All Blog
ธ.ก.ส.มอบทุนเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะฮ์
ธ.ก.ส. จัดมหกรรมส่งต่อความดีกองทุนธนาคารอิสลาม พร้อมมอบทุนเดินทางแก่ผู้ที่ฝากเงินโครงการเงินฝากรักษาทรัพย์ ครั้งที่ 8 เพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์และพิธีอุมเราะฮ์ ณ นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมจำนวน 53 ทุน มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท

นางณิชา อวยพรรุ่งรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมงาน “มหกรรมส่งต่อความดีกองทุนธนาคารอิสลาม ธ.ก.ส. ครั้งที่ 8” เพื่อมอบทุนเดินทางเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะฮ์ แก่ผู้ที่ฝากเงินตามโครงการเงินฝากรักษาทรัพย์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากของ ธ.ก.ส. ที่ดำเนินการสอดคล้องตามหลักศาสนาอิสลาม




 




 
โดยมีนายประดิษฐ์ รัตนโกมล ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดงาน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ณ มัสยิด อะมะดียะฮ์ ตำบลพระยาบันลือ อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับทุนเดินทาง ต้องเป็นผู้ที่ฝากเงินประเภทเงินฝากรักษาทรัพย์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากระบบอิสลามที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2542 ดำเนินการถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม




 




 
โดยธนาคารไม่ได้จ่ายผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ย แต่ได้มอบเป็นสิทธิ์รับทุนเดินทางเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์และ อุมเราะฮ์ ณ นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยต้องมียอดเงินฝากทุก ๆ 2,000 บาท และฝากติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน จะได้รับสิทธิ์ร่วมรับทุนเดินทาง จำนวน 1 สิทธิ์

นางณิชา กล่าวอีกว่า ในปีนี้ ธ.ก.ส. ได้มอบทุนเดินทางรวมจำนวน 53 ทุน จากสิทธิ์ทั้งหมด จำนวน 789,693 สิทธิ์ ของผู้ฝากเงินระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2562 – 31 มีนาคม 2563 โดยแบ่งเป็นทุนเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ จำนวน 24 ทุน และ ทุนเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะฮ์ จำนวน 29 ทุน รวมมูลค่า ทุนเดินทางกว่า 7 ล้านบาท




 




 
ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้จัดกิจกรรมมอบทุนเดินทางมาแล้ว 7 ครั้ง ได้ส่งมอบทุนเดินทางไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามไปแล้วกว่า 384 ทุน แบ่งเป็นทุนประกอบพิธีฮัจญ์ จำนวน 125 ทุน และทุนประกอบพิธีอุมเราะฮ์ จำนวน 259 ทุน

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์เงินฝากรักษาทรัพย์หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในระบบธนาคารอิสลามของ ธ.ก.ส. สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือที่ Call Center 02 555 0555



 



Create Date : 27 ตุลาคม 2563
Last Update : 27 ตุลาคม 2563 20:03:56 น.
Counter : 507 Pageviews.

0 comment
"ปศุสัตว์"มอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน-ถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่มอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานและถุงยังชีพช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาพร้อมด้วยนายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ปศุสัตว์เขต3 ปศุสัตว์จังหวัดและข้าราชการในพื้นที่ร่วมลงพื้นที่ช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์
      
นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่าจากอิทธิพลของพายดีเปรสชั่น และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุ่มทะเลอันดามัน และอ่าวไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2563 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร เช่น โคนม โคเนื้อทำให้ขาดแคลนอาหารสัตว์ร่วมพันตัว




 




 
ดังนั้น ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์(ศปภศ)จึงได้สั่งการด่วนถึงทุกหน่วยงานในพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดความสูญเสียให้มีน้อยที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ได้มีการอพยพสัตว์เลี้ยงของเกษตรก 15 ราย เป็นโคนมและโคเนื้อ จำนวน 508. ตัว แพะ 38 ตัว เบื้องต้นได้จัดหาหญ้าแห้งจำนวน 5,000 กิโลกรัม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลรักษากรณีสัตว์เจ็บป่วย รวมทั้งมอบเวชภัณฑ์ บำรุงสุขภาพสัตว์ แล้ว




 
   



 
อธิบดีกรมปศุสัตว์ บอกด้วยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมตลอดเวลาเพื่อให้สามารถให้บริการแก่เกษตกรได้อย่างทันท่วงที โดยปัจจุบันกรมปศุสัตว์มีการ เตรียมความพร้อมด้านเสบียงอหารสัตว์ กว่า 5,600 ตัน หน่วยสัตว์แพทย์เคลื่อนที่ในระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับกรม รวม325 หน่วย พาหนะสำหรับอพยพสัตว์ และขนส่งเสบียงอาหารสัตว์ 200 คัน

ถุงยังชีพสำหรับสัตว์ 3,000 ถุงคอกสัตว์สำหรับตั้งจุดอพยพสัตว์ 30 ชุดสำหรับเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนและเกิดความเสียหายต้องการรับการช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดในพื้นที่ หรือติดต่อศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ โทร 02-6534444 ต่อ 3315และ 3326 หรือ disaster@dld.go.th






 



Create Date : 20 ตุลาคม 2563
Last Update : 20 ตุลาคม 2563 20:14:13 น.
Counter : 511 Pageviews.

0 comment
เปิดแอป“Propin”เพิ่มทางเลือกค้นหาร้านเสริมสวยคุณภาพมาตรฐานสากล
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จัดทำโครงการมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย (ระยะที่ 2) กำหนดระดับสมรรถนะของผู้ประกอบอาชีพในกลุ่มอาชีพด้านธุรกิจเสริมสวย เพิ่มเติมจากอาชีพช่างทำผม

นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันการประกอบอาชีพอะไรก็ตามเรื่องมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญ จะแค่ทำได้ทำเป็นอาจจะไม่พอ ต้องทำแบบมืออาชีพมีมาตรฐานรองรับ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพจึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ในการพัฒนามาตรฐานอาชีพและคุณวุฒวิชาชีพด้านต่างๆ ขึ้นมา โดยขณะนี้มีการกำหนดแบบประเมินมาตรฐานอาชีพกว่า 800 สาขาอาชีพ ครอบคลุมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตร อุตสาหกรรม ภาคบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งมีผู้สนใจเข้าสู่กระบวนการประเมินแล้วกว่า 2 แสนราย




 




 
มีการเปิดตัวโครงการมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย ระยะที่ 2 ซึ่งเป็น  1 ในสาขาอาชีพที่เกี่ยวกับธุรกิจเสริมสวย ที่ได้รับความสนใจและมีผู้เข้าร่วมทดสอบสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพเป็นจำนวนมาก

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐานผู้ที่อยู่ในธุรกิจเสริมสวยอย่างครบวงจร ทั้งช่างทำผม ช่างทำเล็บ ช่างแต่งหน้า ช่างสักคิ้ว ต่อขนตา รวมถึงครูผู้สอน และผู้บริหารร้านเสริมสวย
นอกจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพจะมุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานวิชาชีพต่างๆ ให้ผู้ที่เข้าสู่การประเมินสามารถนำไปต่อยอดอาชีพและธุรกิจของตนเองได้


นอกจากนี้ยังพยายามพัฒนาต่อยอดเพิ่มโอกาสให้คนในธุรกิจมีอาชีพที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอบรมให้ความรู้ด้านต่างๆ เช่น ด้านสุขลักษณะที่คนจะเป็นช่างพึงปฏิบัติเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการโดยเฉพาะในยุคโควิด-19 หรือการสร้างตลาดออนไลน์ หรือ  E-Commerce เพิ่มช่องทางการจำหน่ายอีกทางหนึ่ง




 



 
คุณวุฒิวิชาชีพจะเป็นใบการรันตีความสามารถของท่านว่าท่านคือ Professional หรือมืออาชีพที่มีมาตรฐานในระดับสากลจริงๆ อยากเชิญชวนคนที่อยู่ในอาชีพถ้าท่านคิดว่าทำได้ทำเป็นแต่อยู่ในระดับมืออาชีพจริงไหม ให้มาเข้าสู่การประเมินกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มาเรียนรู้เพิ่มเติมยกระดับพัฒนาตนเองได้กับระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

ที่สำคัญขณะนี้ได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น Propin หรือ ปักหมุดมืออาชีพ สามารถหาสุดยอดมืออาชีพสาขาต่างๆ ได้จากแอปนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ประเมินที่ได้โปรโมตตนเอง ผู้ประกอบการที่ต้องการช่างมืออาชีพก็มาหาได้ในนี้ ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจที่จะได้รับบริการจากช่างที่มีมาตรฐานแบบมืออาชีพแน่นอน

รศ.ดร.เนตร์พัณณา ยาวิราช ผู้จัดการโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาธุรกิจเสริมสวย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินงานระยะที่ 2 หลังจากที่จัดทำมาตรฐานระยะที่ 1 ไปในด้านการทำผม ซึ่งยังไม่ครอบคลุมกับธุรกิจเสริมสวย จึงได้จัดทำมาตรฐานสาขาอาชีพต่างๆ เพิ่มเติม ตามที่ใช้งานในปัจจุบัน




 




 
ประกอบไปด้วยอาชีพนักบริหารธุรกิจเสริมสวย ทำผม แต่งหน้า ทำเล็บ สักคิ้ว ต่อขนตา เนื่องจากมองว่าปัจจุบันผู้บริโภคนิยมใช้บริการเสริมสวยมากขึ้น แต่การใช้บริการไม่สามารถทราบได้ว่าร้านไหนหรือช่างคนไหนมีมาตรฐานหรือใบรับรองหรือไม่ ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จึงได้ร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จัดทำมาตรฐานวิชาชีพขึ้นมา

โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรมบริการสุขภาพ มาร่วมให้ความรู้ที่ต้องใช้ในอาชีพนี้ด้วย เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในธุรกิจเสริมสวยได้มีมาตรฐานอาชีพที่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือสร้างความเสียหายต่อผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ

มหาวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการจัดประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอาชีพธุรกิจเสริมสวยได้ข้อสรุปในการสนับสนุนให้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพด้านการเสริมสวยอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นอาชีพช่างแต่งหน้า  ช่างสักคิ้ว ช่างต่อขนตา ครูผู้สอนเสริมสวย และผู้ให้บริการเสริมความงาม อีกทั้งการเสริมสวย ถือเป็นอีกธุรกิจบริการหนึ่งที่สร้างงาน




 




 
สร้างรายได้ให้กับประชากรและประเทศชาติอย่างมหาศาล และค่อนข้างเป็นที่ยอมรับถึงคุณภาพฝีมือท่ามกลางกลุ่มประเทศอาเซียน ทางหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์  ได้เล็งเห็นความสำคัญของอาชีพธุรกิจเสริมสวยจึงส่งเสริมและให้การสนับสนุนให้เป็นอาชีพด้านการประกอบการธุรกิจเสริมสวยให้มีความเป็นมืออาชีพสำหรับการเป็นผู้ประกอบการ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เร่งพัฒนาธุรกิจบริการไทยให้เข้มแข็งเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยได้ร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และสมาคมวิชาชีพช่างทำผมไทย สมาคมการศึกษาเอกชนนอกระบบแห่งประเทศไทย สถาบันสอนสักคิ้ว ไบโอ เนทูร่า อคาเดมี่  Bio Natura Academy สถาบันสอนสักคิ้ว เคทโคเรีย

ศูนย์กลางการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพการอาชีพ ทิชเชอร์ปริญ ชมรมช่างเล็บไทย สถาบันสอนทำเล็บมืออาชีพ จ.ขอนแก่น ฯลฯ ให้ความสนใจและร่วมจัดทำมาตรฐานอาชีพในครั้งนี้ อีกทั้ง ได้จัดให้มีหลักสูตร การบริหารธุรกิจเสริมสวยอย่างมืออาชีพ เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจบริการของไทยให้มีมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันธุรกิจเสริมสวยมีอัตราการเติบโตสูง




 




 
อาชีพช่างเสริมสวยจึงเป็นอาชีพที่ควรมีการพัฒนาขีดความสามารถเป็นอย่างมากซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุนสาขาวิชาชีพนี้เป็นอย่างดียิ่งและเห็นควรให้มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพเสริมสวย (ระยะที่ 2) เพื่อให้ครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบ อันเป็นการพัฒนาวงการอาชีพและส่งเสริมธุรกิจเสริมสวยให้เติบโตต่อไป
 




 








 



Create Date : 17 ตุลาคม 2563
Last Update : 17 ตุลาคม 2563 15:27:11 น.
Counter : 674 Pageviews.

0 comment
MRT พาน้องพิชิต TCAS ปีที่ 12 ประสบความสำเร็จล้นหลาม
นายไชยวัฒน์ จันทร์ผ่อง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) นายพัฒนพงษ์ พงศ์ศุภสมิทธิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ นายวิทสุวัฒน์ อำคาเพท กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN)  พร้อมคณะผู้บริหาร  

ร่วมจัดกิจกรรม “MRT พาน้องพิชิต TCAS”  ปีที่ 12 ติวเข้มกับเนื้อหาสุด Exclusive ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาของเยาวชนไทย โดยการแนะแนวเทคนิคการเตรียมตัวก่อนสอบ TCAS ให้กับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ณ ศูนย์การประชุม ซี อาเซียน (C Asean) ชั้น 10 อาคารไซเบอร์เวิลด์ พร้อมออนไลน์สดไปทั่วประเทศ

กิจกรรม “MRT พาน้องพิชิต TCAS” ได้จัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12 ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดียิ่งจากนักเรียนทั่วประเทศ มีนักเรียนได้รับประโยชน์จากโครงการหลายหมื่นคน และที่สำคัญ BEM ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิและมีชื่อเสียงในการถ่ายทอดเคล็ดลับความรู้

ได้แก่ คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ ในการแนะนำเทคนิคฟิตสมองกับวิชาภาษาอังกฤษ คุณครูวิเศษ กี่สุขพันธ์ (ครูพี่เอ๋) ในการเพิ่ม สกิลความรู้ PAT1 คณิตศาสตร์แบบง่ายๆ และคุณครูสุรเชษฐ์ พิชิตพงศ์เผ่า (ครูพี่ยู) ในการแนะนำ GAT เชื่อมโยง ที่พาน้องๆเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อมุ่งสู่รั้วมหาวิทยาลัยในฝันอย่างมั่นใจ




 





 
กิจกรรม CSR ดังกล่าว BEM จัดขึ้นเพื่อตอบแทนสู่สังคมในด้านการศึกษาให้แก่เยาวชน ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต สำหรับน้องๆ นักเรียนที่พลาดการเข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้สามารถดูวิดิโอการสอนย้อนหลังพร้อมดาวน์โหลดหนังสือคู่มือการเตรียมสอบทั้ง 3 รายวิชา เพื่อนำไปทบทวนก่อนสอบ แบบฟรีได้ที่ www.mrttcas.com

นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 9-10 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ยังจัดกิจกรรมสุดพิเศษ แจกหนังสือคู่มือการเตรียมสอบ MRT พาน้องพิชิต TCAS ทั้ง 3 รายวิชาฟรี ให้แก่น้องๆที่อยู่ภายในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยจัดกิจกรรมภายในรถไฟฟ้า MRT สถานีสวนจตุจักร บริเวณชั้นร้านค้า ใกล้ทางออก 2

อีกทั้งยังส่งมอบหนังสือพร้อม VDO สื่อการสอน MRT พาน้องพิชิต TCAS ทั้ง 3 รายวิชาให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ รวมกว่า 50 โรงเรียน เพื่อให้น้องๆนักเรียนในต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงการแนะแนวเตรียมตัวก่อนสอบ TCAS ได้มากยิ่งขึ้น

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Fanpage MRT พาน้องพิชิต TCAS หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศุนย์บริการข้อมูลโทร. 02-624-5200 หรือติดตามทางช่องทางต่างๆ ได้ที่  เฟซบุ๊ก : MRT Bangkok Metro / ทวิตเตอร์ : MRT Bangkok metro / อินสตาแกรม : mrt_bangkok และโมบายแอปพลิเคชั่น : Bangkok MRT “   “ เดินทางปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ด้วยรถไฟฟ้า MRT ”


 



Create Date : 09 ตุลาคม 2563
Last Update : 9 ตุลาคม 2563 14:13:04 น.
Counter : 461 Pageviews.

0 comment
เตือน ! กิน“แมงดาทะเล”ผิดชนิดถึงตาย
ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่าจากกรณีที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต รับประทานแมงดาทะเลที่หามาจากป่าชายเลนจนเกิดอาการแพ้และทำให้เสียชีวิต นั้น  

ล่าสุดกรมประมงได้เร่งประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนให้ประชาชนได้เพิ่มความระมัดระวังในการเลือกรับประทาน แมงดาทะเลให้มากขึ้น เพราะหากบริโภคผิดชนิด อาจได้รับพิษรุนแรงอันตรายถึงตายได้
 
แมงดาทะเลที่พบในน่านน้ำไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ 1.  แมงดาจาน หรือ แมงดาทะเลหางเหลี่ยม ไม่มีพิษ สามารถรับประทานได้ ลำตัวมีขนาดใหญ่กว่าแมงดาถ้วย พื้นผิวด้านบนเรียบ มีสีน้ำตาลอมเขียว มีหางเหลี่ยม มีสันและหนามเรียงกันเป็นแถวคล้ายฟันเลื่อย พบอาศัยอยู่ตามพื้นทะเล วางไข่ตามริมชายฝั่งที่เป็นดินทราย





 





 
2. แมงดาถ้วย หรือ แมงดาทะเลหางกลม หรือ เห-รา หรือ แมงดาไฟ มีพิษไม่สามารถรับประทานได้ ลำตัวโค้งกลม มีหางกลม ผิวด้านบนมีขนสั้น สีน้ำตาลอมแดง ต่อจากส่วนท้องมีหางค่อนข้างกลมไม่มีสันและไม่มีหนาม

พบอาศัยอยู่ตามพื้นทะเลที่เป็นดินโคลนและตามคลองในป่าชายเลนฝั่งอ่าวไทยจะพบแมงดาทั้งสองชนิดนี้มากที่สุดตามพื้นที่แนวชายฝั่งของทะเลตั้งแต่ จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดไปจนถึงชุมพรและฝั่งทะเลอันดามันตั้งแต่สตูลไปจนถึงระนอง  
 
จากข้อมูลทางวิชาการพบว่า สารพิษที่พบอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วยคือ สารเทโทรโดท็อกซิน (tetrodotoxin) และซาซิท็อกซิน (saxitoxin) ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันกับที่พบในปลาปักเป้า เป็นสารที่ส่งผลต่อระบบควบคุมการหายใจถึงขั้นเสียชีวิต

พิษในแมงดาถ้วยเกิดจาก 2 สาเหตุหลักๆ คือ 1.แมงดากินแพลงก์ตอนที่มีพิษ หรือกินสัตว์ทะเลอื่น ๆ ที่กินแพลงก์ตอนพิษเข้าไปทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดา
2. เกิดจากแบคทีเรียในลำไส้ที่สร้างพิษขึ้นมาได้เอง หรือสาเหตุประกอบกันทั้งสอง





 





 
ที่สำคัญสารพิษทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นสารที่ทนต่อความร้อนได้ดี การปรุงอาหารด้วยความร้อนวิธีต่างๆ เช่น ต้ม ทอด หรือ อบ เป็นเวลานานมากกว่าชั่วโมงไม่สามารถทำลายสารพิษชนิดนี้ได้ ประชาชนจึงไม่ควรนำมาบริโภคอย่างเด็ดขาด
 
สำหรับผู้ได้รับพิษจากแมงดาทะเล อาการมักจะแสดงภายหลังรับประทานประมาณ 10 - 45 นาทีหรืออาจช้าไปจนถึง 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับแหล่งที่อยู่อาศัยของแมงดา ฤดูกาล จำนวนที่รับประทาน หรือปริมาณของสารพิษที่ได้รับ เช่น รับประทานไข่แมงดาถ้วย อาการพิษจะเกิดรุนแรงกว่ารับประทานเฉพาะเนื้อ อาการมักเริ่มจากมึนงง รู้สึกชาบริเวณลิ้น ปาก ปลายมือ

ปลายเท้าและมีกล้ามเนื้ออ่อนแรง เริ่มจาก มือ แขน ขา ตามลำดับ รวมทั้งอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย บางราย อาจมีน้ำลายฟูมปาก เหงื่อออกมาก พูดลำบาก ตามองเห็นภาพ
ไม่ชัด ในรายที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีผลทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหายใจลำบากเนื่องจากกล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงาน  ระบบหายใจล้มเหลว หมดสติ และสมองขาดออกซิเจน  

หากช่วยไม่ทันอาจเสียชีวิตได้ภายใน 6 - 24 ชั่วโมง สำหรับวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากได้รับพิษ ให้ผู้ปฐมพยาบาลทำให้ผู้ป่วยหายใจคล่องที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หากผู้ป่วยหยุดหายใจ ให้ทำการผายปอดจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล ห้ามให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารน้ำหรือยา เนื่องจากผู้ป่วยอาจเกิดอาการสำลักได้





 




 
เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ขอแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแมงดาทะเล แต่หากต้องการรับประทานขอให้เลือก แมงดาจาน โดยให้สังเกตลักษณะของหางตามที่กล่าวข้างต้น และงดรับประทานไข่แมงดาทะเลที่อยู่ในลักษณะบรรจุหีบห่อโดยไม่เห็นตัวและหางของแมงดาโดยเด็ดขาด เพราะเราไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่าเป็นแมงดาชนิดไหน

อาจมีไข่แมงดาถ้วยปะปนอยู่ในไข่แมงดาจานหรือไม่ สำหรับพ่อค้า แม่ค้า ขอให้ท่านงดจำหน่ายไข่แมงดาทะเลหากไม่แน่ใจว่าเป็นไข่ที่มาจากแมงดาชนิดใดและขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการแยกชนิดพันธุ์แมงดาทั้ง 2 ชนิดจากลักษณะภายนอกให้แน่ชัดก่อนนำมาขายให้ผู้บริโภค

หากพบแมงดาถ้วย หรือ เหรา ปะปนเข้ามาให้คัดทิ้งทันที กรณีท่านไม่สามารถแยกความแตกต่างของแมงดาทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ได้ สามารถสอบถามข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประมงจังหวัดใกล้บ้านท่าน หรือ Call Center กรมประมง โทร. 02 562 0600








 



 



Create Date : 08 ตุลาคม 2563
Last Update : 8 ตุลาคม 2563 17:43:29 น.
Counter : 600 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments