เปิดถ้ำครูบาน้อย สถานที่จำศีล 3 ปี ล็อกกุญแจแน่นหนา แบ่งโซนร้อน-หนาว
 ชาวบ้านผิดหวัง แห่รอใส่บาตรครูบาน้อย แต่เกิดอาพาธไม่สามารถมาได้ ด้านเจ้าหน้าที่เปิดถ้ำเพื่อพิสูจน์ ยัน ครูบาน้อย จำศีลจริง 3 ปี ข่าวครูบาน้อย หรือ พระมหาณัฐวุฒิ ญาณวิชชโย ที่กลายเป็นกระแสฮือฮาหลังออกจากจำพรรษาในถ้ำเชตวัน ต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน ซึ่งอยู่มาเป็นเวลานาน 3 ปี 3 เดือน 3 วัน จนเกิดเป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นพฤติการณ์ที่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนาหรือไม่ รวมถึงอยู่ในถ้ำ 3 ปี ไม่มีหนวดเคราแต่ผมยาว โดยทางครูบาน้อย ได้มีการออกมาเผยว่า ตนเองอยู่ในถ้ำจะฉันเฉพาะผลไม้และน้ำ เรื่องหนวดเคราเป็นเพราะเป็นคนไม่มีขนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องผมนั้นเป็นเพราะอยู่ตัวคนเดียว แต่ออกมาก็ต้องปลงผมตามปกติ และที่ผ่านมาตลอด 3 ปี ก็ไม่ได้ขังตัวอยู่แต่ในถ้ำ มีการออกมาเจอแสงตะวันบ้าง ในเวลาออกมาเข้าห้องน้ำ สรงน้ำ ทั้งยังซักจีวรในพื้นที่กลางแจ้งได้ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ใด ๆ นั้น (อ่านข่าว : ครูบาน้อย เปิดใจ..เหตุใดอยู่ถ้ำ 3 ปี แต่ไร้หนวดเครา พร้อมแจงปมไม่ตัดผม) เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (18 ตุลาคม 2560) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV เปิดเผยบทสัมภาษณ์ชาวบ้านในพื้นที่ ขณะลงพื้นที่ไปยังชุมชนบ้านสันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน เนื่องจากกำหนดเดิมที่ระบุว่า ครูบาน้อย หรือ พระมหาณัฐวุฒิ ญาณวิชชโย จะออกมารับบิณฑบาตจากชาวบ้าน แต่เกิดอาพาธ จึงไม่ได้ออกมาบิณฑบาตตามกำหนด มีเพียงพระ-เณรจำนวน 55 รูป ออกมาบิณฑบาตเช่นปกติ โดย นางสมัย มลแก้ว วัย 63 ปี ชาวบ้านที่มารอใส่บาตร เผยว่า ชาวบ้านรักและศรัทธาในตัวครูบาน้อย ในวันที่รู้ว่าออกจากถ้ำตนเองยังน้ำตาไหล ตนเองชื่นชอบในการปฏิบัติธรรมของครูบาน้อย แต่กลับมีการถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง ตนเองก็เสียใจ
ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจสอบยังพุทธสถานถ้ำเชตวัน ต.สันทะ อ.นาน้อย สถานที่ที่ครูบาน้อยใช้ในการจำพรรษา โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำเข้าถ้ำ ที่ด้านหน้าพบเป็นประตูเหล็กทึบจากด้านนอกภายในกำแพงศิลาแลง และเมื่อเข้ามาจะพบกุฏิ 2 หลัง ของครูบาน้อย เป็นกุฏิที่ใช้พักในเริ่มแรกที่ครูบาน้อยเข้ามาอยู่ในพุทธสถานแห่งนี้ และที่ด้านหน้ากุฏิพบมีเจดีย์สำหรับใส่อัฐิ ที่ครูบาน้อยสั่งให้ลูกศิษย์สร้างไว้ สำหรับใส่อัฐิตนหลังเสียชีวิต  ต่อมา ใกล้ ๆ พบเป็นทางขึ้นถ้ำที่ด้านหน้ามีประตูไม้ติดป้ายห้ามบุคคลภายนอกเข้าก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งเมื่อเข้าไปด้านในพบมีทางแยก 2 ทาง ถ้ำฝั่งซ้ายเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิ ระหว่างที่อยู่ภายในถ้ำจะเรียกว่า "ถ้ำมืด" มีเพียงเทียนให้แสงสว่าง ความลึกประมาณ 50 เมตร เป็นถ้ำตัน เข้า-ออกได้ทางเดียว และขนาดทางเดินมีความแคบเพียงคนเดินสวนกันเท่านั้น ก่อนจะพบพื้นที่ปฏิบัติธรรมเล็ก ๆ อยู่ภายในถ้ำ ส่วนถ้ำด้านขวา เป็นสถานที่จำวัดของครูบาน้อย มีบันไดเดินลงไปประมาณ 15 ขั้น ด้านในถ้ำจะมีพระพุทธรูปเก่า โดยที่นอนพบเพียงแผ่นรองพื้นบาง ๆ มีกลดแขวนอยู่ด้านบน เป็นจุดที่ใช้จำวัดในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ ครูบาน้อย ได้มีการเปิดเผยว่าขณะที่เข้าจำพรรษาในถ้ำ จะมีบรรดาญาติโยมเขียนจดหมายมาส่งให้ตลอด โดยสอดมาทางช่องใต้ประตู
| Create Date : 19 ตุลาคม 2560 |
| Last Update : 19 ตุลาคม 2560 15:58:04 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1879 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [
