเกาะสมุย.... ห้องเตียงเดี่ยว 450 บาท/คืน (ไม่มีน้ำอุ่นและอาหารเช้า) ห้องเตียงคู่ 750 บาท/คืน (มีน้ำอุ่นหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ไมมีอาหารเช้า) ห้อง VIP ซึ่งมีห้องเดียว 1000-1200 บาท จำไม่ได้ แต่ว่าหรูกว่านิดนึง.... ห้องรวม.....รวมได้เยอะถึง 12 คน....ราคาก็ไม่แพง ตกคนละ 250 บาท ดูๆแล้ว เค้าเน้นให้ข้าราชการมาพักเป็นหลัก แต่เราโชคดี เข้าไปก็มีห้องพอดี...แหะๆๆๆๆ ในห้องก็มีตู้เย็น, ทีวี, เครื่องปรับอากาศ, ตู้เสื้อผ้าแบบ Build-in ห้องไม่ใหญ่แต่ก็พักได้สบาย ไม่มีวิวทะเล...อยากได้วิวทะเล ขับไปอีกนิดก็ได้แล้วค่ะ....อิๆๆๆๆ
ตื่นเช้า...เราก็มีแผนว่าจะมุ่งหน้าไป จ.ตรัง...เพราะวันถัดไปซื้อทัวร์ดำน้ำทะเลตรังไว้....เอาล่ะ...มีเวลาเดินทางข้ามฝั่งทั้งวัน...สบายมาก... เราเริ่มออกเดินทาง 08.00 น. เพราะเราใกล้ท่าเรือซีทราน...พอไปถึง เดินอย่างมั่นใจเข้าไปซื้อตั๋ว ถึงกับหน้าแตก...เพราะเค้าจำหน่ายเฉพาะตั๋วรถแมงกะไซด์และตั๋วผู้โดยสาร รวมถึงตั๋วที่จองไว้ แต่ถ้าเราไม่ได้จอง...ก็ต้องไปซื้ออีกจุดนึง....แล้วเค้าก็ส่งแผนที่มาให้ ...ขับไปตามเค้าบอก เจอที่จำหน่ายตั๋วรถ จ่ายกะตังค์...แล้วก็มุ่งหน้าตรงไปลงเรือเลย...ดีเหมือนกัน.... อาหารเช้าของเรา....กินบนเรือนี่แหละค่ะ...แซนด์วิชที่คุณลูกสาวซื้อไว้เมื่อวานก็เอามาประกอบร่างบนเรือ, กาแฟร้อน, ขนม อร่อยมากมาย..... ขึ้นท่าเรือดอนสัก...ก็มุ่งหน้าไปทาง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี...เพื่อไปถึงถนน Southern ซึ่งเป็นถนนที่ตัด 4 เลน ระหว่างฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน...ใครจะเดินทางแบบเรา ใช้เส้นทางนี้สะดวกมากค่ะ... เรามุ่งหน้าไปกระบี่...ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ปลายทางก็ออกที่ อ.อ่าวลึก..... จากนั้นก็แวะเที่ยวคลองท่าปอมก่อน....สองตายายยังไม่เคยมา เดินเที่ยวนิเวศป่าพรุ อากาศเย็นๆ สบายๆ เด็กๆเล่นน้ำสนุกสนาน...นี่แหละ คลองสองน้ำ....
แบบว่าคลองท่าปอมน่ะเล็กๆนะคะ แต่สวย...มีไม้น้ำสีเขียวอยู่ในน้ำใสๆ สวยมากกกก เอาไปอีกภาพละกันนะคะ ค่าเข้าไปเที่ยวก็ไม่แพง.... จำได้ไม่แน่นอน 10-20 บาท/คน...แล้วถ้าจะพายเรือคะยัก ก็ราคา 250 บาท/ 2 ชั่วโมง....คราวที่แล้วไปกับคุณแควน พายแล้ว ฝนดันตก จะออกปากอ่าวก็ไม่ได้ หันหัวกลับก็ไม่ได้.... อิๆๆๆ คราวนี้ขอไม่พายดีกว่า....
สองตายายเกิดอาการ "หิว" อีกแล้ว.....เราก็มีสถานที่ในใจที่จะพาไป 5555 แน่นอน...มาถึงกระบี่ ก็ต้องหาของกินดีๆ ราคาไม่แพง...ซึ่งหาได้ที่บริเวณสวนสาธารณะกระบี่...ร้านที่เราชอบแวะ...ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร มาจากไหน มาถึงกระบี่ก็ต้องแวะ ...."ร้านพี่ดำธารา".... เอ่อ...ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ....แต่ชอบจริงๆ อร่อยมากกกกก เมนูที่สั่งวันนี้....ส้มตำทะเล, หอยหวานผัดน้ำพริกเผา, หอยชักตีน, ต้มยำทะเล....เสริฟก็เร็วมากๆ อร่อยจนสองตายายไม่คุยกัน....กินอย่างเดียว....แล้วก็กินน้ำตาม...พออิ่มเต็มที่ ก็มีเสียงเล็ดรอดออกมา "อร่อยมาก จนวางไม่ได้"....น่าดีใจ...ค่าเสียหายรวมแค่ 530 บาทเอง....พุงกาง.....
อิ่มแล้วก็ต้องเที่ยวต่อสิคะ....ออกจากเมืองกระบี่ ไม่ไกลๆ ก็จะมีที่ท่องเที่ยวสวยๆ "วัดถ้ำเสือ"...วัดชื่อดังของเมืองกระบี่ค่ะ... วัดนี้ มีเส้นทางให้เดินขึ้นไป 1200 กว่าขั้นนะ ที่จะขึ้นไปไหว้พระแล้วชมวิวเมืองกระบี่แบบ 360 องศา...ถ้ามีแรงปีน..ขึ้นไปเลย ชันเกือบ 90 องศา 5555 ขึ้นครั้งเดียว พอเลย.... แน่นอน....สองตายายไม่มีทางขึ้นไปแน่ๆ เอาแบบพอหอมปากหอมคอ...เดินด้านล่าง ไหว้พระ ให้อาหารลิง...แค่นี้ก็พอแล้วเนอะ....สังขารไม่เที่ยง.... แต่เอ....คุณตาหายไปไหนอ่ะ...หรือว่าไปห้องน้ำ...เดินหาสักพัก...โทรศัพท์มือถือก็ไม่รับ...คุณยายเลยขอไปนั่งพักก่อน... สักพัก...คุณตาก็เดินมาพร้อมกับเหงื่อท่วมตัว... คุณลูกสาว...."ไปไหนมาอ่ะพ่อ" คุณตา...."ไปปีนถ้ำเสือ...กะว่าจะหาลูกเสือสักตัว" คุณลูกสาว...."ว่าไงนะ...ปีนเนี่ยเหรอ 555 ขึ้นไปได้กี่ขั้นกันล่ะ...." คุณตา...."ไปได้ 50 ขึ้น...พอเกินกว่านั้น ชันเกิน...เข่าไม่รับ...สังขารไม่เที่ยง เลยลงดีกว่า....อย่าว่าพ่อนะ....หนุ่มๆสาวๆยังถอดใจ....5555" ว่าไป...เหนื่อยจริงแหละ.....ลองมาแล้ว อิๆๆๆๆ ตอนนี้วัดถ้ำเสือก็กำลังสร้างหอระฆังใหม่ เลยได้ทำบุญด้วยเลย...สองตายายเค้าชอบ.....
อีกสักภาพละกันนะ กับวัดถ้ำเสือ... คุณลิงก็เยอะ ใครไปก็ระวังกระเป๋าด้วยนะ มันชอบพราด้ากะกุชชี่ หลุยก็ยังเอา...... แล้วอย่าลืมไหว้เจ้าแม่กวนอิมด้วยนะคะ สวยมากกกกกก
เดินทางต่อเลยค่ะ...เรามุ่งหน้าไป หาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง....จากตรงนี้ไม่เกิน 1.30 ชั่วโมง..ก็ถึง คุณแควนเราจองที่พัก "ขนำชาวเล รีสอร์ท" ไว้...รีสอร์ทเล็กๆ มีเพียง 8 ห้อง ราคา 800 บาท/คืน (หน้าโลว 700 บาท/คืน) ไม่มีอาหารเช้านะคะ.... ภายในห้องก็สะดวก สบาย ไอเดียทำรีสอร์ทเค้าดี....สวยๆ ปกติหน้า High มักจะเต็ม คุณพี่ฝาหรั่งมาอยู่กันนานเชียว เอ้อ...พูดไป ไม่เท่ากับตาดู....เชิญชมเองเลยค่ะ บรรยากาศเกินบรรยาย...เล็กๆ ได้ใจ....
ภาพบรรยากาศที่นี่ อีกสักภาพเนอะ....เราชอบแมวที่นี่แหละ น่ารัก (คนบ้าแมวก็งี้แหละ) เจ้าของก็ใจดี....ไม่ไกลจากแหล่งของกินอีกต่างหาก.... มื้อเย็น ครอบครัวเราก็ฝากท้องไว้กับร้านยกยอ...ร้านอร่อยของหาดปากเมงเค้าแหละ.....
คืนนี้ฝนตกทั้งคืน...ทำเอาเราใจตุ้มๆต่อมๆว่าพรุ่งนี้น้ำจะใส พอจะดำได้หรือเปล่าเนี่ย...แบบว่า...อยากให้สองตายายเค้าประทับใจกับการดำน้ำครั้งแรก... เช้ามา....ตื่นเช้าก็ชวนคุณแควนออกไปหา "ของกินแบบคนใต้" แหงล่ะ...ไม่พ้น "ข้าวเหนียวไก่ทอด" และ "ปลาท่องโก๋"....เอามาตุนให้เต็มกระเพาะไว้ก่อน...จะได้ไม่เมาเรือ..... ปล. ใครมาเที่ยวหาดปากเมง...เช้าๆ ไปตรงตลาดก็หาของกินง่ายๆแบบนี้ได้เลยนะคะ เมืองเล็กๆ ไม่มีของกินมากมายเหมือนในตัวเมืองตรัง แต่ก็ยังมีอาหารแบบนี้ให้ทานแน่นอนค่ะ
จากที่พัก "ขลำชาวเล รีสอร์ท" เดินทางไม่ถึง 15 นาที ก็ถึงท่าเรือปากเมง...เรานัดกับ "บริษัท จาระวีทัวร์" ซึ่งเคยใช้บริการกันบ่อยๆอยู่แล้ว ....นัดเอาไว้ 09.30 น. ไปถึงก็เช็คชื่อกันหน่อย แล้วเตรียมตัวลงทะเล.... เราไปตรงวันพืชมงคลพอดี...เลยคนเยอะหน่อย แต่ว่ากรุ๊ปทัวร์ของเราไม่เยอะ มีแค่ 20 คนเห็นจะได้ (มีพี่ฝาหรั่ง 1 คนกะแฟนสุดสวย) ราคาค่าทัวร์ก็ไม่แพงนะคะ 750 บาท/คน พร้อมอาหารกลางวัน, อาหารว่างหลายมื้อ, อาหารปลา (ถ้ากินอิ่มเกินไป....เอ่อ...คงพอนึกออกนะ) และแน่นอน...ต้องมีเค๊กเมืองตรัง สุดยอด...... ลงเรือ...น้องไกด์ก็แนะนำตัว, แนะนำทริป แล้วก็แนะนำเรื่องเสื้อชูชีพและหน้ากากดำน้ำ....สองตายายก็ตั้งใจฟังมากๆ...เพราะไม่เคยใส่...ทำเอาเราขำหน้าดู เลยฝากให้น้องไกด์ช่วยพาสองตายายดำน้ำด้วย....อิๆๆๆๆๆ ปล. ขอเผาระหว่างเตรียมตัวหน่อย....บทสนทนาระหว่างเตรียมตัว.... น้องไกด์...."ลุงกะป้าเคยดำน้ำมาก่อนป่าว".... คุณตา..."ไม่เคยเลย...ครั้งแรก" น้องไกด์...."เอ้า ใส่อย่างนี้นะครับ...แล้วหายใจทางปาก" คุณยาย...."หนูๆๆๆ หายใจไม่ออก ปิดรูจมูกหมดเลย" น้องไกด์...."อ้าวป้า...เค้าหายใจทางปากกัน เอ้าลองดูครับ หนึ่ง สอง หนึ่งสอง ได้ไหมครับ" คุณยาย..."เฮ้อ...อะไรมันจะลำบากขนาดนี้เนี่ย".... ดู...อยากดำน้ำ แต่บ่นซะ...อิๆๆๆๆ
ทริปดำน้ำตรัง...เค้าจะพาไป 4 เกาะ คือ เกาะมุก (ถ้ำมรกต), เกาะกระดาน (ที่จัดงาน Wedding ชื่อดัง), เกาะม้า และเกาะเชือก..... ไต้ก๋ง (พี่ขับเรือ) ของเรา....คิดว่าไม่ไปซ้ำกับทัวร์อื่น เลยจะพาไปถ้ำมรกต (หรือเกาะมุก) ก่อน...แต่ว่าวันที่เดินทางเป็น "วันน้ำใหญ่ หรือขึ้น 15 ค่ำ" ประมาณนั้น...น้ำยังไม่ลง...เข้าถ้ำไม่ได้....เลยไปเกาะกระดานซะก่อน... เกาะกระดานสวยมากค่ะ...หาดทรายขาวมาก...มีปะการังให้ดำเลย...มีที่พักด้วย แต่ราคาสูงพอสมควร....เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ.... มาถึงเค้าก็จอดเรือให้ลงดำน้ำ สองตายายหลังจากฝึกหายใจทางสน็อคเกิลมาพักนึงแล้วก็พร้อมลุย...โดดลงน้ำ เกาะห่วงยางของน้องไกด์....ลอยออกไป...เก่งแฮะ...ใช้ได้ น้ำไม่เข้าด้วย....อิๆๆๆๆ แต่สักพัก....เราก็เห็นแต่แม่ลอยเกาะห่วงยางอยู่....แล้วพ่อไปไหน...ตัดสินใจ กระโดดลงไปพร้อมอุปกรณ์ มองซ้าย มองขวา 3 รอบ....เห็นลอยอยู่ท้ายสุดเกือบหลุดทัวร์สุดท้ายที่เรือจอด....รีบว่ายน้ำตามไปลากกลับมา (อ้อ...คุณตาสายตายาว...ไม่ได้ใส่แว่นอีกต่างหาก อิๆๆๆๆ)....ลากกลับมาได้ น้องไกด์ก็แซว..."หนีตามสาวทัวร์โน้นเลยนะลุง"...อ่ะนะ.... ขึ้นมาก็ประทับใจกันใหญ่ สวยถูกใจเค้าล่ะ.... ปะการังสมบูรณ์ ปลาก็เยอะ...ให้อาหารปลา (ซื้อขนมปังมาต่างหาก) สนุกมากเลยค่ะ...แต่กระแสน้ำวันนี้ค่อนข้างแรง....ต้องระวังนิดนึง..... ปล. ถ้าหากใครไป แนะนำให้ซื้อขนมปังจากฝั่ง (ที่ไม่ใช่ท่าเรือถ้าหาได้นะคะ) มาเลย (ซื้อที่ท่าเรือค่อนข้างแพง แต่ถ้าสะดวก ก็ซื้อเลย 2 ปอนด์ 50 บาท รับรองเพลิน)
พอขึ้นเรือ....ทัวร์เค้าก็จัดอาหารไว้ให้ทันที...เป็นบุฟเฟต์ค่ะ....กินได้ตลอดตามสบาย.... อาหารก็น่ากิน เป็นอาหารแบบใต้...มีแกงส้ม, หมึกไข่ทอด, ยำมะม่วง, น้ำพริกโจรพร้อมผักนานาชนิด....ทั้งแบบสด แบบต้ม และแบบต้มกะทิแบบคนใต้.....สองตายายหิวจัด ทานกันใหญ่เลย แต่ว่าช้ากว่าคนอื่นเท่าตัว...ก็ฟันเฟืองมันช้าอ่ะนะ...อิๆๆๆๆ พอเรือใกล้ถึงถ้ำมรกต...เค้าก็อิ่มกันหมดพอดี...เหลือแค่คุณตาที่ยังย้ำคิด ย้ำทำ....น้องไกด์เลยแซว....อ่ะนะ อิๆๆๆ
ปล. บทสนทนาก่อนเข้าถ้ำมรกต น้องไกด์...."คุณลุง อิ่มยัง พร้อมลุยป่าว" คุณตา...."ยังไม่หมดเลยเนี่ย...มันช้าหน่อยนะ" น้องไกด์...."ผมว่า...เดี๋ยวลงไปถ้ำมรกตก่อน แล้วค่อยกลับมาเคี้ยวต่อยังได้เลย" คุณตา...."เอางั้นเลยนะ....." (ไม่แก่บ้างให้รู้ไป)
จากตรงนี้....ต่อไปเค้าก็พาไปลอดถ้ำมรกตค่ะ...สนุกกันใหญ่ ลอยคอเกาะกันเข้าถ้ำ....เรียงตามอายุ....อิๆๆๆ จากมากไปน้อย (พูดเล่น) เค้าขอคนหนุ่มนำหน้า...ที่เหลือ เรียงตามอะไรก็เอา....สองตายายขอนำทีมเลยค่ะ...(ส่วนเราขอปิดท้าย สบายดี) ดูเค้าตื่นเต้นมากมาย...เข้าไปเจอบรรยากาศสวยๆ ถูกใจเค้าหละ....น้องไกด์ก็รู้ใจถ่ายภาพครอบครัวให้ตลอด....นั่งเล่นสักพัก...ก็ออกมาขึ้นเรือ เห็นความเขียวของน้ำตอนกระทบแดดเมื่อออกจากถ้ำ...นี่แหละที่มาของถ้ำมรกต...สวยมากๆค่ะ....
ถัดไป...เค้าพาเกาะเชือก....ดำน้ำดูปะการัง...ตรงนี้มีปะการังสีนะคะ แต่น้ำลงมาก....ถ้าลอยตัวไม่ดี จะโดนหอยเม่น...ไม่ใช่สิ...ฝูงหอยเม่น...จัดการได้...สองตายายเลยขอผ่าน...เล่นกับปลาดีกว่า...อิๆๆๆๆๆ ไม่นาน...ฝนก็ทำท่าไล่มาจากฝั่งพื้นดิน....มาอย่างรวดเร็ว...เอาล่ะ...จะเจอพายุไหมเนี่ย....ไกด์ทุกทัวร์ก็รีบเรียกลูกทัวร์ขึ้นอย่างรวดเร็ว เรือเราลูกทัวร์น้อย ขึ้นก่อน แต่เรือเล็กกว่าเค้า (ที่เป็นเรือสองชั้น) สู้ฝนไม่ไหว...ไต้ก๋งเราเก่ง....ไม่สู้ฝน...แต่พาเรือเล็กๆของเรา ไปหลบหลังเกาะม้าแทน..... เกาะม้าอยู่ใกล้เกาะไหงค่ะ...หลบสักพัก...เราก็นึกว่าจะเดินทางกลับ ที่ไหนได้...ดำน้ำต่อกันอีก...เอ้า...ลงก็ลง....ตรงนี้มีค้างคาวแม่ไก่ตัวใหญ่...น่าสนใจมากๆ และก็ยังมีปะการังอ่อนสีสวยงาม ที่อยู่ใกล้มากๆ เพราะน้ำลง....ไกด์ให้ทุกคนลอยตัวทั้งหมด ไม่ให้โดนปะการังเด็ดขาด.....ตรงนี้ปลาก็เยอะ เล่นเพลิน.... ขึ้นมาก็โดพกันด้วยเค๊กตรังและกาแฟร้อน...อร่อยมากมายค่ะ.... เพื่อนๆเค้ากลับกันหมด...แต่เรายังตุเลงๆ เล่นน้ำ ดำน้ำ กินกาแฟ...ดีจริงๆ... ไต้ก๋งเราและไกด์เราก็สุดยอด...จับหมึกเป็นๆให้ลูกทัวร์ดู....ประสบการณ์ที่ดีจริงๆค่ะ... กลับมาอาบน้ำ...ขับรถเข้าเมืองไปพักในเมือง..... ตอนเช้ากินอาหารเช้าแบบคนตรัง....แน่นอน...มาตรังไม่กินหมูย่างตรังได้ไง เราเลือกร้านนักร้อง (ร้านประจำเรา) อร่อย ไม่แพง...คนเต็มทุกวัน... เดินทางกลับจากตรังไปหาดใหญ่ก็ 1.30 ชั่วโมง...ไปแบบเพลินๆ แวะซื้อเค๊กท่าแค จ.พัทลุง ระหว่างทาง....เพลินใจ ส่งสองตายายกลับโดยไม่มี Delay.....
จบแว้ว......ขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามนะคะ.... อย่างที่บอก....การท่องเที่ยวแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นทัวร์หรือดำน้ำลุยเองแบบเรา...ก็สุขใจ...อยู่ที่มุมมองและคนที่ไปด้วย.... ไปกับเพื่อน....สุขใจแบบลุยๆ ได้ใจ ได้อารมณ์ คอเดียวกัน ไปกับแฟน....สุขใจ ได้ความอบอุ่น แบบ...เอ่อ...คิดเอง....อิๆๆๆๆ ไปกับครอบครัว...ได้เหมือนทุกอย่างที่บอกมา (ยกเว้นที่คิดเอง) และที่ได้เพิ่มคือ "ความภูมิใจ" ที่ได้ "กตัญญู"..... ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชมการถ่ายทอดสดมาโดยตลอดนะคะ..ทริปใต้ มีสิ่งใดที่พอช่วยเหลือได้ เช่น คำแนะนำเรื่องที่เที่ยว, วางทริป หรือเรื่องที่พักตามเส้นทางที่เคยเดินทางมาแล้ว ยินดีนะคะ...หลังไมล์กันได้เสมอ เพื่อนๆที่ BP น่ารักทุกคน เราช่วยเหลือกัน....
***ปิดท้ายด้วยข้อมูลการเดินทางสมุยนะคะ - ซีทรานส์ เฟอร์รี่ (ลงเรือที่ท่าเรือดอนสัก หน้าทอน สามารถนำรถยนต์ข้ามได้) โทรศัพท์ : 077-426-000-2, 077-238-129 และ 077-251-555 เช็คตารางเดินเรือซีทรานส์ เฟอร์รี่ - //www.seatranferry.com/schedule.php - ราชาเฟอร์รี่ (ลงเรือที่ท่าเรือดอนสัก ท่าเรือลิปะ สามารถนำรถยนต์ข้ามได้) โทรศัพท์ : 077-471-151-3 และ 077-415-230-3 เช็คตารางเดินเรือราชาเฟอร์รี่ - //rajaferryport.com/ferryport/Services/Timetable/tabid/74/language/th-TH/Default.aspx - สถานที่ท่องเที่ยว (ที่เตรียมไว้แต่ไม่ได้ใช้...ใช้ดำน้ำเอา...) 1)วัดสุวรรณารามหรือวัดปลายแหลม มีเจ้าแม่กวนอิมและพระสังกัจจายน์ใหญ่มาก 2)วัดพระใหญ่ 3)จุดชมวิวลาดเกาะ 4)วัดคุณาราม หรือวัดเขาโป๊ะ 5)หินตาหินยาย 6)เจดีย์แหลมสอ เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อแดง พระภิกษุที่เป็นที่เคารพนับถืออย่างยิ่งของชาวเกาะสมุยมรณภาพเพราะเรืออับปาง เมื่อ พ.ศ. 2519 องค์พระเจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องสีทองทั้งองค์ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อยู่ริมทะเลเขตติดต่อระหว่างตำบลตลิ่งงาม-หน้าเมือง 7) วัดละไม หรือศูนย์วัฒนธรรมละไม อยู่บริเวณบ้านละไม วัดนี้มีอายุเกือบ 200 ปี มีเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ ภายในประกอบด้วยโบสถ หอไตร กุฏิและเจดีย์เล็กๆบรรจุพระธาตุซึ่งหลวงพ่อได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกาเมื่อปีพ.ศ.2525-2526 สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือหอวัฒนธรรมซึ่งเป็นตัวอาคารไม้ 2 ชั้นใช้เป็นที่รวบรวมของเก่า เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวบ้านบนเกาะและที่อื่นๆทางภาคใต้เช่นตุ่มไหต่างๆปั้นจากดินเหนียว ตะเกียงโบราณแบบต่างๆ กรงนกเขา รองเท้าหนังควาย 8) พระธาตุหินงู พระบรมสารีริกธาตุเกาะสมุย หรือชาวเกาะสมุยเรียกว่าพระธาตุหินงู หรือพระธาตุศิลางู อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย 17 กม. ซึ่งตามประวัติสร้างโดยชาวบ้านตำบลมะเร็ด ชื่อนายศรีทอง และได้มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2498 โดยเจ้าคุณพระอรรถทัศสิ สุทธิพงศ์แห่งวัดชีโทน อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นผู้มอบให้พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จมาทรงนมัสการเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2505 ชาวเกาะสมุยจึงถือเป็นประเพณีมีงานนมัสการสืบมา - ร้านอาหารไม่ควรพลาด 1. ร้านเสบียงเล อาหารใต้รสชาดเด็ดขาด ราคาไม่แพง 2. ร้านครัวชาวบ้าน อยู่แถวๆละไมและไม่ไกลจากร้านแรก 3. ขนมจีนร้านป้าไมตรี แถวแม่น้ำซอย 4 4. Q Bar ไม่ได้เป็นร้านอาหาร เป็นผับนั่งดื่มบรรยากาศดีๆ - ที่พักน่าสนใจหลักร้อย: 1)หน้าทอนเรสสิเด้น ห้องพักสะอาด ราคา 550 2)บ้านใบเฟิร์น ราคา 800 บาท/คืน (น้ำอุ่น/สระว่ายน้ำ/wifi) หลังโรงเรียนอนุบาลอุ่นรัก โทร 077-236239 3)บ้านสวนศิราศรัย ราคา 600-1200 บาท 0 7743 0339 4)แฮรี่ 500 บาท/คืน 0 7742 5447 5) สหกรณ์การเกษตรเกาะสมุย จำกัด (ที่เรารีวิวน่ะแหละ) 077-421179, 077-426072 ราคาตามที่บอกค่ะ ***ข้อมูลที่พักหาดปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง 1)ปากเมง รีสอร์ท หาดปากเมง โทร. (075) 274111, 203031 จำนวน 30 ห้อง ราคา 400-1,200 บาท 2)ปากเมง เนเจอร์ บีช คาบาน่า หาดปากเมง โทร. 075-267133 จำนวน 20 ห้อง ราคา 400-1,200 บาท 3)เลตรัง รีสอร์ท 54/22 หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา โทร. 075-274027-8 จำนวน 15 ห้อง ราคา 800-1,500 บาท 4)ฉางหลางรีสอร์ท หาดฉางหลาง โทร. 075-291009 จำนวน 22 ห้อง ราคา 400-1,600 บาท 5)ฉางหลางซีแลนด์ หาดฉางหลาง โทร. 081-979-3483 จำนวน 10 ห้อง ราคา 350 บาท 6)ตรัง เนเจอร์ รีสอร์ท ควนกุน โทร. 075-267131-3 จำนวน 20 ห้อง ราคา 400-1,200 บาท 7) ขนำชาวเล รีสอร์ท (ที่เรารีวิวค่ะ) โทร 075-274230 ราคา 700-800 บาท/คืน ไม่มีอาหารเช้านะคะ หมดแว้วจริงๆ..... มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะคะเพื่อนๆ
Create Date : 26 พฤษภาคม 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 17:22:03 น. |
Counter : 4274 Pageviews. |
|
|
|