อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
สูตรทำสตู อาหารฝรั่งเปื่อยนุ่มอร่อยลิ้นอิ่มท้อง



นุ่มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ชวนทำเมนูสตู อาหารฝรั่งใส่เนื้อเคี่ยวจนเปื่อยละลายในปาก เติมหอมใหญ่เพิ่มรสหวาน ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ แบบนี้เหมาะกับวันหยุดอย่างแรง 

     วันนี้นึกอยากทำอาหารฝรั่ง ที่กินกับเส้นสปาเกตตี หรือข้าวสวยก็ได้ เมนูที่นึกเอาไว้ก็คือเมนูสตูนั่นเอง กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำสตู ได้แก่ สตูหมู สตูเนื้อ สตูไก่ และสตูแกะ แม้จะเสียเวลาตอนเคี่ยวมากหน่อย แต่อร่อยและทำไม่ยาก ที่สำคัญกินได้ทั้งบ้านเลยค่ะ
++++++++++++++++++
4 สูตรทำสตู
สตูไก่

     หลังจากกินเมนูไก่ทอดมาจนเซ็งจิต คราวนี้ลองจับมาทำสตูกันดีไหม ขอนำเสนอเมนูสตูไก่ จับไก่หมักกับเกลือและพริกไทยแล้วค่อยเอาไปทอดจนสุก เสร็จแล้วราดน้ำสต๊อกไก่สุดเข้มข้น

ส่วนผสม สตูไก่

   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ น่องไก่ 2 ชิ้น
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ เกลือป่น (สำหรับหมักไก่)
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ พริกไทยป่น (สำหรับหมักไก่)
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ แป้งข้าวโพด (สำหรับหมักไก่)
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ น้ำมันพืช (สำหรับทอดไก่)
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ หอมใหญ่ (หั่นเต๋า) 1 ลูก
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ ใบกะวาน 2 ใบ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ ใบเสจ 1/2 ช้อนชา
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ ซอสมะเขือเทศ 250 กรัม
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ ซอสพริก 120 กรัม
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ เหล้าจีน 1/2 ช้อนโต๊ะ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ มันฝรั่ง (หั่นชิ้นพอดีคำ) 200 กรัม
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ แครอท (หั่นชิ้นพอดีคำ) 200 กรัม
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ ซอสเปรี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ น้ำซุปไก่ 500 มิลลิลิตร
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ เกลือป่น
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ พริกไทย

วิธีทำสตูไก่

     1. หมักน่องไก่กับเกลือป่นและพริกไทยป่น แช่ทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
     2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใส่น่องไก่ลงคลุกกับแป้งข้าวโพด จากนั้นนำลงทอดจนสุก เตรียมไว้
     3. ใส่เนยลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ใส่หอมใหญ่ ใบกระวาน ใบเสจ ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก และเหล้าจีน ผัดผสมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสเปรี้ยว ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย เกลือป่น และพริกไทยป่น ชิมรสตามชอบ
     4. เติมน้ำซุปไก่ มันฝรั่งและแครอท คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนส่วนผสมผักสุกนุ่ม และน้ำเริ่มข้น หรือประมาณ 20-30 นาที ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วยที่มีไก่ทอดเตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สตูไก่ อาหารฝรั่งสีสันสดใสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม

++++++++++++++++++
4 สูตรทำสตู
 สตูเนื้อ

     ไม่ลองไม่ได้แล้ว พบกับสตูเนื้อ จับเนื้อย่างใส่หม้อเคี่ยวกับเครื่องเคราและน้ำสต๊อกจนเปื่อยนุ่ม ทำหม้อโตแบ่งไว้กินได้หลายมื้อ

ส่วนผสม สตูเนื้อ

   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ เนื้อวัว (หั่นเต๋า) 2 ปอนด์ (หรือประมาณ 900-1,000 กรัม)
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ น้ำมันมะกอก 2 ชอนโต๊ะ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ หอมใหญ่ (หั่นเต๋า) 1 หัว
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ ใบกระวาน 2 ใบ
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ วูสเตอร์ซอส 1/2 ถ้วย
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ น้ำเปล่า 2 ถ้วย
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ ซอสเดมิกลาส 2 ช้อนชา
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ มันเทศ (หั่นเต๋า) 4 หัวกลาง
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ แครอท (ปอกเปลือก หั่นเต๋า) 3 หัว
   ​​  ​​​​ ​​​​​​•​ เซเลอรี่สับ 1 ต้น

วิธีทำสตูเนื้อ

     1. ใส่เนื้อวัวตุ๋นในถุงซิป เติมแป้ง และเกลือลงไปนวดผสมพอเข้ากัน
     2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอก ใส่เนื้อวัวหมักลงไปย่างพอสุก ตักใส่หม้อตั้งไฟ ปรุงรสด้วยพริกไทย
     3. ใส่หอมใหญ่ลงในกระทะใบเดิม ผัดประมาณ 2 นาที ตักใส่หม้อเนื้อวัว ใส่วูสเตอร์ซอส น้ำเปล่า และซอสเดมิกลาส เคี่ยวจนเปื่อยนุ่ม
     4. ใส่มันฝรั่ง แครอท เซเลอรี่ และใบกระวานลงไป เคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ ประมาณ 8 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟตักใบกระวานออก

     + ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Beef Stew / mrshappyhomemaker.com

จบไปแล้วสำหรับสูตรทำสตู ใครชอบเนื้อสัตว์ชนิดไหนก็จัดไป พอเคี่ยวจนเปื่อยนุ่มก็ตักเข้าปากกับข้าวสวยหรือสปาเกตตี ถ้าหากอยากกินเบาหน่อยก็กินกับสลัดผัก วันหยุดนี้ถ้าไม่ได้ไปไหนลองทำเลยค่ะ



Create Date : 29 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2560 9:19:55 น. 0 comments
Counter : 1518 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.