สายคลีนห้ามพลาด Green Market
สายคลีนห้ามพลาด Green Marketเปิดตัวไปเรียบร้อยสำหรับโครงการ Green Market โดยนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ในฐานะประธานกรรมการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก. ) เป็นประธาน ซึ่งมีนายนายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก. ) ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมในครั้งนี้
ซึ่งเป็นการช่วยกันรณรงค์ ลดการใช้ถุงพลาสติก โดยการนำวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์ สิ่งแวดล้อม มาทดแทน เปลี่ยนการใช้ถุงพลาสติกเป็นการใช้ถุงผ้าในการซื้อสินค้า
จากนั้นผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก. ) นำชมร้านค้าบริเวณตลาดน้ำ อ.ต.ก. ซึ่งมีสินค้าหลากหลายประเภทจำหน่าย อาทิ สินค้าเกษตรอินทรีย์ งานทำมือ ผลิตภัณฑ์จักสาน ต้นไม้นานาพันธุ์ และอาหารคาวหวาน ณ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
20 ปีสถาปนาป.ป.ช.สร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต
20 ปี สำนักงาน ป.ป.ช.มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช. กำหนดจัดงานเนื่องในโอกาสวันสถาปนา สำนักงาน ป.ป.ช. ครบรอบ 20 ปี ภายใต้แนวคิด “2 ทศวรรษ ป.ป.ช. ก้าวสู่องค์กรดิจิทัล” และได้กำหนดจัดกิจกรรม 3 วัน คือ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 เป็นพิธีพราหมณ์สักการบูชาพระภูมิ - เจ้าที่ การรับมอบนโยบาย การปฏิบัติงานจากประธานกรรมการ ป.ป.ช.
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 เป็นพิธีสงฆ์ กิจกรรม “เหลียวหลัง แลหน้า 2 ทศวรรษ สำนักงาน ป.ป.ช.” กิจกรรม TED Talks เรื่อง “ไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉย ประเทศไทยไปถึงจริงหรือ?”พร้อมการมอบรางวัล “NACC Awards 2019” สำหรับบุคคลภายนอก และบุคคลภายใน
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 การให้หน่วยงานภายนอก ร่วมแสดงความยินดี และบริจาคเงินเพื่อการกุศล และการแถลงข่าว
สำหรับพิธีมอบรางวัล “NACC Awards 2019” แก่บุคคล หน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วย 1. โครงการนักคิดสุจริต 2. โครงการประกวดสื่อป้องกันการทุจริต 3. รางวัล ช่อสะอาด นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลแก่บุคคลและหน่วยงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประกอบด้วย 1. รางวัล “เพชรน้ำเอก” 2. รางวัลสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดที่มีผลงานดีเด่น
46 จังหวัดเตรียมรับมือฝนตกหนัก อากาศเย็น ลมแรง
กอปภ.ก. สั่งการ 46 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก อากาศเย็น และลมแรงในช่วงวันที่ 13 – 15 พ.ย.62กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 46 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก อากาศเย็น และลมแรง ในช่วงวันที่ 13 – 15 พ.ย.62 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุโซนร้อน "นากรี" ซึ่งเป็นพายุโซนร้อนรุนแรงระดับ 4 บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในวันที่ 10 – 11 พฤศจิกายน 2562 และความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรง จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในวันที่ 13 – 15 พฤศจิกายน 2562 ทำให้มีฝนฟ้าคะนอง ในช่วง 1 – 2 วันแรก จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.)
โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน 46 จังหวัดเสี่ยงภัย แยกเป็น พื้นที่เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง อากาศเย็นและลมแรง ประกอบด้วย ภาคเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ
นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
ภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฝนตก นอกจากนี้ ได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยทางทะเล จัดเตรียมเครื่องมือประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำให้พร้อมใช้งาน
ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง อีกทั้งกำชับสถานประกอบการในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ห้ามประกอบกิจกรรมทางทะเลทุกประเภทในช่วงที่มีคลื่นลมแรง รวมถึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป