Bloggang.com : หนี่งหน่อง - 7 วิธีหยุดอาการ PMS ของมนุษย์เมนส์ เกิดเป็นผู้หญิงต้องไม่ยอมแพ้ !

อาการ PMS (Premenstrual Syndrome) ที่คุณสาว ๆ ต้องเจอกันทุกเดือน น่าจะสร้างความรำคาญใจให้ใครหลายคนทีเดียวค่ะ เพราะบางคนนอกจากจะมีอาการทางร่างกาย อย่างคลื่นไส้ วิงเวียน ปวดศีรษะ ปวดเนื้อปวดตัว ปวดหลัง ตัวบวม สิวโผล่ ท้องอืด ท้องผูกแล้ว ยังมีผลกระทบกับสภาวะอารมณ์และจิตใจอีกต่างหาก จากที่เคยเป็นสาวใจเย็น อยู่ ๆ ก็แปลงร่างกลายมาเป็นสาวขี้เหวี่ยง ขี้วีน หงุดหงิดง่าย อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ จนคนรอบข้างตามไม่ทันซะอย่างนั้น แบบนี้เลยพาลให้เครียดจนนอนไม่หลับอีกต่างหาก เฮ้อ...เห็นไหมว่าอาการ PMS ที่ดูเหมือนธรรมดาแต่กลับสร้างความลำบากให้ฃชีวิตได้ขนาดไหน

ใครที่โดนอาการ PMS เล่นงานแบบนี้ประจำ เห็นทีจะปล่อยไว้ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ เพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงจะไม่ยอมแพ้อาการก่อนปวดประจำเดือนแน่ ๆ หากได้รู้วิธีบรรเทาอาการ PMS ที่กระปุกดอทคอมนำมาบอกต่อกันวันนี้ คงถึงเวลาต้องปราบอาการก่อนมีประจำเดือนที่แสนกวนใจให้หายไปอย่างจริงจังสักที !

1. เลือกทานอาหารให้ถูก

วิธีปราบอาการ PMS ขั้นแรกต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพของสาว ๆ ค่ะ เช่น อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม วิตามินดี วิตามินบี ไขมันชนิดดี โพแทสเซียม และแมกนีเซียม อย่างโฮลเกรน ผักโขม ถั่ว อะโวคาโด ไขมันจากปลา กล้วย แคนตาลูป ส้ม โยเกิร์ตไขมันต่ำ ข้าวกล้อง ธัญพืชชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นอาหารที่มีแร่ธาตุและวิตามินดังกล่าวค่อนข้างสูง จะช่วยควบคุมอารมณ์เหวี่ยง ๆ ให้กลับมาสมดุลขึ้น พร้อมกับช่วยลดอาการบวมน้ำ อาการอยากกินจุบกินจิบ เหนื่อยล้าอ่อนแรง นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาความรุนแรงของอาการปวดประจำเดือนได้ดีด้วยนะคะ

2. เลี่ยงอาหารกระตุ้นอาการ PMS

เมื่อเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ไปแล้ว สาว ๆ ที่ไม่อยากยอมแพ้อาการ PMS ก็ต้องเลี่ยงอาหารบางชนิดที่จะยิ่งไปกระตุ้นอาการก่อนประจำเดือนมาให้หนักขึ้นด้วย โดยเฉพาะอาหารรสเค็มจัด เช่น อาหารแปรรูปหรือฟาสต์ฟู้ด เพราะโซเดียมจะยิ่งทำให้ร่างกายบวมน้ำและท้องอืดมากขึ้น รวมทั้งควรงดอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีน้ำตาลมาก ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการปวดและอักเสบต่าง ๆ

ส่วนสายดริงก์ทั้งหลายก็ต้องบอกลาเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ไปสักพักก่อนล่ะ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้มดลูกบีบรัดตัวมากขึ้น จนรู้สึกปวดท้อง อึดอัดไม่สบายตัว หงุดหงิดง่าย แถมยังทำให้นอนหลับยาก กระตุ้นอาการ PMS ให้แย่ลงไปอีก

3. ดื่มน้ำมาก ๆ

ในช่วงก่อนมีประจำเดือนผู้หญิงบางคนจะรู้สึกตัวบวม ท้องอืด มีอาการอึดอัด ซึ่งเกิดจากการที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั่นเอง ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ จิบบ่อย ๆ ตลอดทั้งวันให้ได้วันละ 2 ลิตรหรือประมาณ 8-10 แก้ว เพื่อให้น้ำไปช่วยขับโซเดียมซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการบวมออกจากร่างกาย

หรือหากใครมีอาการปวดท้องก่อนประจำเดือนมาก็สามารถดื่มน้ำอุ่น ๆ น้ำขิง หรือชาคาโมมายล์ด้วยก็ได้ค่ะ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น บรรเทาอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย โดยเฉพาะน้ำขิงนี่ยังมีคุณสมบัติช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ท้องเฟ้อ ซึ่งเป็นอาการ PMS ที่พบได้บ่อย ๆ ด้วยนะ

4. อาบน้ำอุ่น

นอกจากการดื่มน้ำอุ่นจะช่วยให้อาการ PMS บรรเทาลงแล้ว ก่อนประจำเดือนมาและในวันนั้นของเดือนก็อยากให้สาว ๆ อาบน้ำอุ่นด้วยนะคะ เพราะการอาบน้ำอุ่นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่เมื่อยล้าผ่อนคลายได้อีกทาง โดยเราแนะนำให้อาบน้ำอุ่นประมาณ 20 นาทีขึ้นไป เพราะการอาบน้ำอุ่นในเวลานานประมาณนั้นจะช่วยให้จิตใจเราสงบมากขึ้น ผ่อนคลายความตึงเครียด และช่วยหยุดอารมณ์เหวี่ยงวีนได้ด้วยล่ะ

5. ออกกำลังกาย

อย่าปล่อยให้อุปสรรคเล็ก ๆ อย่างอาการ PMS มาทำให้ผู้หญิงอย่างเราอ่อนแอ แต่จงแสดงความสตรองบ่งบอกให้รู้ว่าผู้หญิงไม่ยอมแพ้อาการก่อนมีประจำเดือนด้วยการออกกำลังกายต้าน PMS ไปเลยค่ะ เพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายได้เป็นอย่างดี ช่วยบรรเทาอาการวีนเหวี่ยง ลดอารมณ์หงุดหงิด ซึมเศร้า และการออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มสารเอนดอร์ฟิน สารสร้างความสุขที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดได้ชะงัด

6. ปรับพฤติกรรมเพื่อเลี่ยงอาการท้องผูก-ท้องเสีย

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายเราก็เป็นสาเหตุของอาการท้องผูกได้เช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงตกไข่ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดลง กล้ามเนื้อเรียบที่อยู่ในระบบย่อยอาหารซึ่งทำหน้าที่ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้นก็จะทำงานด้อยประสิทธิภาพลงด้วย สาว ๆ จึงมีอาการท้องผูกก่อนประจำเดือนมา ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดอาการท้องผูก ในช่วงนี้ก็ควรจะรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ เช่น มันเทศ ฟักทอง ข้าวโอ๊ต ลูกเกด ให้มากขึ้น เพราะอาหารเหล่านี้จะช่วยลดอาการท้องผูกได้นั่นเอง

ส่วนอาการท้องเสียก็เกิดจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนดังกล่าวจะมาพร้อมกับระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ที่มากเกินไปด้วย ซึ่งอาจทำให้ท้องเสียได้ แต่ถ้าไม่อยากเจออาการท้องเสียมารบกวน ก็ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่จะไปกระตุ้นอาการท้องเสีย อย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่มีรสชาติหวาน และเผ็ดจัด รวมถึงอาหารที่มีไขมันมากเกินไป และผลิตภัณฑ์จากนมต่าง ๆ ด้วยค่ะ

7. ทานยาคุมกำเนิด

สำหรับสาว ๆ ที่มีอาการ PMS ค่อนข้างรุนแรง เพราะฮอร์โมนปรวนแปรอย่างหนัก คงต้องใช้ตัวช่วยอย่างการทานยาคุมกำเนิดเพื่อปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุลขึ้นแล้วล่ะค่ะ โดยเลือกใช้ยาคุมกำเนิดชนิด 24+4 เม็ด ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป อย่างเช่น ยาคุมกำเนิดซินโฟเนีย (Synfonia) เพราะยาคุมกำเนิดชนิด 24+4 เม็ดเป็นยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนในระดับต่ำ จะช่วยลดผลข้างเคียงจากการกินยาคุมกำเนิด เช่น ลดอาการคลื่นไส้หรือเวียนศีรษะ ไม่เกิดการอ้วนบวมน้ำ และช่วยลดความแปรปรวนของฮอร์โมนระหว่างเดือนได้

ที่สำคัญยาคุมกำเนิดชนิด 24+4 เม็ดยังให้ผลดีในด้านความสวยความงามด้วย เพราะช่วยยับยั้งการเกิดสิวฮอร์โมน ลดอาการหน้ามัน และแน่นอนว่าเมื่อเป็นยาคุมกำเนิดฮอร์โมนต่ำก็ไม่ต้องกลัวว่าทานแล้วจะทำให้อ้วนขึ้นด้วย ดังนั้นใครที่ลองบรรเทาอาการ PMS มาหลายวิธีแล้วก็ยังไม่ค่อยช่วย จะลองทานยาคุมกำเนิด เพื่อเอาชนะอาการ PMS ดูบ้าง ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่เบา

สาว ๆ ที่มีอาการ PMS ก่อกวนร่างกายทุกเดือนลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ และขอย้ำอีกครั้งว่า อาการ PMS เราป้องกันได้ ด้วยการเตรียมพร้อมตัวเองไว้แต่เนิ่น ๆ เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือทานยาคุมกำเนิดชนิด 24+4 เม็ดเพื่อปรับฮอร์โมนในร่างกาย ขจัดอาการ PMS อันเป็นอุปสรรคของชีวิตสาว ๆ เพราะผู้หญิงไม่ยอมแพ้กับแค่อาการปวดประจำเดือนหรอก...บอกไว้เลย !

อ้อ...และหากสาว ๆ คนไหนอยากเป็นผู้หญิงไม่ยอมแพ้ แม้วันนั้นของเดือน ก็มาร่วมแสดงศักยภาพและความเข้มแข็ง และจะไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ แม้แต่ตัวของเราเองไปด้วยกันได้ที่นี่ neversurrender.in.th และ เฟซบุ๊ก NeverSurrenderThailand เลยค่ะ